อนาคต ศรส. เมื่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จะหมดอายุในอีก 12 วัน

กระทู้สนทนา
ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2557 เป็นต้นมา รัฐบาลรักษาการภายใต้การนำของนางสาวยิ่งลักษณ์  ชินวัตร ได้มีการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือที่เรียกกันติดปากว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยการประกาศครั้งนี้มีระยะเวลาในการบังคับใช้ 60 วัน ในพื้นที่ กรุงเทพฯ จ.นนทบุรี ทั้งหมด อ.บางพลี จ.สมุทธปราการ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี โดยจะสิ้นสุดการบังคับใช้ในวันที่ 22 มีนาคม 2557
ก่อนอื่นต้องขอเล่าก่อนว่ากฎหมายฉบับนี้เป็นพระราชกำหนด คือ เป็นกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีได้ขึ้นทูลเกล้า เป็นกฎหมายโดยไม่ผ่านการพิจารณาของรัฐสภา ประกาศใช้ในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร เป็นายกรัฐมนตรี ความจริงกฎหมายฉบับนี้เริ่มแรกถูกใช้เฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แทนการใช้กฎอัยการศึกที่เป็นกฎหมายเก่าตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 และมีความรุนแรง แต่ต่อมาก็ถูกนำมาใช้ควบคุมสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในหลายครั้งที่ผ่านมา

ในการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ประกาศใช้ด้วยการออกเป็นคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี และจะมีการตั้งหน่วยงานขึ้นมาเพื่อใช้ควบคุมสถานการณ์โดยเฉพาะนั่นคือศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศรส. ประกอบด้วยบุคคลดังนี้

๑.๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ผู้อำนวยการ
๑.๒ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองผู้อำนวยการ
๑.๓ ปลัดกระทรวงกลาโหม รองผู้อำนวยการ
๑.๔ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารสูงสุด กรรมการ
๑.๕ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก กรรมการ
๑.๖ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ กรรมการ
๑.๗ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารอากาศ กรรมการ
๑.๘ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กรรมการ
๑.๙ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กรรมการ
๑.๑๐ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กรรมการ

๑.๑๑ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรรมการ
๑.๑๒ ปลัดกระทรวงคมนาคม กรรมการ
๑.๑๓ ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  กรรมการ
๑.๑๔ ปลัดกระทรวงพลังงาน กรรมการ
๑.๑๕ อัยการสูงสุด กรรมการ
๑.๑๖ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กรรมการ
๑.๑๗ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรรมการ
๑.๑๘ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ กรรมการ
๑.๑๙ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กรรมการ

๑.๒๐ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กรรมการ
๑.๒๑ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรรมการ
๑.๒๒ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรรมการ
๑.๒๓ เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กรรมการ
๑.๒๔ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กรรมการ
๑.๒๕ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี กรรมการ
๑.๒๖ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กรรมการ
๑.๒๗ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กรรมการ
๑.๒๘ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการ
๑.๒๙ ผู้แทนเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร  กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
๑.๓๐ ข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ และข้าราชการพลเรือนซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่หรือได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในเขตท้องที่ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง


เป็นใครกันบ้างไปสืบหากันเอาเอง

แต่เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา ศาลแพ่งได้คำพิพากษาในกรณีนายถาวร  เสนเนียม แกนนำกลุ่ม กปปส. อนุสาวรีย์ชัมสมรภูมิ ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลแพ่งมีคำพิพากษาเพิกถอนการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แต่ศาลแพ่งไม่สั่งเพิกถอนตามคำร้องแต่มีการออกคำสั่งทั้ง 9 ข้อซึ่งล้วนแต่กระทบการใช้อำนาจพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯทั้งสิ้น คือ

1.ห้ามมิให้จำเลยทั้ง 3 ใช้หรือสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ให้ใช้กำลังและหรืออาวุธเข้าสลายการชุมนุมของโจทก์และประชาชน ที่ชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ตามรัฐธรรมนูญ 2550 ม.63 วรรคหนึ่ง

2.ห้ามมิให้จำเลยทั้ง 3 มีคำสั่งยึดหรืออายัดสินค้า เครื่องอุปโภคบริโภค เคมีภัณฑ์ หรือวัตถุอื่นใดที่ได้ใช้หรือจะใช้สิ่งนั้น เพื่อการกระทำการหรือสนับสนุนของโจทก์และประชาชน

3.ห้ามมิให้จำเลยทั้ง 3 ออกคำสั่งตรวจค้น รื้อ ถอน หรือทำลายซึ่งอาคารสิ่งปลูกสร้าง หรือสิ่งกีดขวางของโจทก์และประชาชน

4.ห้ามมิให้จำเลยทั้ง 3 สั่งการให้การซื้อขาย ใช้ หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าเวชภัณฑ์ เครื่องอุปโภคบริโภค เคมีภัณฑ์ หรือวัสดุอุปกรณ์อย่างหนึ่งอย่างใดซึ่งอาจใช้ในการชุมนุมของโจทก์และประชาชน

5.ห้ามมิให้จำเลยทั้ง 3 สั่งการห้ามกระทำการอย่างใดๆ ที่เป็นการปิดการจราจร ปิดเส้นทางคมนาคม หรือกระทำการอื่นใดที่ทำให้ไม่อาจใช้เส้นทางคมนาคมได้ตามปกติในทุกเขตพื้นที่ที่โจทก์และประชาชนใช้ในการชุมนุม

6.ห้ามมิให้จำเลยทั้ง 3 ประกาศกำหนดพื้นที่ที่ห้ามมีการชุมนุมของโจทก์และประชาชนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป

7.ห้ามมิให้จำเลยทั้ง 3 สั่งการห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ หรือกำหนดเงื่อนไขในการใช้เส้นทางคมนาคม หรือการใช้ยานพาหนะของโจทก์และประชาชนในการชุมนุม

8.ห้ามมิให้จำเลยทั้ง 3 สั่งห้ามโจทก์และประชาชนใช้อาคาร หรือเข้าไป หรืออยู่ในสถานที่ หรือห้ามเข้าไปในพื้นที่ใดๆ

9.ห้ามมิให้จำเลยทั้งสามสั่งห้ามให้อพยพโจทก์และประชาชนออกจากพื้นที่การชุมนุม และห้ามมิให้ออกคำสั่งห้ามโจทก์และประชาชนเข้าไปในพื้นที่ชุมนุม

ถึงแม้ขณะนี้จะอยู่ในระหว่างการอุทธรณ์แต่คำสั่งก็ยังจะมีผลผูกพัน

ซึ่งก็ต้องติดตามว่ารัฐบาลรักษาการจะประกาศต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯหรือไม่ก็ต้องติดตามสัปดาห์นี้ โดยผลการตัดสินใจจะมี 2 แนวทาง ดังนี้

แนวทางที่ 1 ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ คำสั่งทั้ง 9 ข้อของศาลแพ่งยังจะคงอยู่เหมือนเดิมเพราะเป็นคำสั่งที่มีผลผูกพักับผู้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไม่ใช่เฉพาะ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฉบับนี้

แนวทางที่ 2 กลับไปใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ หน่วงานก็จะถูกเปลี่ยนชื่อศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส และคำสั่งทั้ง 9 ข้อของศาลแพ่งจะไม่มีผลผูกพัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่