เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 24 มกราคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) แกนนำพท.นำโดย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้า พท. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นายวิชาญ มีนชัยอนันต์ และ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ผู้สมัคร ส.ส.พท. แถลงถึง กรณีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปได้ โดยสามารถตราพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งใหม่ได้ และมีมติให้ประธาน กกต.และรัฐบาลหารือร่วมกันเพื่อกำหนดวันเลือกตั้งใหม่นั้น นายจารุพงศ์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้ขัดแย้งกับ กกต. และได้ยืนยันมาตลอดว่าอำนาจจัดการเลือกตั้งเป็นของ กกต.อยู่แล้ว ส่วน กกต.จะเลื่อนอย่างไรก็ต้องอยู่ในกฎหมาย ตนก็อยากถามว่าถ้าเลื่อนแล้วจะใช้กฎหมายมาตราใดและยังไปอ้างการเลือกตั้งปี 2549 ซึ่งในครั้งนั้นศาลรัฐธรรมนูญตัดสินไปแล้วว่าเป็นโมฆะ ตนรู้สึกงงกับกรณีนี้
ด้านนาย เรืองไกร กล่าวว่า จากการติดตามอย่างใกล้ชิด ศาลอ้างเหตุผลต่างๆ นานา และอธิบายความในหน้าแรกว่า ขัดแย้งในการตรา พ.ร.ฎ. เป็นข้อสังเกตที่แปลก โดยเป็นหลักเกณฑ์ที่ศาลรับได้ ตามมาตรา 214 ซึ่งตนมองว่า ขัดกับคำสั่งที่ 23/53 อย่างชัดเจน ระบุว่าต้องเป็นบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่กำหนดอำนาจหน้าที่ไว้ขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ นั่นก็คือนายกรัฐมนตรีกับ กกต. ศาลไม่ได้พูดถึง แต่ศาลก็บอกว่าเป็นความขัดแย้ง ซึ่งหากเป็นข้อขัดแย้งศาลก็จะต้องเรียกคู่กรณีตามข้อกำหนดศาล ข้อที่ 29 มาชี้แจง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ และการวินิจฉัยในวันสองวัน ส่วนใหญ่จะต้องเป็นเฉพาะเรื่องเท่านั้น
ด้านนาย เรืองไกร กล่าวว่า ศาลเห็นว่าควรให้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยนายกรัฐมนตรีกับประธาน.กกต. ไปหารือกัน ข้อสองนี้เหมือน ‘ข้อหารือ’ โดยหลักไม่ควรปฏิบัติเช่นนี้ จากนั้นศาลก็วินิจฉัยมติเอกฉันท์เสียงข้างมากให้สามารถเลื่อนวันเลือกตั้งและตราพ.ร.ฎ.ยุบสภา ขึ้นใหม่ได้ แต่ปัญหามีอยู่ว่า พ.ร.ฎ.เดิมจะทำอย่างไร จะต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมหรือไม่ แล้วจะขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 108 หรือไม่ ทั้งนี้ การตราพ.ร.ฎ.ใหม่นั้นแน่นอนว่าจะต้องขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 187
“ดูแล้วคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมาจะสอดคล้องกับที่ กกต. ท่านหนึ่งฝันไว้ ซึ่งจริงๆ ทางพรรคไม่ติดขัดอะไร นอกจากค่าใช้จ่ายที่ดำเนินการไปกับความรู้สึกของประชาชน อย่างไรตาม ควรดำเนินการให้อยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญ”นายเรืองไกร กล่าว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1390570168&grpid=&catid=01&subcatid=0100
ตลก.มันไม่เข้าใจกฎหมาย หรือมันแกล้งมึนสร้างกับดักล่อกันแน่ ???
ฝ่ายรัฐบาลเดินเกมนี้ต้องระมัดระวังและรอบคอบสุดๆ ถ้าพลาดอีกก็ถูกล้างเกลี้ยงแน่ๆ
พท.กังขาหากเลื่อนเลือกตั้งจะใช้กฎหมายใดมาอ้างอิง หวั่นตรา พ.ร.ฎ.ใหม่อาจขัด รธน.มาตรา 187
ด้านนาย เรืองไกร กล่าวว่า จากการติดตามอย่างใกล้ชิด ศาลอ้างเหตุผลต่างๆ นานา และอธิบายความในหน้าแรกว่า ขัดแย้งในการตรา พ.ร.ฎ. เป็นข้อสังเกตที่แปลก โดยเป็นหลักเกณฑ์ที่ศาลรับได้ ตามมาตรา 214 ซึ่งตนมองว่า ขัดกับคำสั่งที่ 23/53 อย่างชัดเจน ระบุว่าต้องเป็นบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่กำหนดอำนาจหน้าที่ไว้ขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ นั่นก็คือนายกรัฐมนตรีกับ กกต. ศาลไม่ได้พูดถึง แต่ศาลก็บอกว่าเป็นความขัดแย้ง ซึ่งหากเป็นข้อขัดแย้งศาลก็จะต้องเรียกคู่กรณีตามข้อกำหนดศาล ข้อที่ 29 มาชี้แจง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ และการวินิจฉัยในวันสองวัน ส่วนใหญ่จะต้องเป็นเฉพาะเรื่องเท่านั้น
ด้านนาย เรืองไกร กล่าวว่า ศาลเห็นว่าควรให้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยนายกรัฐมนตรีกับประธาน.กกต. ไปหารือกัน ข้อสองนี้เหมือน ‘ข้อหารือ’ โดยหลักไม่ควรปฏิบัติเช่นนี้ จากนั้นศาลก็วินิจฉัยมติเอกฉันท์เสียงข้างมากให้สามารถเลื่อนวันเลือกตั้งและตราพ.ร.ฎ.ยุบสภา ขึ้นใหม่ได้ แต่ปัญหามีอยู่ว่า พ.ร.ฎ.เดิมจะทำอย่างไร จะต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมหรือไม่ แล้วจะขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 108 หรือไม่ ทั้งนี้ การตราพ.ร.ฎ.ใหม่นั้นแน่นอนว่าจะต้องขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 187
“ดูแล้วคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมาจะสอดคล้องกับที่ กกต. ท่านหนึ่งฝันไว้ ซึ่งจริงๆ ทางพรรคไม่ติดขัดอะไร นอกจากค่าใช้จ่ายที่ดำเนินการไปกับความรู้สึกของประชาชน อย่างไรตาม ควรดำเนินการให้อยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญ”นายเรืองไกร กล่าว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1390570168&grpid=&catid=01&subcatid=0100
ตลก.มันไม่เข้าใจกฎหมาย หรือมันแกล้งมึนสร้างกับดักล่อกันแน่ ???
ฝ่ายรัฐบาลเดินเกมนี้ต้องระมัดระวังและรอบคอบสุดๆ ถ้าพลาดอีกก็ถูกล้างเกลี้ยงแน่ๆ