คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
บางครั้งคนเราถ้าคิดเรื่องกลัวความเสี่ยงมากจนเกินไป ก็จะกลายเป็นฝืนความจริงไปครับ
มนุษย์เราอย่างไรก็ต้องตาย แม้แต่คนหรือสิ่งรอบข้างเราก็ตาม
การดำรงชีวิตที่ถูกคือ ควรบริหารโอกาสที่เกิดสิ่งต่าง ๆ อย่างถูกต้องเหมาะสมมากกว่าครับ
สมมติเช่น บางคนเก็บเงินแทบตาย ไม่แต่งหน้า ไม่แต่งตัว ขยันเรียนหนังสือ เพื่อที่จะมีชีวิตที่ดีๆตามกรอบ เพื่อนอีกคนขี้เกียจเรียน วันๆเอาแต่แต่งตัว ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย แต่ได้สามี รวยๆ สบายไปทั้งชาติ บางคนโง่ๆ เรียนก็ห่วย เกเร แต่เข้าสังคมเก่ง ทำงานได้ก้าวหน้า คนที่ทำตามกรอบ ก็คิดว่านี่มันไม่ยุติธรรมเลย แต่ใครเป็นคนกำหนดความยุติธรรมล่ะครับ ก็แค่ความน่าจะเป็นที่ว่าเค้าทำสิ่งนั้น ก็ได้สิ่งนั้น ในบริบทที่เหมาะสมแค่นั้นเอง
ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ได้บอกว่าไม่ควรออม และป้องกันความเสี่ยงนะครับ แค่อยากบอกว่า ไม่มีทางที่เราจะป้องกันความเสี่ยงได้สมบูรณ์ บางครั้งการกลัวความเสี่ยงมากเกินไป กลับเพิ่มความเสี่ยงในการดำรงชีวิตอย่างไม่มีความสุข และพลาดโอกาสบางประการออกไปครับ ที่สำคัญควรใช้เงินในการสร้างคอนเนคชั่นกับคนที่เก่งๆดีๆ และใช้ในการพัฒนาปรับปรุงตนเอง และสร้างความสุขในชีวิตควบคู่กันไปด้วยครับ
มนุษย์เราอย่างไรก็ต้องตาย แม้แต่คนหรือสิ่งรอบข้างเราก็ตาม
การดำรงชีวิตที่ถูกคือ ควรบริหารโอกาสที่เกิดสิ่งต่าง ๆ อย่างถูกต้องเหมาะสมมากกว่าครับ
สมมติเช่น บางคนเก็บเงินแทบตาย ไม่แต่งหน้า ไม่แต่งตัว ขยันเรียนหนังสือ เพื่อที่จะมีชีวิตที่ดีๆตามกรอบ เพื่อนอีกคนขี้เกียจเรียน วันๆเอาแต่แต่งตัว ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย แต่ได้สามี รวยๆ สบายไปทั้งชาติ บางคนโง่ๆ เรียนก็ห่วย เกเร แต่เข้าสังคมเก่ง ทำงานได้ก้าวหน้า คนที่ทำตามกรอบ ก็คิดว่านี่มันไม่ยุติธรรมเลย แต่ใครเป็นคนกำหนดความยุติธรรมล่ะครับ ก็แค่ความน่าจะเป็นที่ว่าเค้าทำสิ่งนั้น ก็ได้สิ่งนั้น ในบริบทที่เหมาะสมแค่นั้นเอง
ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ได้บอกว่าไม่ควรออม และป้องกันความเสี่ยงนะครับ แค่อยากบอกว่า ไม่มีทางที่เราจะป้องกันความเสี่ยงได้สมบูรณ์ บางครั้งการกลัวความเสี่ยงมากเกินไป กลับเพิ่มความเสี่ยงในการดำรงชีวิตอย่างไม่มีความสุข และพลาดโอกาสบางประการออกไปครับ ที่สำคัญควรใช้เงินในการสร้างคอนเนคชั่นกับคนที่เก่งๆดีๆ และใช้ในการพัฒนาปรับปรุงตนเอง และสร้างความสุขในชีวิตควบคู่กันไปด้วยครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 21
เราไม่มีเป้าหมายค่ะ แก่จะตายแล้วยังไม่รู้ว่าอยากทำอะไร อยากเป็นอะไรเลยค่ะ แต่..แต่พยายามทำในเรื่องที่เราจะไม่เสียใจในภายหลัง คือ ทำให้พ่อแม่และครอบครัวมีความสุข ทั้งด้านจิตใจและวัตถุ ตามกำลังกายและกำลังทรัพย์ของเรา เรามีโอกาส มีวันนี้ได้เพราะความเสียสละของครอบครัว เรามีความสุขกับความสุขของครอบครัวมากกว่าตัวเลขเงินในบัญชี (ซึ่งมีน้อยนิดมากกก ฮ่าๆๆ) (อันนี้ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ นะคะ ไม่ถูกใจใครขออภัย) เดี๋ยวก่อน..คิดมาคิดไปเรามีเป้าหมายเยอะนินา แต่เป็นเป้าหมายเล็กๆ และทำสำเร็จได้ง่าย เช่นอยากซื้อแหวนทองให้พ่อกับแม่ใส่จัง ก็ซื้อ แล้วก็จะมีเป้าหมายแบบนี้เข้ามาเรื่อย ๆ อยากซื้อเครื่องซักผ้าใหม่ให้ที่บ้านจัง ก็ซื้อ อาจไม่ยิ่งใหญ๋เหมือนเป้าหมายคนอื่น แต่สำหรับเรามันยิ่งใหญ่และสุขใจมาก

แสดงความคิดเห็น
เงินที่เคยออมตามเป้าหมาย สุดท้ายมันได้ใช้กับสิ่งนั้นจริง หรือเปล่า
2 สิ่งนี้คือเป้าหมายและแรงจูงใจในการออมเงินของเราค่ะ
เราอายุ 25 พึ่งได้ทำงานประจำ 6 เดือนที่ผ่านมา เราเลือกวิธีฝากประจำ เพราะความฝันอยากมีบ้านสักหลัง
และตอนนี้ลูกชายวัยขวบครึ่งก็กำลังน่ารัก เงินออมที่หวังจะซื้อบ้าน........ บางครั้งเราก็คิดว่าอาจจะได้ใช้เป็นเงินส่งลูกเรียน
เราพึ่งเริ่มออมเงินได้ 6 เดือน เราเลือกแบบฝากประจำ 24 เดือน ๆ ละ 5000
เงินเดือนเราแค่หมื่นสอง แต่ตอนนี้ไม่มีภาระอะไร
แล้วเพื่อน ๆ ใช้วิธีออมเงินแบบไหน เพื่ออะไรกันคะ สำหรับคนที่ออมมานานแล้ว ถึงกำหนด ได้ใช้เงินตามแผนที่คิดไว้หรือเปล่าคะ