สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 37
พี่ทำธุรกิจส่วนตัวค่ะ ทำมาเกิน10ปีแล้ว ปัจจุบันอายุ 3x ปีค่ะ เงินเป็นต้นทุนที่พี่ใช้เริ่มต้นน้อยที่สุด แต่ทั้งสมอง กำลัง เวลา เป็นสิ่งที่พี่ใช้มากที่สุดจากตัวเอง เพราะมันเป็นวิธีที่ทำให้พี่มีต้นทุนถูกที่สุด(หากคิดเป็นตัวเงิน)ประสิทธิภาพสูงสุด(ก็เพราะเราต้องรู้จักธุรกิจเรามากที่สุดอยู่แล้ว) ถ้าเทียบตอนเริ่มใหม่กับตอนนี้ สบายขึ้นเยอะแล้วค่ะ(ด้านกำลัง) แต่สมองกับเวลาใช้พอๆกับตอนเริ่มต้นนะคะ ขนาดเวลาไปพักผ่อนต่างประเทศบ้าง(ปีนึงก็หาเวลาไปสักครั้ง 5-7 วัน) เดินดูของแล้วก็คิดถึงโปรดักส์ตัวเองค่ะ ว่าอันนี้ก็สวยดีเนาะ น่าเอามาปรับกับสินค้าเรา สิบปีผ่านมา นอกจากทำงานเองบ้างแล้วต้องสร้างคนด้วยค่ะ ยังไม่รวมวางแผนภาษี วิเคราะห์งบการเงินบริษัท(จะได้รู้ว่าปีต่อๆไปบริษัทต้องปรับอะไรบ้าง วิเคราะห์ SWOT นั่นแหละค่ะ) วางแผนงานการตลาด ผลิตภัณฑ์ใหม่ แผนเพิ่มกำลังการผลิต ทำออฟฟิสใหม่ ทั้งหมดอาจมีคนช่วยงานบ้าง(แต่เค้าเหล่านั้นก็ยังไม่เก่ง เราก็ต้องคอย guide เค้าแล้วก็ตามงาน ไม่บงการวิธีคิดเค้านะคะ พี่อยากให้ทุกคนมีอิสระทางความคิด และรับผิดชอบตัวเอง) แผนทั้งหมดต้องมีทั้งระยะสั้น กลาง หรือยาว(เป็น10ปีขึ้นไป) เพราะเราต้องรู้ว่าต้องเตรียมอะไรบ้างขึ้นมารองรับ เช่น คน เงิน เทียบกับน้องๆในออฟฟิสพี่แล้ว เค้ามีวันพักมากกว่าพี่อีกนะคะ เค้าหยุดเสาร์-อาทิตย์ หยุดเทศกาล แต่ของพี่กะเกณฑ์ไม่ได้ค่ะ บางทีต้องติดต่องานด่วน บางวันลูกค้านัดพบตอน 4 ทุ่ม ไกลมาก กลับถึงบ้านเที่ยงคืนครึ่ง(วันเสาร์อาทิตย์) แต่ทั้งหมดที่ว่ามา มี "ความสุข"ค่ะ และยังมีเวลาให้กับพ่อแม่ ครอบครัว ได้ตามปกติ
คนเป็นเจ้าของ ต้องเป็นผู้บริหารที่ดีด้วยในตัวเอง เวลาหรือความสุข ก็ขึ้นกับเราบริหารจัดการมันค่ะ ที่สำคัญต้องเลือกธุรกิจที่ใช่จริงๆ แล้วคุณจะมีความสุขทุกเวลาที่อยู่กับมันค่ะ "ธุรกิจ" ไม่ได้เหมาะกับทุกคนค่ะ และไม่ใช่ทุกคนที่จะมี"ความสุข"เมื่อมีธุรกิจ ทุกอย่างขึ้นกับตัวเราเป็นสำคัญค่ะ
คนเป็นเจ้าของ ต้องเป็นผู้บริหารที่ดีด้วยในตัวเอง เวลาหรือความสุข ก็ขึ้นกับเราบริหารจัดการมันค่ะ ที่สำคัญต้องเลือกธุรกิจที่ใช่จริงๆ แล้วคุณจะมีความสุขทุกเวลาที่อยู่กับมันค่ะ "ธุรกิจ" ไม่ได้เหมาะกับทุกคนค่ะ และไม่ใช่ทุกคนที่จะมี"ความสุข"เมื่อมีธุรกิจ ทุกอย่างขึ้นกับตัวเราเป็นสำคัญค่ะ

แสดงความคิดเห็น
คุณคิดว่าการทำงาน มีรายได้ทุกเดือน คือคำตอบเหรอ
หลังจากทำงานมาประมาณจะเกือบ 2 ปีแล้ว เหมือนเส้นทางนี้ 90 เปอร์เซ็นของสังคมโดนหลอก
1. ถ้าเลือกเส้นทางชีวิตเป็นพนักงานบริษัท หรือเรียกว่า Salary man มนุษย์เงินเดือน
ข้อดี- มีเงินทุกเดือน สามารถซื้อบ้าน ซื้อรถได้ แต่ต้องผ่อน
ข้อเสีย-คุณต้อง อุทิศเวลา 5-6 วันต่อ 1 อาทิตย์ วันหล่ะ 8 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น / วันไหนป่วย วันไหนอกหัก วันไหนมีปัญหา พ่อแม่ป่วย หมาตาม แมวตาย คุณต้องประคองร่างไปทำงาน ถ้าไม่ไหวค่อยว่ากัน/ วันจันทร์เป็นวันที่เกลียดมาก
ความรู้สึกตัวเอง
*ตัวเองเกิดมาทั้งทีแต่ทำไมต้องมาเป็นหนูวิ่งจักร ชีวิตอยู่ที่กำมือคนอื่นมากกว่าครึ่ง อาทิหัวหน้า ทำไมคนอื่นไปเที่ยวต่างประเทศ ขับรถหรู มีเวลามากมาย อ่ะไรคือต้นเหตุ พระเจ้าหรือว่าเราเอง*
2. ถ้าเลือกเส้นทางเป็นของตัวเอง เช่น ผู้ประกอบการ อาชีพอิสระ
ข้อดี- คุณจะมีเวลาเป็นของคุณเองทุกนาที / มีโอกาศเป็นอิสระทางการเงิน / ได้อยู่กับคนที่คุณรัก / เดินไปดูหนังวันจันทร์
ข้อเสีย - คุณมีโอกาศที่จะมีรายได้เป็น 0 หรือติดลบ (มนุษย์เงินเดือนก็ใช่ว่าจะเป็นแบบนี้ไม่ได้) /
คาดว่า
*ชีวิตนี้คุ้มแล้วหล่ะ ไม่ว่าจะดีหรือจะร้ายยังงัยผลก็อยู่ที่มือเรา*
สำหรับเราตอนนี้เป็นมนุษย์เงินเดือนมา 2 ปี เงินเดือนประมาณ 50k ต่อเดือน แต่พอมองคนอื่นที่เค้าทำธุรกิจหรือทำอ่ะไรที่ขึ้นอยู่กับตัวเอง เช่นนักเขียนหรือแม้กระทั่งฟรีแลนซ์ เราว่าเค้าหน้าเด็ก ดูอารมณ์ดี มีชีวิตเป็นของตัวเอง อยากไปไหนก้ไป คำว่าวันหยุดวันทำงาน มันไม่ได้แยกกันอีกแล้ว
เรากำลังคิดว่า จะออกไปมาทำธุรกิจ ถ้าอยู่บ้านมีรายได้สักเดือนหล่ะ 20000 แต่ว่าชีวิตมีเวลา มีความหมาย อยากทำไรก็ทำ มันสำคัญกว่า
ส่วนว่าจะรวยหรือไม่รวยค่อยว่ากันอีกรอบนึง เพื่อนๆๆคิดว่างัย
จากที่อ่านมาหลายๆๆคอมเม้นเราพอจะเดาออกแล้วว่า ทำไม 90 ถึง............