กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวที่ 12 นะครับ
(รีวิวได้ครบโหลพอดี)
สวัสดีครับ
ก่อนอื่น..ผมมีโลโก้เป็นของตัวเองแล้วนะ
แปะๆๆๆ... (เสียงตบมือ)
แลดูสากล เป็นมืออาชี๊พอาชีพ (ตรงไหน?)
วันนี้ก็วกกลับมาที่เมนูผสมไอติมวานิลลาอีกครั้ง
ซึ่งก็มีท่านสมาชิกท่านนึงรีเควสมา บอกว่าใส่ด้วยกันแล้วอร่อย
รอบนี้จะแตกต่างจากครั้งที่ผ่านๆมา เพราะที่แล้วมาผมใส่แต่กับอาหารญี่ปุ่น (มาม่า กับ ราเมน)
คือ ไอติมวานิลลามันอาจจะเข้าแต่กับอาหารของทางเอเชียอย่างเดียวหรือเปล่า?
อันนี้เราก็จะลองหันไปใส่กับเมนูทางยุโรป จากประเทศที่มีหอเอนเมืองปิซ่า..อิตาลีนั่นเอง (จะรำพันไปไหน?)
แล้วเราก็จะรู้ว่ามันจะเข้ากันหรือไม่?
อาหารก็ตามหัวข้อครับ นั่นก็คือ "สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า"
แถมรอบนี้พิเศษตรงที่ว่า...ผมเข้าครัวทำเองครับ
เริ่มกันเลย
สิ่งที่ต้องเตรียม
1. เส้นสปาเก็ตตี้
2. ซอสคาโบนาร่า
3. เนื้อ แฮม เบค่อน หรือเห็ด หรืออะไรที่จะใส่สุดแท้แต่ความชอบและงบประมาณ
4. ชีส สำหรับเพิ่มความเข้าข้นของเนื้อซอส(ใส่ก็ได้ ไม่ใส่ก็ได้)
5. ไอติมวานิลลา (วอลล์ตามเคย)
ของทุกอย่าง...ไม่สามารถหาได้ในเซเว่นอีกแล้ว = =" (ยกเว้นไอติม)
รอบนี้ท่านต้องยอมสละเวลาไปเดินซูเปอร์มาร์เก็ตหรือตามห้างนิดนึง
(ครั้งนี้เซเว่นช่วยท่านไม่ได้)
ไม่พูดพร่ำทำเพลงละ ลุยโลด เพราะรอบนี้รูปเยอะ
1. เส้นสปาเก็ตตี้ อันนี้ผมเลือกมาขนาด 6mm ไม่ใหญ่แต่ก็ไม่เล็กแต่ก็ไม่หนาแต่ก็ไม่บางแต่ก็ไม่หยาบแต่ก็ไม่ละเอียดแต่ก็ไม่...
2. ซอส...ผมว่ายี่ห้อนี้สีนี้โอเคสุดละ กระป๋อง 45 บาท.... 1 กระป๋องทำซอสสปาเก็ตตี้ได้ซัก 4 จาน (กึ่งสำเร็จรูปนิดนึง)
3. เบค่อน...อันนี้แพงละ แต่ก็ยังถูกกว่าไปกินที่ร้านอะนะ
4. หลักๆแค่สามอย่าง...แต่จริงๆถ้าจะให้ดี มีเห็ดหอมด้วยก็จะดีมาก แต่ผมลืมครับ = ="
5. ก่อนอื่น เราจะมาเตรียมเส้นก่อนครับ ก็ตั้งหม้อต้มน้ำร้อน ใส่น้ำมันกับเกลือลงไปนิดหน่อยเพื่อไม่ให้เส้นติดกัน
(ในที่นี้ ผมใช้น้ำมันมะกอกครับ...ไฮโซอะ ยูโน้ว?...จริงๆคือน้ำมันเอื้ออาทร ซื้อมาตอนลดราคา = =")
6. พอน้ำเริ่มเดือด เราก็ใส่เส้นลงไปครับ...เทคนิคคือ ใส่ให้มันแผ่ๆครับ เพราะจะถ่ายรูปออกมาสวย(อ้าว)
7. พอส่วนที่อยู่ในน้ำ โดนความร้อนก็จะเริ่มอ่อน เราก็ค่อยๆพับส่วนที่เหลือลงไปครับ ทำเบาๆนะครับ
ถ้าแรงไปเดี๋ยวน้องสปาเก็ตตี้เขาจะหัก พอเส้นหักแล้วมันก็จะสั้น ก็จะไม่สะใจเวลาซู้ดเข้าปาก
8. ลงไปนอนในหม้อดีๆนะคนดี
9. ค่อยๆคนเบาๆ กลัวน้องสปาเก็ตตี้เขาเจ็บ (คนแรงเดี๋ยวเส้นมันจะขาด)
10. อันนี้น่าจะได้ที่แล้ว... ถามว่า แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเส้นมันได้ที่แล้ว? เราก็ทำอย่างภาพข้างล่างนี้นะครับ...
11. ปาติดผนังเลย.... คือ ถ้าเส้นมีความอ่อนนุ่มแล้วความเหนียวพอแล้ว ปาไปยังผนังเรียบๆ เขาก็จะเกาะติดแบบนี้แหละ
(จริงๆไม่ต้องทำก็ได้นะ ถ้าแน่ใจว่ามันสุกแล้ว.... แต่อันนี้ทำให้ดูเฉยๆครับ = =")
12. เอาเส้นที่ได้ ไปล้างน้ำอุณหภูมิธรรมดาหรือเย็น เพื่อเอาผงแป้งที่ค้างอยู่ออก
13. ใส่จาน...อันนี้ต้มเส้นเยอะมาก กลัวไม่อิ่มกัน
14. ตอนนี้เสร็จสิ้นขั้นตอนต้มเส้น เราก็ต้องมาทำซอสครับ ตั้งเตาไฟ ใส่น้ำมันลงไปนิดหน่อย(อันนี้ก็ยังใช้น้ำมันมะกอก)
จริงๆถ้าใครชอบกลิ่นหอมของเนย จะใส่เนยลงไปแทนก็ได้นะ ไม่ผิดกฏหมายแต่อย่างใด
15. ระหว่างรอกระทะร้อน เราก็หันมาเตรียมเบค่อน...สับๆๆ หั่นๆๆ ตามขนาดที่ชอบที่ชอบ
16. กระป๋องซอส เราก็เปิดเตรียมไว้เลยครับ ตอนจะใช้จะได้ไม่เสียเวลามางัดเหมือนหมากั๊นเต่า
(หมากั๊นเต่า = หมาที่พยายามจะกินหรือจะกัดเต่า แต่เต่าหลบอยู่ในกระดอง หมามันก็งัดกระดองอยู่นั่นแหละ แต่ก็เปิดไม่ออก
เปรียบเปรยเหมือนคนที่พยายามจะแกะอะไร แล้วแกะไม่ออกอยู่นั่นแหละครับ)
17. น้ำมันร้อนได้ที่ เราก็ทำการใส่เบค่อนลงไปครับ..ฉ่าๆๆๆ
18. ถ้าชอบแบบแห่มๆเกรียมๆหน่อย ก็ทอดให้มันออกแดงๆ ให้มันหอมไปสามบ้านแปดบ้าน
ทอดจนหมาข้างบ้านหอนด้วยความทรมานไปเลยครับ ถือว่าหอมใช้ได้ๆ
19. ได้ที่แล้ว เราก็ใส่ซอสจากกระป๋องลงไป...ตวงน้ำเปล่าใส่ในกระป๋องให้เต็ม แล้วก็เติมลงไปในกระทะด้วยเพื่อเจือจางซอส
เพราะซอสจากกระป๋องมันเข้มไป มันต้องผสมน้ำลงไปซักกระป๋องนึงครับ(อัตราส่วน 1 : 1 )...คนๆๆให้เข้ากัน
20. ถ้าชอบซอสข้นๆหน่อย ก็เตรียมชีสไว้...
อยากเก่งวิชาไหน ก็เตรียมชีสวิชานั้นไว้ครับ.. ชีสเคมี ชีสฟิสิกส์ ชีสชีวะ..ถุ้ย!! อันนั้นมันชีท!!
21. ก็ใส่ชีสลงไปในซอสเลยครับ คนๆๆให้ชีสละลายจนเข้าเป็นทองแผ่นเดียวกัน
22. โอเค เรียบร้อย อันนี้ใช้ได้แล้วครับ
23. ตักใส่ชาม เตรียมรับประทาน
24. ถึงจุดๆนี้ ผมคาดว่าจะมีคนส่วนหนึ่งลืมไปแล้ว ว่าผมจะเอามันมาใส่กับไอติมวานิลลา
25. ถ่ายรูปคู่กันนะ..เอ๊า!! ยิ้ม...
26. โปะไอติมไว้ข้างบนโลดเลย...สวยๆๆ(ตรงไหน?)
27. ตัดแบ่งไอติมให้มันเล็กลงนิดนึง
28. คนคลุกเคล้าให้เข้ากัน...ได้เวลาแห่งความจริง...
อธิชาติ!!
(เอามุกมาเล่นแล้วนะ = = )
...ผมว่างั้นๆอะ...
คือ ผมว่ารสชีสมันแอบขัดๆกับไอติมไปหน่อย ไม่สมูทไปด้วยกันเหมือนซุปมาม่า(ผงชูรสนั่นแหละ)
ก็พอกินได้ ไม่ถึงกับไม่อร่อย แต่ก็ไม่ประทับใจเหมือนมาม่าใส่ไอติมวานิลลาอะนะ = ="
ก็ให้ผ่านนะ...กินได้ๆ แต่ไม่ถึงกับ "โอ้!! ซาร่า!! ฉันอยากจะกินอีกเยอะๆจัง" = =
29. ผ่านไปครึ่งทาง
30. หมดแล้วครับ
สรุป
- ไม่สำรอกเมทัล ไม่เลวร้าย แต่ไม่ถึงขั้นแสงออกปาก
- มื้อนี้ จริงๆเส้นเหลือ จึงทำซอสเพิ่ม เสิร์ฟได้ทั้งหมดประมาณแปดจาน งบทั้งหมดประมาณเกือบสามร้อยบาทได้
"เมนูง่ายๆ คุณเองก็ทำเองได้ที่บ้านครับ กับครัวกากๆ"...ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับรายการเขาเลย แต่มันก็ทำไม่ยากจริงๆนิ = =
(คิดถึงรายการครัวกากๆอะ)
ต่อไปเป็นช่วงของแถม
ช่วงที่ผ่านมา น้องสาวทำขนมได้แก่...
31. เยลลี่สายรุ้งหลอกเด็ก
32. บลูทาร์ต...บลูถอย...อะไรซักอย่าง จำชื่อไม่ได้ครับ = ="
33. เค้กแครอท.. ก็อร่อยเนื้อแน่นสไตล์แครอทครับ
ต่อไปเป็นช่วงทุกข์ชาวเน็ต
1. ถาม : ไม่มีช่วงถามตอบแล้วเหรอ?
ตอบ : อะ มีอยู่ๆ...นี่ไง
2. ถาม : มีเมนูไหนที่ทำให้ท้องเสียบ้างรึยัง?
ตอบ : ยังไม่มีเมนูไหนส่งผมไปเที่ยวห้องน้ำเลยครับ = =
3. ขอ : เปิดเพจซักทีสิ..
จัดให้ :
https://www.facebook.com/SlidermanCM เอาไว้ให้ติดต่อได้ง่ายขึ้น
แล้วผมคงจะลงเบื้องหลัง (แอ่นแระ มีเบื้องหลงเบื้องหลัง) พิมพ์นู่นนี่นั่นบ้าง แล้วแต่สะดวกครับ = =
เอวังฯ
Edit : แก้คำผิดครับ = ="
[CR] Review : สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า..ก็ใส่ไอติมวานิลลาได้
กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวที่ 12 นะครับ
(รีวิวได้ครบโหลพอดี)
สวัสดีครับ
ก่อนอื่น..ผมมีโลโก้เป็นของตัวเองแล้วนะ
แปะๆๆๆ... (เสียงตบมือ)
แลดูสากล เป็นมืออาชี๊พอาชีพ (ตรงไหน?)
วันนี้ก็วกกลับมาที่เมนูผสมไอติมวานิลลาอีกครั้ง
ซึ่งก็มีท่านสมาชิกท่านนึงรีเควสมา บอกว่าใส่ด้วยกันแล้วอร่อย
รอบนี้จะแตกต่างจากครั้งที่ผ่านๆมา เพราะที่แล้วมาผมใส่แต่กับอาหารญี่ปุ่น (มาม่า กับ ราเมน)
คือ ไอติมวานิลลามันอาจจะเข้าแต่กับอาหารของทางเอเชียอย่างเดียวหรือเปล่า?
อันนี้เราก็จะลองหันไปใส่กับเมนูทางยุโรป จากประเทศที่มีหอเอนเมืองปิซ่า..อิตาลีนั่นเอง (จะรำพันไปไหน?)
แล้วเราก็จะรู้ว่ามันจะเข้ากันหรือไม่?
อาหารก็ตามหัวข้อครับ นั่นก็คือ "สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า"
แถมรอบนี้พิเศษตรงที่ว่า...ผมเข้าครัวทำเองครับ
เริ่มกันเลย
สิ่งที่ต้องเตรียม
1. เส้นสปาเก็ตตี้
2. ซอสคาโบนาร่า
3. เนื้อ แฮม เบค่อน หรือเห็ด หรืออะไรที่จะใส่สุดแท้แต่ความชอบและงบประมาณ
4. ชีส สำหรับเพิ่มความเข้าข้นของเนื้อซอส(ใส่ก็ได้ ไม่ใส่ก็ได้)
5. ไอติมวานิลลา (วอลล์ตามเคย)
ของทุกอย่าง...ไม่สามารถหาได้ในเซเว่นอีกแล้ว = =" (ยกเว้นไอติม)
รอบนี้ท่านต้องยอมสละเวลาไปเดินซูเปอร์มาร์เก็ตหรือตามห้างนิดนึง
(ครั้งนี้เซเว่นช่วยท่านไม่ได้)
ไม่พูดพร่ำทำเพลงละ ลุยโลด เพราะรอบนี้รูปเยอะ
1. เส้นสปาเก็ตตี้ อันนี้ผมเลือกมาขนาด 6mm ไม่ใหญ่แต่ก็ไม่เล็กแต่ก็ไม่หนาแต่ก็ไม่บางแต่ก็ไม่หยาบแต่ก็ไม่ละเอียดแต่ก็ไม่...
2. ซอส...ผมว่ายี่ห้อนี้สีนี้โอเคสุดละ กระป๋อง 45 บาท.... 1 กระป๋องทำซอสสปาเก็ตตี้ได้ซัก 4 จาน (กึ่งสำเร็จรูปนิดนึง)
3. เบค่อน...อันนี้แพงละ แต่ก็ยังถูกกว่าไปกินที่ร้านอะนะ
4. หลักๆแค่สามอย่าง...แต่จริงๆถ้าจะให้ดี มีเห็ดหอมด้วยก็จะดีมาก แต่ผมลืมครับ = ="
5. ก่อนอื่น เราจะมาเตรียมเส้นก่อนครับ ก็ตั้งหม้อต้มน้ำร้อน ใส่น้ำมันกับเกลือลงไปนิดหน่อยเพื่อไม่ให้เส้นติดกัน
(ในที่นี้ ผมใช้น้ำมันมะกอกครับ...ไฮโซอะ ยูโน้ว?...จริงๆคือน้ำมันเอื้ออาทร ซื้อมาตอนลดราคา = =")
6. พอน้ำเริ่มเดือด เราก็ใส่เส้นลงไปครับ...เทคนิคคือ ใส่ให้มันแผ่ๆครับ เพราะจะถ่ายรูปออกมาสวย(อ้าว)
7. พอส่วนที่อยู่ในน้ำ โดนความร้อนก็จะเริ่มอ่อน เราก็ค่อยๆพับส่วนที่เหลือลงไปครับ ทำเบาๆนะครับ
ถ้าแรงไปเดี๋ยวน้องสปาเก็ตตี้เขาจะหัก พอเส้นหักแล้วมันก็จะสั้น ก็จะไม่สะใจเวลาซู้ดเข้าปาก
8. ลงไปนอนในหม้อดีๆนะคนดี
9. ค่อยๆคนเบาๆ กลัวน้องสปาเก็ตตี้เขาเจ็บ (คนแรงเดี๋ยวเส้นมันจะขาด)
10. อันนี้น่าจะได้ที่แล้ว... ถามว่า แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเส้นมันได้ที่แล้ว? เราก็ทำอย่างภาพข้างล่างนี้นะครับ...
11. ปาติดผนังเลย.... คือ ถ้าเส้นมีความอ่อนนุ่มแล้วความเหนียวพอแล้ว ปาไปยังผนังเรียบๆ เขาก็จะเกาะติดแบบนี้แหละ
(จริงๆไม่ต้องทำก็ได้นะ ถ้าแน่ใจว่ามันสุกแล้ว.... แต่อันนี้ทำให้ดูเฉยๆครับ = =")
12. เอาเส้นที่ได้ ไปล้างน้ำอุณหภูมิธรรมดาหรือเย็น เพื่อเอาผงแป้งที่ค้างอยู่ออก
13. ใส่จาน...อันนี้ต้มเส้นเยอะมาก กลัวไม่อิ่มกัน
14. ตอนนี้เสร็จสิ้นขั้นตอนต้มเส้น เราก็ต้องมาทำซอสครับ ตั้งเตาไฟ ใส่น้ำมันลงไปนิดหน่อย(อันนี้ก็ยังใช้น้ำมันมะกอก)
จริงๆถ้าใครชอบกลิ่นหอมของเนย จะใส่เนยลงไปแทนก็ได้นะ ไม่ผิดกฏหมายแต่อย่างใด
15. ระหว่างรอกระทะร้อน เราก็หันมาเตรียมเบค่อน...สับๆๆ หั่นๆๆ ตามขนาดที่ชอบที่ชอบ
16. กระป๋องซอส เราก็เปิดเตรียมไว้เลยครับ ตอนจะใช้จะได้ไม่เสียเวลามางัดเหมือนหมากั๊นเต่า
(หมากั๊นเต่า = หมาที่พยายามจะกินหรือจะกัดเต่า แต่เต่าหลบอยู่ในกระดอง หมามันก็งัดกระดองอยู่นั่นแหละ แต่ก็เปิดไม่ออก
เปรียบเปรยเหมือนคนที่พยายามจะแกะอะไร แล้วแกะไม่ออกอยู่นั่นแหละครับ)
17. น้ำมันร้อนได้ที่ เราก็ทำการใส่เบค่อนลงไปครับ..ฉ่าๆๆๆ
18. ถ้าชอบแบบแห่มๆเกรียมๆหน่อย ก็ทอดให้มันออกแดงๆ ให้มันหอมไปสามบ้านแปดบ้าน
ทอดจนหมาข้างบ้านหอนด้วยความทรมานไปเลยครับ ถือว่าหอมใช้ได้ๆ
19. ได้ที่แล้ว เราก็ใส่ซอสจากกระป๋องลงไป...ตวงน้ำเปล่าใส่ในกระป๋องให้เต็ม แล้วก็เติมลงไปในกระทะด้วยเพื่อเจือจางซอส
เพราะซอสจากกระป๋องมันเข้มไป มันต้องผสมน้ำลงไปซักกระป๋องนึงครับ(อัตราส่วน 1 : 1 )...คนๆๆให้เข้ากัน
20. ถ้าชอบซอสข้นๆหน่อย ก็เตรียมชีสไว้...
อยากเก่งวิชาไหน ก็เตรียมชีสวิชานั้นไว้ครับ.. ชีสเคมี ชีสฟิสิกส์ ชีสชีวะ..ถุ้ย!! อันนั้นมันชีท!!
21. ก็ใส่ชีสลงไปในซอสเลยครับ คนๆๆให้ชีสละลายจนเข้าเป็นทองแผ่นเดียวกัน
22. โอเค เรียบร้อย อันนี้ใช้ได้แล้วครับ
23. ตักใส่ชาม เตรียมรับประทาน
24. ถึงจุดๆนี้ ผมคาดว่าจะมีคนส่วนหนึ่งลืมไปแล้ว ว่าผมจะเอามันมาใส่กับไอติมวานิลลา
25. ถ่ายรูปคู่กันนะ..เอ๊า!! ยิ้ม...
26. โปะไอติมไว้ข้างบนโลดเลย...สวยๆๆ(ตรงไหน?)
27. ตัดแบ่งไอติมให้มันเล็กลงนิดนึง
28. คนคลุกเคล้าให้เข้ากัน...ได้เวลาแห่งความจริง...
อธิชาติ!!
(เอามุกมาเล่นแล้วนะ = = )
...ผมว่างั้นๆอะ...
คือ ผมว่ารสชีสมันแอบขัดๆกับไอติมไปหน่อย ไม่สมูทไปด้วยกันเหมือนซุปมาม่า(ผงชูรสนั่นแหละ)
ก็พอกินได้ ไม่ถึงกับไม่อร่อย แต่ก็ไม่ประทับใจเหมือนมาม่าใส่ไอติมวานิลลาอะนะ = ="
ก็ให้ผ่านนะ...กินได้ๆ แต่ไม่ถึงกับ "โอ้!! ซาร่า!! ฉันอยากจะกินอีกเยอะๆจัง" = =
29. ผ่านไปครึ่งทาง
30. หมดแล้วครับ
สรุป
- ไม่สำรอกเมทัล ไม่เลวร้าย แต่ไม่ถึงขั้นแสงออกปาก
- มื้อนี้ จริงๆเส้นเหลือ จึงทำซอสเพิ่ม เสิร์ฟได้ทั้งหมดประมาณแปดจาน งบทั้งหมดประมาณเกือบสามร้อยบาทได้
"เมนูง่ายๆ คุณเองก็ทำเองได้ที่บ้านครับ กับครัวกากๆ"...ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับรายการเขาเลย แต่มันก็ทำไม่ยากจริงๆนิ = =
(คิดถึงรายการครัวกากๆอะ)
ต่อไปเป็นช่วงของแถม
ช่วงที่ผ่านมา น้องสาวทำขนมได้แก่...
31. เยลลี่สายรุ้งหลอกเด็ก
32. บลูทาร์ต...บลูถอย...อะไรซักอย่าง จำชื่อไม่ได้ครับ = ="
33. เค้กแครอท.. ก็อร่อยเนื้อแน่นสไตล์แครอทครับ
ต่อไปเป็นช่วงทุกข์ชาวเน็ต
1. ถาม : ไม่มีช่วงถามตอบแล้วเหรอ?
ตอบ : อะ มีอยู่ๆ...นี่ไง
2. ถาม : มีเมนูไหนที่ทำให้ท้องเสียบ้างรึยัง?
ตอบ : ยังไม่มีเมนูไหนส่งผมไปเที่ยวห้องน้ำเลยครับ = =
3. ขอ : เปิดเพจซักทีสิ..
จัดให้ : https://www.facebook.com/SlidermanCM เอาไว้ให้ติดต่อได้ง่ายขึ้น
แล้วผมคงจะลงเบื้องหลัง (แอ่นแระ มีเบื้องหลงเบื้องหลัง) พิมพ์นู่นนี่นั่นบ้าง แล้วแต่สะดวกครับ = =
เอวังฯ
Edit : แก้คำผิดครับ = ="