อุบัติเหตุ

กระทู้สนทนา

---------------------------------------------------------------------------------
Jacob 's Fanpage : www.facebook.com/jacob.writer
---------------------------------------------------------------------------------
"เกือบไปแล้ว!"
ผมอุทานกับตัวเอง ก่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ในรถยนต์ส่วนตัว ขณะที่รถคันหนึ่งเพิ่งจะขับแซงปาดหน้า เฉียดรถของผมไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด แต่เคราะห์ดีที่คราวนี้ผมไม่เป็นอะไร

รู้ตัวอีกที รถของผมก็จอดนิ่งอยู่บริเวณไหล่ทาง

รถที่เพิ่งปาดไปน่าจะเป็นรถตำรวจนำขบวน สังเกตจากรถอีกคันที่แล่นตามมาติดๆซึ่งเป็นรถคันใหญ่กว่าสีดำ ข้างรถมีคำว่า 'Police' แปะอยู่ชัดเจน หากแต่คนที่อยู่บนรถลูกกรงเหล็กนั่นไม่ใช่ตำรวจ สาเหตุที่ต้องใช้รถตำรวจนำขบวนเนื่องมาจากข่าวไม่ดีในช่วงนี้ ที่ว่าเกิดอุบัติเหตุรถส่งนักโทษชนกับรถที่แล่นอยู่บนถนนติดต่อกันถึงแปดครั้งในรอบเดือน ทำให้นักโทษและคนขับรถเสียชีวิตไปแล้วกว่ายี่สิบคน ซึ่งทำให้ทางตำรวจเริ่มมองว่าเป็นเรื่องผิดปกติ

'สายตาคู่หนึ่ง' กำลังมองออกมานอกซี่ลูกกรงเหล็กบนรถนำส่งผู้ต้องหา

ผมบังเอิญมองสบตาเข้าพอดี ระหว่างที่รถคันดังกล่าวกำลังขับเคลื่อนด้วยความเร็ว ประกอบกับเสียงไซเรนที่ชวนให้รถคันอื่นต้องหลีกทาง ให้รถนำพานักโทษจากเรือนจำไปยังศาลจังหวัดเพื่อไต่สวนคดีความ

ผมอยากรู้ว่าเจ้าของสายตาคู่นั้นกำลังคิดอะไรอยู่?

ในกลุ่มนักโทษทั้งหลาย จะมีใครบ้างหนอ ที่สำนึกผิดในการกระทำของตน
การจองจำในคุก จะสามารถช่วยลดปัญหาอาชญากรรมได้จริงไหม หรือจะเป็นเพียงแค่แหล่งชุมนุมของบรรดานักโทษเพื่อหยุดการกระทำผิดไว้แค่ชั่วคราว ซึ่งบางรายถูกฝากขังแค่ไม่นานก็ถูกปล่อยตัวออกมา ถ้ามีเส้นสายดีพอ

"คุณครับ"
เสียงเรียกหนึ่งก้องขึ้น

"ครับๆๆ"
ผมตอบซ้ำอยู่หลายหน

"หมอคิดว่าคุณอาการคุณยังโอเคนะ แต่ต้องเฝ้ารอดูแผลในสมองอีกสักพัก"
คุณหมอพูดพร้อมชี้แผ่นฟิล์มในมือให้ผมดู

ผมอยู่ที่โรงบาลกับหมอประจำตัว

ผมต้องมาพบหมอทุกอาทิตย์หลังจากที่ผมประสบอุบัติเหตุมาเมื่อห้าเดือนที่แล้ว
รถเราชนกับรถกระบะอีกคันอย่างจัง ทำให้เหล็กท่อนยาว 1 เมตร หนา 3 เซนติเมตร หนัก 6 กิโลกรัม เสียบเข้าที่ศีรษะด้านบนส่วนหน้าทะแยงลงมาทะลุที่โหนกแก้มข้างขวา
ทำให้ผมสูญเสียสมองส่วนหน้าไปบางส่วน คุณหมอเรียกชื่อมันด้วยภาษาอังกฤษว่า Prefrontal Cortex คำว่า front ที่รวมอยู่ ทำให้ผมจำชื่อสมองส่วนนี้ได้ดี
คุณหมอยังอธิบายต่อไปอีกว่า สมองส่วนหน้านี้ทำหน้าที่หลายอย่าง ซึ่งมีผลกับสมาธิ ความจำ และ การตัดสินใจ การขาดสมองส่วนนี้ไปบางส่วนอาจจะทำให้ผมขาดความยับยั้งชั่งใจ ตัดสินใจอะไรแบบไม่มีเบรค

แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดแม้แต่น้อย เมื่อเทียบกับการสูญเสียเมียและลูกสาวที่นั่งในรถไปด้วยในคืนนั้น

ระหว่างที่ผมกำลังขับรถกลับบ้าน
วิทยุกำลังเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสถิติอุบัติเหตุบนท้องถนนตลอดปีที่ผ่านมา
ทุก 1 นาทีมีคนได้รับบาดเจ็บ และทุก 1 ชั่วโมงจะมีคนตาย 2 คน ซึ่งนับว่ามากกว่าทุกโรคใดๆที่เคยมีมา
หนึ่งในนั้นคงมีครอบครัวของผมรวมอยู่ด้วย แต่ใครจะสน! เพราะมันคือ อุบัติเหตุ ..ที่ผมเลือกใช้ประโยชน์จากมัน!

ไอ้สารเลวที่ขับรถคันนั้น ไม่ว่ามันจะเป็นใคร ไม่ว่ามันจะซื้อใบขับขี่มา ขับด้วยความคึกคะนอง ขับตอนเมา หรือคุยโทรศัพท์ไปด้วย หรืออะไรก็ตามแต่
มันสมควรได้รับโทษอย่างสามสม

ผมทราบว่ามันกำลังจะหลุดคดีหลังจากที่ฝากขังได้เพียงหนึ่งเดือนเศษ โอกาสเดียวที่ผมมีคือช่วงที่มันออกมาจากเรือนจำเพื่อเดินทางโดยรถนำส่งไปขึ้นศาลในวันนั้น
ผมจ้างรถบรรทุก และ รถกระบะอีกสามคัน เพื่อทำให้ทุกอย่างเป็นไปแนบเนียน เฉกเช่นอุบัติเหตุทั่วๆไป

ทุกอย่างเป็นไปตามแผน มันตายในรถนำส่ง รวมถึงนักโทษค้ายาอีกสองรายที่นั่งมาพร้อมกัน 'ผมรู้สึกว่าผมมาถูกทางแล้ว'

ผมรู้ดีว่า นักจำนวนหนึ่งในนักโทษเหล่านั้น ยังมีกลุ่มผู้บริสุทธิ์ปะปนอยู่กับกลุ่มผู้กระทำผิดจริง เราเรียกกลุ่มคนเรานี้ว่า 'แพะ' แต่การฆ่าแพะจำนวนหนึ่งในกรงขังนั้น มันเป็นสิ่งที่ควรแลก เมื่อเทียบการการที่ปล่อยให้คนชั่วลอยนวลออกมาฆ่าแพะจำนวนมากที่อยู่นอกกรงนั้น

ผมกลับถึงบ้านราวสองทุ่ม เข้าห้องนอนทันที วันนี้ผมมีความสำเร็จเล็กๆอยู่ในนั้น ก็ยุคนี้ใครอยากเรียนอะไรก็สามารถทำได้เพียงแค่เสิชคีย์เวิร์ดเข้าไปในยูทูป ในนั้นมีทุกอย่างให้ศึกษาไม่ว่าจะเป็น สาธิตการใช้อุปกรณ์ไอทีใหม่ๆ สูตรทำอาหารอร่อยๆ ท่าออกกำลังกายบริหารหน้าท้อง รวมไปถึงวิธีทำระเบิด ผมใช้ช่วงเวลาว่างก่อนนอน เพื่อทดลองทำระเบิดแบบ DIY จากอุปกรณ์สามารถซื้อหาได้ในอินเตอร์เน็ต ถึงตอนนี้ผมสามารถระเบิดอาคารสูงสี่ชั้นให้ราบคาบได้ภายในพริบตา แต่ผมคงไม่ใช้มันแบบสุ่มสี่สุ่มห้าแน่นอน

เร็วกว่าที่คิดไว้.. เช้าของอีกวันตำรวจสนธิกำลังเข้าจับกุมผมขณะที่กำลังเดินออกมาหาซื้ออาหารมื้อเช้า ในข้อหาจ้างวานฆ่า เรื่องของผมกลายเป็นข่าวใหญ่ที่สุดของวัน ผมถูกส่งตัวเข้าเรือนจำประจำจังหวัดทันที

ในคุกนั่นทำให้ผมไม่โดดเดี่ยว ทุกคนรู้จักชื่อผมดี เนื่องมาจากวีรกรรมที่ผมสร้างไว้ และแน่นอนหลายคนจ้องจะฆ่าผม เหตุเพราะนักโทษยี่สิบกว่าคนที่ตายไปนั้น ล้วนมีความสัมพันธ์กันกับคนในนี้ ไม่ว่าจะเป็นคู่ค้า คู่ซี้ หรือ แม้แต่พี่น้องร่วมสายเลือด
ผมถูกรุมทำร้ายหลายครั้งจากเพื่อนนักโทษ ซึ่งผู้คุมก็มีส่วนรู้เห็นเป็นใจไปด้วย เพราะบางคนเป็นเพื่อนร่วมวงกับคนขับรถที่เสียชีวิต

ครั้งสุดท้ายที่ผมโดนรุมทำร้าย เป็นครั้งที่หนักที่สุดเกิดขึ้นในตอนกลางวัน
ขณะที่ผมกำลังกินข้าวแดง ไปพร้อมๆกับเล่าแผนการให้กับหัวโจกคนหนึ่งถึงการตายของน้องชายเขาอย่างละเอียด พวกมันรุมทำร้ายผมด้วยท่อนเหล็กกว่าครึ่งชั่วโมง
ผมนึกว่าผมตายไปแล้ว เคราะห์ยังดีที่เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของผมวิ่งไปแจ้งเหตุกับผู้คุมได้ทันเวลา

ผมถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์

ผมอยู่ในโรงพยาบาลแห่งนี้ก็ร่วมเดือนแล้ว รู้ชื่อพยาบาลทุกคนในวอร์ดสนิทสนมกันทุกคนเป็นอย่างดี เรียกว่าใช้ไปซื้อขนมได้เลย ส่วนร่างกายผมก็เริ่มฟื้นตัวกลับมาดังเดิม ผมกำลังจะเดินได้เองในไม่ช้า ผมยื่นเรื่องขอย้ายเรือนจำโดยให้เหตุผลเรื่องความปลอดภัยในชีวิต ตอนนี้ได้ลายเซ็นของผู้ใหญ่ในเรือนจำแล้ว รอเพียงลายเซ็นของหมอผู้ดูแลผมเท่านั้นเอง

.....

สองสัปดาห์ต่อมา รถนำส่งนักโทษคันหนึ่งแล่นออกจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ด้วยความเร็วมุ่งหน้าสู่เรือนจำกลาง

'สายตาคู่หนึ่ง' กำลังมองออกมานอกซี่ลูกกรงเหล็กบนรถนำส่งผู้ต้องหา

ชายผู้นั้นรู้ตัวดีว่าเขาอาจจะไม่มีโอกาสได้กลับไปสู่โลกความเป็นจริงเบื้องหน้านั้นอีก
เขากำลังเดินทางมาถึงแผนขั้นสุดท้ายที่เค้าได้วางไว้แล้ว ทุกอย่างจะจบลงในไม่ช้า
เขาจะตายในนั้น ในคุกที่รวมนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ของประเทศกว่าพันคน

ซึ่งแน่นอนว่ามันคือ 'อุบัติเหตุ'
---------------------------------------------------------------------------------
Jacob 's Fanpage : www.facebook.com/jacob.writer
---------------------------------------------------------------------------------
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่