วิศวกรปฎิบัติการ กับ อนาคตในต่างแดน จะเลือกสิ่งไหนดีครับ

ขอเล่ารายละเอียดคร่าวๆ ก่อนน่ะครับ ผมจบปริญาตรีสาขาวิศวกรรมอุตสาหการจาก มหาลัย Top5 ของไทย (ไม่ได้อวดน่ะครับ เพียงแต่ไม่อยากกล่าวถึงให้มากเกินในส่วนนี้) เกรดระดับทั่วไป แต่โดยส่วนตัวผมคิดว่าผมเก่ง เก่งมากในหลายด้านด้วย เพียงแต่ทำพวกคะแนนสอบตอนเรียนไม่ค่อยดี(หรือผมคิดไปเอง) ปัจจุบันทำงานประเภทแรงงานอยู่ที่ญี่ปุ่น อยู่กับแฟนและลูกหนึ่งคน เรียนที่นี่ ผมภาษายังไม่คล่อง เรียกว่าแทบไม่ได้ แต่ภาษาอังกฤษผมแข็งแรงมาก เนื่องจากเคยไปทำงานอยู่อเมริกา และทำงานที่ไทยร่วมกับต่างชาติเยอะ
  วันนี้ทางบ้านส่งเมลมาบอกว่าที่เคยไปสอบ ของกระทรวงพลังงานเขาเรียกตัวแล้ว จริงๆ แล้วลืมไปด้วยแล้วว่าสอบได้ เพราะในใจไม่ได้คิดถึงเรื่องงานที่ไทยเลยครับ ตั้งแต่ตัดสินใจมาอยู่ญี่ปุ่นกับครอบครัว วีซ่าผมเป็นวีซ่าทำงานครับ แฟนช่วยคุยกับที่ทำงานให้ ซึ่งจริง ๆ แล้วทำงานประเภทที่ทำอยู่ไม่ได้ ต้องเป็นประเภท ออฟฟิศ แต่ด้วยการตัดสินใจมาเมื่อปีที่แล้วผมไม่มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นสักนิด และไม่ได้คิดจนถึงขนาดขอให้โรงงานออกวีซ่าให้ แต่ตอนนี้ ทำได้แล้วครับและต่อมาแล้วหนึ่งปี
  ส่วนตัวงานที่นี่ถือว่ายังไม่โอเคสำหรับค่าใช้จ่ายสำหรับลูกในอนาคต แต่ยังดำรงชีพและพอมีเงินเก็บได้ แต่ก็ถือว่าต้องใช้ชีวิตอยู่ในสังคมระดับล่าง (ไม่ได้ดูถูกคนน่ะครับ แต่ไม่รู้จะหาคำเปรียบเทียบอย่างไร ถ้าเปรียบเทียบกับระดับรายได้กับคนญี่ปุ่น ผมก็อยู่ระดับล่าง) แต่ด้วยการที่คิดว่าแลกกับสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับลูก ก็น่าจะคุ้ม
  เลยอยากขอความคิดเห็นหน่อยครับ ว่าผมควรจะทำอย่างไรต่อไป เพื่อช่วยในการตัดสินใจของผมเองครับ

ปัจจุบัน อายุ 29 ปี
ภาษาญี่ปุ่น N6 (พอฟังออกบ้าง ตอบโต้ด้วยท่าทาง คำศัพท์ได้บ้าง)
ภาษาอังกฤษ ฟัง พูด อ่าน เขียน ระดับดี คุยธุรกิจ เขียนเปเปอร์งานวิจัยได้
ลูก 5 ขวบ

เพิ่ม 1*ปกติจะไม่อวดตัว หรือแสดงตัวให้คนอื่นรู้น่ะครับ แต่ที่พิมพ์มาท่านใดที่อ่านแล้วเหมือน ขี้โอ่ ผมเพียงต้องการจะสื่อถึงความมั่นใจ และสร้างแรงพลักดันในความไม่เห็นด้วยเพื่อโต้แย้งให้ผมนำไปแก้ไขได้ครับ (ปกติผมใช้วิธีนี้ในการสัมภาษณ์งานครับ เพื่อสร้างจุดสนใจให้ถกกันครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 19
งานราชการเงินเดือนเริ่มต้นต่ำมาก แต่ในระยะยาวมีความมั่นคงสูง
คุณจะรู้ผลดีเมื่อคุณอายุมากแล้วคุณเริ่มป่วยครับ เมื่อมีสวัสดิการรักษาพยาบาล ทั้งตัวคุณ, ภรรยา, และลูกจนกว่าบรรลุนิติภาวะ
นอกจากนั้นก็จะเห็นตอนเพื่อน ๆ ย้ายงานหรือโดนเลย์ออฟ
นอกจากนั้นยังมองอนาคตในระยะยาวได้ว่าเป็นอย่างไรเมื่อหลังเกษียณ
หลายคนพออายุมากขึ้นเริ่มเห็นตรงนี้ ถึงเริ่มพยายามขวนขวายเข้ากัน แต่ส่วนมากไม่ทันเรื่องอายุแล้ว

จริงอยู่การอยู่ญี่ปุ่นเหมือนจะดีในมุมมองคนอื่นนะครับ
ผมเองเคยทำงาน บ.ข้ามชาติเอกชน และ เคยทำงานที่ญี่ปุ่นมาด้วย แล้วก็เรียนปริญญาเอกที่ญี่ปุ่น
แต่ในที่สุดผมทิ้งเงินเดือนบริษัทเอกชนมาทำราชการเพราะอยากรับใช้ชาติครับ
คนส่วนมากมองเรื่องเงินกันว่ามันแย่ ไม่ก็นี่นั่น แต่ประเทศยังต้องการคนเก่งมาทำงานนะครับผมเชื่อแบบนั้น
ถ้าไม่มีใครทำอะไรเลยมัวแต่หาเงินให้ตัวเองประเทศคงไม่รอด  
ผมเคยหรูหรามามากตอนทำบริษัท แต่สุดท้ายก็เข้าใจว่านั่นแค่ของภายนอก
อย่างถ้าคุณทำงานบริษัทแล้วป่วยจนทำงานไม่ได้ บริษัทส่วนมากเขาจะตัดหางปล่อยวัดได้เสมอ
คุณค่าคุณมีแค่นั้นเองเขาจะตัดทิ้งเมื่อคุณทำเงินให้ไม่ได้ที่ญี่ปุ่นก็ไม่ต่างกันผมเคยได้เห็นมาด้วยตัวเอง

ส่วนพอทำราชการสิ่งที่ผมได้คือเวลาส่วนตัวหลังเลิกงาน, เวลาออกกำลัง และ รู้ว่าเศรษกิจพอเพียงเป็นอย่างไรครับ
พอจะเข้าใจความกดดันของคุณ โดยลักษณะการทำงานของญี่ปุ่นอาจจะไม่เหมาะกับทุกคน
ผมยังจำภาพตัวเองเดินใส่สูทที่สถานีกลางโตเกียวในชุดสูทตอนแปดโมงเช้า ที่มีแต่คนเดินไปทางเดียวกันเหมือนมดงานได้ดี
และ คิดเสมอว่าไม่ใช่ชีวิตที่ผมต้องการในตอนแก่ ๆ  ญี่ปุ่นตอนมาเที่ยวกับมาทำงานไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง
ถ้าคุณไปทำงานในบริษัทก็จะโดนความกดดันแบบอื่นอีก
เพื่อนผมเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นมาทำงานที่ญี่ปุ่นนี่ก็เครียดอยากกลับไทยครับ
  
อยากให้มองแบบนี้ครับ เมื่อคุณจบมหาวิทยาลัยชั้นนำมา ภาษาอังกฤษใช้ได้
หากคุณทำงานในบริษัทข้ามชาติเอกชนที่เมืองไทย
ไม่นานคุณจะเงินเดือนดีมาก ๆ  และ มีหนทางทำมาหากินเปลี่ยนงานอีกมาก คุณจะไปเที่ยวญี่ปุ่นเมื่อไรก็ได้
เทียบกับอยู่ญี่ปุ่นแล้วทำงานในระดับใช้แรงงาน ผมไม่คิดว่าจะเหมาะกับคุณเท่าไร
เพราะดูจากที่คุณคอมเม้นท์มาไม่ได้มีความสุขกับที่ญี่ปุ่นครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่