Chuchart Srisaeng
.....คำสั่งศาลแพ่งที่ให้คุ้มครองชั่วคราวแก่การมวลมหาประชาชนที่ชุมนุมกันอยู่ก่อนมีคำพิพากษาที่ได้อ่านเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2557 ซึ่งสื่อมวลชนส่วนมากโดยเฉพาะฟรีทีวีทั้งหลายเสนอข่าวว่า ศาลแพ่งมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ทำให้คนบางกลุ่มที่ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด แล้วด่าศาลกันอย่างหยายคาย ถึงขั้นดูหมิ่นศาลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198
.....นำคำสั่งจริง ๆ มาให้อ่านกันอีกครั้ง จะเห็นได้ว่า คำสั่งศาลแพ่งให้ความคุ้มครองมวลมหาประชาชนที่ชุมนุมกันอยู่จนเจ้าหน้าที่ของรัฐแทบจะใช้ประโยชน์จากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงของรัฐบาลเพื่อขัดขวางการชุมนุมไม่ได้เลย
.....สำหรับผู้ที่ด่าศาล ถ้าจะรู้สึกสำนึกในการกระทำของตนเองอย่างที่วิญญูชนผู้มีอารยะควรจะมีก็จะดีไม่น้อย
..........ฯลฯ เมื่อได้ความตามทางไต่สวนว่า โจทก์และประชาชนใช้สิทธิและเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองโดยมีเหตุผลมาจากความไม่ไว้วางใจในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ถือเป็นการใช้เสรีภาพตามรัฐธรามนูญ อันเป็นการได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ การที่จะออกคำสั่งหรือการกระทำใด ๆ ที่จะกระทบหรือขัดขวางการชุมนุมโดยสงบแล้ว ย่อมเป็นการกระทบสิทธิของโจทก์ ฯลฯ
..........จึงมีคำสั่งห้ามมิให้จำเลยทั้งสาม (นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จำเลยที่ 1 ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง จำเลยที่ 2 พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงห์แก้ว จำเลยที่ 3) ดำเนินการตามคำสั่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ยึดหรืออายัดสินค้า เครื่องอุปโภคบริโภค เคมีภัณฑ์ หรือวัตถุอื่นใด ที่ได้ใช้หรือใช้สิ่งนั้นในการชุมนุมของโจทก์และประชาชน และห้ามมิให้จำเลยทั้งสามดำเนินการตามคำสั่งให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่สั่งการให้การซื้อ ขาย ใช้ หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้า เวชภัณฑ์ เครื่องอุปโภคบริโภค เคมีภัณฑ์ หรือวัสดุอุปกรณ์อย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งอาจใช้ในการชุมนุมของโจทก์และประชาชน โดยต้องรายงานหรือได้รับอนุญาตหรือต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด ดังที่ปรากฎในเอกสารประกาศมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ข้อ 3 และข้อ 9 ตามเอกสารหมาย จ.4 ทั้งนี้จนกว่าจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น ส่วนประกาศและข้อกำหนดอื่น ๆ ให้จำเลยทั้งสามกระทำการโดยสุจริต ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่เกินสมควรแก่เหตุ หรือไม่เกินกว่ากรณีจำเป็น เพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนและพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ซึ่งต้องปฏิบัติตามประกาศและข้อกำหนดนั้น./
.....องค์คณะผู้พิพากษา
..........นายอนุรัตน์ ลิ่มทอง
..........นางสาวสิริภัทร ผามะนาว
..........นางสุพิศ กรอบคำ
..........นายสุชาติ ชาติปัญญาวุฒิ
ที่มา:
https://www.facebook.com/chuchart.srisaeng/posts/446194025506829
รายชื่อองค์คณะผู้พิพากษาศาลแพ่ง และ คำตัดสินคดีที่เป็นประโยชน์ต่อมวลมหาประชาชน
.....คำสั่งศาลแพ่งที่ให้คุ้มครองชั่วคราวแก่การมวลมหาประชาชนที่ชุมนุมกันอยู่ก่อนมีคำพิพากษาที่ได้อ่านเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2557 ซึ่งสื่อมวลชนส่วนมากโดยเฉพาะฟรีทีวีทั้งหลายเสนอข่าวว่า ศาลแพ่งมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ทำให้คนบางกลุ่มที่ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด แล้วด่าศาลกันอย่างหยายคาย ถึงขั้นดูหมิ่นศาลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198
.....นำคำสั่งจริง ๆ มาให้อ่านกันอีกครั้ง จะเห็นได้ว่า คำสั่งศาลแพ่งให้ความคุ้มครองมวลมหาประชาชนที่ชุมนุมกันอยู่จนเจ้าหน้าที่ของรัฐแทบจะใช้ประโยชน์จากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงของรัฐบาลเพื่อขัดขวางการชุมนุมไม่ได้เลย
.....สำหรับผู้ที่ด่าศาล ถ้าจะรู้สึกสำนึกในการกระทำของตนเองอย่างที่วิญญูชนผู้มีอารยะควรจะมีก็จะดีไม่น้อย
..........ฯลฯ เมื่อได้ความตามทางไต่สวนว่า โจทก์และประชาชนใช้สิทธิและเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองโดยมีเหตุผลมาจากความไม่ไว้วางใจในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ถือเป็นการใช้เสรีภาพตามรัฐธรามนูญ อันเป็นการได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ การที่จะออกคำสั่งหรือการกระทำใด ๆ ที่จะกระทบหรือขัดขวางการชุมนุมโดยสงบแล้ว ย่อมเป็นการกระทบสิทธิของโจทก์ ฯลฯ
..........จึงมีคำสั่งห้ามมิให้จำเลยทั้งสาม (นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จำเลยที่ 1 ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง จำเลยที่ 2 พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงห์แก้ว จำเลยที่ 3) ดำเนินการตามคำสั่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ยึดหรืออายัดสินค้า เครื่องอุปโภคบริโภค เคมีภัณฑ์ หรือวัตถุอื่นใด ที่ได้ใช้หรือใช้สิ่งนั้นในการชุมนุมของโจทก์และประชาชน และห้ามมิให้จำเลยทั้งสามดำเนินการตามคำสั่งให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่สั่งการให้การซื้อ ขาย ใช้ หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้า เวชภัณฑ์ เครื่องอุปโภคบริโภค เคมีภัณฑ์ หรือวัสดุอุปกรณ์อย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งอาจใช้ในการชุมนุมของโจทก์และประชาชน โดยต้องรายงานหรือได้รับอนุญาตหรือต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด ดังที่ปรากฎในเอกสารประกาศมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ข้อ 3 และข้อ 9 ตามเอกสารหมาย จ.4 ทั้งนี้จนกว่าจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น ส่วนประกาศและข้อกำหนดอื่น ๆ ให้จำเลยทั้งสามกระทำการโดยสุจริต ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่เกินสมควรแก่เหตุ หรือไม่เกินกว่ากรณีจำเป็น เพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนและพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ซึ่งต้องปฏิบัติตามประกาศและข้อกำหนดนั้น./
.....องค์คณะผู้พิพากษา
..........นายอนุรัตน์ ลิ่มทอง
..........นางสาวสิริภัทร ผามะนาว
..........นางสุพิศ กรอบคำ
..........นายสุชาติ ชาติปัญญาวุฒิ
ที่มา: https://www.facebook.com/chuchart.srisaeng/posts/446194025506829