The Vampire Diaries: Damon Salvatore วิเคราะห์ตัวละครแบบลึกสุดๆๆๆ + 5x12 The Devil Inside ใครดูแล้ว มาคุยกัน

กระทู้สนทนา
เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย ดูกันรึยัง ยิ้ม

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

วันนี้มาวิเคราะห์นิสัยตัวละครกันดีกว่า - Damon คาแรกเตอร์ที่เราชอบมากที่สุดในบรรดาหนังซีรีส์ที่เคยดูมาทั้งหมดเลย เหตุผลคือ เป็นคาแรกเตอร์ที่ Deep มากๆๆๆๆๆค่ะ รวมทั้งมี Conflict ในตัวเองสูงมากกกก


มาดูกันดีกว่า ^^

เริ่มจาก 1864 สองพี่น้องตระกูลซัลวาเทอร์ได้รับสาวน้อยกำพร้ามาดูแล แคธเธอรีน
เราจะเห็นได้ว่าใน 1x13 พ่อของเดม่อนบอกว่าเขาเป็นความผิดหวัง เป็น disappointment และดูเหมือนว่าจะรักสเตฟานมากกว่า ทำให้เดม่อนรูสึกเป็นรอง และขาดความรัก โหยหาใครสักคนที่จะมาสนใจเขา มารักเขา
เดม่อนในตอนนั้นก็คือหนุ่มน้อย innocent คนนึงที่โหยหาความรัก
เพราะฉะนั้นพอมีคนมาแสดงความสนใจในตัวเขา เดม่อนจึงทุ่มเททุกอย่างเพื่อคนคนนั้น เพื่อความหวังเพียงอย่างเดียวว่าเขาจะได้ความรักจากอีกฝ่ายตอบ ซึ่งก็คือแคธเธอรีน เดม่อนจึงกลายเป็นเหมือนลูกหมาตัวน้อยติดตามเจ้านายอย่างแคธเธอรีนไปทุกที่ ทำทุกอย่าง แล้วยิ่งเดม่อนเป็นคน impulsive อยู่แล้วด้วย ยิ่งไปกันใหญ่ ทำอะไรไม่ค่อยคิด คิดเพียงอย่างเดียวว่าเขาคงจะได้ความรักตอบจากแคธเธอรีนบ้าง เพื่ออุดช่องว่างในหัวใจที่ขาดความรักจากบุพการีไป

ฟังดูเป็นคาแรกเตอร์ที่เห็นได้ทั่วไปในนิยายรัก

เราจะเห็นได้ว่าไม่ว่าแคธเธอรีนจะ abuse manipulate เดม่อนแค่ไหน (ขอโทษที่ใช้คำอังกฤษนะคะ นึกภาษาไทยไม่ออกน่ะค่ะ ไม่ได้กระแดะน้า อย่าว่ากัน ><) เดม่อนก็ยอมตลอด
อย่างในตอน 2x04 ที่แคธใช้ compulsion เดม่อนให้ออกไปจากห้องของเธอหลังจากที่สเตฟานมาสารภาพรักกับนางพอดี ซึ่งตอนนั้นเดม่อนก็ รู้อยู่แก่ใจ ว่าแคธดูหวั่นไหวไปกับสเตฟาน รู้ว่าแคธ manipulate เขา(อย่างตอน2x03ที่เดม่อนบอกกับเอเลน่าว่าทั้งคู่ manipulate เขาเหมือนกัน)
แล้วยังตอนที่แคธเธอรีนเลือกสเตฟานให้เป็น escort ให้เธออีก(ตอนเดียวกัน 2x04) ชัดมากๆว่าแคธเธอรีนยกให้สเตฟานเป็นที่หนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือแคธต่างก็ยกให้สเตฟานเป็นที่หนึ่ง ส่วนเดม่อนเป็น รอง อยู่เสมอ เดม่อนรู้ดี ลึกๆแล้วเขารู้สึกกังวลและรู้สึกด้อยกว่าอยู่นั่นแหละ แต่เขาก็เลือกที่จะหลอกตัวเอง เมินความเป็นจริง เดม่อนเอาแต่หนีความเป็นจริงและอยู่ในภาพลวงตาที่ตัวเองสร้างขึ้นมา หวังว่าแคธเธอรีน อาจจะ สนใจ อาจจะ รักเขาบ้าง เดม่อนจึงทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ความรักจากแคธเธอรีนแม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าตัวเองถูก abused manipulated อยู่ก็ตาม

พอเดม่อนกลายมาเป็นแวมไพร์

นิสัย impulsive ของเขาก็ทวีเพิ่มขึ้นอย่างที่เห็น รวมทั้งความต้องการความรัก โหยหาความรัก ทำให้เดม่อนเป็นทาสความรักของแคธรีนอยู่ถึง 145 ปี
ในปี1953
มาถึงตอนที่เดม่อนถูกขัง 5x09 The Cell กันบ้าง ซึ่งเป็นตอนสำคัญที่สร้างลักษณะนิสัยอีกอย่างหนึ่งของเขาให้เด่นชัดออกมาเลยก็คือ นิสัย victimizer(การทำให้อีกฝ่ายตกเป็นเหยื่อ)
การถูกกักขังในกรง ผสมรวมกับความรู้สึกถูก abused จากพ่อ จากแคธ ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็น "เหยื่อ" เดม่อนจึงพบปัญหา PTSD (คือปัญหาทางจิตวิยาหลังจากที่เจอเรื่องร้ายๆ เป็นความผิดปกติทางจิตใจภายหลังภัยอันตราย เช่นภาวะเครียดแบบสเตฟานที่จมน้ำตายซ้ำแล้วซ้ำอีก) การถูก Abused ทำให้เดม่อนหวาดกลัวการตกเป็นเหยื่อ ดังนั้นเขาจึงปกป้องตัวเองไม่ให้ตกเป็น "เหยื่อ" อีก ด้วยการทำให้คนอื่นเป็นเหยื่อแทน เป็น "Victimizer"
>>>เป็นที่มาว่าทำไมเดม่อนถึงหมกมุ่นอยู่กับการฆ่าคน และรู้สึกดีที่ทำให้คนอื่นเป็นเหยื่อ หากเขารู้สึกว่าตัวเองกำลังจะเป็นเหยื่อเมื่อไหร่ เดม่อนก็เลือกที่จะ "ทำลาย" ทันที อย่างตอน2x12 ความรู้สึกผิดที่โรสตายแทนเขาทำให้เดม่อนรู้สึกว่าตัวเองกำลังตกเป็นเหยื่อความอ่อนแอ เป็นเหยื่อhumanity(ที่เขาชอบบอกว่าตัวเองไม่มี) ทำให้เดม่อนต้องลบล้างความรู้สึกของการเป็น Victim ด้วยการกลายเป็น Victimizer ซะ ซึ่งก็คือสาเหตุหนึ่งที่เขาฆ่าเจสสิก้าในตอนท้ายของ2x12

พฤติกรรมดังกล่าวนี้ เป็นอาการ PTSD ของเดม่อน ซึ่งยังคงไม่ได้รับการรักษา ไม่ได้รับการดูแล เรื้อรังมาตั้งแต่ปี 1953 นานจนมาถึงปัจจุบัน

ส่วนแผนล้างแค้นฆ่าล้างตะกูลวิทมอร์>> เดม่อนฆ่าล้างตระกูลทั้งตระกูล โดยเหลือคนคนหนึ่งให้สืบตระกูลต่อไป หลังจากนั้นเขาก็ฆ่าทั้งตระกูลโดยเหลืออยู่เพียงคนคนเดียวอีก = เหมือนกับที่เดม่อนถูกควักเอาอวัยวะออกมาแล้วปล่อยให้งอกขึ้นใหม่ หลักจากนั้นก็จะโดนควักเอาออกไปอีก

ต่อมามาช่วงseason1-ปัจจุบันกันบ้าง
เดม่อน obsess เรื่องแคธเธอรีนมา 145 ปี เขาได้มาเจอเอเลน่าผู้หน้าตาเหมือนแคธเธอรีนทุกประการ และตกหลุมรักเธอ
ตามที่ได้เขียนไว้ข้างบนว่าเดม่อนรู้สึกว่าตัวเองเป็นรอง ด้อยกว่าสเตฟานอยู่เสมอ ทั้งพ่อและแคธต่างก็เลือกสเตฟาน ไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครรักเขา ความรักของแคธก็เป็นรักหลอกๆที่เดม่อนเองก็รู้ดี แต่ก็เลือกที่จะหลอกตัวเองเพราะไม่อยากรู้สึกเจ็บ รวมทั้งอยากจะเหลือความหวังอันน้อยนิดในการใช้ชีวิตต่อบ้าง
พอได้มาพบเอเลน่า 3x22 ตอนแรกเดม่อนแปลกใจที่เอเลน่าหน้าเหมือนแคธเธอรีน แต่เขาก็เฉยๆหลังจากนั้นเมื่อรู้ว่าเอเลน่าไม่ใช่แคธ ทั้งสองคนพูดคุยกัน บอกว่าเธอต้องการอะไรบ้าง แต่แล้ว เอเลน่าก็ ถามเดม่อนกลับ "what do YOU want?" เธอสนใจเขากลับ ซึ่งไม่เคยมีใครถาม ไม่มีใครเคยสนใจความรู้สึกเขามาก่อน ทำให้เดม่อนอึ้ง พูดไม่ออก ไม่รู้จะตอบกลับยังไงเลยทีเดียวเพราะไม่มีใครเคยถามเขา ไม่มีใครเคยแคร์เขา >>เป็นที่มาของประโยค "She took my breath away, Elena" ในตอน 1x01 ที่เดม่อนคุยกับสเตฟานครั้งแรก
ต่อมา เอเลน่าก็ได้แสดงความรู้สึกเห็นใจ และแคร์ความรู้สึกของเดม่อนอีกในตอน 1x03 ซีนในครัว ตอนที่ทั้งคู่คุยกันเรื่องแคธเธอรีน และเดม่อนบอกให้เธอเลิกเป็นเชียร์ลีดเดอร์ เอเลน่าแสดงความรู้สึกเห็นใจว่า "I'm sorry about Katherine, you lost her too" เดม่อนเองก็เสียแคธเธอรีนไปด้วยเช่นกัน เขาเองก็รู้สึกเศร้าด้วยนะ ไม่ได้มีแค่สเตฟาน จะเห็นสีหน้าอึ้ง พูดไม่ออกไปชั่วขณะ(อีกแล้ว)ของเดม่อนหลังจากได้ยินประโยคนั้น ก่อนที่ทั้งคู่จะถูกขัดด้วยบอนนี่
จากสองเหตุการณ์ที่เอเลน่าแสดงความรู้สึกเห็นใจ สนใจเดม่อน ทำให้เดม่อนผู้ขาดความรัก เริ่ม รู้สึกสนใจเอเลน่าขึ้นมา ในตอนท้าย1x03 ที่เดม่อนแอบเข้าไปในห้องของเธอ ไปลูบแก้มเบาๆ เฝ้ามองตอนเอเลน่ากำลังนอนหลับ

หลังจากนั้นทั้งคู่ก็พัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นมาเรื่อยๆ เป็นแนว good girl - bad boy


เดม่อนเป็นเหมือนแคธเธอรีนอีกคนหนึ่งในเวอชั่นผู้ชาย แคธสร้างเขา สอนเขา abuse manipulate และเขาเองก็เลือกที่จะทำตาม เลือกที่จะเป็นแบบแคธ เลือกที่จะตกเป็นเหยื่อมาตั้งแต่แรกเอง ทำให้เดม่อนรู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนเงา เป็นเหยื่อของแคธเธอรีนมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นรากฐานหลักในการเป็นVictimizer แล้วบวกกับการถูกขังเป็น lab rat(ปี1953-1958) ทำให้เขากลายมาเป็น Victimizer ที่ชอบการฆ่าคน ซึ่งเป็นอาการ PTSD ของเขา
แต่การเป็น Victimizer นั้นเป็นการทำลายคนรอบข้าง ทำลายคนอื่น เพราะฉะนั้นเดม่อนจึงรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชนะ เป็นผู้เหลือรอด เขาก็เลยรู้สึกโทษตัวเองว่าเป็นสาเหตุทำให้เกิดเหตุร้ายหรือรู้สึกผิดที่ตัวเองเอาตัวรอดหรือเหลือเป็นผู้รอดชีวิต เป็น Survivor guilt (เช่นเดียวกับเอเลน่า ที่โทษตัวเองเรื่องการตายของทุกคน) และ Survivor Guilt นี้ก็เป็น PTSD อีกอย่างหนึ่งของเดม่อน

PTSD ของเดม่อนค่อนข้างซับซ้อน อย่าเพิ่งงงกันนะทุกคนนนนน อธิบายง่ายๆเลยก็คือ:
การถูกพ่อ+แคธ abused manipulated  >> รากฐาน Victimizer
การเป็นหนูทดลองทางวิทยาศาสตร์ >> ทวีความเป็น Victimizer จนเข้าขั้นวิกฤต ทำให้เขาชอบฆ่าคน(อย่างในปัจจุบัน)
การทิ้งเอนโซ่ หนีเอาตัวรอดคนเดียว >> Survivor Guilt รู้สึกผิด
การชอบฆ่าคน >> ทวีความรู้สึกผิด Survivor Guilt

เดม่อนไม่อยากเป็น victim ทำให้เขาเลือกที่จะเป็น victimizer
แล้วพอเป็น vitimizer ฆ่าคน เขาก็รู้สึกผิดเป็น survivor guilt
แต่พอเป็น survivor guilt เขาก็รู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอ ตกเป็นเหยื่อ humanity ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังจะกลายเป็น victim
แล้วพอรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตกเป็นเหยื่อ เขาก็เลือกเป็น victimizer

วน loop แบบนี้ไปเรื่อยๆ

เหมือน ตัวเองกำลังจะตกเป็นเหยื่อ จึงคิดจะฆ่าคน แต่ก็รู้สึกผิดที่ทำให้เขาตาย แต่พอรู้สึกผิด ก็รู้สึกว่าความเห็นใจเป็นความอ่อนแอ รู้สึกว่าตัวเองกำลังตกเป็นเหยื่อความเห็นใจ เขาจึงคิดจะฆ่าคนอีก
แต่ PTSD การเป็น Victimizer ของเดม่อนนั้นรุนแรงมากเพราะถูกฝังรากลึกมาตั้งแต่เรื่องการเลี้ยงดู เรื่องพ่อ ทำให้เดม่อนหวาดกลัวการตกเป็นเหยื่อมากกว่า survivor guilt ดังนั้นเขาจึงฆ่าคนทั้งๆที่รู้สึกผิดมากๆ จึงเป็นที่มาของการ "เกลียดตัวเอง" และมองว่าตัวเอง "Bad" มองว่าตัวเองเป็นคนเลว
แล้วก็ใช้หน้ากากอารมณ์ขันกวนประสาทปกปิดความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้

เพราะฉะนั้น Damon Salvatore จึงเป็นคาแรกเตอร์ที่มี Conflict ในตัวเองสูงมากกกกกกกก (ยังมี conflict เรื่องเอเลน่าอีกนะ อ่านต่อนะจ๊ะ)

เพราะไม่อยากรู้สึกเป็นเหยื่อของ Humanity ความอ่อนแอ ทำให้เดม่อนสร้างกำแพงระหว่างตัวเองกับคนรอบข้างสูงมากกกกกกกกกกก แถมหนาและแข็งมากๆๆๆๆอีกต่างหาก ทำลายยากสุดๆ เขาปกปิดความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง ซ่อนความรู้สึกอ่อนแอ ซ่อน Humanity ของตัวเองภายใต้หน้ากากที่เรียกว่า "อารมณ์ขันกวนประสาท" "humor"

ต่อจากข้างบนที่บอกว่าเดม่อนเกลียดตัวเอง และมองว่าตัวเองเลวนั้น "ทำให้เขารู้สึกไม่เข้าใจว่า ทำไม เอเลน่าถึงรักเขาได้?" (TVD เลือกเพลงได้ตรงกับคาแรกเตอร์เดม่อนมาก Don't deserve you ของ Plumb ตรงกับความรู้สึกของเดม่อนสุดๆ)
นอกจากนี้ การที่เดม่อนเกลียดตัวเอง "ยังทำให้เขารู้สึกไม่แน่ใจว่า สักวันเอเลน่าจะเลิกรักเขารึเปล่า?" ดังนั้น เดม่อนจึง Insecure สุดๆในเรื่องของความรัก เนื่องจากเดม่อนรู้จักแต่การให้ความรัก เคยมีแต่ประสบการณ์ความรักที่ไม่สมหวังเท่านั้น เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าการได้รับความรักตอบกลับมันเป็นยังไง

พูดง่ายๆเลยก็คือ เดม่อนกลัวว่าเอเลน่าจะทิ้งเขา ทำให้เดม่อนกังวลและทำตัวเป็น Perfect Boyfriend โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขามีสเตฟานเป็นตัวเปรียบเทียบอีกต่างหาก แล้วก็รู้ๆกันอยู่ว่าสเตฟานเป็นที่หนึ่งเสมอ ดังนั้นเดม่อนก็เลยไม่บอกเรื่อง Jeremy ถูกไล่ออกในตอน 5x01 ไม่บอกเรื่องสเตฟาน เพราะไม่อยากให้เอเลน่ากังวล และมองว่าเขา "Bad" ไปมากกว่านี้ แค่นี้เขาก็เกลียดตัวเองมากพอแล้ว

เดม่อนรักเอเลน่ามาก เป็นความรักแบบถวายให้ทั้งชีวิต เป็นความรักอันตรายแบบทำลายตัวเอง
นอกจากความเอาใจใส่ของเธอแล้ว เพราะอะไร? ทำไมเดม่อนถึงรักเอเลน่าได้ขนาดนี้?

เพราะว่าทั้งๆที่เดม่อนเกลียดตัวเองและมองว่าตัวเอง Bad แต่เอเลน่ากลับมองเห็น Good ในตัวเขา

ดังนั้นเขาจึงรู้สึกมีความหวังที่มีคนเชื่อมั่นในตัวเขาว่าเขาจะออกจากความมืดได้ถ้าได้รับการช่วยเหลือ
แต่แล้วความหวังนั้นก็ต้องสั่นคลอน เมื่อเอนโซ่เป็น reminder ความเป็น victimizer และ survivor guilt ว่าเดม่อนทำลายเขาแค่ไหน ดังนั้นเดม่อนจึงกลัวว่าเขาจะทำลายเอเลน่าแบบเดียวกับที่เขาทำลายเอนโซ่ แบบเดียวกับที่เขาทำลายทุกๆคนรอบข้าง เขากลัวว่าแทนที่เขาจะกลายเป็น good เอเลน่าต่างหากที่จะเป็นฝ่ายกลายเป็น bad แทน
เดม่อนไม่รู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนแปลงอะไรเลย เขาไม่มี good อะไรทั้งนั้น ยังคงเป็นปีศาจเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่ในขณะเดียวกัน เขากลับรู้สึกว่าเอเลน่าเปลี่ยนไป เอเลน่ายอมรับเรื่องร้ายๆที่เขาทำทั้งๆที่ถ้าเป็นในอดีตเธอจะต้องโวยวายต่อว่าเขาแล้วแท้ๆ ดังนั้นเดม่อนจึงเลือกที่จะเดินจากเธอมาใน 5x10 เพราะเขาไม่อยากเปลี่ยนเธอและกลัวว่าเขากำลังทำลายเธออยู่

**ต่อความเห็นข้างล่างนะคะ ><
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่