รายจ่ายอะไรบ้าง ที่ทำให้ "คนกรุง(รวมถึงเมืองใหญ่)" มากมาย เสียเงินโดยไม่จำเป็น

กระทู้คำถาม
จขกท อ่านกระทู้เด็ดพันดริฟ มีล้อคอินนึงที่หนี้บาน ที่ดูๆแล้ว มันคือชีวิตในมหานครมากๆเลย

ที่ค่าใช้จ่ายเท่าที่อ่าน บางที คนที่อาศัย ตจว (ที่บางที่ก็มีของแบบนี้เหมือนกัน) ยังลังเลจะจ่าย

บางอย่างก็อาจจะจำเป็นมากหน่อย ถ้าเป็นเรื่องสุขภาพ แต่บางอย่าง แทบเป็นความฟุ่มเฟือยล้วนๆเลย

อย่างที่ จขกท เห็นเลยคือ ของบางอย่าง ถ้าคุณไม่ทำงานที่ต้องใช้หน้าตา บอกเลยว่าแทบไม่ต้อง (ยกเว้นบางคน) เช่น

หาหมอสิว - สมัยก่อนไม่ขนาดนี้เลยนะท่าน เดี๋ยวนี้ หมอที่ทำคลินิกความงาม รวยจั๊ง

จัดฟัน - เคยถามน้องๆที่รู้จักบางคน ที่ฟันไม่ได้อะไรมาก แต่ก็จัด โดยมากคลินิกเอกชนทั้งนั้น ราคามันเท่าๆกับเอามอร์เตอไซค์จอดในปากเลย

เครื่องสำอาง/ทำผม - ราคาร้านตัดผมสมัยนี้ ถ้าห้องแอร์ธรรมดา (ไม่ใช่บนห้าง) ที่เชียงใหม่ ราวๆ 100 บาท ถ้าบนห้างก็สุดๆ / หรืออย่าง คสอ ผู้ชายบางคน จ่ายแพงกว่าผู้หญิงเยอะ

ฟิตเนส - เข้าใจคนในเมืองนะท่าน แต่บางคน สมัครแล้ว หลายจุดหมาย เพื่อสุขภาพมั่ง เพื่ออย่างอื่นมั่ง ค่าสมาชิกก็แพ้งแพง (ถ้าคิดดีๆ เรามีลู่วิ่งไฟฟ้าที่บ้านไว้ น่าจะดี ซื้อตอนลดราคา กินไปยาวๆเลย)

ค่ากิน - พยายามเข้าใจว่า ชีวิตบางครั้ง มันเอื้อให้กินแบบนี้จริงๆ กาแฟแก้วละร้อย ห้างดีๆมีเยอะ มากๆๆๆๆๆ แพง

โทรศัพท์ - น้องที่รู้จักบางคน ไอโฟน ลองทุกรุ่น (ผ่อนทุกรุ่น)


มีค่าใช้จ่ายอะไรอีกบ้างท่าน ที่ทำให้คนใน "มหานคร" ต้องเสียเงินกันมากมายก่ายกองอีก ทั้งที่บางครั้ง มันไม่จำเป็น


ไกด์ไม่เก่า (ทุกวันนี้ เสพชาเนสทีเย็น แก้วละ 25 บาท อาทิตย์ละ 2 แก้ว)

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
Service Charge 10%
ความคิดเห็นที่ 31
ที่พอนึกได้ก็มี
1. ค่าแท๊กซี่นะ นั่งไม่ไกลแต่รถติด เสียดายตังค์พอๆกับค่าน้ำมัน สำหรับคนที่มีรถเลยแหละ
2. ค่ากิน ดื่ม เที่ยว แฮงค์เอาท์ ตอนกลางคืน ที่กรุงเทพ มิกซ์เซอร์แพงมาก บ้าป่าว โค้กข้างนอก ขายขวด 10 บาท มาอยู่ในร้านอาหาร ผับ บาร์ ราคา 50 - 80 บาท  จะไม่ออกไปกินไม่ได้ ก็สังคมอ่ะนะ
3. อันนี้เลยค่าใช้จ่ายตามมาจากโทรศัพท์ เคสมือถือ จิงๆก็รู้อยู่แล้วนะว่ามี แต่ก็ยังจะซื้ออีก ราคาก็ตั้ง 200 300 มีอยู่แล้วก็ยังจะซื้อ Power Bank อันนี้ก็จำเป็น เพราะนั่งกดโทรศัพท์ทั้งวัน แบทหมดนี่เซงมากเลยนะ จะขอยืมคนอื่นก็เกรงใจ
4. ถ้าเป็นผู้หญิง ค่าใช้จ่ายเรื่องเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอางค์ หมอสิว ของพวกนี้สินเปลืองทั้งนั้น จิงๆก็รู้อยู่แล้วอ่ะนะ แต่เสื้อผ้าใส่ไปทำงานมันก็น่าเบื่อไง พอมีชุดแล้ว ชุดไม่เข้ากับรองเท้า กระเป๋าก็ต้องซื้อกับกระเป๋าใหม่ รองเท้าใหม่ นี่แหละประสบการณ์ตรงๆเลย เพราะทุกวันนี้ แม่บอกรองเท้า กับตู้เสื้อผ้าจะทับหัวตายอยู่ละ

ทั้งหมดนี้จากประสบการณ์ที่ทำงานและเรียนอยู่ กทม มาประมาณ 7 ปี แต่ตอนนี้กลับมาทำงานอยู่บ้านที่ ตจว.แล้ว
อยากจะบอกว่าเราทำงานที่ กทม.  เราได้เงินเดือนเกือบสองหมื่น เราไม่มีเงินเก็บ ไม่มีเงินส่งมาให้แม่เลย เพราะแม่บอกว่ารับผิดชอบตัวเองให้รอดก็พอ

แต่พอเรากลับมา ตจว. ได้เงินเดือนเกือบ สองหมื่นเช่นกัน เงินเดือนส่วนนี้เราสามารถผ่อนจ่ายงวดรถเดือนละ 8 พัน ได้ ค่าน้ำมันอาทิตย์ละ 500 บาท ตกเดือนละ 2 พัน  แบ่งไว้ให้แม่ซื้อกับข้าว ซื้อของเข้าบ้านได้ ทุกๆวันไม่ต้องคิดว่า เอ๊ะ วันนี้เราจะกินอะไรดี เลิกงานไปวิ่งที่สวนสาธารณะ ไม่ต้องเสียเงินไปจ่ายค่าสมาชิกฟิตเนส  เสื้อผ้าก็เป็นยุนิฟอร์ม ก็ใส่ชุดเหมือนกัน ไม่ต้องไปแต่งตัวแข่งกับใคร ที่เหลือก็สามารถไว้ช้อปปิ้งเล็กๆน้อยๆได้บ้าง

นี้ก็เป็นข้อดีเล็กๆน้อยๆ ของการอยู่ต่างจังหวัด แต่ข้อเสียก็มีอยู่บ้างตรงที่ว่า พอหยุดเสาร์ อาทิตย์ไม่รู้จะทำ Activity อะไร เหมือน กทม. เพราะ กทม. ยังมีงานนั้น งานนี้ คอนเสิร์ต หรืออะไรให้ดูมากมาย

ก็เปรียบเทียบเล็กๆน้อยนะค่ะ  ^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่