วิพากษ์คำปราศรัย ดร.สมเกียรติ 14 ก.พ.57
ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมลปราศรัยถึง 4,824 คำ {1} ผมไม่เห็นด้วย จึงขออนุญาตวิพากษ์ ดังนี้:
1. ดร.สมเกียรติ บิดเบือนว่าที่ไทยตกต่ำลงในทุกวันนี้เพราะ "ระบอบทักษิณ" (1,615 คำ หรือ 33% ผมขอวิพากษ์ว่า
1.1 ในสมัยทักษิณ ประเทศสงบสุข ยาบ้าก็แทบหมด ห้วยใต้ดินก็ไม่มี ทักษิณขอคืนอาวุธปืนเพื่อความสงบสุข ดัชนีความโปร่งใสก็ดีว่าทุกรัฐบาลหลังจากนี้ โจรใต้ก็เพิ่งมีในปี 2547
1.2 นับแต่รัฐประหารโดยกลุ่มผู้เสียประโยชน์ แล้วตั้งพวกเดียวกันเองมาเล่นงานทักษิณอย่างอยุติธรรมในสายตาประชาชนนั้น ประเทศชาติจึงเริ่มแตกแยกและย่ำแย่ลงเช่นนี้
2. ทำไม่ไม่ปฏิรูปตั้งแต่สมัย ปชป (597 คำ)
2.1 ดร.สมเกียรติกล่าวหาว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ใส่ใจปฏิรูปการเมือง ทั้งที่รัฐบาลมุ่งปฏิรูปด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีข้อบกพร่องมากมาย แต่กลับถูกขัดขวางและบิดเบือนเป็นอื่น
2.2 รัฐบาลยังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายลงสัตยาบรรณให้ความมั่นใจในการปฏิรูปหลังเลือกตั้ง แต่สุเทพก็ไม่ยอมเจรจาใดๆ
2.3 ในทางตรงกันข้าม รัฐบาลอภิสิทธิ์-สุเทพอยู่ในอำนาจราว 2 ปีกลับไม่คิดปฏิรูป ภายหลังเสียเงินนับพันล้านไปจัดทำแผนปฏิรูป แต่ก็กลายเป็นเอกสารเก็บขึ้นหิ้งไปเสีย
2.4 ยิ่งกว่านั้น กปปส ก็มีแต่แนวคิดปฏิรูปแบบหลวมๆ เพิ่งคิดจะมาร่างพิมพ์เขียวเมื่อไม่กี่วันมานี้ทั้งที่ชุมนุมมา 4 เดือนแล้ว
3. การดูถูกประชาชน (651 คำ)
3.1 ดร.สมเกียรติปรามาสว่านักการเมืองเพื่อไทยคุณภาพต่ำ นักการเมืองประชาธิปัตย์มีคุณภาพดีกว่าจริงหรือ
3.2 ดร.สมเกียรติไม่พึงยกตนข่มท่านด้วยการกล่าวการที่ตนเห็นนักการเมืองเพื่อไทยคุณภาพต่ำก็เพราะตน "ตั้งมาตรฐานไว้สูงถึงระดับประชาธิปไตยสากล"
3.3 ดร.สมเกียรติดูถุกสติปัญญาของประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศที่เลือกนักการเมืองเพื่อไทย มากกว่าของประชาธิปัตย์ โดยแทบไม่มีการร้องเรียนว่าการเลือกตั้งที่ดำเนินการโดย กกต.ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม
4. ความเท็จสำคัญในคำปราศรัยของ ดร.สมเกียรติ (276 คำ)
4.1 การอ้างว่าประชาชนมาชุมนุมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ "จากหนึ่งล้าน เป็นสองล้าน แล้วเพิ่มเป็นกว่า 5 ล้าน ถึง 10 ล้านในการชุมใหญ่แต่ละครั้ง" แต่ความจริงเป็นที่ประจักษ์ว่าผู้มาชุมนุมร่อยหลอลงทุกวันจนต้องยุบเวทีและไม่สามารถ Shut Down กรุงเทพมหานครได้จริง
4.2 การรับบริจาคเงินที่ว่าได้นับสิบๆ ล้านนั้นก็เป็นกระบวนการสร้างภาพทั้งสิ้น
5. ดร.สมเกียรติเสนอในสิ่งที่ไม่เป็นจริง (1,200 คำ)
5. 1 ให้รัฐบาลรักษาการลาออก ทั้งที่ไม่มีบัญญัติไว้เว้นแต่ต้องล้มล้างรัฐธรรมนูญ
5.2 ในหลวงยังทรงมีพระราชดำรัส เรื่อง ไม่มีนายกฯ ม.7 {2} รัฐธรรมนูญก็ระบุที่มาของนายกฯ ชัดว่าไม่มีคนกลาง
5.3 คนที่จะมาแทนแทนยิ่งลักษณ์ ก็คงไม่ใช่ "เป็นที่เคารพเชื่อถือมีชื่อเสียงประวัติดีงาม" ตามที่ ดร.สมเกียรติอ้าง แต่คงเป็นคนที่อยู่ข้าง กปปส อย่าลืมว่าประชาชนครึ่งหนึ่งเลือกยิ่งลักษณ์มา
5.4 “สภาประชาชน” ย่อมไม่ได้มาจากประชาชนทุกภาคส่วนแน่นอน วิชาชีพส่วนมากไม่มีสมาคม สมาคมหลายแห่งก็ไม่เป็นประชาธิปไตย ตั้งมาเพื่อประโยชน์เฉพาะกลุ่ม และสุดท้ายคงได้แต่พรรคพวกของ กปปส ดังเช่นการสรรหาทั้งหลายที่ผ่านมา
5.5 เรื่องการแก้กฎหมาย ปปช.นั้น ก็เป็นแค่ราคาคุย ทุกวันนี้คดีทุจริตของพรรคอื่นแทบไม่คืบปล่อยให้หมดอายุความ ยกเว้นของพรรคเพื่อไทย
5.6 เรื่องปฏิรูปตำรวจและอื่น ๆ ทำไมสมัยสุเทพอยู่ ปชป ไม่เคยคิดทำ เพิ่งจะมาพูดเอาดีใส่ตัวในตอนนี้
5.7 นโยบายหลายๆ อย่างที่ทักษิณและคณะได้ดำเนินการไว้ เป็นสิ่งที่ดี ฝ่ายตรงข้ามพยายามบิดเบือน ไม่ให้ประชาชนได้รับประโยชน์ต่างหาก
5.8 การจะให้ท้องถิ่น และราชการต่าง ๆ ปลดพ้นจากอิทธิพลรัฐบาลส่วนกลาง อยู่ที่การให้ท้องถิ่นเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเอง เพราะทุกวันนี้งบประมาณของท้องถิ่น 90% มาจากส่วนกลาง จึงถูกส่วนกลางควบคุม ข้อนี้สุเทพและ ปชป ก็ไม่เคยคิดทำจริงจัง
ดร.สมเกียรติ กล่าวหาแต่การโกงของพรรคเพื่อไทย แต่ไม่เคยกล่าวถึงคดีทุจริตของนายสุเทพและพลพรรคพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งแปลงกายเป็นแกนนำ กปปส ที่เที่ยวออกไปปิดโน่นนี่ การมีอคติเต็มๆ เช่นนี้ ย่อมไม่สามารถเสนอทางออกที่ดีได้เลย
อ้างอิง
{1} www.facebook.com/notes/สมเกียรติ-อ่อนวิมล/คำปราศรัย-เวทีอโศก-โดย-สมเกียรติ-อ่อนวิมล-14-กุมภาพันธ์-2557-ฝันปฏิรูปประเทศไทย/814745455206080
{2} พระราชดำรัสในหลวง 25 เมษายน 2549 ". . . ซึ่งขอยืนยัน ยืนยันว่า มาตรา 7 นั้น ไม่ได้หมายถึงให้มอบให้พระมหากษัตริย์มีอำนาจที่จะทำอะไรตามชอบใจ ไม่ใช่. มาตรา 7 นั้น พูดถึงการปกครองแบบมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ไม่ได้บอกว่าให้พระมหากษัตริย์ตัดสินใจทำได้ทุกอย่าง. ถ้าทำ เขาจะต้องว่าพระมหากษัตริย์ทำเกินหน้าที่. ซึ่งข้าพเจ้าไม่เคยเกิน ไม่เคยทำเกินหน้าที่. ถ้าทำเกินหน้าที่ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย". www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9490000054995
วิพากษ์คำปราศรัย ดร.สมเกียรติ 14 ก.พ.57 ปราศรัยถึง 4,824 คำ {1} ผมไม่เห็นด้วย จึงขออนุญาตวิพากษ์ โดย ดร.โสภณ พรโชค
ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมลปราศรัยถึง 4,824 คำ {1} ผมไม่เห็นด้วย จึงขออนุญาตวิพากษ์ ดังนี้:
1. ดร.สมเกียรติ บิดเบือนว่าที่ไทยตกต่ำลงในทุกวันนี้เพราะ "ระบอบทักษิณ" (1,615 คำ หรือ 33% ผมขอวิพากษ์ว่า
1.1 ในสมัยทักษิณ ประเทศสงบสุข ยาบ้าก็แทบหมด ห้วยใต้ดินก็ไม่มี ทักษิณขอคืนอาวุธปืนเพื่อความสงบสุข ดัชนีความโปร่งใสก็ดีว่าทุกรัฐบาลหลังจากนี้ โจรใต้ก็เพิ่งมีในปี 2547
1.2 นับแต่รัฐประหารโดยกลุ่มผู้เสียประโยชน์ แล้วตั้งพวกเดียวกันเองมาเล่นงานทักษิณอย่างอยุติธรรมในสายตาประชาชนนั้น ประเทศชาติจึงเริ่มแตกแยกและย่ำแย่ลงเช่นนี้
2. ทำไม่ไม่ปฏิรูปตั้งแต่สมัย ปชป (597 คำ)
2.1 ดร.สมเกียรติกล่าวหาว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ใส่ใจปฏิรูปการเมือง ทั้งที่รัฐบาลมุ่งปฏิรูปด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีข้อบกพร่องมากมาย แต่กลับถูกขัดขวางและบิดเบือนเป็นอื่น
2.2 รัฐบาลยังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายลงสัตยาบรรณให้ความมั่นใจในการปฏิรูปหลังเลือกตั้ง แต่สุเทพก็ไม่ยอมเจรจาใดๆ
2.3 ในทางตรงกันข้าม รัฐบาลอภิสิทธิ์-สุเทพอยู่ในอำนาจราว 2 ปีกลับไม่คิดปฏิรูป ภายหลังเสียเงินนับพันล้านไปจัดทำแผนปฏิรูป แต่ก็กลายเป็นเอกสารเก็บขึ้นหิ้งไปเสีย
2.4 ยิ่งกว่านั้น กปปส ก็มีแต่แนวคิดปฏิรูปแบบหลวมๆ เพิ่งคิดจะมาร่างพิมพ์เขียวเมื่อไม่กี่วันมานี้ทั้งที่ชุมนุมมา 4 เดือนแล้ว
3. การดูถูกประชาชน (651 คำ)
3.1 ดร.สมเกียรติปรามาสว่านักการเมืองเพื่อไทยคุณภาพต่ำ นักการเมืองประชาธิปัตย์มีคุณภาพดีกว่าจริงหรือ
3.2 ดร.สมเกียรติไม่พึงยกตนข่มท่านด้วยการกล่าวการที่ตนเห็นนักการเมืองเพื่อไทยคุณภาพต่ำก็เพราะตน "ตั้งมาตรฐานไว้สูงถึงระดับประชาธิปไตยสากล"
3.3 ดร.สมเกียรติดูถุกสติปัญญาของประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศที่เลือกนักการเมืองเพื่อไทย มากกว่าของประชาธิปัตย์ โดยแทบไม่มีการร้องเรียนว่าการเลือกตั้งที่ดำเนินการโดย กกต.ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม
4. ความเท็จสำคัญในคำปราศรัยของ ดร.สมเกียรติ (276 คำ)
4.1 การอ้างว่าประชาชนมาชุมนุมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ "จากหนึ่งล้าน เป็นสองล้าน แล้วเพิ่มเป็นกว่า 5 ล้าน ถึง 10 ล้านในการชุมใหญ่แต่ละครั้ง" แต่ความจริงเป็นที่ประจักษ์ว่าผู้มาชุมนุมร่อยหลอลงทุกวันจนต้องยุบเวทีและไม่สามารถ Shut Down กรุงเทพมหานครได้จริง
4.2 การรับบริจาคเงินที่ว่าได้นับสิบๆ ล้านนั้นก็เป็นกระบวนการสร้างภาพทั้งสิ้น
5. ดร.สมเกียรติเสนอในสิ่งที่ไม่เป็นจริง (1,200 คำ)
5. 1 ให้รัฐบาลรักษาการลาออก ทั้งที่ไม่มีบัญญัติไว้เว้นแต่ต้องล้มล้างรัฐธรรมนูญ
5.2 ในหลวงยังทรงมีพระราชดำรัส เรื่อง ไม่มีนายกฯ ม.7 {2} รัฐธรรมนูญก็ระบุที่มาของนายกฯ ชัดว่าไม่มีคนกลาง
5.3 คนที่จะมาแทนแทนยิ่งลักษณ์ ก็คงไม่ใช่ "เป็นที่เคารพเชื่อถือมีชื่อเสียงประวัติดีงาม" ตามที่ ดร.สมเกียรติอ้าง แต่คงเป็นคนที่อยู่ข้าง กปปส อย่าลืมว่าประชาชนครึ่งหนึ่งเลือกยิ่งลักษณ์มา
5.4 “สภาประชาชน” ย่อมไม่ได้มาจากประชาชนทุกภาคส่วนแน่นอน วิชาชีพส่วนมากไม่มีสมาคม สมาคมหลายแห่งก็ไม่เป็นประชาธิปไตย ตั้งมาเพื่อประโยชน์เฉพาะกลุ่ม และสุดท้ายคงได้แต่พรรคพวกของ กปปส ดังเช่นการสรรหาทั้งหลายที่ผ่านมา
5.5 เรื่องการแก้กฎหมาย ปปช.นั้น ก็เป็นแค่ราคาคุย ทุกวันนี้คดีทุจริตของพรรคอื่นแทบไม่คืบปล่อยให้หมดอายุความ ยกเว้นของพรรคเพื่อไทย
5.6 เรื่องปฏิรูปตำรวจและอื่น ๆ ทำไมสมัยสุเทพอยู่ ปชป ไม่เคยคิดทำ เพิ่งจะมาพูดเอาดีใส่ตัวในตอนนี้
5.7 นโยบายหลายๆ อย่างที่ทักษิณและคณะได้ดำเนินการไว้ เป็นสิ่งที่ดี ฝ่ายตรงข้ามพยายามบิดเบือน ไม่ให้ประชาชนได้รับประโยชน์ต่างหาก
5.8 การจะให้ท้องถิ่น และราชการต่าง ๆ ปลดพ้นจากอิทธิพลรัฐบาลส่วนกลาง อยู่ที่การให้ท้องถิ่นเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเอง เพราะทุกวันนี้งบประมาณของท้องถิ่น 90% มาจากส่วนกลาง จึงถูกส่วนกลางควบคุม ข้อนี้สุเทพและ ปชป ก็ไม่เคยคิดทำจริงจัง
ดร.สมเกียรติ กล่าวหาแต่การโกงของพรรคเพื่อไทย แต่ไม่เคยกล่าวถึงคดีทุจริตของนายสุเทพและพลพรรคพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งแปลงกายเป็นแกนนำ กปปส ที่เที่ยวออกไปปิดโน่นนี่ การมีอคติเต็มๆ เช่นนี้ ย่อมไม่สามารถเสนอทางออกที่ดีได้เลย
อ้างอิง
{1} www.facebook.com/notes/สมเกียรติ-อ่อนวิมล/คำปราศรัย-เวทีอโศก-โดย-สมเกียรติ-อ่อนวิมล-14-กุมภาพันธ์-2557-ฝันปฏิรูปประเทศไทย/814745455206080
{2} พระราชดำรัสในหลวง 25 เมษายน 2549 ". . . ซึ่งขอยืนยัน ยืนยันว่า มาตรา 7 นั้น ไม่ได้หมายถึงให้มอบให้พระมหากษัตริย์มีอำนาจที่จะทำอะไรตามชอบใจ ไม่ใช่. มาตรา 7 นั้น พูดถึงการปกครองแบบมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ไม่ได้บอกว่าให้พระมหากษัตริย์ตัดสินใจทำได้ทุกอย่าง. ถ้าทำ เขาจะต้องว่าพระมหากษัตริย์ทำเกินหน้าที่. ซึ่งข้าพเจ้าไม่เคยเกิน ไม่เคยทำเกินหน้าที่. ถ้าทำเกินหน้าที่ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย". www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9490000054995