ขอระบายค่ะ จบปริญญามาขายโจ๊ก น่าอายมากเหรอคะ???

ขอท้าวความนิดนึงค่ะ อาจจะยาวเยิ่นเย้อไปหน่อยนะคะ

เราเรียนจบจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในภาคใต้ค่ะ  หลังจากเรียนจบเราก้อเริ่มทำงานในโรงแรมระดับ 5 ดาวในจังหวัดภูเก็ตค่ะ  ทำมาได้เกือบ 8 ปี แม่ก้อมีคำสั่งให้กลับบ้านที่ต่างจังหวัด  เนื่องจากบ้านเกิดเราเป็นจังหวัดไม่ได้มีชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยวอะไรมากมายนัก  ทำให้หางานยากค่ะ  แถมค่าแรงก้อถูกอีกต่างหาก  เราไม่ได้จะเลือกงานนะคะ  สมัครอยู่หลายที่แต่ก้อไม่มีตำแหน่งว่างบ้าง หรือบอกว่าเรียกเงินเดือนสูงไปบ้าง (เราเรียกเงินเดือนอยู่ที่ 12,000-15,000 ค่ะ)

สุดท้าย เลยตัดสินใจเปิดสอนพิเศษให้กับนักเรียนแถวๆบ้านค่ะ  ซึ่งรายได้ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ  เราสอนเฉพาะตอนเย็น  กลางวันว่างๆ เราก้อเปิดร้านเน็ต กับถ่ายเอกสาร    ทีนี้ตอนเช้าว่างอีก เราก้อเลยเปิดซุ้มเล็กๆ ขายชา กาแฟ ซาลาเปา โจ๊ก อะไรพวกนี้ค่ะ  

กลายเป็นว่า เราตกเป็นที่นินทาของญาติหลายๆคนค่ะ  บอกว่า เรียนตั้งแพง สุดท้ายก้อมาขายกาแฟ บางครั้งเราท้อนะคะ อยากจะเลิก อยากจะไปทำงานบริษัทในเมือง  แต่แม่คอยให้กำลังใจเสมอว่า  งานที่ทำเป็นงานสุจริต ทำไมต้องอาย ทำไมต้องไปฟังเสียงนกเสียงกา  

ทำร้านกาแฟมาได้ประมาณปีกว่าๆ ก้อต้องเลิกค่ะ เนื่องจากพ่อกับแม่ อายุเยอะแล้ว และค่อนข้างมีปัญหาสุขภาพ

ตอนหลังเรามีแฟนจากการแนะนำของเพื่อนๆ  พอมีแฟนปัญหาก้อตามมาทันทีเลยค่ะ  เนื่องจากสามีเรา เป็นพ่อม่ายลูกติด (สามีอายุน้อยกว่าเราค่ะ) และหลังจากเลิกกับภรรยา เค้าก้อยังมีภรรยาคนอื่นๆอีก  2 คน (อยู่ด้วยกันเฉยๆประมาณปีกว่าๆ โดยไม่ได้แต่งงานกัน) เรียกว่าผ่านชีวิตคู่มาอย่างโชกโชนก่อนจะมาเจอเรา แถมสามีเรายังจบแค่ปวช.  ทำให้ภาพพจน์ของเค้ายอดแย่ในสายตาญาติๆเราค่ะ

แต่เค้าก้อพยายามพิสูจน์ตัวเองมาตลอด 1 ปีที่คบกันมา  จากที่เคยนอนกลางวัน ตื่นกลางคืน ก้อพยายามปรับตัวให้นอนตรงเวลาเหมือนมนุษย์คนอื่นๆ  พยายามช่วยหยิบจับงานบ้านตามที่บอก  จนสุดท้าย แม่เราก็ใจอ่อน ยอมให้แต่งงานกันเมื่อต้นเดือนมกราคมนี้เองค่ะ ^^

พอแต่งงานกัน ปัญหาก้อยังไม่จบค่ะ  เนื่องจากสามีเป็นลูกคนเดียว  อยู่กับแม่และป้า ซึ่งอายุค่อนข้างเยอะค่ะ ดังนั้นเราต้องย้ายไปอยู่ที่บ้านสามีในตัวเมือง  ด้วยความที่เป็นลูกคนเดียว แม่ตามใจ แทบจะไม่ต้องทำงานอะไรเลย (บ้านสามีเป็นพวกมีฐานะมากๆค่ะ)  แม่สามีอยากให้ลูกชายมีอาชีพติดตัว ดีกว่านั่งกินดอกเบี้ย  แกเลยเปิดร้านกาแฟให้ทำกันเองค่ะ  ตอนหลังก้อขายเกาเหลาตำลึงและโจ๊กเพิ่มขึ้นมา  ส่วนสองล๊อคที่เหลือก้อเปิดให้เช่า  ตอนแรก เงียบเหงามากเลยค่ะ  บางวันขายได้แค่ 1-2 ชาม แต่ก้อไม่ท้อนะคะ  แม่สามีคอยให้กำลังใจเสมอ บอกว่าค่อยๆเป็น ค่อยๆไป  ถ้าขยันซะอย่าง ไม่ต้องกลัวอะไร  (แกเป็นคนทำน้ำซุป และตุ๋นเครื่องในให้ค่ะ)

ตอนนี้เปิดร้านมาได้เกือบเดือนแล้วค่ะ  ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี เริ่มมีขาประจำเรื่อยๆ  จนกระทั่ง  ป้า (พี่ของแม่) ขี่รถมอเตอร์ไซค์ผ่านหน้าร้านค่ะ  ตอนนั้นเรากำลังยืนคนโจ๊กอยู่  (ป้าไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานของเรามากค่ะ)  เราเริ่มใจไม่ดีตั้งแต่ตอนที่เห็นแกมองเราหัวจรดเท้าด้วยหางตา ก่อนที่จะทำหน้าเชิดใส่   เราเลยโทรหาแม่ เพื่อเล่าให้ฟัง  ยังไม่ทันได้โทร  ป้าแกก้อเลี้ยวกลับมา  แล้วจอดรถหน้าร้าน ก่อนที่จะพูดดังๆว่า

ป้า :  เธอมาทำอะไรที่นี่
เรา:  มาขายโจ๊กกับเกาเหลา
ป้า :  จบตั้งปริญญาตรี ทำไมมาทำงานต่ำๆแบบนี้ (พร้อมกับทำหน้าดูถูก  ตอนนั้นแม่สามีก้อยืนอยู่ข้างเราค่ะ)
เรา :  ป้าอย่ามาหาเรื่องหนูนะ  

พูดเสร็จเราก้อวิ่งไปหลังร้านเลยค่ะ  เสียใจ หดหู่ ทุเรศตัวเอง อับอายสายตาของลูกค้าและร้านข้างๆที่มองมา มันประดังเข้ามาหมดเลยค่ะ  ซักพักแม่โทรมา  ว่าป้าโทรหาแม่ บอกว่าบังเอิญขี่รถผ่าน เห็นเราหน้ามันอยู่หน้าเตา ใส่ผ้ากันเปื้อน ทำงานเหมือนคนไม่มีการศึกษา เราร้องให้โฮเลย  ไม่เข้าใจจริงๆค่ะ ว่างานที่เราทำอยู่ตอนนี้มันต่ำ ไร้ศักดิ์ศรี น่าอาย ดูถูกคุณค่าของตัวเราเองจริงๆเหรอ   เราถามตัวเองหลายครั้งเลยค่ะ ว่าที่เราทำอยู่ตอนนี้มันถูกต้องรึเปล่า ทำไมป้าถึงพูดเหมือนกับว่า เราตกต่ำถึงขนาดต้องมาขายโจ๊ก  เราทำให้ปริญญาที่ร่ำเรียนมาไร้ค่า  (ปล.  เรายืนยันได้ว่าเราไม่ได้หน้ามัน เราแต่งหน้า เก็บผม แต่งกายเรียบร้อย สะอาดสะอ้าน)

เมื่อตอนเย็นแม่สามีก้อพูดว่า ถ้าเรามีปัญหา ก้อไปทำงานบริษัทก้อได้นะ  ล๊อคที่เราขายของ ก้อปล่อยให้เช่าไป   แต่เรายืนยันว่าจะขายต่อไป เราอยากจะพิสูจน์ให้เห็นว่า  งานต่ำๆไร้ศักดิ์ศรีแบบนี้ก้อทำให้เรามีเงิน มีอนาคตได้เหมือนกัน  แกบอกว่า ถ้าจะขายต่อก้อไม่ว่าอะไร แต่ถ้าครั้งต่อไป ป้าเรายังมาอาละวาดอีก แกจะไม่ยอมแล้วค่ะ  ที่นี่เป็นที่ของแก  เราเองก้อถือว่าเป็นคนของแก  จะมาหยามกันแบบนี้ไม่ได้อีก  เยี่ยม

เฮ้อ พล่ามมาซะยาวเลย  ตอนนี้รู้สึกตัวเองไร้ค่ายังไงก้อไม่รู้ค่ะ  ศักดิ์ศรีของคนเรามันวัดจากอาชีพสินะ  ต้องเป็นเจ้าคนนายคน เป็นข้าราชการใช่มั้ย ถึงจะได้รับการยอมรับการครอบครัวและสังคม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่