"เจ้าคุณพิพิธ" เตือนสติ ตลก.ศ.รธน. และ ผู้ชักใยเบื้องหลัง "4 หยุด" พาประเทศพ้นวิกฤต

กระทู้คำถาม
มติชนรายวัน 28 เมษายน 2557

ต่อกรณีการรับนิมนต์ศาลรัฐธรรมนูญ และบรรยายธรรมล่าสุด

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม บอกว่า ได้ถามศาลรัฐธรรมนูญเหมือนกันว่าทำไมถึงเลือกอาตมา ศาลก็บอกว่าเมื่อเลือกพระแล้วก็พิจารณาเห็นว่าท่านเป็นกลางที่สุด จึงลงมติเลือกท่าน และให้บรรยายเรื่องหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ อาตมาจึงบอกว่าเพื่อความเป็นธรรม ถ้าประเทศชาติจะยุติลงได้คือ
1.ท่านหยุดคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก
2.หยุดบอกว่าฝ่ายตนเป็นผู้จงรักสถาบัน
3.หยุดกัดกันเหมือนสุนัข
4.หยุดชักใยในที่แอบแฝง

อาตมาก็ถามว่า 4 ข้อนี้เป็นจริงและยุติธรรมไหม

"ต้องหยุดว่ามีแต่ฝ่ายตนถูก ฝ่ายตนเป็นผู้จงรักภักดี เพราะจะเป็นการบดขยี้อีกฝ่ายหนึ่งว่าไม่จงรักภักดี ซึ่งเป็นข้อหาที่คนไทยปวดร้าวและเกิดความคิดหลายอย่าง ลักษณะแบบนี้คือดึงฟ้าต่ำ ซึ่งไม่มีคนไทยคนไหนไม่รักสถาบัน

"นอกจากนี้ให้หยุดกัดกันเหมือนสุนัข และหยุดชักใยแอบแฝง ที่ปวดร้าวที่สุดว่ารัฐธรรมนูญปี 2550 เกิดขึ้นเพราะอะไร เกิดจากการปฏิวัติ และใครเป็นประธานการร่างรัฐธรรมนูญ ทุกคนคงทราบ แต่ขณะนี้ประธานการร่างรัฐธรรมนูญกลับมาโยงใยเบื้องหลังการก่อม็อบ ประเทศชาติจึงหายนะ ประเด็นสุดท้ายจึงให้ผู้โยงใยทุกคนเลิกพฤติกรรมนี้เสีย ซึ่งเมื่อก่อนไม่มีใครไม่รู้ แต่วันนี้ก็มีการแฉหมดแล้ว ทั้งข้าราชการภายใน ฝ่ายการเมือง ควรละอาย เพราะรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องอยู่ภายใต้แม้อาตมาเองก็ตาม

"รัฐธรรมนูญฉบับนี้เกิดขึ้นแล้ว แต่คนส่วนใหญ่ก็ต้องการเปลี่ยนแปลงเพื่อกลับทำมาหากินถ้าไม่เปลี่ยนแปลง เขาก็ทำมาหากินไม่ได้ เขาต้องไปแก้กฎหมาย แล้วอยู่ดีๆ คนทำรัฐธรรมนูญกลับมาบอกว่าไม่ให้ใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้โดยให้ปฏิรูปการเลือกตั้ง แล้วถามว่าเลือกตั้งใครกำหนด ใครสร้างกระบวนการ ใครสร้างละเอียดถี่ยิบ ยิ่งทำให้ผู้คนงง"

แน่นอน สิ่งที่เจ้าคุณพิพิธพูดถึงเรื่อง "กติกาการเลือกตั้ง" ก็คือสิ่งที่คณะฝ่ายคณะรัฐประหารปี 2549 ซึ่งได้เลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญ เป็นผู้กำหนด

เจ้าคุณพิพิธบอกว่า ถ้าหยุด 4 ข้อนี้ได้ บ้านเมืองก็จะพ้นจากความขัดแย้งแตกแยก ซึ่งสำคัญที่สุดที่อยากเน้นก็คือข้อที่ 4 คือ ผู้ชักใยหรือแอบแฝงอยู่ ไม่ว่าจะฝ่ายไหนควรจะมีความละอายและหยุดได้แล้ว เพราะถ้าไม่มีความละอายแล้วคุณทำต่อไป สุดท้ายแล้วถามว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทั้งสองฝ่ายก็หันหน้ามาปะทะกัน คนจน คนรับจ้าง คนที่ฝักใฝ่แต่ละฝ่าย ทหาร ตำรวจ ตายก่อนทุกที สุดท้ายแล้วก็ไม่เคยเห็นมีผู้นำตาย

"และที่สำคัญที่สุด ถ้าไม่มีการเลือกตั้ง ในเดือนพฤษภาคมนี้จะมีการจัดงบประมาณใหม่ เมื่อไม่มีรัฐสภาจะเกิดขึ้นได้อย่างไร จะเอานายกรัฐมนตรีจากไหนไม่รู้ ก็ไม่มีใครรับได้ หรือต่างประเทศอเมริกาก็ส่งสื่อมาว่าขอให้ประเทศไทยทำตามประชาธิปไตย หรือเยอรมันเองก็ก็ส่งสัญญาณมาทำนองเดียวกัน" เจ้าคุณพิพิธกล่าวเตือนสติ

อย่างไรก็ตาม การบรรยายธรรมที่ศาลรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา การเตือนสติให้องค์กรอิสระวางตัวเป็นกลาง เหมือนผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม จะรู้ว่าจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง โดยเฉพาะการถูก "ป้ายสี" แต่เพื่อ "เตือนสติ" ผู้คน ท่ามกลางความขัดแย้งของบ้านเมือง การอ้างตนเป็นฝ่ายถูก การอ้างตนว่ารักสถาบันกว่าใคร การกัดกันเหมือนสุนัข และการชักใยแอบแฝงอยู่เบื้องหลัง ท่านเจ้าคุณจึงต้องออกมาและวางตัว "เป็นกลาง" อย่างพระนักประชาธิปไตย

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1398692616&grpid=03&catid=&subcatid=
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่