ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา การปะทะกันระหว่างตำรวจและผู้ชุมนุมในกรุงเทพฯ ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากสื่อหลักๆทั่วโลก โดยส่วนใหญ่ยืนยันว่าตำรวจใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยาง แต่ทางฝั่งผู้ชุมนุมตอบโต้ด้วยกระสุนจริง
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่าหลังจากตำรวจยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ชุมนุมซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 200 เมตร เพื่อพยายามเคลียร์พื้นที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล ก็มีกลุ่มคนทางฝั่งผู้ชุมนุม ยิงกระสุนจริงเข้าใส่ตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ตอบโต้ด้วยการยิงทั้งกระสุนยางและกระสุนจริง และในระหว่างการยิงตอบโต้กัน ก็มีระเบิดมือตกลงกลางวงเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเหตุการณ์ปะทะกันดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 57 คน โดยผู้เสียชีวิตเป็นตำรวจ 1 นาย และอีก 2 รายเป็นพลเรือน แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นผู้ชุมนุมหรือไม่
ส่วนสำนักข่าวอัลจาซีรา พาดหัวข่าวเช่นกันว่ามีตำรวจเสียชีวิตจากการปะทะกันในวันนี้ 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ที่ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจกี่คน โดยเวโรนิก้า เปโดรซ่า ผู้สื่อข่าวของอัลจาซีราในพื้นที่ ยืนยันว่าระหว่างการยิงตอบโต้กัน มีการขว้างระเบิด M79 เข้าใส่ตำรวจ และตำรวจใช้ทั้งกระสุนยางและปืนพกยิงเข้าใส่ผู้ชุมนุม นอกจากนี้ อัลจาซีรายังตั้งข้อสังเกตอีกด้วยว่าปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ของตำรวจในวันนี้ ทำให้เกิดความกังวลว่าจะมีเหตุรุนแรงทางการเมืองปะทุขึ้นอีก
ส่วนโทมัส ฟูลเลอร์แห่งหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ม รายงานว่าถึงแม้นายเอกณัฐ พร้อมพันธ์ แกนนำกปปส. จะยืนยันว่าตำรวจใช้กำลังเข้าาปราบปรามผู้ชุมนุมที่สงบสันติปราศจากอาวุธ แต่แจ็ค เคิทซ์ หนึ่งในช่างภาพที่อยู่ในเหตุการณ์การปะทะกันวันนี้ ยืนยันว่าเขาและอีกหลายคนเห็นผู้ชุมนุมใช้อาวุธยิงใส่ตำรวจ และยังบังคับให้ช่างภาพต่างชาติหยุดบันทึกภาพขณะมีการใช้อาวุธอีกด้วย
นอกจากนี้ นิวยอร์กไทม์สยังย้ำว่าทั้งสหรัฐฯและสหภาพยุโรป ชื่นชมรัฐบาลไทยที่ใช้ความอดทนอดกลั้นในการจัดการกับผู้ชุมนุมประท้วงมาโดยตลอด ทั้งที่มีการบุกรุกและปิดสถานที่ราชการหลายแห่ง โดยในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวนผู้ชุมนุมเริ่มลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังเหลืออีกหลายพันคน ส่วนใหญ่มาจากภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ฐานเสียงสำคัญของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล
ที่มา :
http://shows.voicetv.co.th/voice-news/97623.html
18 กุมภาพันธ์ 2557
สื่อนอกชี้ ทั้งตำรวจ-ผู้ชุมนุมใช้อาวุธ
ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา การปะทะกันระหว่างตำรวจและผู้ชุมนุมในกรุงเทพฯ ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากสื่อหลักๆทั่วโลก โดยส่วนใหญ่ยืนยันว่าตำรวจใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยาง แต่ทางฝั่งผู้ชุมนุมตอบโต้ด้วยกระสุนจริง
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่าหลังจากตำรวจยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ชุมนุมซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 200 เมตร เพื่อพยายามเคลียร์พื้นที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล ก็มีกลุ่มคนทางฝั่งผู้ชุมนุม ยิงกระสุนจริงเข้าใส่ตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ตอบโต้ด้วยการยิงทั้งกระสุนยางและกระสุนจริง และในระหว่างการยิงตอบโต้กัน ก็มีระเบิดมือตกลงกลางวงเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเหตุการณ์ปะทะกันดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 57 คน โดยผู้เสียชีวิตเป็นตำรวจ 1 นาย และอีก 2 รายเป็นพลเรือน แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นผู้ชุมนุมหรือไม่
ส่วนสำนักข่าวอัลจาซีรา พาดหัวข่าวเช่นกันว่ามีตำรวจเสียชีวิตจากการปะทะกันในวันนี้ 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ที่ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจกี่คน โดยเวโรนิก้า เปโดรซ่า ผู้สื่อข่าวของอัลจาซีราในพื้นที่ ยืนยันว่าระหว่างการยิงตอบโต้กัน มีการขว้างระเบิด M79 เข้าใส่ตำรวจ และตำรวจใช้ทั้งกระสุนยางและปืนพกยิงเข้าใส่ผู้ชุมนุม นอกจากนี้ อัลจาซีรายังตั้งข้อสังเกตอีกด้วยว่าปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ของตำรวจในวันนี้ ทำให้เกิดความกังวลว่าจะมีเหตุรุนแรงทางการเมืองปะทุขึ้นอีก
ส่วนโทมัส ฟูลเลอร์แห่งหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ม รายงานว่าถึงแม้นายเอกณัฐ พร้อมพันธ์ แกนนำกปปส. จะยืนยันว่าตำรวจใช้กำลังเข้าาปราบปรามผู้ชุมนุมที่สงบสันติปราศจากอาวุธ แต่แจ็ค เคิทซ์ หนึ่งในช่างภาพที่อยู่ในเหตุการณ์การปะทะกันวันนี้ ยืนยันว่าเขาและอีกหลายคนเห็นผู้ชุมนุมใช้อาวุธยิงใส่ตำรวจ และยังบังคับให้ช่างภาพต่างชาติหยุดบันทึกภาพขณะมีการใช้อาวุธอีกด้วย
นอกจากนี้ นิวยอร์กไทม์สยังย้ำว่าทั้งสหรัฐฯและสหภาพยุโรป ชื่นชมรัฐบาลไทยที่ใช้ความอดทนอดกลั้นในการจัดการกับผู้ชุมนุมประท้วงมาโดยตลอด ทั้งที่มีการบุกรุกและปิดสถานที่ราชการหลายแห่ง โดยในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวนผู้ชุมนุมเริ่มลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังเหลืออีกหลายพันคน ส่วนใหญ่มาจากภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ฐานเสียงสำคัญของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล
ที่มา : http://shows.voicetv.co.th/voice-news/97623.html
18 กุมภาพันธ์ 2557