ผมบังเอิญเจอน้องผู้หญิงคนนี้โดยบังเอิญ ที่ร้านล้างอัดฉีด ขณะที่ผมนั่งรอล้างอยู่นั้นเธอขี่มอเตอร์ไซด์เข้ามา ผมนั่งมองเธอตังแต่เขามาจนเธอออไปยืนหน้าร้านเพราะคงไม่รู้ว่าจะออกจากที่นี่ไปอย่างไร เหตุที่ผมมองเพราะเธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ตัดผมจนสั้นเหมือนเด็กผู้ชาย จึงทำให้ดูแปลกตา
" ไปไหน ปะ ไปส่งให้เห็นยืนอยู่นานแล้ว"
ไม่มีคำตอบ มีแต่การกระทำที่เธอจนมานั่งข้างๆผม
" เลี้ยวซอยข้างหน้า ขอบคุณค่ะ" ประโยคแรกที่หลุดออกมา และเป็นประโยคสุดท้ายไปพร้อม ๆ กัน
"เดี๋ยวสิ แล้วไปเอารถยังไง" ผมถาม
" บ่าย 3 ว่างไหม มารับทีสิ" ...
หลังจากวันนั้น ผมก็ได้เจอเธออีกหลายครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่ คือ ความบังเอิญ
จนวันนึง ขณะที่ผมทานข้าวเที่ยงอยู่กับเพื่อน
เธอก็เดินเขามาหาแล้วขอเบอร์โทรผมไป
เวลาผ่านไปเกือบ 2 อาทิตย์ ก็มีเบอร์ไม่คุ้นโทรเข้ามา ถามไปถามมา ก็รู้ว่าเป็นเธอนั่นเอง
เธอบอกว่ามีเรื่องจะปรึกษา นัดเจอกันที่วัดแห่งหนึ่ง มีพื้นที่ติดทะเล เวลาเย็นของวันรุ่งขึ้น
เรื่องที่พูดคุยกันก็เป็นเรื่องปัญหาของเธอกับเพื่อนๆ เรื่องเรียน เรื่องการบ้าน ครอบครัว ผมก็แนะนำไปตามลักษณะของผู้ใหญ่ใจดี แนะนำไปในทางที่ถูกที่ควร ธรรมดา
หลังจากนั้น ก็มีที่เธอโทรมาขอคำปรึกษา นัดเจอกันอีกหลายๆครั้ง เป็นเวลาร่วม 3- 4 เดือน
จนปีใหม่ที่ผ่านมา เราก็คุยกัน ครั้งนี้เธอแปลกไป ดูเหมือนมีอะไรปกปิด เลยคาดคั้น เธอ ถามผมว่า อยากให้ผมไปบ้านเธอ
เธออยากให้ที่บ้านรู้ว่าคบใครอยู่
ผมตกใจนะ เพราะผมไม่เคยคิดกับเธอเกินเลยไปกว่าน้องคนนึงเลย เห็นว่าน่ารักดี ผมจึงบอกเธอไปตามตรง ว่าผมคิดเหมือนเธอเป็นน้องสาวคนนึง
ดูเหมือนไม่ค่อยมีเพื่อน ก็อยากเป็นเพื่อนคุยได้ไม่เหงา
เธออึ้งไป ร้องไห้ แล้วถามผมกลับมาว่า ที่ผ่านมามันคืออะไร
ผมก็บอกว่า เราก็เป็นพี่น้องกันไง ดีออก เรามีคนคอยห่วงใย
เธอถามกลับว่า แล้วตั้งแต่วันแรก มาให้ความหวังเธอทำไม
ผมบอกว่า วันนั้นเห็นยืนรีรอ กลัวจะหาไปไม่ได้ ลองถามดู หากไปทางเดียวกัน ก็จะได้ไปส่งไง
สุดท้ายเธอก็ไม่ยอมเข้าใจ
จนถึงตอนนี้เราก็ยังไม่ได้คุยกันอีก
อีกไม่นานก็จะสอบแล้ว ผมเป็นห่วงเธอจัง แต่กลัวติดต่อไป เธอจะคิดว่าเราให้ความหวังอีก
ผม... ควรทำอย่างไรดีครับ
เจอแบบนี้ ทำยังไงดีครับ
" ไปไหน ปะ ไปส่งให้เห็นยืนอยู่นานแล้ว"
ไม่มีคำตอบ มีแต่การกระทำที่เธอจนมานั่งข้างๆผม
" เลี้ยวซอยข้างหน้า ขอบคุณค่ะ" ประโยคแรกที่หลุดออกมา และเป็นประโยคสุดท้ายไปพร้อม ๆ กัน
"เดี๋ยวสิ แล้วไปเอารถยังไง" ผมถาม
" บ่าย 3 ว่างไหม มารับทีสิ" ...
หลังจากวันนั้น ผมก็ได้เจอเธออีกหลายครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่ คือ ความบังเอิญ
จนวันนึง ขณะที่ผมทานข้าวเที่ยงอยู่กับเพื่อน
เธอก็เดินเขามาหาแล้วขอเบอร์โทรผมไป
เวลาผ่านไปเกือบ 2 อาทิตย์ ก็มีเบอร์ไม่คุ้นโทรเข้ามา ถามไปถามมา ก็รู้ว่าเป็นเธอนั่นเอง
เธอบอกว่ามีเรื่องจะปรึกษา นัดเจอกันที่วัดแห่งหนึ่ง มีพื้นที่ติดทะเล เวลาเย็นของวันรุ่งขึ้น
เรื่องที่พูดคุยกันก็เป็นเรื่องปัญหาของเธอกับเพื่อนๆ เรื่องเรียน เรื่องการบ้าน ครอบครัว ผมก็แนะนำไปตามลักษณะของผู้ใหญ่ใจดี แนะนำไปในทางที่ถูกที่ควร ธรรมดา
หลังจากนั้น ก็มีที่เธอโทรมาขอคำปรึกษา นัดเจอกันอีกหลายๆครั้ง เป็นเวลาร่วม 3- 4 เดือน
จนปีใหม่ที่ผ่านมา เราก็คุยกัน ครั้งนี้เธอแปลกไป ดูเหมือนมีอะไรปกปิด เลยคาดคั้น เธอ ถามผมว่า อยากให้ผมไปบ้านเธอ
เธออยากให้ที่บ้านรู้ว่าคบใครอยู่
ผมตกใจนะ เพราะผมไม่เคยคิดกับเธอเกินเลยไปกว่าน้องคนนึงเลย เห็นว่าน่ารักดี ผมจึงบอกเธอไปตามตรง ว่าผมคิดเหมือนเธอเป็นน้องสาวคนนึง
ดูเหมือนไม่ค่อยมีเพื่อน ก็อยากเป็นเพื่อนคุยได้ไม่เหงา
เธออึ้งไป ร้องไห้ แล้วถามผมกลับมาว่า ที่ผ่านมามันคืออะไร
ผมก็บอกว่า เราก็เป็นพี่น้องกันไง ดีออก เรามีคนคอยห่วงใย
เธอถามกลับว่า แล้วตั้งแต่วันแรก มาให้ความหวังเธอทำไม
ผมบอกว่า วันนั้นเห็นยืนรีรอ กลัวจะหาไปไม่ได้ ลองถามดู หากไปทางเดียวกัน ก็จะได้ไปส่งไง
สุดท้ายเธอก็ไม่ยอมเข้าใจ
จนถึงตอนนี้เราก็ยังไม่ได้คุยกันอีก
อีกไม่นานก็จะสอบแล้ว ผมเป็นห่วงเธอจัง แต่กลัวติดต่อไป เธอจะคิดว่าเราให้ความหวังอีก
ผม... ควรทำอย่างไรดีครับ