มีใครจะแย้ง ดร.สมเกียรติ หน่อยไหมครับ

กระทู้สนทนา
http://hilight.kapook.com/view/96777
ใจความตอนหนึ่ง...
          อีกเรื่องที่ทำให้ ดร.สมเกียรติ ลาออกจากไอทีวีแทบจะทันที นั่นก็คือเรื่องการเปลี่ยนแปลงค่าสัมปทานจาก 2.5 หมื่นล้านบาท เหลือเพียงต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ขอให้ตนช่วยจัดการในพรรคพวกวุฒิสภา (ขณะนั้น ดร.สมเกียรติเป็นสมาชิกวุฒิสภา ด้วย) เปลี่ยนค่าสัมปทานด้วย โดยให้เหตุผลว่า จะนำไอทีวีเข้าตลาดหลักทรัพย์ และบอกตนว่า ให้เตรียมตัวรวยได้เลย เพราะจะให้ตนซื้อหุ้นในราคาถูก

ใจความตอนหนึ่ง...
          ต่อมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เข้าไปซื้อหุ้นสถานีโทรทัศน์ ไอทีวี จาก 10 เปอร์เซ็นต์ พยายามจะซื้อมากถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งกฎเดิมนั้น ห้ามไม่ให้ถือหุ้นเกิน 10 เปอร์เซ็นต์ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถทำได้ แก้ไขกฎเกณฑ์จนสำเร็จ


ใจความตอนหนึ่ง...
          ดร.สมเกียรติ ขอเล่าย้ายไปเมื่อปี 2544 ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ นำพรรคไทยรักไทยชนะเลือกตั้ง ด้วยคะแนนเสียงท้วมท้นในสภา ได้เป็นนายกฯ สมใจ ตอนเริ่มแรก พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่มีอำนาจมากพอ แต่อยากจะแก้ร่าง พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม ให้ต่างชาติถือหุ้นได้ 49 เปอร์เซ็นต์ คนไทย 51 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตอนนั้น ตนอภิปรายชนะ สามารถแก้เป็น 25 เปอร์เซ็นต์ กับ 75 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่า ตนต้องการให้คนไทยถือหุ้นมากถึง 75 เปอร์เซ็นต์ จะได้ดูว่ามั่นคง ความรวยจะตกกับคนไทยทั้งระบบ ส่วนคนต่างชาติถือ 25 เปอร์เซ็นต์  

          ถึงแม้ว่าตอนนั้นตนจะชนะ แต่เพียง 3 ปีเศษให้หลัง พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาอีกครั้ง เอาพรรคพวกมาเป็นประธานวุฒิสภาทำกิจกรรมเป็นแกนนำวุฒิสภาผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคไทยรักไทย พร้อมส่งร่าง พ.ร.บ.กิจการโทรคมนาคม ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม  โดยยืนยันจะแก้เป็นให้ต่างชาติถือหุ้นได้ 49 เปอร์เซ็นต์ คนไทย 51 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตนก็หมดโอกาสที่จะพูด เพราะเขาห้ามไม่ให้ตนแปรญัตติ โดยอ้างว่า คำขอแปรญัตติของตนขัดกับหลักการที่ร่างไว้ในกฎหมาย นี่คือการแก้กฎหมายไม่ตรงหลักการ และตอนนี้ก็จะกลับมาทำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้พรรคพวกแก้ไขกฎหมายเพื่อช่วยตนเอง

แค่หยิบบางส่วนมาครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่