ขอโทษด้วยนะคะที่เรื่องของเรา มันยาวไปหน่อย แต่เราอึดอัดจริงๆค่ะ
คือเรากับเค้า เรารู้จักกันมาประมาณ 10 ปีได้แล้วคะ ตั้งแต่เราเรียนม.1 เค้าอยู่ม.2 แต่เรา2 คน อยู่กันคนละโรงเรียนกัน
เค้าอายุห่างจากเรา 1 ปี ตอนที่เรารู้จักกัน ตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดอะไรกับเค้าเลยคะ อารมณ์แบบคุยกันเป็นพี่น้อง เป็นเพื่อนกัน
เพราะตอนนั้น เค้าก็มีแฟน เราก็มีแฟน(นาย A) เราสองคนก็คุยกันมาเรื่อยๆทาง msn บ้าง ทางโทรศัพท์บ้าง(เค้าเอาเบอร์บ้านเค้าโทรมาหาเรา ทั้งมือถือพ่อแม่ พี่น้องเค้า เค้าก็เอามาโทรหาเรา) แต่ก็ไม่ได้บ่อย
แต่พอตอนเราขึ้นประมาณ ม.2 เค้าก็เลิกกับแฟน แล้วเค้าก็โทรมาหาเราบ่อยขึ้น คุย m กับเราบ่อยขึ้น ตอนแรกๆเราก็ไม่ได้คิดอะไรเหมือนเดิม
ก็คุยกับเค้าได้ตามปกติ แต่พอนานๆเข้า มีช่วงที่เราทะเลาะกับแฟน เราก็ไปปรึกษาพี่เค้าตลอด พี่เค้าก็แบบยุให้เลิก จนสุดท้ายเราก็เลิกกับแฟนเราจริงๆ
พี่เค้าก็เริ่มห่างๆไปอีก ซึ่งตอนนั้น เป็นช่วงที่เค้ากำลังจะสอบเข้าม.4 และพอวันประกาศผลสอบม.4 เค้าก็มาแกล้งเราประมาณว่า
"พี่สอบไม่ติดนะ พี่คงต้องย้ายไปเรียนที่ต่างจังหวัด" คือตอนนั้นความรู้สึกเรามันก็แปลกไปเลย ทำนองว่า "เฮ้ย เราจะได้คุยกับเค้าน้อยลง มีโอกาสเจอเค้าน้อยลง หรอ" (ซึ่งตอนนั้น มันทำให้เรารู้ตัวเองเลยว่า ที่ผ่านมาเราแคร์เค้ามาก เรารู้สึกดีๆให้กับเค้ามาโดยตลอด แต่เราก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไปในตอนนั้น) จนกระทั่งเค้าก็มาเฉลย บอกว่าเค้าล้อเล่น... แต่เค้าคงไม่รู้ว่าเหตุการณ์นั้น มันทำให้เรารู้ใจตัวเอง
จนเค้าและเราก็เข้าเรียนม.ปลาย (คนละโรงเรียนกัน) ช่วงเค้าเข้าไปแรกๆ เค้าก็เป็นเด็กใหม่ ยังไม่มีเพื่อน เค้าก็โทรมาหาเรา สมัยก่อนเค้ายังไม่มีมือถือ เค้าก็เอามือถือของเพื่อนเค้าโทรมาหาเราตลอด จนเพื่อนเค้าก็แซวๆว่า "ยืมไปโทรหาแฟนหรอ" ซึ่งทั้งเราและเค้าต่างก็รู้ดีว่าเราสองคนไม่ได้เป็นแฟนกัน
และช่วงเวลาม.ปลายนี่เอง ทั้งเราและเค้าต่างคนก็ต่างเรียน มีนานๆคุยกันทีบ้าง ปล.ทั้งเราและเค้าก็มีแฟนใหม่ ...ต่างฝ่ายต่างก็หายไป
จนถึงช่วงม.6 ที่เค้าจะเอนทรานซ์ ตอนนั้นเค้าสมัครสอบตรงไป แล้วเค้าติด เค้าก็โทรมาเล่าให้เราฟัง // ช่วงแอดมิชชั่น เค้าเลือกคณะอะไรไว้บ้าง เค้าได้คะแนนอะไรเท่าไหร่บ้าง เค้าก็มาบอกเราหมด เราก็แบบเหมือนศึกษาไว้ก่อน เพราะปีหน้าเราก็ต้องเอนท์ ก็เลยไม่คิดอะไรอีกเหมือนเดิม... เพราะเราก็มีแฟนอยู่(นาย B) จนเข้าเหตุการณ์เดิมๆ (เค้าติดมหาลัยเรียบร้อยแล้ว) เราก็เลิกกับแฟน เค้าก็กลับมาคุยให้ฟังถึงชีวิตมหาลัย ต้องเจอโน่นเจอนี่ ไปรับน้องมาสนุกมาก บลาๆ.... ซึ่งตอนนั้น เราก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจเรา ให้เรายังเก็บใบคะแนนแอดมิชชั่นของเค้าเอาไว้ เก็บพวกชีทเรียนพิเศษที่เค้าแบกมาให้เอาไว้
จนเค้าเข้าไปเรียนมหาลัยได้ประมาณเดือนนึง เค้าก็โทรมาบอกเราว่า "ที่บ้านเค้าอยากให้เค้าไปเรียนที่จีน" เราก็แบบ.. ถ้าเป็นแต่ก่อนตอนเค้าจะย้ายไปเรียนต่างจังหวัด ก็คงเสียใจ ตามประสา.... แต่พอมาตอนนี้เหมือนเราโตแล้ว เราก็เลยแบบ "อืม.... ดูแลตัวเองดีๆนะพี่" พอเวลาผ่านไป เค้าไปเรียนที่จีนได้ 2 ปี ช่วงนั้น เราก็เข้ามหาลัย เราก็มีแฟนใหม่(นาย C) เราก็ไปเล่าให้เค้าฟัง.. เค้าก็บอกทำนองว่า "ดูดีๆนะ" เราก็ได้แต่ตอบว่า "อืม... แล้วพี่ละ มีแฟนหรือยัง" เค้าก็ตอบว่า "ยังอ่ะ" เราก็ไม่ได้ซักเค้าต่อ จนช่วงน้ำท่วมเมื่อปี 54 เราก็อยู่ในช่วงทะเลาะกับแฟน... ส่วนเค้าก็โทร skype/ viber มาหาเราจากจีนทุกวัน ถามเราว่า "เป็นไงบ้าง น้ำลดหรือยังที่บ้าน โน่นนี่" ซึ่งเราก็งงๆ ว่าทำไมอยู่ดีๆเค้าถึงโทรมา แต่เราก็ไม่ได้เอะใจอะไร... จนหลังน้ำท่วม เราก็บอกเค้าว่า "เราเลิกกับนาย C แล้วนะ" เค้าก็แบบ "พี่บอกแล้วให้ดูดีๆ ไม่ยอมเชื่อพี่เอง" ...... แล้วเค้าก็กลับไทยมาตอนช่วง มกรา 55 เค้าก็นัดเราไปเจอ เราก็เลยกะจะทำของขวัญขอบคุณเค้าที่เค้าอยู่ข้างๆเรามาตลอด เราก็ยอมอดหลับอดนอน ประดิษฐ์ประดอยให้เสร็จภายใน 3 วัน ตอนนั้นเราก็เริ่มรู้ใจตัวเองอีกครั้งว่า ตลอดเวลาที่เราไม่ว่าจะคบกับ A/B/C ทุกครั้งที่เค้าโทรมา หรือแชทมา เราดีใจทุกครั้งจริงๆ...
แล้วเรา 2 คนก็ได้เจอกัน ไปทำบุญด้วยกัน ไปนั่งเรือเล่นกัน วันนั้นเรารู้สึกว่า เรามีความสุขมากที่เราได้ไปเที่ยวกับเค้า.... จนเค้ากลับไปจีน ตอนช่วงเมษา เค้าก็ไลน์มาหาเรา ถามเราประมาณว่า ทำไรอยู่ ว่างมั้ย ตอนนั้นเรานอนอยู่ แบบว่าง่วงมาก ตอนแรกจะปฏิเสธเค้าไป... แต่เค้าก็พิมพ์กลับมาว่า พี่ร้องไห้อยู่ พี่อยากคุยด้วย พี่เครียด อะไรทำนองนี้.... ตอนนั้นเราตาสว่างเลย แล้วเค้าก็โทรมาร้องไห้จริงๆ เค้าบอกว่า เค้าทะเลาะกับแฟน(นางสาว ก) เพราะเรื่องระยะทาง แฟนเค้าไม่อยากรอเค้าแล้ว (แฟนเค้าอยู่ไทย) เราก็แบบได้แต่ปลอบๆ เค้าไป... (แต่ในใจของเราตอนนั้นก็คือ อยากจะดึงเค้ามากอดไว้จิงๆ แบบเรารู้จักเค้ามา 8 ปี เราไม่เคยเห็นเค้าเสียน้ำตาเลยนะ) แล้วเราก็พูดไปทำนองว่า "พี่ก็ลองโทรไปคุยกับผู้หญิงคนนั้นก่อน ปรับความเข้าใจกัน" ในใจเราคือไม่อยากเห็นเค้าทุกข์จิงๆ
จนเวลาผ่านไปเราก็ยังไม่มีใคร ก็ยังเรียนๆอย่างเดียว แต่ไม่ว่าจะเทศกาลไหน วันเกิด วันปีใหม่ สงกรานต์ ตรุษจีน บลาๆ เราก็จะไม่ลืมส่งข้อความหาเค้า อวยพรให้เค้า หรือไม่แม้แต่กระทั่ง เวลาเราไปทำบุญตามที่ต่างๆ เราก็มักจะนึกถึงเค้าตลอด เขียนชื่อเค้าลงกล่องรับบริจาคบ้าง ลงกระเบื้องมุงหลังคาโบสถ์บ้าง .... เราก็มีความสุขนะ ที่ได้นึกถึงเค้า
เมื่อปลาย ปี 55 เค้าก็โทร skype มาจากจีน บอกประมาณว่า เค้าจะเลิกกับผู้หญิงคนนั้น(นางสาว ก) แล้วนะ เค้าทะเลาะกัน ผู้หญิงคนนั้นไปคบกับคนอื่นแล้วไรงี้ เราก็ได้แต่ปลอบๆเค้าตามเคย // ต้นปี 56 เค้าก็ไปคบกับเพื่อนคนไทยที่อยู่ที่จีนอีกคน (นางสาว ข) เค้าก็โทรมาบอกเรา และก็ถามเราว่า "แล้วเราคบกับใครอยู่ป่าว" เราก็ได้แต่ตอบว่า "ไม่อ่ะ ไม่ว่างทำไรเลย เรียนอย่างเดียว"
แต่พอมาถึงจุดพีคเมื่อราวๆกลางเดือน มกรา 57 เนี่ยแหละ เค้าโทร skype มาจากจีนอีกครั้ง และบอกเราว่า เค้าเลิกกับ(นางสาว ข) แล้ว เพราะนิสัยมันไปกันไม่ได้ไรงี้ ซึ่งเค้าก็เหมือนจะรู้ตัวตั้งแต่ที่คบแรกๆแล้วว่ามันไม่ใช่... และเค้าก็มาบอกเราว่าเค้ากลับไปเคลียร์ปัญหากับ(นางสาว ก) แล้วนะ เราก็ถามเค้าว่า "พี่จะกลับไปคบกับ ก หรือ" เค้าก็บอกว่า "ก็ยังไม่รู้... แต่ถ้ากลับไปคบนี่ ถ้า 'แต่งงาน' กันนี่ พี่ก็ไปช่วยงานธุรกิจที่บ้านผู้หญิงได้เลย" << คือพอมีประโยคว่า แต่งงาน ออกมาปุ๊ป..... เรารู้อยู่เต็มอกว่าจากนิสัยเค้า เค้าแค่พูดเล่น
แต่มันทำให้เราได้กลับมาคิด ซึ่งเราเคยคิดว่า "ถ้าคบกันแบบพี่น้องก็ดี ไม่ต้องมีวันเลิกกัน" "ถ้าวันใดวันนึงเค้าแต่งงาน เราก็กล้าไปงานแต่งเค้านะ ในฐานะน้องไรงี้" แต่พอมาจริงๆแล้ว มันไม่ใช่เลย เราไม่สามารถเก็บความรู้สึกของเราที่มีต่อเค้าได้อีกต่อไปแล้ว เค้าก็พูดเหมือนกับว่า "ก รอเค้ามา 4 ปีแล้วนะ" เราเลยสวนกลับไปว่า "เราก็รอเค้ามา 10 ปีแล้วเหมือนกัน" เค้าก็เงียบไป เราก็เลยบอก "พูดเล่นๆ" แล้วก็คุยกันเรื่องอนาคตกันต่อ เวลาเค้าคุยกับเรา เค้าก็เหมือนได้ปลดปล่อยตัวเองออกมาเต็มที่ เราก็เหมือนกัน คือเราสองคนสนิทกันมาก จนแบบคุยกันได้ทุกรูปแบบแล้ว
ปัญหาคือเราเองเคยคิดที่จะบอกความรู้สึกตัวเองไปหลายครั้งแล้ว แต่เรากลัว กลัวการที่ต้องเสียเค้าไป ตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เรารู้ตัวว่า เค้าสำคัญกับเรามากแค่ไหน เราก็มีนะ ช่วงเวลาที่อยากจะหายไปจากชีวิตของเค้า ด้วยการเดินออกมา เปลี่ยนเบอร์บ้างโน่นนี่ แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง ไม่ว่าเราหรือเค้าที่หายไป จะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งกลับมาตลอด จนมันทำให้เราไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไป เพราะกลัวเสียเค้า
แต่พอมาถึงตอนนี้ เราก็คิดว่า ไม่ว่าเราจะพูดออกไป หรือ เราเก็บไว้ ยังไงเราก็ต้องเสียเค้าไปอยู่ดี เพราะเค้าคงไม่มีวันเลือกเรา เราเลยนั่งคิดนอนคิดอยู่ ว่าเราจะบอกความรู้สึกของเราที่มีต่อเค้าทั้งหมดไปดีมั้ย คือภาพของเค้า คำพูด คำสอนของเค้า มันยังอยู่ในใจเราเสมอมา ตั้งแต่วันแรกๆที่เรารู้จักกัน
จริงๆ เรานัดเค้าแล้วละ เราบอกเค้าว่ามีเรื่องจะคุยด้วย... เราไม่รู้ว่าเราทำถูกมั้ย.... ใจจริงเราก็ไม่อยากเสียเค้าฐานะพี่น้องไป แต่เราอึดอัด ที่เป็นแบบนี้
เราคงไม่สามารถอยู่ในชีวิตเค้าได้ไปตลอดชีวิต ถ้าวันนึงเค้าแต่งงาน... เราก็คงไม่กล้าที่จะไปยุ่งกับเค้าอีกอยู่ดี
เพื่อนๆว่าเราตัดสินใจถูกแล้วหรือเปล่าคะ ที่จะบอกเค้าให้เค้ารู้?
ถ้าทนเป็นที่ปรึกษาไม่ไหวแล้ว ควรทำยังไงดีคะ
คือเรากับเค้า เรารู้จักกันมาประมาณ 10 ปีได้แล้วคะ ตั้งแต่เราเรียนม.1 เค้าอยู่ม.2 แต่เรา2 คน อยู่กันคนละโรงเรียนกัน
เค้าอายุห่างจากเรา 1 ปี ตอนที่เรารู้จักกัน ตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดอะไรกับเค้าเลยคะ อารมณ์แบบคุยกันเป็นพี่น้อง เป็นเพื่อนกัน
เพราะตอนนั้น เค้าก็มีแฟน เราก็มีแฟน(นาย A) เราสองคนก็คุยกันมาเรื่อยๆทาง msn บ้าง ทางโทรศัพท์บ้าง(เค้าเอาเบอร์บ้านเค้าโทรมาหาเรา ทั้งมือถือพ่อแม่ พี่น้องเค้า เค้าก็เอามาโทรหาเรา) แต่ก็ไม่ได้บ่อย
แต่พอตอนเราขึ้นประมาณ ม.2 เค้าก็เลิกกับแฟน แล้วเค้าก็โทรมาหาเราบ่อยขึ้น คุย m กับเราบ่อยขึ้น ตอนแรกๆเราก็ไม่ได้คิดอะไรเหมือนเดิม
ก็คุยกับเค้าได้ตามปกติ แต่พอนานๆเข้า มีช่วงที่เราทะเลาะกับแฟน เราก็ไปปรึกษาพี่เค้าตลอด พี่เค้าก็แบบยุให้เลิก จนสุดท้ายเราก็เลิกกับแฟนเราจริงๆ
พี่เค้าก็เริ่มห่างๆไปอีก ซึ่งตอนนั้น เป็นช่วงที่เค้ากำลังจะสอบเข้าม.4 และพอวันประกาศผลสอบม.4 เค้าก็มาแกล้งเราประมาณว่า
"พี่สอบไม่ติดนะ พี่คงต้องย้ายไปเรียนที่ต่างจังหวัด" คือตอนนั้นความรู้สึกเรามันก็แปลกไปเลย ทำนองว่า "เฮ้ย เราจะได้คุยกับเค้าน้อยลง มีโอกาสเจอเค้าน้อยลง หรอ" (ซึ่งตอนนั้น มันทำให้เรารู้ตัวเองเลยว่า ที่ผ่านมาเราแคร์เค้ามาก เรารู้สึกดีๆให้กับเค้ามาโดยตลอด แต่เราก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไปในตอนนั้น) จนกระทั่งเค้าก็มาเฉลย บอกว่าเค้าล้อเล่น... แต่เค้าคงไม่รู้ว่าเหตุการณ์นั้น มันทำให้เรารู้ใจตัวเอง
จนเค้าและเราก็เข้าเรียนม.ปลาย (คนละโรงเรียนกัน) ช่วงเค้าเข้าไปแรกๆ เค้าก็เป็นเด็กใหม่ ยังไม่มีเพื่อน เค้าก็โทรมาหาเรา สมัยก่อนเค้ายังไม่มีมือถือ เค้าก็เอามือถือของเพื่อนเค้าโทรมาหาเราตลอด จนเพื่อนเค้าก็แซวๆว่า "ยืมไปโทรหาแฟนหรอ" ซึ่งทั้งเราและเค้าต่างก็รู้ดีว่าเราสองคนไม่ได้เป็นแฟนกัน
และช่วงเวลาม.ปลายนี่เอง ทั้งเราและเค้าต่างคนก็ต่างเรียน มีนานๆคุยกันทีบ้าง ปล.ทั้งเราและเค้าก็มีแฟนใหม่ ...ต่างฝ่ายต่างก็หายไป
จนถึงช่วงม.6 ที่เค้าจะเอนทรานซ์ ตอนนั้นเค้าสมัครสอบตรงไป แล้วเค้าติด เค้าก็โทรมาเล่าให้เราฟัง // ช่วงแอดมิชชั่น เค้าเลือกคณะอะไรไว้บ้าง เค้าได้คะแนนอะไรเท่าไหร่บ้าง เค้าก็มาบอกเราหมด เราก็แบบเหมือนศึกษาไว้ก่อน เพราะปีหน้าเราก็ต้องเอนท์ ก็เลยไม่คิดอะไรอีกเหมือนเดิม... เพราะเราก็มีแฟนอยู่(นาย B) จนเข้าเหตุการณ์เดิมๆ (เค้าติดมหาลัยเรียบร้อยแล้ว) เราก็เลิกกับแฟน เค้าก็กลับมาคุยให้ฟังถึงชีวิตมหาลัย ต้องเจอโน่นเจอนี่ ไปรับน้องมาสนุกมาก บลาๆ.... ซึ่งตอนนั้น เราก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจเรา ให้เรายังเก็บใบคะแนนแอดมิชชั่นของเค้าเอาไว้ เก็บพวกชีทเรียนพิเศษที่เค้าแบกมาให้เอาไว้
จนเค้าเข้าไปเรียนมหาลัยได้ประมาณเดือนนึง เค้าก็โทรมาบอกเราว่า "ที่บ้านเค้าอยากให้เค้าไปเรียนที่จีน" เราก็แบบ.. ถ้าเป็นแต่ก่อนตอนเค้าจะย้ายไปเรียนต่างจังหวัด ก็คงเสียใจ ตามประสา.... แต่พอมาตอนนี้เหมือนเราโตแล้ว เราก็เลยแบบ "อืม.... ดูแลตัวเองดีๆนะพี่" พอเวลาผ่านไป เค้าไปเรียนที่จีนได้ 2 ปี ช่วงนั้น เราก็เข้ามหาลัย เราก็มีแฟนใหม่(นาย C) เราก็ไปเล่าให้เค้าฟัง.. เค้าก็บอกทำนองว่า "ดูดีๆนะ" เราก็ได้แต่ตอบว่า "อืม... แล้วพี่ละ มีแฟนหรือยัง" เค้าก็ตอบว่า "ยังอ่ะ" เราก็ไม่ได้ซักเค้าต่อ จนช่วงน้ำท่วมเมื่อปี 54 เราก็อยู่ในช่วงทะเลาะกับแฟน... ส่วนเค้าก็โทร skype/ viber มาหาเราจากจีนทุกวัน ถามเราว่า "เป็นไงบ้าง น้ำลดหรือยังที่บ้าน โน่นนี่" ซึ่งเราก็งงๆ ว่าทำไมอยู่ดีๆเค้าถึงโทรมา แต่เราก็ไม่ได้เอะใจอะไร... จนหลังน้ำท่วม เราก็บอกเค้าว่า "เราเลิกกับนาย C แล้วนะ" เค้าก็แบบ "พี่บอกแล้วให้ดูดีๆ ไม่ยอมเชื่อพี่เอง" ...... แล้วเค้าก็กลับไทยมาตอนช่วง มกรา 55 เค้าก็นัดเราไปเจอ เราก็เลยกะจะทำของขวัญขอบคุณเค้าที่เค้าอยู่ข้างๆเรามาตลอด เราก็ยอมอดหลับอดนอน ประดิษฐ์ประดอยให้เสร็จภายใน 3 วัน ตอนนั้นเราก็เริ่มรู้ใจตัวเองอีกครั้งว่า ตลอดเวลาที่เราไม่ว่าจะคบกับ A/B/C ทุกครั้งที่เค้าโทรมา หรือแชทมา เราดีใจทุกครั้งจริงๆ...
แล้วเรา 2 คนก็ได้เจอกัน ไปทำบุญด้วยกัน ไปนั่งเรือเล่นกัน วันนั้นเรารู้สึกว่า เรามีความสุขมากที่เราได้ไปเที่ยวกับเค้า.... จนเค้ากลับไปจีน ตอนช่วงเมษา เค้าก็ไลน์มาหาเรา ถามเราประมาณว่า ทำไรอยู่ ว่างมั้ย ตอนนั้นเรานอนอยู่ แบบว่าง่วงมาก ตอนแรกจะปฏิเสธเค้าไป... แต่เค้าก็พิมพ์กลับมาว่า พี่ร้องไห้อยู่ พี่อยากคุยด้วย พี่เครียด อะไรทำนองนี้.... ตอนนั้นเราตาสว่างเลย แล้วเค้าก็โทรมาร้องไห้จริงๆ เค้าบอกว่า เค้าทะเลาะกับแฟน(นางสาว ก) เพราะเรื่องระยะทาง แฟนเค้าไม่อยากรอเค้าแล้ว (แฟนเค้าอยู่ไทย) เราก็แบบได้แต่ปลอบๆ เค้าไป... (แต่ในใจของเราตอนนั้นก็คือ อยากจะดึงเค้ามากอดไว้จิงๆ แบบเรารู้จักเค้ามา 8 ปี เราไม่เคยเห็นเค้าเสียน้ำตาเลยนะ) แล้วเราก็พูดไปทำนองว่า "พี่ก็ลองโทรไปคุยกับผู้หญิงคนนั้นก่อน ปรับความเข้าใจกัน" ในใจเราคือไม่อยากเห็นเค้าทุกข์จิงๆ
จนเวลาผ่านไปเราก็ยังไม่มีใคร ก็ยังเรียนๆอย่างเดียว แต่ไม่ว่าจะเทศกาลไหน วันเกิด วันปีใหม่ สงกรานต์ ตรุษจีน บลาๆ เราก็จะไม่ลืมส่งข้อความหาเค้า อวยพรให้เค้า หรือไม่แม้แต่กระทั่ง เวลาเราไปทำบุญตามที่ต่างๆ เราก็มักจะนึกถึงเค้าตลอด เขียนชื่อเค้าลงกล่องรับบริจาคบ้าง ลงกระเบื้องมุงหลังคาโบสถ์บ้าง .... เราก็มีความสุขนะ ที่ได้นึกถึงเค้า
เมื่อปลาย ปี 55 เค้าก็โทร skype มาจากจีน บอกประมาณว่า เค้าจะเลิกกับผู้หญิงคนนั้น(นางสาว ก) แล้วนะ เค้าทะเลาะกัน ผู้หญิงคนนั้นไปคบกับคนอื่นแล้วไรงี้ เราก็ได้แต่ปลอบๆเค้าตามเคย // ต้นปี 56 เค้าก็ไปคบกับเพื่อนคนไทยที่อยู่ที่จีนอีกคน (นางสาว ข) เค้าก็โทรมาบอกเรา และก็ถามเราว่า "แล้วเราคบกับใครอยู่ป่าว" เราก็ได้แต่ตอบว่า "ไม่อ่ะ ไม่ว่างทำไรเลย เรียนอย่างเดียว"
แต่พอมาถึงจุดพีคเมื่อราวๆกลางเดือน มกรา 57 เนี่ยแหละ เค้าโทร skype มาจากจีนอีกครั้ง และบอกเราว่า เค้าเลิกกับ(นางสาว ข) แล้ว เพราะนิสัยมันไปกันไม่ได้ไรงี้ ซึ่งเค้าก็เหมือนจะรู้ตัวตั้งแต่ที่คบแรกๆแล้วว่ามันไม่ใช่... และเค้าก็มาบอกเราว่าเค้ากลับไปเคลียร์ปัญหากับ(นางสาว ก) แล้วนะ เราก็ถามเค้าว่า "พี่จะกลับไปคบกับ ก หรือ" เค้าก็บอกว่า "ก็ยังไม่รู้... แต่ถ้ากลับไปคบนี่ ถ้า 'แต่งงาน' กันนี่ พี่ก็ไปช่วยงานธุรกิจที่บ้านผู้หญิงได้เลย" << คือพอมีประโยคว่า แต่งงาน ออกมาปุ๊ป..... เรารู้อยู่เต็มอกว่าจากนิสัยเค้า เค้าแค่พูดเล่น
แต่มันทำให้เราได้กลับมาคิด ซึ่งเราเคยคิดว่า "ถ้าคบกันแบบพี่น้องก็ดี ไม่ต้องมีวันเลิกกัน" "ถ้าวันใดวันนึงเค้าแต่งงาน เราก็กล้าไปงานแต่งเค้านะ ในฐานะน้องไรงี้" แต่พอมาจริงๆแล้ว มันไม่ใช่เลย เราไม่สามารถเก็บความรู้สึกของเราที่มีต่อเค้าได้อีกต่อไปแล้ว เค้าก็พูดเหมือนกับว่า "ก รอเค้ามา 4 ปีแล้วนะ" เราเลยสวนกลับไปว่า "เราก็รอเค้ามา 10 ปีแล้วเหมือนกัน" เค้าก็เงียบไป เราก็เลยบอก "พูดเล่นๆ" แล้วก็คุยกันเรื่องอนาคตกันต่อ เวลาเค้าคุยกับเรา เค้าก็เหมือนได้ปลดปล่อยตัวเองออกมาเต็มที่ เราก็เหมือนกัน คือเราสองคนสนิทกันมาก จนแบบคุยกันได้ทุกรูปแบบแล้ว
ปัญหาคือเราเองเคยคิดที่จะบอกความรู้สึกตัวเองไปหลายครั้งแล้ว แต่เรากลัว กลัวการที่ต้องเสียเค้าไป ตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เรารู้ตัวว่า เค้าสำคัญกับเรามากแค่ไหน เราก็มีนะ ช่วงเวลาที่อยากจะหายไปจากชีวิตของเค้า ด้วยการเดินออกมา เปลี่ยนเบอร์บ้างโน่นนี่ แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง ไม่ว่าเราหรือเค้าที่หายไป จะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งกลับมาตลอด จนมันทำให้เราไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไป เพราะกลัวเสียเค้า
แต่พอมาถึงตอนนี้ เราก็คิดว่า ไม่ว่าเราจะพูดออกไป หรือ เราเก็บไว้ ยังไงเราก็ต้องเสียเค้าไปอยู่ดี เพราะเค้าคงไม่มีวันเลือกเรา เราเลยนั่งคิดนอนคิดอยู่ ว่าเราจะบอกความรู้สึกของเราที่มีต่อเค้าทั้งหมดไปดีมั้ย คือภาพของเค้า คำพูด คำสอนของเค้า มันยังอยู่ในใจเราเสมอมา ตั้งแต่วันแรกๆที่เรารู้จักกัน
จริงๆ เรานัดเค้าแล้วละ เราบอกเค้าว่ามีเรื่องจะคุยด้วย... เราไม่รู้ว่าเราทำถูกมั้ย.... ใจจริงเราก็ไม่อยากเสียเค้าฐานะพี่น้องไป แต่เราอึดอัด ที่เป็นแบบนี้
เราคงไม่สามารถอยู่ในชีวิตเค้าได้ไปตลอดชีวิต ถ้าวันนึงเค้าแต่งงาน... เราก็คงไม่กล้าที่จะไปยุ่งกับเค้าอีกอยู่ดี
เพื่อนๆว่าเราตัดสินใจถูกแล้วหรือเปล่าคะ ที่จะบอกเค้าให้เค้ารู้?