กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ของแสดงความคิดเห็นในเชิงวิชาการ มิได้อาจเอื้อม
หรือคิดที่จะดึงสถาบัน หรือทำให้เกิดการทะเลาะโต้เถียงกันนะ เพราะฉะนั้น
ถ้า จขกท. เสนอความคิดเห็นไปโดยไม่ถูกต้อง อย่าได้โยนให้ว่าเป็นสีใดหรือ
อยู่ฝ่ายไหนนะ จขกท.ขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ถ้า จขกท.แสดงความคิด
เห็นที่ไม่เข้าท่า ก็ขอจงช่วยบอกด้วยนะครับว่าไม่เข้าท่าตรงไหน แล้วเราควร
จะทำอย่างไรดีน่ะ ขอบคุณ ...
จากเหตุผลที่ว่า ครอบครัวคือหน่วยย่อยที่สุดในสังคมแต่มีความสำคัญที่สุด
ในสังคม เพราะถ้าครอบครัวหรือหน่วยย่อยที่สุดในสังคมล้มเหลวก็จะทำให้
สังคมนั้นล้มเหลวไปด้วย
ประเทศไทยเราเป็นชาติที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาช้านาน แต่เนื่องจากประวัติ
ศาสตร์การปกครองของไทย ได้เริ่มมีหลักฐานเด่นชัดในสมัยกรุงสุโขทัย
ดังนั้นการศึกษาเกี่ยวกับวิวัฒนาการของการปกครองของไทยจึงจะเริ่มที่สมัย
สุโขทัยนี้
สมัยกรุงสุโขทัย การจัดรูปการปกครองเป็น "พ่อปกครองลูก" พระเจ้าแผ่นดิน
เป็นผู้ปกครองกับผู้อยู่ใต้ปกครอง ได้แก่ ประชาชน มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน
เสมือนพ่อกับลูก เมื่อประชาชนมีความเดือดร้อนหรือประสบปัญหาใด ๆ สามารถ
ไปร้องทุกข์ต่อพระเจ้าแผ่นดินโดยตรง
การปกครองแบบนี้ ถือว่าในแต่ละครัวเรือนมีพ่อเป็นหัวหน้าปกครองทุกคนใน
ครอบครัว หลายครัวเรือนก็จะรวมกันเป็นหมู่บ้านอยู่ในปกครองของ "พ่อบ้าน"
(ปัจจุบันเรียกว่าผู้ใหญ่บ้าน) ประชาชนที่อยู่ในการปกครองเรียกว่า "ลูกบ้าน"
หลาย ๆ หมู่บ้านรวมกันเป็นเมืองอยู่ในปกครองของ "พ่อเมือง" (ปัจจุบันคือ
ผู้ว่าราชการจังหวัด) หลายเมืองรวม กันเป็นประเทศอยู่ในปกครองพระเจ้าแผ่นดิน
ซึ่งปัจจุบันนี้ถึงแม้การระบบการปกครองจะเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม "พ่อปกครองลูก"
ก็ยังคงอยู่คู่กับสังคมไทยเรา และคิดว่าจะคงอยู่คู่ตลอดไป ตราบใดที่ยังมีสถาบัน
กษัตริย์อยู่
ซึ่งก็มีความพยายามที่จะดึงสถาบันฯ เข้ามาเพื่อทำให้เกิดความวุ่นวาย โดยการใช้
กฏหมายเป็นตัวทำให้เกิดการแบ่งแยกขึ้นมา โดยลืมนึกถึงคำว่าสถาบันครอบครัว
มีนักวิชาการหลายคน ได้ออกมาให้ความเห็นว่า สถาบันฯ อยู่เหนือเรื่องความขัดแย้ง
อย่าได้ไปทำให้ระคายเคืองต่อพระองค์ท่าน และก็มีบางคนอีกเหมือนกันที่ออก
มาบอกว่า เมื่อลูกๆ ทะเลาะกัน พ่อจะต้องทำตัวเป็นกลาง ไม่สามารถออกมา
เข้าข้างฝ่ายใด ซึ่งตรงนี้ก็ถูกต้องไม่เถียง แต่ในความเป็นจริงแล้ว คำว่าพ่อจะต้อง
เข้ามาเป็นตัวไกล่เกลี่ยให้ลูกๆ ตกลงกันให้ได้ โดยหลักของความถูกต้อง
เหมือนครั้งหนึ่ง เมื่อพฤษภาทมิฬ ไงล่ะครับ ไม่ได้หวังว่าจะให้พ่อมาเป็นผู้ไกล่เกลี่ย
หรือเข้ามายุ่งเกี่ยวนะครับ เพียงแต่อยากจะให้ท่านได้รับรู้เท่านั้นน่ะครับ ถึงความ
เอียง หรือการทำหน้าที่โดยไม่ถูกต้องของบางองค์กรเท่านั้นแหละครับ ซึ่งองค์
กรณ์เหล่านั้น ถ้าจะยังข้างๆ คูๆ ไปอยู่ ประชาชนก็จะตัดสินเองน่ะครับ
ไม่แน่นะครับ ความสงบสุขอาจจะกลับมาสู่ครอบครัวนี้อีกก็อาจเป็นได้ ถ้าพ่อซึ่งเป็น
ร่วมโพธิ์หลักของบ้าน รับรู้เรื่องต่างๆ จากปากของลูกๆ ที่ทำหน้าที่ตรงนั้นจริงๆ น่ะ
* * * * * ถึงเวลาหรือยัง * * * * *
หรือคิดที่จะดึงสถาบัน หรือทำให้เกิดการทะเลาะโต้เถียงกันนะ เพราะฉะนั้น
ถ้า จขกท. เสนอความคิดเห็นไปโดยไม่ถูกต้อง อย่าได้โยนให้ว่าเป็นสีใดหรือ
อยู่ฝ่ายไหนนะ จขกท.ขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ถ้า จขกท.แสดงความคิด
เห็นที่ไม่เข้าท่า ก็ขอจงช่วยบอกด้วยนะครับว่าไม่เข้าท่าตรงไหน แล้วเราควร
จะทำอย่างไรดีน่ะ ขอบคุณ ...
จากเหตุผลที่ว่า ครอบครัวคือหน่วยย่อยที่สุดในสังคมแต่มีความสำคัญที่สุด
ในสังคม เพราะถ้าครอบครัวหรือหน่วยย่อยที่สุดในสังคมล้มเหลวก็จะทำให้
สังคมนั้นล้มเหลวไปด้วย
ประเทศไทยเราเป็นชาติที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาช้านาน แต่เนื่องจากประวัติ
ศาสตร์การปกครองของไทย ได้เริ่มมีหลักฐานเด่นชัดในสมัยกรุงสุโขทัย
ดังนั้นการศึกษาเกี่ยวกับวิวัฒนาการของการปกครองของไทยจึงจะเริ่มที่สมัย
สุโขทัยนี้
สมัยกรุงสุโขทัย การจัดรูปการปกครองเป็น "พ่อปกครองลูก" พระเจ้าแผ่นดิน
เป็นผู้ปกครองกับผู้อยู่ใต้ปกครอง ได้แก่ ประชาชน มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน
เสมือนพ่อกับลูก เมื่อประชาชนมีความเดือดร้อนหรือประสบปัญหาใด ๆ สามารถ
ไปร้องทุกข์ต่อพระเจ้าแผ่นดินโดยตรง
การปกครองแบบนี้ ถือว่าในแต่ละครัวเรือนมีพ่อเป็นหัวหน้าปกครองทุกคนใน
ครอบครัว หลายครัวเรือนก็จะรวมกันเป็นหมู่บ้านอยู่ในปกครองของ "พ่อบ้าน"
(ปัจจุบันเรียกว่าผู้ใหญ่บ้าน) ประชาชนที่อยู่ในการปกครองเรียกว่า "ลูกบ้าน"
หลาย ๆ หมู่บ้านรวมกันเป็นเมืองอยู่ในปกครองของ "พ่อเมือง" (ปัจจุบันคือ
ผู้ว่าราชการจังหวัด) หลายเมืองรวม กันเป็นประเทศอยู่ในปกครองพระเจ้าแผ่นดิน
ซึ่งปัจจุบันนี้ถึงแม้การระบบการปกครองจะเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม "พ่อปกครองลูก"
ก็ยังคงอยู่คู่กับสังคมไทยเรา และคิดว่าจะคงอยู่คู่ตลอดไป ตราบใดที่ยังมีสถาบัน
กษัตริย์อยู่
ซึ่งก็มีความพยายามที่จะดึงสถาบันฯ เข้ามาเพื่อทำให้เกิดความวุ่นวาย โดยการใช้
กฏหมายเป็นตัวทำให้เกิดการแบ่งแยกขึ้นมา โดยลืมนึกถึงคำว่าสถาบันครอบครัว
มีนักวิชาการหลายคน ได้ออกมาให้ความเห็นว่า สถาบันฯ อยู่เหนือเรื่องความขัดแย้ง
อย่าได้ไปทำให้ระคายเคืองต่อพระองค์ท่าน และก็มีบางคนอีกเหมือนกันที่ออก
มาบอกว่า เมื่อลูกๆ ทะเลาะกัน พ่อจะต้องทำตัวเป็นกลาง ไม่สามารถออกมา
เข้าข้างฝ่ายใด ซึ่งตรงนี้ก็ถูกต้องไม่เถียง แต่ในความเป็นจริงแล้ว คำว่าพ่อจะต้อง
เข้ามาเป็นตัวไกล่เกลี่ยให้ลูกๆ ตกลงกันให้ได้ โดยหลักของความถูกต้อง
เหมือนครั้งหนึ่ง เมื่อพฤษภาทมิฬ ไงล่ะครับ ไม่ได้หวังว่าจะให้พ่อมาเป็นผู้ไกล่เกลี่ย
หรือเข้ามายุ่งเกี่ยวนะครับ เพียงแต่อยากจะให้ท่านได้รับรู้เท่านั้นน่ะครับ ถึงความ
เอียง หรือการทำหน้าที่โดยไม่ถูกต้องของบางองค์กรเท่านั้นแหละครับ ซึ่งองค์
กรณ์เหล่านั้น ถ้าจะยังข้างๆ คูๆ ไปอยู่ ประชาชนก็จะตัดสินเองน่ะครับ
ไม่แน่นะครับ ความสงบสุขอาจจะกลับมาสู่ครอบครัวนี้อีกก็อาจเป็นได้ ถ้าพ่อซึ่งเป็น
ร่วมโพธิ์หลักของบ้าน รับรู้เรื่องต่างๆ จากปากของลูกๆ ที่ทำหน้าที่ตรงนั้นจริงๆ น่ะ