"วิทยาศาสตร์ ใช้เวลา 200 ปี หาคำตอบของจักรวาลได้มากกว่า ศาสนาที่มีมา 4000 ปี"
เป็น ประโยคเด็ดในหนังเรื่อง "Life of pi"
ศาสนา
เกิดขึ้นเพราะความกลัว สิ่งที่ไม่รู้ และหาคำตอบที่มนุษย์อยากให้เป็นอย่างนั้น เทพทั้งหลายทางศาสนา มาจากความกลัวของมนุย์
โมเสก กลัวว่าคนที่ต้วเองพาข้ามน้ำข้ามทะเลจะหมดศรัทธา ก็เลยปีนขึ้นไปหลังเขา (ไปคนเดียว) แล้วกลับลงมาบอกว่า มีบัญญัติจากเพราะเจ้า 10 ประการ ใครจะไปรู้ว่า โมเสก คิดขึ้นมาเอง แต่คนก็ยังเชื่อกันมา 3500 ปี
พุทธ (ที่ไม่ใช่แก่นของพุทธ) บอกว่า ทำดีไปเกิดเป็นเทวดา ทำชั่วไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน แล้วทำไมคนมันจะล้นโลกหมดล่ะ ประชากรโลกสมัยพุทธกาล มีเท่าไร ตอนนี้มีเท่าไร แสดงว่า เทวดา หรือสัตว์เดรฉาน มาเกิดเป็นมนุษกันหมดเหรอ ....non sense เคยเถียงพระอยู่ในใจในคำพูดที่ว่า "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" พราะท่านก็โยงที่กฎข้อ 1 ของนิวตั้น Action=Reaction โอ้ มันคนละเรื่องเลย
ปรัชญา
เกิดขึ้นเพราะต้องการให้มนุษอยู่ร่วมกันได้ เต๋า ขงจื้อ
พุทธ ที่เป็นแก่นของพุทธ (อริสัจ 4 ) ผมว่าเป็นปรัชญา ไม่ใช่ศาสนา
วิทยาศาสตร์
นี่แหละคือคำตอบของทั้งหมด
แอปเปิ้ล ทำไมต้องตกลงมาบนพื้น ..ตอบได้
ทำไมฟ้าร้อง ฟ้าผ่า....ตอบได้
ทำไมนกบินได้....ตอบได้
มนุษย์ ตายแล้วไปไหน ....ที่จริงวิทยาศาสตร์ ตอบได้ แต่ศาสนา ไม่ยอมรับคำตอบนี้ พยายามแถ ว่ามันต้องมีซิ มันต้องไม่จบแค่นี้ มันต้องมีวิญญาณ มันต้องมีจิต มันต้องมีกายละเอียด ...แถกันไป ที่จริงไม่ยอมรับว่า จบก็คือจบ
สรุป
ศาสนา= หาคำตอบให้ทุกอย่างโดยคิดไปเอง มีศาสดาเป็นคนคิดให้ก่อน
ปรัชญา= ไม่ได้หาคำตอบให้มนุษ แต่ให้มนุษใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
วิทยาศาตร์= หาคำตอบจากเหตุและผล
ขอแก้ใข จาก คำว่า วิทยาศาสตรคือคำตอบทั้งหมด ---> วิทยาศาสตร์ คือคำตอบ (เพราะคำถามบางอย่าง วิทยาศาตร์ยังตอบไม่ได้)
วิทยาศาสตร์ ศาสนา ปรัชญา ต่างกันอย่างไร
เป็น ประโยคเด็ดในหนังเรื่อง "Life of pi"
ศาสนา
เกิดขึ้นเพราะความกลัว สิ่งที่ไม่รู้ และหาคำตอบที่มนุษย์อยากให้เป็นอย่างนั้น เทพทั้งหลายทางศาสนา มาจากความกลัวของมนุย์
โมเสก กลัวว่าคนที่ต้วเองพาข้ามน้ำข้ามทะเลจะหมดศรัทธา ก็เลยปีนขึ้นไปหลังเขา (ไปคนเดียว) แล้วกลับลงมาบอกว่า มีบัญญัติจากเพราะเจ้า 10 ประการ ใครจะไปรู้ว่า โมเสก คิดขึ้นมาเอง แต่คนก็ยังเชื่อกันมา 3500 ปี
พุทธ (ที่ไม่ใช่แก่นของพุทธ) บอกว่า ทำดีไปเกิดเป็นเทวดา ทำชั่วไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน แล้วทำไมคนมันจะล้นโลกหมดล่ะ ประชากรโลกสมัยพุทธกาล มีเท่าไร ตอนนี้มีเท่าไร แสดงว่า เทวดา หรือสัตว์เดรฉาน มาเกิดเป็นมนุษกันหมดเหรอ ....non sense เคยเถียงพระอยู่ในใจในคำพูดที่ว่า "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" พราะท่านก็โยงที่กฎข้อ 1 ของนิวตั้น Action=Reaction โอ้ มันคนละเรื่องเลย
ปรัชญา
เกิดขึ้นเพราะต้องการให้มนุษอยู่ร่วมกันได้ เต๋า ขงจื้อ
พุทธ ที่เป็นแก่นของพุทธ (อริสัจ 4 ) ผมว่าเป็นปรัชญา ไม่ใช่ศาสนา
วิทยาศาสตร์
นี่แหละคือคำตอบของทั้งหมด
แอปเปิ้ล ทำไมต้องตกลงมาบนพื้น ..ตอบได้
ทำไมฟ้าร้อง ฟ้าผ่า....ตอบได้
ทำไมนกบินได้....ตอบได้
มนุษย์ ตายแล้วไปไหน ....ที่จริงวิทยาศาสตร์ ตอบได้ แต่ศาสนา ไม่ยอมรับคำตอบนี้ พยายามแถ ว่ามันต้องมีซิ มันต้องไม่จบแค่นี้ มันต้องมีวิญญาณ มันต้องมีจิต มันต้องมีกายละเอียด ...แถกันไป ที่จริงไม่ยอมรับว่า จบก็คือจบ
สรุป
ศาสนา= หาคำตอบให้ทุกอย่างโดยคิดไปเอง มีศาสดาเป็นคนคิดให้ก่อน
ปรัชญา= ไม่ได้หาคำตอบให้มนุษ แต่ให้มนุษใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
วิทยาศาตร์= หาคำตอบจากเหตุและผล
ขอแก้ใข จาก คำว่า วิทยาศาสตรคือคำตอบทั้งหมด ---> วิทยาศาสตร์ คือคำตอบ (เพราะคำถามบางอย่าง วิทยาศาตร์ยังตอบไม่ได้)