[CR] อุทาหรณ์สำหรับการเลือกร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือ Dr. Sxxxxphone Thailand (24hrs)

ขอแชร์ประสบการณ์ของการรับบริการกับ Dr. Sxxxxphone Thailand (24hrs.)ค่ะ
เรื่องเกิดขึ้นจาก จขกท. ทำโทรศัพท์ Sony Xperia Z พังจากการที่นำไปทะเลแล้วน้ำทะเลเข้าเมื่อช่วงคริสต์มาส 2013 ที่ผ่านมาค่ะ เมื่อกลบัมาบ้านจึงค้นหาบริษัทหรือร้านซ่อมที่ดูน่าเชื่อถือจากกูเกิ้ลแล้วก็เจอบริษัทนี้ค่ะ มีออฟฟิศอยู่อโศกและรับบริการ 24 ชม. เราเลยคิดว่าโอเคจะลองไปดูหลังจากเปิดปีใหม่ เหตุการณ์แบ่งออกเป็น 3 ตอนหลักๆค่ะ

เหตุการณ์ที่ 1: วันที่ 3 มกราคม 2014
เราเดินทางไปถึงบริษัทนี้ที่อโศกแล้วพนง.ก็แจ้งกับว่าจะให้ช่างล้างเครื่อง ถ้าทำการเปิดแล้วใช้ได้ตามปกติจะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆค่ะ ประมาณ 1 ชม. เราก็โอเคนั่งรอและดูช่างทำงานไป แล้วพนง.ก็เอาใบรับเครื่องมาให้เราเซ็นว่าเป็นการล้างเครื่อง ผ่านไปเกือบชม. พนง.กับช่างก็บอกเราว่ามีจุดนึงที่บอร์ดช็อตและอาจจะมีตรงอื่นอีกต้องขอเวลาเช็กเพิ่มซึ่งหน้าจอก็อาจจะพังด้วย แล้วก็ให้เราดูตัวเครื่องที่แกะและชี้จุดที่ช็อต เราก็เหรอ พนง.คนเดิมก็ตอบว่าทางเราจะติดต่อกลับไปว่ามีอะไหล่มั้ยราคาน่าจะประมาณ 4900บาท ถ้าไม่มีอะไหล่และลูกค้ายังต้องการซ่อม ทางเรากำลังจะเดินทางไปจีนเพื่อดูอะไหล่เพิ่มเราอาจจะหาอะไหล่กลับมาให้ได้ หลังจากวันนั้นก็ไม่ได้รับการติดต่อใดๆค่ะ

เวลาผ่านไปเกือบอาทิตย์เราเลยติดต่อกลับไปเองอีกว่าตกลงเป็นยังไงบ้าง พนง.คนเดิมก็บอกว่าช่างบอกว่าต้องเปลี่ยนเมนบอร์ดและหน้าจอก็พังค่ะ ราคา 6500ก็คงเอาไม่อยู่เลยไม่แนะนำให้ซ่อม และต่อให้ซ่อมไปก็ไม่รับประกันว่าจะใช้ได้นานแค่ไหน แนะนำให้ลูกค้าซื้อใหม่ดีกว่าค่ะ และถ้าลูกค้าต้องการเครื่องใหม่เราอาจจะให้ราคาที่ถูกกว่าให้ลูกค้าได้ เราก็เริ่มทำใจว่าคงต้องซื้อใหม่เพราะมันก็ไม่คุ้มกันจริงๆ เราเลยถามราคาเครื่องใหม่ พนง.ตอบว่าขอเช็กราคาแล้วเดี๋ยวจะติดต่อกลับไปซักครู่ ผ่านไปเกือบสองชม.ก็ไม่ได้ติดต่อกลับมา สุดท้ายเราก็ต้องโทรไปถามราคาเองอีก แล้วก็เลยถามต่อว่าช่วยถามช่างให้ได้มั้ยคะ ว่าจะพอกู้ข้อมูลรูปภาพหรือคอนแท็กอะไรให้เราได้มั้ย เพราะเราไม่ได้แบ็กอัพอะไรไว้ นางก็ตอบว่าได้ค่ะ แล้วเดี๋ยวจะถามช่างและแจ้งรายละเอียดว่ามีค่าใช้จ่ายเท่าไร ภายในบ่ายสองโมงวันนี้ค่ะ ...ทายสิคะ โทรกลับมามั้ย คำตอบคือไม่ค่ะ แล้วเราก็ทำนู่นทำนี่เลยไม่ได้โทรกลับไป...

เหตุการณ์ 2: วันที่ 15 มกราคม 2014
เราโทรกลับไปถามค่ะ ว่าตกลงเป็นยังไง นางตอบว่าช่างบอกว่าไม่สามารถกู้ข้อมูลใดๆได้ค่ะ แล้วตอนนี้ทางเราได้นำโทรศัพท์ไปซ่อมที่เมืองจีนให้ ...ถึงจุดนี้ งง เงิง คืออะไร เอาโทรศัพท์เราไปจีน เราบอกเหรอว่าจะซ่อม แล้วขออนุญาตเราแล้วเหรอ... เราตอบกลับไปแบบช็อกว่า อ้าวววว นี่คือไปจีน? แล้วยังไง? นางตอบกลับมาว่า ใช่ค่ะ แล้วก็พูดอะไรไม่รู้วกไปวนมา คุยไม่รู้เรื่อง เราเลยถามว่าแล้วเราจะได้โทรศัพท์คืนเมื่อไร นางตอบว่าทางช่างจะกลับมาวันที่ 22 มกราคมค่ะ แล้วถ้าซ่อมได้หรือไม่ได้ยังไง เราจะแจ้งค่าใช้จ่ายกลับไปอีกทีค่ะ ...เราทำอะไรได้ป่ะคะ? ถึงตอนนี้เราก็ทำได้แค่รอ เราก็เล่าให้แม่ฟังว่าอยู่จีน แม่เราก็อ่าวแล้วจะรู้มั้ยว่าเปลี่ยนอะไร ทำอะไรกับเครื่อง? ก็ทำได้แค่อดทนรอค่ะ...

วันที่ 23 มกราคม 2014
นางโทรกลับมาบอกว่าทางบริษัทได้ซ่อมโทรศัพท์ให้แล้วค่ะ โดยมีค่าใช้จ่าย 5900 บาท
...ห๊ะ อะไรนะ แล้วมันต่างจากซ่อมที่ไทยยังไง... เราก็เริ่มออกอาการไม่พอใจมากค่ะ ตอนนี้เราเลยถามกลับไปว่าเราบอกให้ซ่อมเหรอ ขออนุญาตเราแล้วเหรอ แล้วเอาโทรศัพท์เราไปจีนอีกนี่คืออะไร ตอนนี้นางก็เริ่มมาเงิบใส่ค่ะ ว่า อ่าวทางเราคิดว่าลูกค้าให้เราดำเนินการซ่อม คงเป็นการเข้าใจผิด เราเลยถามต่อว่าแล้วทำไมวันที่ถามเรื่องกู้ข้อมูลไม่โทรกลับมาตามงาน แล้วถือวิสาสะซ่อมเครื่อง แล้วราคามันต่างกันตรงไหน นางก็ถามว่าแล้วตอนนี้ลูกค้าต้องการอะไร เราเลยบอกว่าเดี๋ยวเราขอคุยกับแม่แล้วจะติดต่อกลับไป แล้วเราก็เลยให้แม่เราโทรไปคุย เพราะเราไม่ได้อยู่ในสภาพคุยกับใครในตอนนั้นมากค่ะ หงุดหงิดสุดๆ สุดท้ายแม่เราก็โทรไปคุยว่านี่คุณรู้ใช่มั้ยว่าเป็นความผิดคุณ แล้วคุณก็ไม่รับประกันว่าหลังซ่อมจะใช้ได้แค่ไหน แล้วราคานี้มันต่างจากราคาตอนแรกยังไง อีกอย่างคุณก็ไม่แนะนำให้ซ่อม นางก็ตอบแม่เราว่าทราบว่าเป็นความผิดนาง แม่เลยถามต่อว่างั้นคุณลดราคาให้ได้มั้ยล่ะ นางก็บอกว่าราคาจอมาแพงค่ะคงลดไม่ได้แต่ขอไปคุยกับเจ้านายก่อนแล้วจะติดต่อกลับไป แม่เราก็เลยตอบต่อว่าโอเคคุณไปคุยกับนายคุณมา หรือยังไงคุณก็เปลี่ยนอะไหล่เก่ากลับมา

วันรุ่งขึ้น 24 มกราคม 2014
ไม่มีการติดต่อมาค่ะ จนตอนบ่ายแม่เราโทรกลับไปถามว่าตกลงเจ้านายคุณรับรู้เรื่องนี้แล้วใช่มั้ย คำตอบที่ได้ “ค่ะ เจ้านายทราบแล้วค่ะ ลูกค้ามารับโทรศัพท์คืนได้เลยค่ะ ทางเราไม่ได้ทำการซ่อมใดๆให้ลูกค้าค่ะ”
…กลับไปอ่านบทสนทนากับเราของวันที่ 23 มกราคม 2014 อีกรอบได้นะคะ ตกลงซ่อมป่ะ ตะวันตกดินไปแค่หนึ่งวัน คำพูดเปลี่ยนเลยนะ... ถึงตอนนี้ความน่าเชื่อถือของบริษัทนี้หมดไปจากเราเรียบร้อยเลยค่ะ เราก็ได้แต่ทำใจแล้วโอเคจะไปรับโทรศัพท์คืน

เหตุการณ์ที่ 3: วันที่ 28 มกราคม 2014
ไปรับโทรศัพท์คืนค่ะ เราให้เพื่อนเราเข้าไปเอาให้ เพราะเราไม่อยากเสียเวลาคุย สิ่งที่ได้กลับมาค่ะ



***จอแตก คืออะไร???*** พอเห็นเท่านั้นล่ะค่ะ เราเดินกลับเข้าไปบริษัทเองแล้วคุยกับนางเดิมว่า นี่คืออะไร นางบอกว่าเกิดจากตอนที่เปลี่ยนอะไหล่ให้ลูกค้า เราเลยถามไปว่าเราบอกเหรอให้ซ่อม แล้วนี่ยังทำจอเราแตกอีกคืออะไร ก่อนหน้านี้มันพังอยู่ก็จริง แต่นี่คุณทำของชั้นพังกว่าเดิมคืออะไร ทำงานยังไง
นางก็ตอบได้แค่ว่าก็คิดว่าลูกค้าต้องการซ่อม
เราเลยตอบไปว่า อย่าคิด ถามสิ ทำงานบริการไม่ตามงาน ไม่โทรมาถาม แล้วไม่ขออนุญาต วันนึงบอกซ่อมให้แล้ว อีกวันบอกไม่ซ่อม ตกลงยังไง ซ่อมหรือไม่ซ่อม
นางก็พูดจาไม่รู้เรื่อง ก็บอกแค่ว่าทางเราสามารถเปลี่ยนจอใหม่ให้ได้แต่ลูกค้าต้องเสียค่าอะไหล่ เราไม่คิดค่าแรง ...นึกในใจ ควายคะ เปลี่ยนทำไมเมนบอร์ดก็พัง เสียค่าจออย่างเดียวเพื่ออะไร... เราเลยตอบไปก็แนะนำเองไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้ซ่อม และไม่รับประกัน เอาเจ้านายมาคุยเถอะ ต้องมีคนรับรู้อะไรหน่อยละ

ไคลแม็กซ์ของเรื่องทั้งหมดอยู่ที่การพูดจาและการแสดงความรับผิดชอบของเจ้านายค่ะ
นางก็ต่อโทรศัพท์ให้คุยกับเจ้านายนางซึ่งไม่น่าจะเคยอยู่ออฟฟิศค่ะ บทสนทนาหลังจากนี้เป็นภาษาอังกฤษเพราะเจ้านายนางเป็นฝรั่งค่ะ แล้วนางก็ส่งโทรศัพท์มาให้เราคุยค่ะ สรุปคร่าวๆค่ะ นี่คือคำพูดจากปากเจ้านายค่ะ
“แล้วคุณจะเอายังไง คุณมาหาเรา เราเป็นบริษัทซ่อม คุณหวังจะได้อะไรกลับไปล่ะ เราก็ซ่อมให้คุณ แล้วคุณก็ไม่โอเคกับราคาเรา เราก็เปลี่ยนของคุณที่มันพังมาคืนให้คุณ แล้วจะเอายังไงอีก ตอนซ่อมเราแกะหน้าจอไม่ได้ เราก็ต้องแคร็กมันออกมาสิ ลองไปดูมาบุญครองสิ คุณหาถูกกว่านี้ไม่ได้แล้ว จะมีปํญหาอะไรอีก ไม่พอใจคุณไปก็ไปแจ้งความสิ ผมรู้สิทธิ์ของผม อยากได้อะไรก็พูดมา”
…ตลอดการสนทนาของเรา เราพยายามจะถามว่ารู้มั้ยว่าลูกน้องคุณไม่ได้รับอนุญาตเรื่องซ่อม และลูกน้องคุณแนะนำอะไรชั้นมา นี้ถือว่าทำหน้าที่โดยพลการมาก และเราไม่คิดว่าคนที่เป็นเจ้ของธุรกิจการบริการจะพูดจากับลูกค้าแบบนี้มากเลยค่ะ…
เราก็พยายามพูดแทรกตลอดเวลา แต่ก็โดนฮีสวนอยู่ตลอดแบบไม่ได้ฟังคำพูดเราเลยค่ะ เราถามว่าคุณแน่ใจเหรอว่าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ คุณบริกาณลูกค้าแบบนี้มันถูกเหรอ สิ่งที่ฮีตอบค่ะ “อ่ะ แล้วยังไงก็ไปอ่านรีวิวดีๆที่ชมบริษัทเค้าสิมีเยอะแยะไป”
ก็เพราะชั้นอ่านรีวิวนี่แหละ เลยตัดสินใจเลือกที่นี่ และไม่คิดว่าจะเจอการบริการแบบนี้ สุดท้านค่ะ ฮีมาบอกว่า “โอเคยอมรับเรื่องนำโทรศัพท์ไปซ่อมที่จีน ส่วนที่พังอยากให้เปลี่ยนจอที่น้ำเข้าแต่ไม่แตกคืนใช่มั้ยเอาอย่างนี้ใช่มั้ย” เราก็ตอบไปว่ามันเข้ามายังไงตอนก่อนหน้านี้ ก็ต้องออกไปแบบนั้น สิ่งที่ฮีพูดตอบกลับมาคือ “อืมก็แค่นั้น ขอเวลาหาจอที่น้ำเข้ามาเปลี่ยนคืนให้แล้วกัน ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคุณต้องทำให้เป็นปัญหา” … มาถึงประโยคสุดท้ายของนายนี่ค่ะ ที่ทำเรายิ่งกว่าหมดความอดทนในการคุย คิดว่าเป็นเจ้าของแล้วจะหยิ่งทะนงในการบริการขนาดนี้มันถูกเหรอคะ? เราตอบไปแค่ WHATEVER F*** YOU แล้วเดินออกมาเพราะเราไม่คิดว่าบริษัทแบบนี้คุ้มค่าแก่การทำการบริการใดๆให้ลูกค้าจริงๆค่ะ

สรุปค่ะ
1.    เราไม่ได้รับคำ “ขอโทษ”แม้แต่คำเดียว ไม่ว่าจากใครก็ตามในบริษัทนี้ค่ะ สิ่งเดียวที่ได้กลับมาคือพนง.ชอบคิดเอง เจ้าของต่อว่าลูกค้าเหมือนคิดว่าเราจะมาโกงเปลี่ยนฟรี
2.    พนง.ของบริษัทไม่มีความซื่อสัตย์และความจริงใจต่อลูกค้าค่ะ งานใดๆก็ตามถ้าขาดสิ่งเหล่านี้ก็อย่าไปทำธุรกิจด้วยกันเลยค่ะ เสียความรู้สึก เรื่องราคาไม่ใช่ประเด็นหลักของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เป็นเรื่องของงานบริการและความรับผิดชอบของพนง.และเจ้าของค่ะที่เป็นปัญหา
3.    เจ้านายเคยทราบการทำงานและการติดต่อลูกค้าของลูกน้องรึเปล่า?
4.    คุณทำงานบริการ ต่อให้ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้า คุณก็ควรรับมือปัญหา คอมเพลนต่างๆได้ดีกว่านี้ค่ะ แสดงความรับผิดชอบและพูดจาให้ดีกว่านี้ค่ะ คุณขาดจริยธรรมของคนบริการมากค่ะ โดยเฉพาะการที่คุณเป็นเจ้าของบริษัท
5.    ขอให้ธุรกิจ “เจริญๆ” ค่ะ Dr. Sxxxxphone Thailand (24hrs) อโศก

ขอบคุณทุกคนที่ร่วมแชร์ประสบการณ์ของเราค่ะ

อัพเดทเรื่องราวเล็กน้อยค่ะ (1.02.2014)



ทุกเรื่องราวก็มีมากกว่า 2 ด้านค่ะ แล้วแต่ว่าคุณเลือกที่จะรับมือและแก้ไขปัญหาอย่างไร
ปล. ใครเป็นลูกค้าใคร ใครต้องติดต่อใคร กลับไปสำเหนียกให้ดีก่อนพูดอะไรออกมาค่ะ แค่คำพูดจากเจ้านายคุณก็จบแล้วค่ะ
ขอบคุณสำหรับการบริการค่ะ

อัพเดทสถานการณ์ หลังจากโดน Pantip Wave กระหน่ำ facebook page ของร้านนะคะ
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 18.07 น.
ทางเจ้าของได้โทรมาหาเราค่ะ โดยคราวนี้ค่อนข้างจะเข้าใจในสถานการณ์ที่ร้านตัวเองกำลังเผชิญนะคะ
บทสนทนาทั้งหมดมีอยู่ว่า ทางตัวเจ้าของก็มาแนะนำตัว แล้วก็พูดว่าเข้าใจแล้วว่าเราโกรธขนาดไหน (หัวเราะแหะๆใส่เล็กน้อย)
แล้วบอกว่าทางตัวเค้านั้นไม่ได้ทราบว่าเรื่องเป็นมายังไงและตัวเค้าเองเป็นคนที่นำมือถือเราไปซ่อมที่จีนและนำกลับมา
เราจึงได้บอกกลับไปว่าก็ อืมมมม แล้วทำไมวันนั้นไม่ฟังสิ่งที่เราจะพยายามอธิบายว่าคนของคุณทำงานอย่างไร
เค้าก็ตอบกลับมาว่า เค้าเหนื่อยจากการเดินทางเลยไม่ได้พยายามทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และพนง.ผู้หญิงคนนั้นคือคู่หมั้นของเค้าเอง และขอยอมรับว่าเป็นการทำงานที่ไม่ดีและคู่หมั้นเค้าก็ค่อนข้างเครียดที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น
เราจึงตอบกลับไปว่า เหตุผลที่เราสร้างกระทู้นี้ขึ้นมา เพราะว่าเราไม่พอใจกับวิธีรับมือและตอบคำถามเราในวันนั้นทางโทรศัพท์
เค้าจึงตอบกลับมาว่า เค้าเป็นคนที่พูดจาสไตล์นั้น ซึ่งคนรอบตัวเค้ารู้ดี เค้าจะขอยื่นเสนอให้เรา โดยการซ่อมให้ฟรี
เราก็รับฟัง แล้วเค้าก็ถามว่าเค้ามาคุยและอธิบายเหตุการณ์ทุกอย่างที่ออฟฟิศได้มั้ย และถ้าโอเคที่จะให้เค้ารับผิดชอบซ่อมให้ก็ขอเวลาอีก 3-4 วันในการซ่อม เราก็ตอบว่า ก็ไปเจอแล้วคุยกันอีกทีเรื่องรายละเอียดต่างๆ วันจันทร์นี้ตอนบ่ายค่ะ

ปล. จนถึงตอนนี้ก็แล้วทุกคนก็พิจารณาและตัดสินใจเรื่องการบริการและรับผิดชอบของร้านนี้กันเองดีๆนะคะ แล้วจขกท.จะมาอัพเดทเรื่องต่างๆต่อไปให้ทราบค่ะ ขอบคุณPantip Waveในการเรียกร้องสิทธิ์และความรับผิดชอบค่ะ

อัพเดทเหตุการณ์ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2014 นะคะ
วันนี้ได้เข้าไปคุยและตกลงเรื่องเหตุกาณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนะคะ ขอสรุปเลยละกันนะคะ
เราได้รับคำขอโทษอย่างเป็นทางการจากทั้งเจ้าของและพนง.ทั้งสองคนนะคะ และทางเจ้าของชี้แจงว่าตกลงแล้วหน้าจอแตกเพราะช่างที่จีนทำตกค่ะ และขอแสดงความรับผิดชอบด้วยการซ่อมทั้งหมดให้โดยไม่คิดค่าบริการใดๆค่ะ

อัพเดทตอนจบของเรื่องนี้นะคะ เมื่อวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2014 เราได้กลับไปรับน้องโซนี่กลับมาแล้วนะคะ ตอนนี้ก็อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเหมือนเคยแล้วค่ะ ขอบคุณทุกคนที่ช่วยเป็นกำลังใจและแสดงความคิดเห็นนะคะ ร้องไห้
ชื่อสินค้า:   Sony Xperia Z
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่