+++ โดนพวกบู้ทเสริมความงามลดสัดส่วนทำแบบนี้ ใครเคยโดนแบบเรามั่ง +++

เพิ่งตั้งกระทู้ครั้งแรกเลยค่ะ ตอนแรกว่าจะไม่ลง แต่เพื่อนบอก ญาติบอกให้ลง
เอาเรื่องมาแชร์ เผื่อมีคนเจอแบบเราจะได้ระวังไว้ก่อน
ปล* เกิดขึ้นจริงกับตัวเรา
ปล2* เราไม่ได้อยากฟื้นฝอยขึ้นมาหรอก แต่อยากให้เป็นอุทาหรณ์มากกว่า
ปล3* เราไม่ได้บอกว่าอีกฝ่ายผิด เราก็มีส่วนผิดด้วยเหมือนกัน

เรื่องมันมีอยู่ว่า...เย็นวันศุกร์ 31 มกราคม เราไปเดินอเวนิวย่านรัชโยธินเพื่อไปซื้อเค้ก เทียน เพื่อเซอร์ไพรส์วันเกิด
เรากดเงินมา 1000 บาท และในกระเป๋าตังก็มีติดอยู่ประมาณ100กว่าบาท และแบงค์จีน เกาหลี ฮ่องกง อยู่จำนวนหนึ่ง (มูลค่าไม่มาก)
เราเดินเข้าไปซื้อเทียนกับไฟแช็คในมาร์เกตวิลเลจ แล้วกำลังเดินก้มหน้างุดๆเก็บพวกใบเสร็จพวกเงินทอน ระหว่างที่เราก้มหน้าไม่ได้มองทาง
ก็มีคนเดินเข้ามาทัก (ในใจคิดว่า วันนี้อะไรอีกล่ะ)

"น้องคะ ใช้ scbรึเปล่าคะ?"
"อ๋อ ใช้ค่ะพี่ ^^" ไอเราก็นึกว่าแบบ เชิญสมัครเดบิต เครดิตไรงี้ ก็เลยโอเค ยอมตามเค้าไป

ตามไปเสร็จ อ้าว นี่มันบู๊ทพวกเสริมความงาม ลดน้ำหนักครบวงจรนี่หว่า (ตูอ้วนขนาดนั้นเลย?-_-*)
เราไม่ขอเอ่ยชื่อสถาบันดีกว่า เอาเป็นว่า ชื่อ slim ... ของดาราท่านหนึ่งละกัน
ตอนแรกเค้าก็ชวนเราคุยว่าน้องเรียนที่ไหน เคยทำเกี่ยวกับเสริมความงามมั้ย อะไรแบบนี้
เราก็ เอิ่มม ไม่เคยค่ะพี่ เ้ค้าก็ให้เรากรอกชื่อ เบอร์โทร เหมือนขอข้อมูลปกติทั่วไป
แล้วคราวนี้เค้าก็ให้เราชั่งน้ำหนัก มีที่จับสองข้าง เค้าก็ช่วยเราถือของ ไปวางไว้บนโต๊ะข้างๆ
คราวนี้ เค้าก็บอกว่าให้เรานั่งรอผลจากไอเครื่องนั่นแปปนึง นั่งก่อนค่ะน้อง ไรงี้
เราก็ เออ ได้ค่ะพี่ (ด้วยความซื่อ และโง่ปฏิเสธไม่เป็นไง )
ก็แบบงงอยู่นะ เกี่ยวไรกับ scb ฟระ แต่ไม่ได้สนอะไร
ซักพัก เครื่องมันก็ปริ้นผลออกมา เค้าก็วิเคราะห์นู่นนี่เยอะแยะยาวเป็นหางว่าว เราก็นั่งฟังตาปริบๆ
ซักพัก เค้าก็หยิบแฟ้มเอกสารพวกเกี่ยวกับเครื่องสลายไขมันบลาๆๆๆๆ ออกมา
เค้าก็แนะนำว่าเราควรทำอันนี้ ทำอันนั้น เค้าก็ถามนะเราสนใจมั้ย?

เราก็ตอบแหละ 'สนค่ะ แต่เรื่องแบบนี้ต้องปรึกษาแม่ก่อนค่ะพี่ ตัดสินใจเองไม่ได้หรอก'

เค้าก็เสนอราคามาเลยจ้า แสนกว่า!!!!!!! เงิบแหละ แต่เก็บอาการ แล้วเค้าก็ลดลงมา เหลือสี่หมื่นกว่า
เราเริ่มแสดงอาการขัดขืนเบาๆ แบบ บอกเค้าว่า พี่ หนูรีบไป ไรแบบนี้ ขอเบอร์ติดต่อกลับแทนได้มั้ย
คือพี่คนนี้เค้าก็เหมือนจะโอกับเราละนะ แบบ เกือบจะหลุดจากตรงนั้นละ
คราวนี้พี่พนักงานคนที่สอง (มาจากไหนไม่รู้)
เข้ามานั่งร่วมโต๊ะ แล้วบอกว่า ไม่เอาจริงๆหรอ (คือพี่คนแรกเค้าบอกให้เรามัดจำไว้ก่อน แต่คือไม่มีตังอ่ะ)

พี่คนที่สองเค้าก็หว่านล้อมเต็มที่ พี่คนที่1ก็คุยกับพี่คนที่2 ว่าเนี่ยน้องเค้าไม่มีตัง บัตรนิสิตก็ไม่ได้เอามา พี่พอจะมีโควต้านิสิตนักศึกษาเหลือมั้ย
แบบ พี่คนที่1พยามช่วยพูดเต็มที่ (หราาาา) แบบขอร้องให้อะไรแบบนี้
ไอเราก็เสียบเลย ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เป็นไรเลยพี่ ไม่มีก็ไม่เป็นไร หนูรีบไป ไว้ให้แม่เข้ามาคุยก็ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่ก็มารับแล้ว ไว้ให้เค้าแวะมาก็ได้
พี่คนที่2นางไม่หยุดแค่นั้น นางก็ถามเราว่า เอางี้ พี่ให้โควต้าน้อง เหลือสองหมื่น (ลดถล่มทลายเลยจ้าาาา) น้องโอเคมั้ย พี่ให้วางมัดจำไว้ก่อนเลย 20%

จากที่เป็นคนคิดเลขช้านะ คำว่า20% จาก 2หมื่น ผลลัพธ์ออกมาเร็วเวอร์ ---4000บาทถ้วน---
ไอเราก็เหงื่อตก สี่พันไม่ใช่น้อยๆนะ เราเลยบอกเค้าว่า พี่หนูไม่มีตังหรอก พกเงินไม่เยอะ
เค้าก็ถามว่าไหน พกกี่บาท ไหนดูกระเป๋าตังดิ้??????????
เราก็แบบ ในมือถือเป๋าตังอยู่พอดีไง (ด้วยความโง่และไม่รอบคอบ อีกแล้ว)
เราก็พูดเลย พันนึงเอง เนี่ยต้องไปซื้อเค้กอีก ซื้อของขวัญอีก

เค้าก็บอกว่า 'โอ๊ย จะซื้อไปทำไม เค้ก ไม่เห็นจำเป็น วันเกิดแฟนหรอ ไม่ต้องหรอก เนี่ย เดี๋ยวพี่ให้วอยเชอร์สปาแทน'
เราก็แบบ 'ไม่ได้หรอกค่ะ ตั้งใจไว้แล้ว เนี่ย แค่พี่ให้เบอร์ติดต่อกลับละให้แม่มาคุยพรุ่งนี้ ก็จบ อีกอย่าง ตังหนูไม่พอด้วย'
พี่คน2เลยพูดต่อว่า 'แล้วATM มีมั้ย มีอยู่เท่าไหร่ ไปกดมาไม่ได้หรอ แค่สี่พันเองนะ อ่ะพี่ให้เหลือ 10%ก็ได้'

สมองคำนวณอีกรอบ ---2000บาทถ้วน---

เราเลยบอกไปว่า 'ไม่ได้ค่ะ กดไม่ได้ บัญชีอันนี้ไว้ใช้เฉพาะ ของตัวเองแม่ไม่ให้ถือ แล้วในบัตรก็จะไว้จ่ายค่าเรียนพิเศษพรุ่งนี้ด้วย ไม่พอหรอกพี่'
พี่ึคน2 'สองพันยังไม่มีอีกหรอ?????? (ทำหน้าทำตาแบบ..) แล้วกดมาก่อนแล้วโทรไปขอแม่สิ ยังไงแม่ก็น่าจะให้อยู่แล้วไม่ใช่หรอ???'
เรา 'กดไงล่ะพี่ ต้องใช้พรุ่งนี้ แม่ก็ยุ่งๆไม่มีเวลาโอนมาให้หรอก อีกอย่าง ก็ไม่แน่ใจด้วยว่าแม่จะให้ทำรึเปล่า ต้องคุยกับแม่ก่อน'
พี่คน2 'โอ่ย น้อง โดดเรียนซักวันเลยดีมะ (ทีเล่นทีจริง) อิอิอิอิอิ สอนให้น้องโดดเรียน (หันไปคุยกับอีกคน ใครไม่รู้) '
เรา 'แห่ะๆ ไม่ได้ค่ะ เด้ธไลน์จ่ายพรุ่งนี้'
พี่คน2 'แล้วมีอยู่เท่าไหร่ เผื่อเศษมาทบๆกันได้'
เรา ' 2970บาทพี่ ค่าเรียน2900 เศษ70'
พี่คน2 'เอิ่ม 70 แต่น้องมีในกระเป๋า 1พันหนิ เนี่ยก็จ่ายมาก่อนได้ แค่นี้ก็ได้'

เรานี่แอบปรี้ดนะ จะเอาหมดกระเป๋าเลยหรอวะ  แต่ได้แต่เก็บอาการเช่นเดิม

เรา 'พรุ่งนี้ยังต้องไปมออยู่นะพี่ จะไม่ให้เหลือเลยหรอ แล้วนี่ต้องไปซื้อเค้กอีก'
พี่คน2 'ก็บอกว่าไม่ต้องซื้อไง จะซื้อไปทำไม (อิห่านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน ประโยคนี้ปรี้ดสุด) เดี๋ยวพี่ให้วอยเชอร์ไง'
เรา 'เค้าไม่ทำหรอกพี่สปาน่ะ !!!!!!!!!!!!!!!!'
พี่คน2 'อ่ะๆๆๆ มีพันนึงใช่มะ พันนึงจริงป่าว ไหนดูดิ้??'

ตอนนั้นเราก็หน้ามืดตามัวมั้ง เปิดเป๋าตังให้เค้าดูเฉยเลย อ้าซ่าาาา มีอยู่พันนึงกับแบงค์ยี่สิบสองสามใบ
และ และ และ แบงค์ต่างประเทศ (จีน เกาหลี ฮ่องกง)
พี่พนักงานคนที่2ตาดั่งเหยี่ยว

พี่คน2 'นี่แบงค์อะไรอะน้อง ไหนๆๆๆๆๆๆๆ ขอดูหน่อยสิ สวยจังอ่าาา นี่กี่บาท ใบนี้เท่าไหร่ ใบนี้กี่บาท (นางหยิบแบงค์ละถามๆๆๆ) รวมๆหมดนี่กี่บาทอะน้อง'
เราสาธยาย(เพื่ออะไร?) แล้วก็บอกว่ารวมๆแล้วไม่กี่บาทหรอก ไม่เยอะมาก
พี่คน2 'งั้นเอางี้ น้องไปซื้อเค้กชิ้นเดียวพอ พี่เอาเก้าร้อย'
เรา 'แล้วพรุ่งนี้เอาไรกินอ่ะพี่???????????'
(ณ จุดนี้เราก็แบบ เอาเสียก็เสียวะ ไม่รู้จะทำไงละ จะร้องไห้ละ รีดไถขนาดนี้)
พี่คน2 'อ่ะๆ 500ก็ได้ แต่พี่จะยึดแบงค์พวกนี้ไว้นะ พี่รู้ว่าน้องรักแบงค์พวกนี้ จะได้เป็นประกันว่าน้องต้องกลับมาเอาคือแล้วจ่ายค่าคอสให้พี่ แล้วไปคุยกะแม่ด้วยนะ '
เรา 'อ่าาาาา ต้องเอาไปจริงๆหรอ T^T'
พี่คน2 'จริงน่ะสิ อ่ะ 500ค่ะ'

ด้วยความที่รีบ เพราะเราไปตั่งแต่สี่โมงกว่า จนหกโมงละ คุยเถียงไปมานานมาก สุดท้ายเราก็เลยต้องยอมจ่าย 500 โดยที่เรายังไม่ได้ตอบตกลงว่าจะซื้อคอสแน่ๆเลย และเค้าก็ยึดแบงค์ต่างประเทศพวกนั้นเราไป T_________________T

โอเค ยอมรับว่าตอนนั้นคุยจนมึนไม่ได้นึกถึงไรมาก ยึดก็ยึดวะ ค่อยให้แม่เคลียร์ อีกใจก็กลัวโดนบ่นสุดๆ แต่แก้ปัญหาเองไม่ได้อ่านะ
ตอนจ่ายเค้าก็เขียนใบเสร็จ เซ็นสัญญาสมาชิกอะไรพวกนี้ ด้วยความรีบ ก็เซ็นๆๆ เพื่อนก็โทรมาพอดี เลยไม่ได้อะไรละ บวกกับความรีบที่จะไปซื้อเค้ก
สุดท้ายได้เค้กมาสองชิ้นเอง แผนที่ว่าจะซื้อเค้กก้อนโตล่มสลายหายไป ที่จริงจะกดตังมาซื้อเพิ่มก็ได้ แต่บู้ทของพวกนางตั้งอยู่ตรงธนาคารที่เราใช้พอดี เราเลยคิดไรไม่ออก สองชิ้นก็สองชิ้นแล้วรีบออกมาจากที่นั่นให้เร็วที่สุด (คือจะกดแล้ว แต่ระแวงว่าเค้าจะตามมาดูว่าเรากดตังอะไรแบบนี้ คือคิดลึกเกินไปรึเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่าจุดนั้น อยากหายตัวไปไกลๆให้เร็วที่สุด)


พอหลุดจากตรงนั้น เราเล่าให้เพื่อนทุกคนที่รู้จักฟัง เพื่อนก็แบบเห้ย ทำี้งี้ได้ไง บลาๆๆๆ จัดว่าโดนบ่นหูชาเหมือนกัน เพื่อนก็ถามถึงว่า แล้วยึดแบงค์ต่างประเทศเราไปน่ะ มีลายลักษณ์อักษรว่ายึดไปมั้ย ถ้าไปขอคืนละไม่ได้คืนทำไง เราก็คิดหนักเลย เออทำไมเรานึกไม่ถึง ไรแบบนี้ เพื่อนบอกให้เรากลับไปเอาเลย คือเราก็ไม่กล้า เลยบอกว่าค่อยเล่าให้แม่ฟัง โดนเพื่อนตั้งข้อสังเกตุมาเยอะแยะมากมาย ตอนแรกเราก็จะหายไปเลย ห้าร้อยชั่งมัน แบงค์ต่างประเทศ ชั่งมัน (กัดฟันพูดสุดๆ) แต่เพื่อนท้วงว่า แล้วถ้าอยู่ๆในใบที่เค้าให้เราเซ็นเกิดบอกว่าถ้าจ่ายไม่ครบตามจำนวนค่าคอส จะดำเนินการทางกฏหมายอะไรแบบนี้ เราเลยแบบ ฉุกคิด โอเค ไว้พรุ่งนี้กลับไปเอาก็ได้

พอวันรุ่งขึ้นเราเล่าให้แม่ฟังอย่างกล้าๆกลัวๆ คือพ่อก็มาด้วย พ่อปรี้ดแตกไปก่อนแม่เลยจ้า แม่เลยบอกว่า โอเค บุกไปถึงที่เลยดีกว่า ตอนแีรกเราก็บอกแม่ว่า ไม่ต้องก็ได้ ปล่อยเลยตามเลย แม่เราก็บอกว่า ไม่ได้ เงินไม่ได้คืนไม่เป็นไร แต่เรื่องนี้ต้องพูด ต้องสั่งสอน วิธีการขายแย่มาก บลาๆๆๆ เราเลยยอมพาไป ไปถึง แม่ก็พูดนิ่มๆเลยว่าเมื่อวานมีพนักงานแนะนำคอสให้ลูกสาวดิฉันอะไรแบบนี้ เราก็ไม่กล้าสบตาล่ะบอกตรงๆ เลยเดินออกมาไกลๆ นิดนึง โทรคุยกะเพื่อนเล่าให้เพื่อนฟังแทนว่าแม่บุกแล้วนะอะไรแบบนี้ แล้วเราก็วาง คราวนี้ ได้ยินแว้บๆว่าพี่คนที่1 ลาออกไปแ้ล้วเมื่อเย็นวาน เราก็เงิบบบบบบแปปนึง ศซักพัก พี่คนที่2เค้าเดินมาประชิดด้านหลังเราแล้วยื่นซองให้ ข้างในคงเป็นแบงค์แหละ เราก็รับไว้แต่ไม่ได้มองหน้าเต็มๆ (กลัวอะไรไม่รู้เนอะ) แล้วเค้าก็พูดว่า

'อะไรอ่ะ ไม่ได้อธิบายให้แม่ฟังหรอ' แล้วก็ทำปากแบบ เบะๆใส่ไรงี้

เราก็ไม่ตอบไร ปล่อยให้แม่จัดการ แม่ยืนพูดกับหัวหน้าบู้ทอยู่นานพอสมควร พูดแนวๆว่าหลักการขายไม่ถูกต้องอะไรแบบนี้ คือเราไม่ได้ยืนฟัง มีแต่พ่อกับแม่ที่ยืนพูดอยู่ พูดอยู่สี่สิบนาทีได้ ทุกอย่างคือเคลีย จบ เค้าให้วอยเชอร์มา ไปทำอะไรไม่รู้เราไม่ได้สนใจ แต่ที่แน่ๆได้แบงค์ต่างประเทศคืนละ (ดีใจน้ำตาแทบเล็ด เราชอบสะสมแบงค์ไง) แม่ก็บ่นยาวเลย ว่าไม่มีจรรยาบรรณ อะไรทำนองนี้ แม่ก็ดุเราด้วยที่ว่าทำไมเราไม่หนักแน่นและไม่ปฏิเสธไป เราก็ได้แต่ก้มหน้ารับฟังคำของแม่อย่างเงียบๆ เพราะเราก็ผิดจริงๆแหละนะ





ที่เราพิมพ์ให้อ่านเพราะไม่อยากให้ใครเจอแบบเราอีก ถ้าเจอแบบเราก็ปฏิเสธไปเลยถ้าไม่ได้สนใจจริงๆ ถ้ามัวใจอ่อนแบบเรา ก็มีแต่ต้องเสียเท่านั้นแหละ แล้วถ้าเราเก็บไว้ไม่บอกแม่ เราก็คงไม่ได้ของๆเราคืนแน่ๆ  เรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์แล้วกันเนอะ เราจะไม่มีทางเป็นแบบนี้อีกแน่นอนนนนนน

ปล*อย่าเผลอใจอ่อนเด็ดขาด
ปล2*ถ้าคุณโดนยึดอะไรไป ขอคืนทันทีเลย หรือขอหลักฐานด้วย
ปล3* สู้ๆค่ะทุกคน TT

มีใครเคยเจอแบบเรามั้งมะ?????? แล้วทำยังไงกันอ่ะ ??
ขอบคุณสำหรับคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ค่ะ ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่