จากเด็กวัดจนๆ สู้จนตอนนี้อายุ27 มีบ้าน มีรถ มีคอนโด มีเงินเก็บ 7 หลัก

สวัสดีครับพี่น้องชาวพันทิปทุกท่าน หลังจากที่ผมได้อ่านกระทู้แนวสู้ชีวิตมาหลายต่อหลายกระทู้ วันนี้ก็เลยอยากลองเล่าประสบการณ์ของตัวเองบ้างเผื่อไว้เป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวพันทิปต่อสู้กับช่วงเวลาที่ยากลำบากให้ผ่านไปได้ครับ
       เริ่มจากวัยเด็กเลยนะครับคือผมมีครอบครัวที่อยู่ในฐานะปานกลาง พ่อเป็นทหารอากาศยศจ่าส่วนแม่ขายบะหมี่เกี๊ยว ตอนผมเข้าอนุบาลหลังจากกลับจากโรงเรียนผมจะต้องออกไปขายบะหมี่กับแม่ทุกวันเพราะพ่อไปราชการตจว. อาศัยนอนในรถเข็นบะหมี่ ชีวิตเป็นแบบนี้จนถึงป.4 ถามว่าช่วงที่โตมานั้นลำบากมากมั้ยก็ไม่ถึงกับลำบากมากครับ เรียนก็เรียนฟรี อาหารฟรี เป็นโรงเรียนที่อยู่ในค่ายทหาร ตอนเด็กๆผมเรียนดีครับอยู่ห้องคิง(คอง)ตลอด สอบได้ทุนของทอ.ทุกปี พอถึงป.5 พ่อผมก็เริ่มป่วยครับเป็นโรคร้ายแรงที่รักษาไม่หาย แม่ผมก็เริ่มป่วยตาม แต่พ่อนั้นท้อแท้กับการที่ป่วย ไม่ยอมรักษาคัวเองจนร่างกายสภาพทรุดโทรมลงเรื่อยๆ แม่ก็ป่วยแต่ก็ต้องดูแลพ่อด้วย จนถึงในปี 2545 พ่อผมก็สิ้นลมเพราะโรคร้าย เพื่อนผมที่เคยมาบ้านผมก็เอาไปล้อว่าพ่อผมเป็น.....
สภาพจิตใจผมตอนนั้นแย่มากครับที่ต้องเสียเสาหลักของบ้านไปตอนที่ผมอายุ 15 ปี ซึ่งขณะนั้นผมกำลังเตรียมตัวที่จะสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร พอผมไปที่โรงเรียนเพื่อนๆก็ล้อเลียนทุกวัน จนผมไม่อยากไปโรงเรียน บ้านที่อยู่ตั้งแต่เกิดมาจนโตก็ต้องคืนให้หลวง ตอนนั้นก็เคว้งคว้างครับเพราะแม่ก็ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าไปเลย สุดท้ายผมก็ต้องตัดสินใจออกจากโรงเรียนเพราะต้องย้ายไปอาศัยกับป้าที่อ่างทอง ตอนนั้นครอบครัวผมมีเงินเหลือไม่ถึง 1 แสนบาทซึ่งเป็นเงินที่ได้จากการช่วยเหลือของทอ.กับการที่ต้องจุนเจอน้องสาวและปู่ของผมที่เริ่มป่วยเป็นอัวไซเมอร์ ผมจึงต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับตัวผม ผมเลยตัดสินใจที่จะไปอยู่วัดที่อยุธยากับหลวงตาที่ป้าผมเคารพซึ่งที่นั่นมีโรงเรียนวัดทำให้ผมไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน ช่วงแรกก็ทำใจอยู่นานกกับการที่จะต้องไปเป็นเด็กวัด แต่พออยู่สักพักก็เริ่มชินครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่