สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นบอกก่อนเลยว่า ร้านกาแฟอยู่พระประแดง สมุทรปราการ ออกแนวจะบ้านๆทำเป็นร้านกาแฟอินดี้
ชงกันเอง ไม่ได้หวังผลกำไรมากมาย หรือเป็นธุรกิจยิ่งใหญ่ ทำด้วยใจล้วนๆเลยค่ะ ร้านเริ่มทำเมื่อประมาน 7 เดือนที่แล้วค่ะ
โดยเดิมบริเวณนี้เป็นออฟฟิศขายบ้านของหมู่บ้านนึงอยู่ค่ะ เมื่อเขาขายหมดแล้วเขาก็ปล่อยทิ้งรกร้างอยู่นาน
คนเดินผ่านไปผ่านมาก็โยนขยะทิ้งเป็นว่าเล่น ด้วยความที่ ที่บริเวณนี้อยู่ใกล้บ้านมาก (เดินมาทำงานทุกวันอ่ะค่ะ)
เห็นกันอยู่ทุกวันแต่ก็ยังไม่เกิดไอเดียอะไรกัน แต่มีอยู่วันนึงคุณแม่เริ่มอยากให้มีธุรกิจ
ส่วนเรื่องตัวอาคารและที่บริเวณนี้เป็นของเพื่อนคุณพ่อค่ะ เลยได้จังหวะมาทำร้านกาแฟ
เพราะเพื่อนคุณพ่อไม่อยากให้ปล่อยรกร้างนานๆ แต่เริ่มแรกบอกก่อนเลย
ตัวเราไม่เคยสนใจที่ตรงนี้เลยเพราะคิดว่ามันรกร้างขนาดนี้ ทำไม่ไหวแน่ๆ ไม่เวิคแน่ๆ ไม่มีความรู้ด้านการชงกาแฟ กินอย่างเดียว
ขนมเค้กก็ทำเป็นแค่อย่างสองย่างแต่ตัวคุณพ่อนี่ดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ ส่วนหัวด้านการตกแต่งก็พอมีไม่มาก
ตกแต่งตามสไตล์พ่อแม่ลูก รู้แต่ว่าใจรักที่จะทำ และก็พอมีเวลาอยู่แล้วเพราะเรียนนิติศาสตร์ รามคำแหง
ก็ไม่ค่อยได้ไปเรียนส่วนมากก็ใช้เวลาอ่านหนังสืออยู่ที่บ้าน แล้วก็ไปสอบ โชคดีที่คุณพ่อคุณแม่ก็สนับสนุน
ในการทำร้านกาแฟด้วยค่ะ อาจจะเพราะคงไม่อยากให้ทิ้งเวลาว่างไปเปล่าๆ อยากให้ลองทำงานลองหาเงินเอง
ว่ามันหาลำบากแค่ไหน (ลำบากจริง) และที่สำคัญอยากทำตามความฝันของพวกเราสามพี่น้องด้วยค่ะ
เลยตกลงกันว่าลองดูสักตั้งคงไม่เป็นไร ลองไปดูรูปตอนแรกๆด้วยกันนะคะ

(นี่คือบริเวณทางเข้าร้านค่ะ สังเกตได้จากประตูไม้ตอกชั่วคราวที่ทำไว้เพื่อสร้างอาณาเขตกันนะคะ 55555
รั้วไม่มีมีแต่ต้นไผ่ ตอนมาครั้งแรกจขกท.แอบช็อคจริงค่ะ แต่ขอบอกเลยว่านี่สะอาดขึ้นเยอะแล้วเพราะขนขยะทิ้งไปสองคันรถแล้วค่ะ)

(ส่วนนี้คือตัวอาคารค่ะ เขาทาไว้เป็นสีส้มเลย คุณพ่ออยากให้เป็นสีขาวเลยต้องทาใหม่หมดเลยค่ะ)


(มองจากฝั่งตรงข้าม กับ ทางเข้าภายในตัวบ้านค่ะ)


(พอเข้าไปข้างในจะแบ่งเป็น 2 ห้องค่ะ รูปแรกคือถ่ายจากข้างในไปข้างนอก,
รูป2คือถ่ายจากข้างนอกไม่ห้องข้างใน,
จริงๆแล้วกระจกที่เห็นคือได้เปลี่ยนใหม่แล้วเพราะครั้งแรกสุดที่มากระจกโดนทุบแตกหมดเลยค่ะ
เลยต้องรีบเปลี่ยนเลยไม่ได้ถ่ายรูปไว้)
หลังจากตามแก้ปัญหาใหญ่ๆพวกสีของตัวอาคาร กระจก ก็จะเริ่มลงต้นไม้เพื่อจัดสวนค่ะ
จำได้ว่าไปซื้อที่ตลาดนัดต้นไม้เจเจ ใช้ต้นโมกข์เป็นรั้ว ผสมกับชาดัด พอดีมีต้นไผ่เป็นซุ้มสวยพอดีเลย
ในตอนแรกลงหญ้าเป็นพื้นในสวนแต่คิดไปคิดมาอนาคตการดูแลจะลำบากเพราะผ่านไปไม่กี่อาทิตย์ก็สูงแล้วค่ะ
เลยรื้อหญ้าออกลงหินแทนค่ะ (รูปที่ 3เป็นรูปสวนในปัจจุบันเลยค่ะ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาอากาศดีมากๆหนาวสุดๆเลยค่ะ)


เขยิบเข้ามาด้านในตัวร้านกันบ้างนะคะ บอกก่อนเลยว่าไม่ได้มีการวางแผนว่าจะทำด้านในทำด้านนอกทำส่วนไหนก่อน
หรือการจ้างสถาปนิกหรืออะไรทั้งสิ้น สมองพ่อแม่ลูกล้วนๆ ทำกันตามอารมณ์สุดๆแต่ก็ทำไล่ไปจบทีละส่วน ยอมรับว่ามีปากมีเสียงกันบ้าง
พ่อแม่อยากได้อย่าง ลูกอยากได้อีกอย่าง ก็มีต้องยอมๆกันไปบ้าง
อันนี้ภายในร้านตั้งใจทำในส่วนห้องด้านในเป็นห้องสมุดเพราะพี่สาวชอบอ่านหนังสือมาก
เลยมีหนังสือเยอะอยากเอามาแบ่งๆให้อ่านกันฟรีๆ
คุณพ่อกับพี่ชายแล้วก็เราก็ชอบเล่นกีต้าร์กัน ก็มีกีต้าร์มาไว้ให้ลูกค้าเล่น
ส่วนที่ทำเป็นโต๊ะประชุมใหญ่เพราะคุณแม่มีเพื่อนเยอะก็เลยคิดว่าไว้นัดรวมตัวกันได้ที่นี่
สังเกตได้ว่าทุกๆอย่างในห้องนี้เกิดจากความชอบของพวกเราห้าคน
ส่วนแสงไฟคุณพ่อเป็นคนเลือกเพราะรู้สึกอบอุ่นสีนวลๆชวนฝันดีจริงค่ะ 5555

เริ่มลงเฟอร์นิเจอร์ในห้องแล้วค่ะ จ้างประกอบเพราะว่าถ้าประกอบกันเองมีหวังได้ตีกันตายไปข้างนึงแน่ๆเลยค่ะ

นี่คือตอนประกอบเฟอร์นิเจอร์เสร็จเรียบร้อย ช่างประกอบเร็วมากค่ะไม่เกินครึ่งวันทั้งเก้าอี้โต๊ะตู้
ถ้าเราประกอบกันเองสามวันอาจไม่เสร็จ 555 แต่ยังไม่ได้เก็บรายละเอียดเรื่องไฟเลย รอดูนะคะ
มาแล้วจ้าาาาาาา

นี่คือตอนทำไฟเสร็จแล้วจ้าาาา ยกภูเขาออกจากออกหนึ่งลูก แสงนี้ดูอบอุ่นจริงๆนะคะ
เริ่มขนหนังสือเข้ามาลงแล้วด้วย ช่วงนั้นจำได้ว่านั่งอ่านนิตยสารหาแรงบันดาลใจเป็นร้อยเล่ม
ดึกดื่นเที่ยงคืนก็ยังฝังตัวอยู่ที่ร้าน เดินลูบกำแพงกันไป นี่ร้านเราจริงๆหรอ (เว่อร์อีกละ)

อีกมุมนึงค่ะ ติดม่านแล้วด้วย
เดินออกมามุมในสวนนอกบ้านอีกรอบนะคะ คราวนี้ทำที่นั่งด้านนอกตอนแรกเลยเป็นแค่โต๊ะธรรมดา
มีร่มกลางแต่พอฝนตก หรือแดดออกแรงๆนี่นั่งไม่ไหวจริงๆค่ะ สงสารลูกค้าที่สูบบุหรี่
ก็เลยมีแนวคิดเปลี่ยนจากโครงเหล็กธรรมดา เป็นบาร์สูงให้นั่งชิลชมสวน และทำปลั๊กไฟบริการไว้ทุกจุดเลยค่ะ
(สังเกตรูปแรกจะเห็นว่ายังไม่ได้เทปูนเพิ่มให้มีพื้นที่กว้างขึ้นนะคะ)


ภาพมุมกว้างออกมากอีกหน่อยค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่รอชมกันนะคะ ดีใจมากๆเลย
มาดูกันต่อค่ะ เมื่อร้านเริ่มเข้าที่ เริ่มมองภาพออกว่าจะมาในแนวไหน ก็เริ่มไปลงในรายละเอียดเล็กๆน้อย
พวกเครื่องชงกาแฟ(ราคาปาดเหงื่อกันเลยทีเดียว) ตู้แช่เค้ก ลงไอศครีม คิดสูตรแปลกใหม่
ร้านเริ่มเข้าที่เข้าทาง และเปิดร้านเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2556
กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ยอมรับว่าเหนื่อยมากกกกกกก แต่ก็สนุกมากเช่นกันค่ะ กับการหาไอเดียใหม่ๆหาเฟอร์นิเจอร์ที่ตรงใจ
ขับรถหากันรอบประเทศ หาพลิกแผ่นดิน มีปากมีเสียงกันบ่อยมาก กว่าจะมีวันนี้ ไปนั่งย้อนดูรูปเก่าๆไม่คิดว่าจะมาได้ไกลขนาดนี้
ลืมไปแล้วค่ะ ว่าทำร้านกาแฟ คิดว่าทำบ้านให้เพื่อนแวะมากินกาแฟ มาพูดคุยกัน รวมๆแล้วใช้เวลาทำ
เกือบๆสามเดือนค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังทำเรื่อยๆเหมือนมีไอเดียใหม่ๆก็ปรับไปเรื่อยๆ
ลูกค้ามักจะถามว่า อ้าว ปรับอีกแล้ว ,อ้าวเปลี่ยนอีกแล้วหรอ ตอบไม่ถูกเลยค่ะ สนุกที่ได้ปรับเปลี่ยน
ทุกๆสิ่งเกิดจากความชอบและรักในสิ่งที่ทำจริงๆค่ะจะทำอะไรขอให้มีความสุขกับมันอยู่ก็พอแล้วค่ะ
แวะมาหากันได้นะคะ ยินดีต้อนรับเสมอ ไม่ซื้อก็ไม่เป็นไรมาทักทายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
กันได้เสมอ และที่ร้านก็มักจะมีกิจกรรม Sunday Activities จัดเกือบทุกวันอาทิตย์ค่ะ
มาเป็นนายแบบนางแบบถ่ายรูปสวยๆกันได้นะคะ
พอดีพี่ชายชอบถ่ายรูป ลูกค้าที่มาเนี่ยแหลาะค่ะ จะกลายเป็นนางแบบโดยไม่รู้ตัว

บรรยากาศปัจจุบันโดยรวมๆนะคะ








หวังว่าทุกคนจะได้ไอเดียการแต่งบ้าน หรือการรีโนเวทใหม่ๆกันนะคะ
ทุกอย่างต้องใช้เวลาจริงๆ ขอบคุณนะคะ ที่ติดตามอ่านกันมาจนถึงตรงนี้
ดีใจจริงๆ แล้วพบกับกระทู้หน้านะคะ จะรีโนเวทอะไรอีกรอดูกันนะ
เปลี่ยนออฟฟิศร้าง....เป็นร้านกาแฟต้นซอย 39 (รีโนเวทครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต)
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นบอกก่อนเลยว่า ร้านกาแฟอยู่พระประแดง สมุทรปราการ ออกแนวจะบ้านๆทำเป็นร้านกาแฟอินดี้
ชงกันเอง ไม่ได้หวังผลกำไรมากมาย หรือเป็นธุรกิจยิ่งใหญ่ ทำด้วยใจล้วนๆเลยค่ะ ร้านเริ่มทำเมื่อประมาน 7 เดือนที่แล้วค่ะ
โดยเดิมบริเวณนี้เป็นออฟฟิศขายบ้านของหมู่บ้านนึงอยู่ค่ะ เมื่อเขาขายหมดแล้วเขาก็ปล่อยทิ้งรกร้างอยู่นาน
คนเดินผ่านไปผ่านมาก็โยนขยะทิ้งเป็นว่าเล่น ด้วยความที่ ที่บริเวณนี้อยู่ใกล้บ้านมาก (เดินมาทำงานทุกวันอ่ะค่ะ)
เห็นกันอยู่ทุกวันแต่ก็ยังไม่เกิดไอเดียอะไรกัน แต่มีอยู่วันนึงคุณแม่เริ่มอยากให้มีธุรกิจ
ส่วนเรื่องตัวอาคารและที่บริเวณนี้เป็นของเพื่อนคุณพ่อค่ะ เลยได้จังหวะมาทำร้านกาแฟ
เพราะเพื่อนคุณพ่อไม่อยากให้ปล่อยรกร้างนานๆ แต่เริ่มแรกบอกก่อนเลย
ตัวเราไม่เคยสนใจที่ตรงนี้เลยเพราะคิดว่ามันรกร้างขนาดนี้ ทำไม่ไหวแน่ๆ ไม่เวิคแน่ๆ ไม่มีความรู้ด้านการชงกาแฟ กินอย่างเดียว
ขนมเค้กก็ทำเป็นแค่อย่างสองย่างแต่ตัวคุณพ่อนี่ดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ ส่วนหัวด้านการตกแต่งก็พอมีไม่มาก
ตกแต่งตามสไตล์พ่อแม่ลูก รู้แต่ว่าใจรักที่จะทำ และก็พอมีเวลาอยู่แล้วเพราะเรียนนิติศาสตร์ รามคำแหง
ก็ไม่ค่อยได้ไปเรียนส่วนมากก็ใช้เวลาอ่านหนังสืออยู่ที่บ้าน แล้วก็ไปสอบ โชคดีที่คุณพ่อคุณแม่ก็สนับสนุน
ในการทำร้านกาแฟด้วยค่ะ อาจจะเพราะคงไม่อยากให้ทิ้งเวลาว่างไปเปล่าๆ อยากให้ลองทำงานลองหาเงินเอง
ว่ามันหาลำบากแค่ไหน (ลำบากจริง) และที่สำคัญอยากทำตามความฝันของพวกเราสามพี่น้องด้วยค่ะ
เลยตกลงกันว่าลองดูสักตั้งคงไม่เป็นไร ลองไปดูรูปตอนแรกๆด้วยกันนะคะ
(นี่คือบริเวณทางเข้าร้านค่ะ สังเกตได้จากประตูไม้ตอกชั่วคราวที่ทำไว้เพื่อสร้างอาณาเขตกันนะคะ 55555
รั้วไม่มีมีแต่ต้นไผ่ ตอนมาครั้งแรกจขกท.แอบช็อคจริงค่ะ แต่ขอบอกเลยว่านี่สะอาดขึ้นเยอะแล้วเพราะขนขยะทิ้งไปสองคันรถแล้วค่ะ)
(ส่วนนี้คือตัวอาคารค่ะ เขาทาไว้เป็นสีส้มเลย คุณพ่ออยากให้เป็นสีขาวเลยต้องทาใหม่หมดเลยค่ะ)
(มองจากฝั่งตรงข้าม กับ ทางเข้าภายในตัวบ้านค่ะ)
(พอเข้าไปข้างในจะแบ่งเป็น 2 ห้องค่ะ รูปแรกคือถ่ายจากข้างในไปข้างนอก,
รูป2คือถ่ายจากข้างนอกไม่ห้องข้างใน,
จริงๆแล้วกระจกที่เห็นคือได้เปลี่ยนใหม่แล้วเพราะครั้งแรกสุดที่มากระจกโดนทุบแตกหมดเลยค่ะ
เลยต้องรีบเปลี่ยนเลยไม่ได้ถ่ายรูปไว้)
หลังจากตามแก้ปัญหาใหญ่ๆพวกสีของตัวอาคาร กระจก ก็จะเริ่มลงต้นไม้เพื่อจัดสวนค่ะ
จำได้ว่าไปซื้อที่ตลาดนัดต้นไม้เจเจ ใช้ต้นโมกข์เป็นรั้ว ผสมกับชาดัด พอดีมีต้นไผ่เป็นซุ้มสวยพอดีเลย
ในตอนแรกลงหญ้าเป็นพื้นในสวนแต่คิดไปคิดมาอนาคตการดูแลจะลำบากเพราะผ่านไปไม่กี่อาทิตย์ก็สูงแล้วค่ะ
เลยรื้อหญ้าออกลงหินแทนค่ะ (รูปที่ 3เป็นรูปสวนในปัจจุบันเลยค่ะ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาอากาศดีมากๆหนาวสุดๆเลยค่ะ)
เขยิบเข้ามาด้านในตัวร้านกันบ้างนะคะ บอกก่อนเลยว่าไม่ได้มีการวางแผนว่าจะทำด้านในทำด้านนอกทำส่วนไหนก่อน
หรือการจ้างสถาปนิกหรืออะไรทั้งสิ้น สมองพ่อแม่ลูกล้วนๆ ทำกันตามอารมณ์สุดๆแต่ก็ทำไล่ไปจบทีละส่วน ยอมรับว่ามีปากมีเสียงกันบ้าง
พ่อแม่อยากได้อย่าง ลูกอยากได้อีกอย่าง ก็มีต้องยอมๆกันไปบ้าง
อันนี้ภายในร้านตั้งใจทำในส่วนห้องด้านในเป็นห้องสมุดเพราะพี่สาวชอบอ่านหนังสือมาก
เลยมีหนังสือเยอะอยากเอามาแบ่งๆให้อ่านกันฟรีๆ
คุณพ่อกับพี่ชายแล้วก็เราก็ชอบเล่นกีต้าร์กัน ก็มีกีต้าร์มาไว้ให้ลูกค้าเล่น
ส่วนที่ทำเป็นโต๊ะประชุมใหญ่เพราะคุณแม่มีเพื่อนเยอะก็เลยคิดว่าไว้นัดรวมตัวกันได้ที่นี่
สังเกตได้ว่าทุกๆอย่างในห้องนี้เกิดจากความชอบของพวกเราห้าคน
ส่วนแสงไฟคุณพ่อเป็นคนเลือกเพราะรู้สึกอบอุ่นสีนวลๆชวนฝันดีจริงค่ะ 5555
เริ่มลงเฟอร์นิเจอร์ในห้องแล้วค่ะ จ้างประกอบเพราะว่าถ้าประกอบกันเองมีหวังได้ตีกันตายไปข้างนึงแน่ๆเลยค่ะ
นี่คือตอนประกอบเฟอร์นิเจอร์เสร็จเรียบร้อย ช่างประกอบเร็วมากค่ะไม่เกินครึ่งวันทั้งเก้าอี้โต๊ะตู้
ถ้าเราประกอบกันเองสามวันอาจไม่เสร็จ 555 แต่ยังไม่ได้เก็บรายละเอียดเรื่องไฟเลย รอดูนะคะ
มาแล้วจ้าาาาาาา
นี่คือตอนทำไฟเสร็จแล้วจ้าาาา ยกภูเขาออกจากออกหนึ่งลูก แสงนี้ดูอบอุ่นจริงๆนะคะ
เริ่มขนหนังสือเข้ามาลงแล้วด้วย ช่วงนั้นจำได้ว่านั่งอ่านนิตยสารหาแรงบันดาลใจเป็นร้อยเล่ม
ดึกดื่นเที่ยงคืนก็ยังฝังตัวอยู่ที่ร้าน เดินลูบกำแพงกันไป นี่ร้านเราจริงๆหรอ (เว่อร์อีกละ)
อีกมุมนึงค่ะ ติดม่านแล้วด้วย
เดินออกมามุมในสวนนอกบ้านอีกรอบนะคะ คราวนี้ทำที่นั่งด้านนอกตอนแรกเลยเป็นแค่โต๊ะธรรมดา
มีร่มกลางแต่พอฝนตก หรือแดดออกแรงๆนี่นั่งไม่ไหวจริงๆค่ะ สงสารลูกค้าที่สูบบุหรี่
ก็เลยมีแนวคิดเปลี่ยนจากโครงเหล็กธรรมดา เป็นบาร์สูงให้นั่งชิลชมสวน และทำปลั๊กไฟบริการไว้ทุกจุดเลยค่ะ
(สังเกตรูปแรกจะเห็นว่ายังไม่ได้เทปูนเพิ่มให้มีพื้นที่กว้างขึ้นนะคะ)
ภาพมุมกว้างออกมากอีกหน่อยค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่รอชมกันนะคะ ดีใจมากๆเลย
มาดูกันต่อค่ะ เมื่อร้านเริ่มเข้าที่ เริ่มมองภาพออกว่าจะมาในแนวไหน ก็เริ่มไปลงในรายละเอียดเล็กๆน้อย
พวกเครื่องชงกาแฟ(ราคาปาดเหงื่อกันเลยทีเดียว) ตู้แช่เค้ก ลงไอศครีม คิดสูตรแปลกใหม่
ร้านเริ่มเข้าที่เข้าทาง และเปิดร้านเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2556
กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ยอมรับว่าเหนื่อยมากกกกกกก แต่ก็สนุกมากเช่นกันค่ะ กับการหาไอเดียใหม่ๆหาเฟอร์นิเจอร์ที่ตรงใจ
ขับรถหากันรอบประเทศ หาพลิกแผ่นดิน มีปากมีเสียงกันบ่อยมาก กว่าจะมีวันนี้ ไปนั่งย้อนดูรูปเก่าๆไม่คิดว่าจะมาได้ไกลขนาดนี้
ลืมไปแล้วค่ะ ว่าทำร้านกาแฟ คิดว่าทำบ้านให้เพื่อนแวะมากินกาแฟ มาพูดคุยกัน รวมๆแล้วใช้เวลาทำ
เกือบๆสามเดือนค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังทำเรื่อยๆเหมือนมีไอเดียใหม่ๆก็ปรับไปเรื่อยๆ
ลูกค้ามักจะถามว่า อ้าว ปรับอีกแล้ว ,อ้าวเปลี่ยนอีกแล้วหรอ ตอบไม่ถูกเลยค่ะ สนุกที่ได้ปรับเปลี่ยน
ทุกๆสิ่งเกิดจากความชอบและรักในสิ่งที่ทำจริงๆค่ะจะทำอะไรขอให้มีความสุขกับมันอยู่ก็พอแล้วค่ะ
แวะมาหากันได้นะคะ ยินดีต้อนรับเสมอ ไม่ซื้อก็ไม่เป็นไรมาทักทายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
กันได้เสมอ และที่ร้านก็มักจะมีกิจกรรม Sunday Activities จัดเกือบทุกวันอาทิตย์ค่ะ
มาเป็นนายแบบนางแบบถ่ายรูปสวยๆกันได้นะคะ
พอดีพี่ชายชอบถ่ายรูป ลูกค้าที่มาเนี่ยแหลาะค่ะ จะกลายเป็นนางแบบโดยไม่รู้ตัว
บรรยากาศปัจจุบันโดยรวมๆนะคะ
หวังว่าทุกคนจะได้ไอเดียการแต่งบ้าน หรือการรีโนเวทใหม่ๆกันนะคะ
ทุกอย่างต้องใช้เวลาจริงๆ ขอบคุณนะคะ ที่ติดตามอ่านกันมาจนถึงตรงนี้
ดีใจจริงๆ แล้วพบกับกระทู้หน้านะคะ จะรีโนเวทอะไรอีกรอดูกันนะ
ปล.อยากถามรายละเอียดอะไรหลังไมค์ได้จ้า