เรื่องมีอยู่ว่า วันที่ 18/02/14 พ่อเราเอารถไปเข้าศูนย์เพื่อให้เค้าำดูประตูแค๊ป ซึ่งใช้ วีโก้สมาร์ทแค๊ป เวลาเปิดออก ประตูแคปมันไปขบเข้ากับตัวรถ ทำให้ตัวรถเป็นรอยครูดยาวๆค่ะ ซึ่งใช้มาแล้วเพิ่งสังเกตุเห็น เลยไปที่ศูนย์
ไปถึงก็ส่งเรื่องทำเรื่องโน่นนี่ แล้วมีช่างมาขับรถเข้าไปในอู่เพื่อรอตรวจสอบและรอซ่อมค่ะ เสร็จแล้วคุณพ่อก็กลับบ้าน แต่พอมาถึงบ้านลืมไปว่าเอากุญแจบ้านไว้ในรถ เลยต้องกลับไปที่ศูนย์ใหม่ เพื่อไปเอากุญแจ
ปกติรถในอู่ซ่อมจะหันหน้าเข้าซองหมด แต่ตอนที่พ่อไปเอากุญแจ กลับเห็นว่า รถถูกเอาหลังเข้า แทนที่จะหน้าเข้าตามปกติ แต่ก็ไม่ได้อะไร พอเอากุญแจในรถได้ ก็กลับบ้าน รอไปรับรถอีกที
พอไปรับรถช่วงบ่ายแก่ๆพ่อเราก็ตรวจดูว่าแค๊ปเราเรียบร้อยหรือยัง ตรงประตู อะไรยังไง ซึ่งเปิดประตูออกมา ถึงกับผงะ เบาะแค๊ป และสิ่งของต่างๆ ใันรถ กระจัดกระจายอยู่กับพื้น น้องที่รอรับเรื่องอยู่ด้านหน้าก็เข้ามาช่วยเก็บ แต่ไม่เข้าใจทำไมรถถึงเป็นแบบนี้มันไปโดนอะไรมาของถึงกับหล่น หรืออะไร ใครมารื้อออก? รื้อทำไม แล้วถ้ารื้อออก ทำไมปล่อยรถลูกค้าไว้กระจัดกระจายเช่นนั้น ไม่มีการเก็บให้ด้วย?
เก็บของเสร็จ เช็คที่แค๊ปคือ ยังไม่ได้ทำอะไรให้เลย เขาแจ้งว่าต้องรอส่งเรื่อง2-3วัน ก็ไม่ได้อะไร รอได้ แล้วพ่อจึงขับรถกลับมาที่บ้าน
จุดนี้ พอถึงบ้าน ตาไปสะดุดกับกันชนท้ายรถ มันบุบค่ะ เกือบเท่าลูกส้มโอเล็กๆ เหมือนไปชน ไปตำอะไรมาสักอย่าง นึกขึ้นได้แล้วคิดถึงเรื่องที่ของในรถหล่นกระจายอยู่ที่พื้น พ่อปรี๊ดเลยค่ะ รถเราเป็นแบบนี้ได้อย่างไร ใจจะไปศูนย์เดี๋ยวนั้นเลย แต่มันเย็นเกือบ 5 โมงแล้วคงต้องไปอีกทีวันรุ่งขึ้น
พอเช้ารีบไปที่ศูนย์ อยากถามว่าทำไมรถเราเป็นแบบนี้ ใครเป็นคนขับรถเรา ช่างคนไหนขับบ้างกี่คน? ก็ไปคุยกับผู้จัดการ เพื่อขอดูกล้องวงจรปิด แต่เค้าให้ดูตอนนั้นไม่ได้ ? ตอนนั้นเวลาประมาณ 8-9โมงเช้าค่ะ เค้าได้บอกว่า เดี๋ยวจะประสานให้เรื่องดูกล้องวงจร แล้วจะโทรตามอีกทีตอนบ่าย แต่บ่าย 2 รอแล้วยังไม่โทรมา เลยไปที่ศูนย์อีกครัง ถามผู้จัดการ ตัวเจอหรือยังว่าใครเป็นคนขับรถเรา? เค้าบอกว่า " วันนี้คนขับรถไม่มา " พ่อเราอยากถามคนขับ ว่าขับไปชนกับอะไรมารึเปล่ารถถึงเป็นแบบนี้ "ผู้จัดการก็ได้ย้ำ ว่าช่างของเค้าไม่มา" เหตุผลที่ไม่มา คือ"เป็นวันหยุดช่างคนนั้น" อันนี้คือสิ่งที่ผู้จัดการคนนี้ตอบ.
คุยกันเวลาผ่านไปไม่นาน มีช่างคนที่ 1 มาคุยแต่เรากับพ่อไม่ได้ยินนะว่าเค้าคุยอะไรกันเราแต่ก็มองดูอยู่ตอนเค้าคุย แล้วผู้จัดพามาบอกว่า ช่างคนนี้แหละที่เมื่อวานขับรถคุณไปจอดรอซ่อม... พ่อเราจึงเข้าไปถามว่า คุณขับรถผมจากตรงไหน ไปจอดตรงไหนอะไรยังงัยบ้าง? และตอนแรก รถเราจอดอยู่ตรงไหน? สิ่งที่ช่างตอบมา มันดูเบลอๆ ช่างชี้นิ้วแล้วหมุนๆ ไปในบริเวณกว้าง บอกว่า " จอดไว้แถวๆนี้แหละๆ แถวนี้นี่มันจุดไหนถาม เค้าก็บอกแถวๆนี้ๆแหละ ใกล้ๆจุดที่เราคุย คือพ่อบอกว่าตอนแรกรถไม่ได้จอดที่ที่คุณบอกเลยนะ!! มันจอดอยู่อีกที่เลยตอนที่เราเข้ามาตอนแรก ก่อนที่ช่างจะขับรถเราไปอีกทีเพื่อรอซ่อม" ((( แต่เอ๊ะ! ไหนตอนแรกคุณผู้จัดการ ยืนยันนักหนาด้วยน้ำเสียงแข็งๆและสีหน้าชาๆ ว่าช่างไม่มาไงคะ? ))) ข้อนี้คุณพลาดแล้ว
จากนั้นก็เดินเข้าไปดูในอู่ซ่อมอีกที ไปดูจุดที่รถเราจอด เพราะว่าพ่อเราเห็นว่ารถมันถูกเอาหลังเข้า บริเวณนั้น จะมี ประมานว่าตู้เหล็กเป็นโครง มีล้อที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ที่ไว้ใส่พวกอุปกรณ์ช่างค่ะ เราเรียกไม่ถูก ขนาดมันจะเตี้ยกว่าจุดที่รถเราถูกชนนิดหน่อย แต่ไม่ทราบว่าขนาดความสูงของอุปกรณ์จะเท่ากันทั้งหมดมั้ยนะคะ? แต่ที่สำคัญเหล็กด้านนึงมันยุบเป็นรอยหยักๆเข้าไปทั้งแถบ เหมือนมันต้องไปชนกับอะไรมาสักอย่าง ซึ่งมันก็เป็นตำแหน่งข้างเดียวกันกับตอนที่รถพ่อเราจอดหลังเข้าพอดี. จุดนี้คิดว่า มันต้องโดนเหล็กแน่ๆ เพราะพ่อบอกว่า มันเป็นรอยเหล็กชัดๆ พ่อเราก็ทำงานเกี่ยวกับช่างนะคะ.
ลืมบอกว่าเค้ายังไม่ให้เราดูกล้องวงจรปิดเลยค่ะ ผู้จัดการบอกว่าถ้าอยากจะดูเนี่ย "ให้เราลองดูที่องศาของกล้องก่อน" ว่ามุมนั้นที่กล้องจับลงไป.. " มันมองยังไง ก็มองไม่เห็นจุดที่รถเราจอดซ่อม!! " เราเลยเข้าไปดูตัวกล้อง ปรากฎว่า กล้องมันเอาหัวลงแบบที่เค้าไม่น่าจะทำกัน เพราะจากจุดนั้น จะมองเห็นได้แค่คันสองคันแรกๆเท่านั้น ไม่ใช่เกือบทั้งแถวในอู่. ถ้าเป็นกล้องปกติน่าจะตั้งกล้องให้อยู่มุมสูง เพื่อที่จะมองเห็นได้ในบริเวณกว้าง ฝ่ายเรามาเจอหัวกล้องปักอย่างนี้แล้วคิดว่ามันน่าขำมากใครเค้าตั้งตำแหน่งกล้องกันแบบนี้ ตอนเรากลับจากช่วงเช้า ไปกดปรับอะไรยังงัยมาก่อนหรือเปล่า อันนี้ขำมาก แถมปัดไม่ให้เราดูภาพจากกล้องวงจรปิดด้วย พอดีเริ่มสังเกตุตอนคุยมีช่างคนนึงยืนฟังอยู่ไม่ไกล เค้าเดินเข้ามาหาผู้จัดการ แล้วผู้จัดการก็บอกว่า คนนี้แหละ เมื่อวานที่ขับรถคุณช่างคนนี้เป้นคนดูรถคุณ..
((( คือตอนนี้ ช่างโผล่มาเป็นคนที่ 2 แล้วนะคะ จากที่ปากคุณผู้จัดการ ยืนยันกับเราและพ่อ ว่าช่างวันนี้ไม่มาทำงาน !! )))
แต่เราเก็บไว้ในใจ เลยถามช่างไป ซึ่งก็คำตอบที่ได้มาก็อิลอปเดิม ไม่ได้ขับไปชนอะไร แล้วเดินหนีไปเลยค่ะ ดีจังเลย..
คุณผู้จัดการบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับรถคุณ ถ้าผมทำจริง ผมรับผิดชอบแน่นอน / แต่สิ่งที่เราต้องการตอนนี้ เราไม่ต้องการให้คุณมารับผดชอบ เราต้องการรู้ว่าใครทำให้รถเราเป็นแบบนี้ อยากขอดูความบริสุทธิ์ใจจากกล้องวงจร ซึ่งทางคุณก็ไม่ให้เราดู ซึ่งถ้าคุณทำจริง คำขอโทษมันจะมีความหมายมากกว่าที่คุณปฏิเสธทุกอย่าง ทางเราก็ไม่ได้จะมาใส่ร้ายอะไรทางคุณเลย คุณไม่กล้าให้เราพิสูจน์ ไม่กล้าให่เราดู หากทางคุณบริสุทธ์ใจจริงเรื่องแค่นี้มันก็ไม่น่าจะมีปัญหา ตอนนี้มีอีก 2 ท่านเข้ามาและบอกว่าเรื่องของกล้อง ทางเราจะประสานงานไปทางฝ่าย ไอที ฝ่าย เซิร์ฟเวอร์ ให้คุณได้ดูภาพ และเมื่อทางเราพร้อมแล้วจะติดต่อกลับไป เอะอะติดต่อกลับตลอด เรากับพ่อเลยไม่หวังอะไรมากกับเรื่องนี้แล้ว ขนาดผู้จัดการยังโกหกเลย "กับแค่เรื่องที่บอกว่าช่างไม่มาๆน่ะ" และการปัดที่จะให้เราดูกล้องอีก จะหวังอะไรได้เรามันก็แค่คนธรรมดา
""" 5 โมงกว่าๆ ทางโตโยต้าโทรมา นัด พรุ่งนี้ 10:00 ไปดูกล้อง """
10 โมงเช้าตามนัด เราไปนั่งรอในออฟฟิสเลยค่ะ มากันครบทีมแล้ว เค้านำกล้องถ่ายรูป 1ตัว มาด้วย ..
เค้าบอกว่า.. นี่แหละภาพที่ได้อัด Video จากกล้องวงจรปิดมาอีกที ณจุดนี้ คิด อีกแล้วหรอ?? คุณเล่นอย่างนี้จะมาหลอกเด็ก จะมาเล่านิทานอิสปอะไรให้ใครฟังอีกหรอ ? นี่เอาอะไรมาให้ดู เวลาขณะจับภาพอะไรยังงัย ยังไม่มีเลย ถ่ายมาจากอะไรก็ไม่รู้ คลิปที่ถ่ายมามันไม่มีอะไรที่น่าเชื่อถือเลย อาจจะถูกตัดต่อมาก่อนก็ได้ไหม เราก็ไม่รู้นี่คะ. " และไหนคุณผู้จัดการเคยบอกว่า จุดขององศากล้องมันมองยังงัยก็ไม่เห็นรถนี่คะ " แล้วมาวันนี้เอาภาพมาให้เราดูได้งัย มองเห็นได้นี่คะ แต่ไม่ชัดเจน เวลาไม่มี อะไรไม่มี... นี้ทางโตโยต้า คุณไม่แสดงความจริงใจ คุณไม่เป็นคำพูด เอาทุกวิถีทางเพื่อปกป้องชื่อเสียงบริษัท แต่ไม่คิดจะสืบหาข้อเท็จจริง ไม่แสดงความบริสุทธ์ใจ ไม่คิดจะหาตัวคนกระทำผิด ที่อยู่ในองค์กรณ์ของคุณมาลงโทษมาตักเตือน รู้สึกผิดหวังมากที่ได้ไว้วางใจกับโตโยต้า เป็นลูกค้ากับโตโยต้า ออกรถใหม่มา ไม่ถึง 3 เดือน ต้องมาชน เพราะคนสะเพร่าๆในศูนย์นี้ ก็ขอลาค่ะ
ฝากถึง การกระทำของศูนย์โตโยต้า บัส เสรีไทยค่ะ ขับรถลูกค้าไปชนจนท้ายบุบ แล้วปัดความรับผิดชอบ ไม่ให้ความจริงใจในการพิสูจน์
ไปถึงก็ส่งเรื่องทำเรื่องโน่นนี่ แล้วมีช่างมาขับรถเข้าไปในอู่เพื่อรอตรวจสอบและรอซ่อมค่ะ เสร็จแล้วคุณพ่อก็กลับบ้าน แต่พอมาถึงบ้านลืมไปว่าเอากุญแจบ้านไว้ในรถ เลยต้องกลับไปที่ศูนย์ใหม่ เพื่อไปเอากุญแจ
ปกติรถในอู่ซ่อมจะหันหน้าเข้าซองหมด แต่ตอนที่พ่อไปเอากุญแจ กลับเห็นว่า รถถูกเอาหลังเข้า แทนที่จะหน้าเข้าตามปกติ แต่ก็ไม่ได้อะไร พอเอากุญแจในรถได้ ก็กลับบ้าน รอไปรับรถอีกที
พอไปรับรถช่วงบ่ายแก่ๆพ่อเราก็ตรวจดูว่าแค๊ปเราเรียบร้อยหรือยัง ตรงประตู อะไรยังไง ซึ่งเปิดประตูออกมา ถึงกับผงะ เบาะแค๊ป และสิ่งของต่างๆ ใันรถ กระจัดกระจายอยู่กับพื้น น้องที่รอรับเรื่องอยู่ด้านหน้าก็เข้ามาช่วยเก็บ แต่ไม่เข้าใจทำไมรถถึงเป็นแบบนี้มันไปโดนอะไรมาของถึงกับหล่น หรืออะไร ใครมารื้อออก? รื้อทำไม แล้วถ้ารื้อออก ทำไมปล่อยรถลูกค้าไว้กระจัดกระจายเช่นนั้น ไม่มีการเก็บให้ด้วย?
เก็บของเสร็จ เช็คที่แค๊ปคือ ยังไม่ได้ทำอะไรให้เลย เขาแจ้งว่าต้องรอส่งเรื่อง2-3วัน ก็ไม่ได้อะไร รอได้ แล้วพ่อจึงขับรถกลับมาที่บ้าน
จุดนี้ พอถึงบ้าน ตาไปสะดุดกับกันชนท้ายรถ มันบุบค่ะ เกือบเท่าลูกส้มโอเล็กๆ เหมือนไปชน ไปตำอะไรมาสักอย่าง นึกขึ้นได้แล้วคิดถึงเรื่องที่ของในรถหล่นกระจายอยู่ที่พื้น พ่อปรี๊ดเลยค่ะ รถเราเป็นแบบนี้ได้อย่างไร ใจจะไปศูนย์เดี๋ยวนั้นเลย แต่มันเย็นเกือบ 5 โมงแล้วคงต้องไปอีกทีวันรุ่งขึ้น
พอเช้ารีบไปที่ศูนย์ อยากถามว่าทำไมรถเราเป็นแบบนี้ ใครเป็นคนขับรถเรา ช่างคนไหนขับบ้างกี่คน? ก็ไปคุยกับผู้จัดการ เพื่อขอดูกล้องวงจรปิด แต่เค้าให้ดูตอนนั้นไม่ได้ ? ตอนนั้นเวลาประมาณ 8-9โมงเช้าค่ะ เค้าได้บอกว่า เดี๋ยวจะประสานให้เรื่องดูกล้องวงจร แล้วจะโทรตามอีกทีตอนบ่าย แต่บ่าย 2 รอแล้วยังไม่โทรมา เลยไปที่ศูนย์อีกครัง ถามผู้จัดการ ตัวเจอหรือยังว่าใครเป็นคนขับรถเรา? เค้าบอกว่า " วันนี้คนขับรถไม่มา " พ่อเราอยากถามคนขับ ว่าขับไปชนกับอะไรมารึเปล่ารถถึงเป็นแบบนี้ "ผู้จัดการก็ได้ย้ำ ว่าช่างของเค้าไม่มา" เหตุผลที่ไม่มา คือ"เป็นวันหยุดช่างคนนั้น" อันนี้คือสิ่งที่ผู้จัดการคนนี้ตอบ.
คุยกันเวลาผ่านไปไม่นาน มีช่างคนที่ 1 มาคุยแต่เรากับพ่อไม่ได้ยินนะว่าเค้าคุยอะไรกันเราแต่ก็มองดูอยู่ตอนเค้าคุย แล้วผู้จัดพามาบอกว่า ช่างคนนี้แหละที่เมื่อวานขับรถคุณไปจอดรอซ่อม... พ่อเราจึงเข้าไปถามว่า คุณขับรถผมจากตรงไหน ไปจอดตรงไหนอะไรยังงัยบ้าง? และตอนแรก รถเราจอดอยู่ตรงไหน? สิ่งที่ช่างตอบมา มันดูเบลอๆ ช่างชี้นิ้วแล้วหมุนๆ ไปในบริเวณกว้าง บอกว่า " จอดไว้แถวๆนี้แหละๆ แถวนี้นี่มันจุดไหนถาม เค้าก็บอกแถวๆนี้ๆแหละ ใกล้ๆจุดที่เราคุย คือพ่อบอกว่าตอนแรกรถไม่ได้จอดที่ที่คุณบอกเลยนะ!! มันจอดอยู่อีกที่เลยตอนที่เราเข้ามาตอนแรก ก่อนที่ช่างจะขับรถเราไปอีกทีเพื่อรอซ่อม" ((( แต่เอ๊ะ! ไหนตอนแรกคุณผู้จัดการ ยืนยันนักหนาด้วยน้ำเสียงแข็งๆและสีหน้าชาๆ ว่าช่างไม่มาไงคะ? ))) ข้อนี้คุณพลาดแล้ว
จากนั้นก็เดินเข้าไปดูในอู่ซ่อมอีกที ไปดูจุดที่รถเราจอด เพราะว่าพ่อเราเห็นว่ารถมันถูกเอาหลังเข้า บริเวณนั้น จะมี ประมานว่าตู้เหล็กเป็นโครง มีล้อที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ที่ไว้ใส่พวกอุปกรณ์ช่างค่ะ เราเรียกไม่ถูก ขนาดมันจะเตี้ยกว่าจุดที่รถเราถูกชนนิดหน่อย แต่ไม่ทราบว่าขนาดความสูงของอุปกรณ์จะเท่ากันทั้งหมดมั้ยนะคะ? แต่ที่สำคัญเหล็กด้านนึงมันยุบเป็นรอยหยักๆเข้าไปทั้งแถบ เหมือนมันต้องไปชนกับอะไรมาสักอย่าง ซึ่งมันก็เป็นตำแหน่งข้างเดียวกันกับตอนที่รถพ่อเราจอดหลังเข้าพอดี. จุดนี้คิดว่า มันต้องโดนเหล็กแน่ๆ เพราะพ่อบอกว่า มันเป็นรอยเหล็กชัดๆ พ่อเราก็ทำงานเกี่ยวกับช่างนะคะ.
ลืมบอกว่าเค้ายังไม่ให้เราดูกล้องวงจรปิดเลยค่ะ ผู้จัดการบอกว่าถ้าอยากจะดูเนี่ย "ให้เราลองดูที่องศาของกล้องก่อน" ว่ามุมนั้นที่กล้องจับลงไป.. " มันมองยังไง ก็มองไม่เห็นจุดที่รถเราจอดซ่อม!! " เราเลยเข้าไปดูตัวกล้อง ปรากฎว่า กล้องมันเอาหัวลงแบบที่เค้าไม่น่าจะทำกัน เพราะจากจุดนั้น จะมองเห็นได้แค่คันสองคันแรกๆเท่านั้น ไม่ใช่เกือบทั้งแถวในอู่. ถ้าเป็นกล้องปกติน่าจะตั้งกล้องให้อยู่มุมสูง เพื่อที่จะมองเห็นได้ในบริเวณกว้าง ฝ่ายเรามาเจอหัวกล้องปักอย่างนี้แล้วคิดว่ามันน่าขำมากใครเค้าตั้งตำแหน่งกล้องกันแบบนี้ ตอนเรากลับจากช่วงเช้า ไปกดปรับอะไรยังงัยมาก่อนหรือเปล่า อันนี้ขำมาก แถมปัดไม่ให้เราดูภาพจากกล้องวงจรปิดด้วย พอดีเริ่มสังเกตุตอนคุยมีช่างคนนึงยืนฟังอยู่ไม่ไกล เค้าเดินเข้ามาหาผู้จัดการ แล้วผู้จัดการก็บอกว่า คนนี้แหละ เมื่อวานที่ขับรถคุณช่างคนนี้เป้นคนดูรถคุณ..
((( คือตอนนี้ ช่างโผล่มาเป็นคนที่ 2 แล้วนะคะ จากที่ปากคุณผู้จัดการ ยืนยันกับเราและพ่อ ว่าช่างวันนี้ไม่มาทำงาน !! )))
แต่เราเก็บไว้ในใจ เลยถามช่างไป ซึ่งก็คำตอบที่ได้มาก็อิลอปเดิม ไม่ได้ขับไปชนอะไร แล้วเดินหนีไปเลยค่ะ ดีจังเลย..
คุณผู้จัดการบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับรถคุณ ถ้าผมทำจริง ผมรับผิดชอบแน่นอน / แต่สิ่งที่เราต้องการตอนนี้ เราไม่ต้องการให้คุณมารับผดชอบ เราต้องการรู้ว่าใครทำให้รถเราเป็นแบบนี้ อยากขอดูความบริสุทธิ์ใจจากกล้องวงจร ซึ่งทางคุณก็ไม่ให้เราดู ซึ่งถ้าคุณทำจริง คำขอโทษมันจะมีความหมายมากกว่าที่คุณปฏิเสธทุกอย่าง ทางเราก็ไม่ได้จะมาใส่ร้ายอะไรทางคุณเลย คุณไม่กล้าให้เราพิสูจน์ ไม่กล้าให่เราดู หากทางคุณบริสุทธ์ใจจริงเรื่องแค่นี้มันก็ไม่น่าจะมีปัญหา ตอนนี้มีอีก 2 ท่านเข้ามาและบอกว่าเรื่องของกล้อง ทางเราจะประสานงานไปทางฝ่าย ไอที ฝ่าย เซิร์ฟเวอร์ ให้คุณได้ดูภาพ และเมื่อทางเราพร้อมแล้วจะติดต่อกลับไป เอะอะติดต่อกลับตลอด เรากับพ่อเลยไม่หวังอะไรมากกับเรื่องนี้แล้ว ขนาดผู้จัดการยังโกหกเลย "กับแค่เรื่องที่บอกว่าช่างไม่มาๆน่ะ" และการปัดที่จะให้เราดูกล้องอีก จะหวังอะไรได้เรามันก็แค่คนธรรมดา
""" 5 โมงกว่าๆ ทางโตโยต้าโทรมา นัด พรุ่งนี้ 10:00 ไปดูกล้อง """
10 โมงเช้าตามนัด เราไปนั่งรอในออฟฟิสเลยค่ะ มากันครบทีมแล้ว เค้านำกล้องถ่ายรูป 1ตัว มาด้วย ..
เค้าบอกว่า.. นี่แหละภาพที่ได้อัด Video จากกล้องวงจรปิดมาอีกที ณจุดนี้ คิด อีกแล้วหรอ?? คุณเล่นอย่างนี้จะมาหลอกเด็ก จะมาเล่านิทานอิสปอะไรให้ใครฟังอีกหรอ ? นี่เอาอะไรมาให้ดู เวลาขณะจับภาพอะไรยังงัย ยังไม่มีเลย ถ่ายมาจากอะไรก็ไม่รู้ คลิปที่ถ่ายมามันไม่มีอะไรที่น่าเชื่อถือเลย อาจจะถูกตัดต่อมาก่อนก็ได้ไหม เราก็ไม่รู้นี่คะ. " และไหนคุณผู้จัดการเคยบอกว่า จุดขององศากล้องมันมองยังงัยก็ไม่เห็นรถนี่คะ " แล้วมาวันนี้เอาภาพมาให้เราดูได้งัย มองเห็นได้นี่คะ แต่ไม่ชัดเจน เวลาไม่มี อะไรไม่มี... นี้ทางโตโยต้า คุณไม่แสดงความจริงใจ คุณไม่เป็นคำพูด เอาทุกวิถีทางเพื่อปกป้องชื่อเสียงบริษัท แต่ไม่คิดจะสืบหาข้อเท็จจริง ไม่แสดงความบริสุทธ์ใจ ไม่คิดจะหาตัวคนกระทำผิด ที่อยู่ในองค์กรณ์ของคุณมาลงโทษมาตักเตือน รู้สึกผิดหวังมากที่ได้ไว้วางใจกับโตโยต้า เป็นลูกค้ากับโตโยต้า ออกรถใหม่มา ไม่ถึง 3 เดือน ต้องมาชน เพราะคนสะเพร่าๆในศูนย์นี้ ก็ขอลาค่ะ