[CR] [CR] วันเกิดทั้งที อยากกินร้าน The Cockle ที่สามย่านแบบจัดเต็มเพราะได้อ่านรีวิวแล้วอยากไปลองมั่ง แต่ปรากฎว่า....

สวัสดีค่ะไม่ได้ตั้งกระทู้มานานมาก แต่รอบนี้อดไม่ได้ค่ะ ไม่อยากให้คนอื่นๆ เป็นเหมือนเราอีก





คือเมื่อช่วงเดือน มกราคมที่ผ่านมา เราได้เห็นกระทู้นี้ค่ะ มันโผล่มาใน feed ใน facebook ของเรา

[CR]~Q(' w ' ๐ Q พยูนรีวิว [The Cockle @สามย่าน] บุฟเฟ่ต์อาหารทะเลตามสั่ง 399 Net ปูผัดผงกะหรี่เด็ดขนาดไหน ต้องลอง!!


อ่าน comment ของเพื่อนที่เอามาแชร์แล้วเกิดอาการสนใจ เลยคลิกไปดู
ปรากฎว่า รูปปลากรอบในกระทู้มันช่างกระตุ้นพยาธิในท้องเราอย่างรุนแรง
ถึงกับฝังไว้ในหัวเลยว่า ชีวิตนี้คาดหวังว่าจะได้กินร้านนี้สักครั้งถ้ามีโอกาส
แล้วอ่านรายละเอียดมาเรื่อย ๆ ก็รู้อีกว่าร้านนี้จะบุฟเฟ่ต์กันถึงวันที่ 22 กุมภานี้
ซึ่งต้องรีบละล่ะไม่งั้นจะไม่ได้กินราคานี้แน่ ๆ


ทีนี้วันนี้มีโอกาสค่ะ โอกาสนี้มันไม่ได้มีได้ง่าย ๆ


วันนี้เป็นวันเกิดของเราเองค่ะ ไม่ได้หลอกนะคือ plan ไว้ว่าจะไปทำบุญ แล้วก็ไปกินร้านนี้เป็นการฉลอง


เราไปถึงนี่ก็ แบตโทรศัพท์เหลือ 4% ก็เลยตัดสินใจปิดมือถือไป
เพราะคนที่ส่ง message มา Happy Birthday มาเยอะ ทั้ง line ทั้ง facebook
ก็จะ notification ขึ้นให้ตามประสา iphone แบตก็เลยลดลงฮวบฮาบ


ก็ใครจะไปคิดว่าจะถ่ายรูปเพื่อมาลงกระทู้แบบนี้ล่ะ ก็ไม่ได้ถ่ายอะไรมา คาดหวังเต็มเปี่ยมมาก ว่าต้องอร่อย
คาดหวังอยากกินปูนึ่งทอดกระเทียมอร่อยๆ ปลาหมึกลวกจิ้มรสเด็ดๆ กุ้งราดซอสมะขามหอมๆ รสชาติเข้มข้น
สิ่งเหล่านี้นี่อยู่ในใจเรามาเกือบเดือน
เพื่อนสองกลุ่มของเราคาดหวังกับการมากินร้านนี้มากนะคะ
เราก็เลยพลอยอยากกินกะเค้ามากไปด้วย




มาถึงมาประมาณบ่าย 4 โมงเย็น เพราะอ่านจากกระทู้รีวิวไว้ว่าร้านเปิด 4 โมงเย็นถึงเที่ยงคืน
และคิดไว้ว่า ถ้าเกิดเรามากินช่วงวันเวลาปกติ ก็น่าจะมีคนเยอะเพราะเค้าอ่านรีวิวกระทู้เดียวกันนี้มากินแน่นอน
แล้วร้านเล็กแบบนี้ (มันเป็นตึกคูหาเดียว) เราอาจจะต้องรอนานกว่าที่คิด

ทีนี้อาทิตย์นี้ มันเป็นอาทิตย์ long weekend (หยุดศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ 14-16)
คนน่าจะออกไปเที่ยวต่างจังหวัดเยอะ ก็เลยคิดว่าคนน่าจะน้อยกว่าปกติ
วันนี้น่าจะเป็นวันดีที่เราควรจะมากินได้แล้วก่อนที่จะสายเกินไป
ก็เลยตัดสินใจเดินทางออกจากวัดหลังจากทำบุญวันเกิดเสร็จแล้วมากิน

มาเจอคนยืนรออยู่หน้าร้านอยู่เกือบสิบคน ข้างในร้านกำลังจัดโต๊ะกันอยู่ เรามาก็ไม่รู้ธรรมเนียม
แต่ได้ยินคนที่รออยู่หน้าร้าน บอกว่าให้ไป "จองคิวโต๊ะ" ข้างใน


ก็เลยตัดสินใจไม่นาน รีบเดินเข้าไปถามทางร้าน


"เอ่อโทษนะคะ มีจองคิวโต๊ะรึเปล่าคะ"


ทางร้านก็เอากระดาษปากกามาจด บอกว่าตอนนี้เหลือรอบแรก 1 คิวเป็นคิวสุดท้ายของรอบนี้
และถ้าไม่เอาคิวนี้ต้องรอรอบถัดไปคือรอบ 6 โมงเย็น
เราเลยตัดสินใจเอารอบนี้เลย ก็เขียนชื่อกับเบอร์โทรไป
แล้วก็มีอีกสองคนที่เค้ามาใกล้ๆ กับเรา แต่เค้ามาไม่ทัน ทางร้านก็แนะนำว่าให้ขอนั่งกับคนอื่น
(ซึ่งหมายถึงเรา เพราะโต๊ะเราเหลือที่ให้สามารถนั่งได้อีกเพียงพอที่เค้าต้องการ แถมเป็นผู้หญิงด้วยกัน
ก็เลยตกลงให้อีกสองคนเค้านั่งกินด้วยกันกับเรา)



เรายืนรอแป๊บนึงพอร้านเค้าจัดโต๊ะเสร็จ
ทางร้านก็ประกาศชื่อคนที่จองโต๊ะไว้ (คิวแรกได้ข่าวว่ามาตั้งแต่บ่าย 2) และเรียกชื่อเราเป็นชื่อสุดท้าย
ก็เดินเข้าร้านไป เรานั่งโต๊ะเลข 1 เป็นโต๊ะในสุดฝั่งขวา ซึ่งติดกับเคาท์เตอร์
(เคาท์เตอร์อยู่หลังโต๊ะเยื้องๆ กับโต๊ะเรา อยู่ตรงกลาง ตรงกับประตูร้านพอดี)


เราก็ดูเมนู แล้วสั่ง ๆ ๆ ดูในรีวิวแล้วอยากกินอะไรก็เขียนลงไปเลย
โดยเขียนเมนูที่ต้องการเป็นโค้ด (ก็ดูใบรายการอาหารล่ะค่ะจะมีโค้ดบอกอยู่หน้ารายการ)
ใบนึงสามารถเขียนได้ 8-10 อย่างนี่ล่ะ (สามารถสั่งเพิ่มได้นะคะถ้าต้องการ)
คืออย่างเคสเรานี่ถ้าเกิด ไม่ได้มาด้วยกัน นั่งโต๊ะเดียวกัน ก็ให้เขียนเลขโต๊ะ ตามด้วย / เลขกลุ่ม
เช่น โต๊ะเราเลข 1 แต่เป็นกลุ่มแรก ก็เขียน 1/1 ส่วนคนที่มาขอนั่งด้วยก็จะเป็น 1/2
โดยเขียนไว้ที่มุมบนเพื่อระบุไว้ว่าเป็นของโต๊ะไหนกลุ่มไหน


เมนูที่สั่งนะคะ

• ทะเลลวกจิ้ม (หอยแมลงภู่ + หอยแครง + ปลากระพง + ปลาหมึก + กุ้ง)
• กุ้งทอดราดซอสมะขาม
• ปูนึ่งทอดกระเทียม
• กุ้งทอดกระเทียม
• พล่ากุ้ง
• กุ้งแช่น้ำปลา
• ปลาหมึกลวกจิ้ม
• ต้มยำกุ้งน้ำข้น
• หอยแครงลวก
• ปลากระพงทอดกระเทียม
• ข้าวผัดปู
• ปูผัดผงกะหรี่



ส่วนน้ำก็สั่งเป๊บซี่รีฟิลค่ะ ส่วนเหตุผลที่สั่งเป๊บซี่คือ ทางร้านไม่มีน้ำเปล่ารีฟิลค่ะ
เลยคิดว่าสั่งเป๊บซี่รีฟิลน่าจะคุมค่าใช้จ่ายได้ดีกว่า



ซึ่งก็คิดถูกแล้ว..



เรารอเมนูอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง เรานั่งคุยกัน จนคอแห้ง เป๊บซี่ก็มีทวงนิดนึง
เพราะโต๊ะอื่นได้เครื่องดื่มกันหมดแล้วเหลือโต๊ะเรายังไม่ได้ (และเป็นโต๊ะ 1 ด้วยนะ)

สักพักก็มีแก้วเป๊บซี่ตั้งอยู่ตรงหน้าคนละแก้ว



เรากินเป๊บซี่ไปเรื่อย จนเกือบหมดแก้ว เมนูแรกถึงจะมา


นั่นคือ กุ้งแช่น้ำปลาค่ะ



น้องที่มานั่งด้วยกันเค้าถ่ายรูปไว้ แล้วเราขอแอด line น้องเค้า
ขอรูปที่น้องเค้าถ่าย ส่งมาให้เราทาง line ตอนหลัง
เพราะมือถือเราแบตจะหมดแล้วต้องปิดเครื่องไปก่อน ออกจากร้านแล้วค่อยเปิดตอนจำเป็น
ขอบคุณคุณน้องมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ อมยิ้ม02 (น้องเค้าอวยพรวันเกิดให้ด้วยล่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ)

ดังนั้นรูปในกระทู้นี้จึงเป็นรูปจากน้องเค้าล้วนๆ นะคะ อมยิ้ม02




เขียวขจีมาเชียว กินแล้วรู้สึกว่ากุ้งไม่สด (มันไม่หวาน)
เส้นดำไม่ได้เอาออกให้ด้วย
แต่น้ำราดจัดจ้านใช้ได้ค่ะ หมดไปในเวลาอันรวดเร็ว (ปานวอก)



ความเผ็ดของเมนูนี้ทำให้เราซัดเป๊บซี่ไปแก้วนึงเต็มๆ





เมนูที่ 2 ที่มาเสิร์ฟ คือกุ้งทอดราดซอสมะขามค่ะ




จานนี้กุ้งตัวใหญ่กว่าจานที่แล้วค่ะ คือปกติเมนูนี้ทีเด็ดอยู่ที่น้ำราดใช่มั้ยคะ แต่.. น้ำราดมันไม่หอมอะ
รสชาติไม่จัดจ้านเท่าที่คาดไว้ มันออกหวาน เปรี้ยวนิดเดียวจริงๆ ทั้งที่ควรจะเปรี้ยวกว่านี้อีก
แต่คิดไว้ในใจว่า เออหรือว่าเค้าปรับปรุงสินค้าตามราคาที่ขายหรือเปล่า
(คุณภาพอาจจะด้อยลงเพราะวัตถุดิบกับราคาไม่สัมพันธ์กัน)

แต่ก็ไม่อยากจะคิดไปเองแบบนั้น ก็เลยรอดูเมนูถัดๆ มาก่อน ค่อยตัดสินใจอีกทีดีกว่า



คือคาดหวังไว้เยอะไงคะ รีวิวมาน่ากินมาก (เราว่าใครหลายคนมากินร้านนี้เพราะตามรีวิวมา เหมือนเราใช่มั้ยคะ)
แต่มาเจอจริงๆ ไม่อร่อยนี่ มีเฟลอะค่ะ





เมนูถัดมา ข้าวผัดปู

(ขออภัยไม่มีรูปนะคะ จะให้น้องที่เราเพิ่งเห็นหน้ามาถ่ายรูปให้ทุกจานก็ไม่ใช่เรื่องค่ะ เกรงใจน้องเค้า)

จานนี้มาถึงเราเขี่ยข้าวเช็คก่อนเลยค่ะ "หาปู"
จนเพื่อนแซวว่า "เฮ้ยแกแหวกข้าวหาอะไรเนี่ย?"

พอเราเจอปูสักจำนวนนึงถึงค่อยหยุดค่ะ ว่าเจอปูแบบที่รีวิวจริงๆมั้ยไรงี้
(อย่างที่บอกแหละค่ะว่าคาดหวังไว้เยอะ)

พอเจอจริงๆ มันคือปูแหละค่ะ แต่ลักษณะการผัดข้าวผัดปูของร้านนี้คือมีกลิ่นเนยด้วย หอมดีค่ะ
แต่ข้าวแอบแฉะ ไม่ค่อยเป็นเม็ด

ส่วนน้องที่นั่งด้วยกันเค้าสั่งเหมือนกันค่ะแต่เค้าเลือกที่จะกินน้อยๆ เพื่อรอเมนูอื่นมากกว่า
พูดง่ายๆ คือ "รีบกินข้าวทำไม มันตัดกำลังนะ!!"
แต่เราหิวไงคะ กินไปก่อนเลยไม่ได้ดูอะไรทั้งสิ้น หิวจัดชัดเจน




ข้าวหมดไปครึ่งจาน เมนูนี้ก็มาค่ะ

ปูผัดผงกะหรี่




เมนูนี้หอมผงกะหรี่ดีค่ะ กินกับข้าวผัดปูอร่อยดี
(แต่ไม่ถึงกับสุดยอดแห่งความฟินนะคะ ก็พอกินได้แหละค่ะ แต่นับว่าอร่อยกว่าเมนูก่อนนี้ค่ะ)




แล้วเมนูนี้ก็ตามมาติดๆค่ะ ทะเลลวกจิ้ม




น้ำจิ้มนี่เหมือนน้ำราดในเมนูกุ้งแช่น้ำปลาเลยค่ะ
หอยแครงลวกมาสุกเกินไป ไม่หวานเลือด ไม่สดด้วย ตอนตักออกมาเลยแอบเละ ไม่อร่อย
หอยแมลงภู่กลิ่นไม่ค่อยดีค่ะ ไม่ค่อยสด (ตอนดึงตัวหอยออกมาจากเปลือก เนื้อก็แอบเละๆ มีชิ้นส่วนติดอยู่เปลือกหอยด้วย)
กุ้งนี่ก็กุ้งปกติค่ะ ไม่หวาน ไม่สดเช่นกัน
ปลาหมึกไม่สดด้วยค่ะ มันไม่เด้งสู้ฟันอะ แงๆๆ
ปลากระพงลวกนี่ มีมาให้ 2 ชิ้น ถามเพื่อนว่ากินแล้วเป็นไง บอก "นี่เรากินไปด้วยเหรอ?"
สรุปคือมันกินไปแล้วไม่อร่อยแบบน่าจดจำอะค่ะ ปกติเฉยๆมาก




เราคาดหวังกับเมนูนี้มากคือหวังว่ามันน่าจะอร่อย แต่ปรากฎไม่มีอะไรสดเลยสักอย่างในเมนูนี้ เฟลสุด T T
(เรียกว่า "หล่นขาขาด" ก็ไม่ผิดนักค่ะ)
แล้วที่พลาดคือ สั่งหอยแครงลวกไปด้วยเต็มๆ อีก 1 จาน และคิดว่ามันน่าจะลวกมาพร้อมกันแน่ๆ ซึ่งก็เดาไม่ผิดค่ะ
มันถูกลวกมาในแก๊งเดียวกันเลยชัวร์ป้าบ ต่างกันตรงที่ น้ำจิ้มเค้าใส่ถั่วบดหยาบมาใส่เพิ่มด้วย
ซึ่งอร่อยกว่าน้ำจิ้มปกติ (มันจะหอมถั่วด้วยค่ะกินอร่อยกว่า)



พูดง่ายๆ ตอนนี้จำใจกินให้หมดๆ จะได้ไม่โดนปรับค่ะ




เดี๋ยวมาต่อนะคะ เหลืออีกตั้งหลายรายการ
ชื่อสินค้า:   The Cockle สามย่าน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่