ปฏิวัติ ๒๕๔๙ ความรู้สึกต่อระบบยุติธรรมเปลี่ยนแปลงเมื่อมีแนวคิดปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งคุณมีความเห็นกับระบบผลิคแพทย์อย่างไร

นับแต่หลังการปกครองด้วยปชต 2475 ปชชไทยล้วนเคารพศัทธาในระบบความยุติธรรม โดยเฉพาะระบบศาลสถิตยุติธรรมแม้ว่ากระบวนการบางอย่างจะไม่เข้าถึงปชชก็ดี หลังปฏิวัติ2549 รธน 2550 นำพาท่านผู้ตัดสินความบ้านเมืองมาเป็นองค์กรอิสระในรธน และแล้วความรู้สึกเดิมๆ ก็เปลี่ยนไป   บัดนี้ แนวคิดการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งโดยไม่ผ่านกระบวนการ ปชต มีคณบดีคณะแพทยศาสตร์ถึง ๘สถาบันออกมา แสดงเสียงสนับสนุนแนวคิดนี้ ก่อเกิดกระแสความเห็นต่อ ท่านคณบดี ทั้ง๘สถาบันพอสมควร แต่กระทั้น ปชชผู้มีวิจารณญาณยังสามารถแยกแยะออกได้ว่า นี่เป็น ความเห็นของปัจเจกบุคคล ของคนที่มีตำแหน่งคณบดีใช่หรือไม่ หรือ ทุกสถาบันได้รับฉันทานุมัติจากคณาจารย์ เจ้าหน้าที่นักศึกษาจากทั้ง๘สถาบันแล้วหรือ กระนั้นการได้รับ ฉันทานุมัติจจาก คนทั้ง๘องค์กร จะสามารถก้าวข้าม รัฐธรรมนูญแห่งประเทศไทย ฉบับที่ใช้ในปัจจุบัน หรือ
  เรียนเชิญทุกท่าน แสดงความเห็นได้ ภายใต้กรอบจริยธรรม กฏกติก รัฐธรรมนูญแห่งประเทศไทยฉบับปัจจุบัน
   ขอแสดงความนับถือ
ปล  จากวันที่ ท่านคณบดีทั้ง๘สถาบันออกแถลงการณ์สนับสนุนการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง สื่อ แม้กระทั่งนายแพทย์สามัญที่ไม่มีตำแหน่งบริหารได้ออกมา แสดงความเห็นและคำถามเชิงสงสัยในความสุจริต โปร่งใสของท่านคณบดีทั้ง 8องค์กรนี้
  ยังดีที่สังคมยังไม่ได้สรุปเหมาเข่งว่าแพทย์ทั้งระบบ น่าสงสัยแบบท่านคณบดีไหด้วย แต่ในไม่ช้า ระบบผลิตแพทญคงจะต้องตกไปสู่กระแสการวิพากษ์วิจารณื เฉกเช่นเดียวกับระบบศษลที่ผ่าน มาตั้งแต่มีการใช้รัฐธรรมนูญ2550
  ข้าพเจ้ามีความกังสลห่วงใยต่อสังคมไทย ที่นับวัน จะหาสถาบันที่ปชช เคารพ ไว้เนื้อเชื่อใจได้น้อยลงๆๆๆๆข้าพเจ้าหวังว่าความกังวลห่วงใยนี้จะไม่เป็นจริงทั้งปัจจุบันและอนาคต หากเป็นจริง การทำงานระบบแพทย์ คงจะมีปัญหาด้านการสื่อสารมากขึ้นเพราะระบบการรักษาพยาบาลนั้นยังพึ่งความศรัทธาในแพทย์จากผู้ป่วยมากอยู่