Credit:
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU1EVTFNRGsyT1E9PQ==§ionid=
ข่าวสด ออนไลน์, ซีรี่ส์ขำอำข่าว, โดยนายขำ ตำข่าว
เรื่อง: "ทฤษฏีกำเนิดจักรวาล" กับ "ศาลรัฐธรรมนูญ" และ "Coup d′Etat 2.0" ดิจิตอล...ดิจิตอล...
เอาแล้ว...เอาแล้ว...ผิดก็แต่ "ซื้อหวย" เท่านั้นแหละ. และแล้วเวลาที่ "มวลมหาประชาชนนกหวีด" กับ "มวลมหาประชาชนคนรอเลือกตั้ง" รอคอยก็มาถึงเมื่อ ตลก.ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติรับคำร้องของ กกต. ตามรัฐธรรมนูญ ม.214 ไว้พิจารณา ลงล็อกที่ อ.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ กับ อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล ได้ "ดักคอ" ไว้เป๊ะ!!!
นายขำเองก็ได้นำมา "อำ" ทีเล่นทีจริงเมื่อ "ซีรีส์ 6" แต่ไร้ผล โอ้ย! อะไรจะเส้นลึกขนาดนั้น เพราะนอกจากคณะตลก.จะไม่ตลกด้วยแล้ว ยังเดินหน้ารับพิจารณา เตรียมชี้อำนาจให้คนโน้น คนนี้ ในฐานะที่คิดว่าตนเองมีอำนาจใหญ่ที่สุด
อย่างนี้ไม่เรียก "รัฐตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ" แล้วจะให้เรียกเป็นจังได๋ได้เล่า พ่อแม่พี่น้องเอ้ย คำว่า "รัฐตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ" ไม่ใช่อันตัวนายขำนี่หรอกครัสที่เป็นคนเรียก หากความจำไม่สั้นและรักฉันไม่ยาวจนเกินไปนัก
คงเคยได้ยินเมื่อครั้งที่ "คณะนิติราษฎร์" ออกแถลงการณ์เรื่อง เรื่อง "คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญกรณีรัฐสภาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา" ซึ่ง อ.วรเจตน์ เป็นผู้เอ่ยคำนี้ออกมา เพราะเริ่มรู้สึกว่า "อำนาจ" ของคณะตลก.ชักเยอะล่ะ
ขอบเขตอำนาจขององค์กรได้ขยายไปได้เรื่อย ตลอดเวลา ไม่ต่างอะไรกับทฤษฎีกำเนิดจักรวาลที่เรียกว่า "บิ๊กแบงก์" หรือ "การระเบิดครั้งใหญ่" เป็นการระเบิดที่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเคลื่อนทีหนีออกจากกันส่งผลให้จักรวาลขยายใหญ่ไปเรื่อยๆ
เอ่อ...ไม่รู้ว่า “ขอบเขตอำนาจ” ของศาลรัฐธรรมนูญของไทยจะ “ครอบจักรวาล” ด้วยมั้ย เพราะเมื่อเหลือบมองดูนานาอารยประเทศแล้ว พบว่าที่ไหนเขาไม่ทำกัน แต่ "พี่ไทย" เราไม่เหมือนชาติใดในโลกพรายกระซิบที่ข้างกกหูให้รู้สึกคันหู "เราเป็น ′หลุมดำ′ " (ฮา)
อย่างนั้นแล้วจะมาเรียกว่า "การปกครองในระบอบบประชาธิปไตย" (บ้างเพิ่มว่า "แบบไทยๆ") อยู่ไยเล่าเพื่อนเอ๋ย ยืดอก ภูมิใจ และเดินหน้าอย่างสง่าผ่าเผย ประกาศให้ดังก้องฟ้า เอาให้ถึงหูเทวดา ถึงหูมนุษย์ต่างดาวชาวไซย่า ชาวนาแม็กเลยสิครัสว่า บ้านเราเป็น "รัฐตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ"
วันหน้าวันหลังหาก "ซุนโกคู" หรือ "พิโคโร่" อยากมาเที่ยวมาเยือน "สไมล์แลนด์" แห่งนี้อาจต้องคิดหนัก หรือคงเลิกอยากได้พรจาก "ดราก้อนบอล" แต่หันไปพึ่ง คณะตลก. แทน ซึ่งน่าจะเป็นจริง สมหวัง ดั่งประสงค์ได้มากกว่า หึ ๆ ไม่ต้องเก็บสะสมลูกบอลให้ครบ 7 ลูกด้วย
ดูตัวอย่าง "พี่มาก" เอ้ย! "พี่มาร์ค" สิครัส!!! พึ่งแต่คณะตลก.เหล่านี้จนเสียนิสัย นับนิ้วไล่ดูสิ ตั้งแต่กรณียุบพรรคไทยรักไทย ยุบพรรคพลังประชาชน จนมาถึงวันนี้ กลายเป็นพรรคไทยรักไทย ก็คงจ้องหาทางยื่นเรื่องให้ยุบอยู่นั่นแหละ แต่ดูแล้วยังไม่มีเรื่อง ก็เลยเมียงมองหาช่องอื่น
ถึงตอนนี้ เขียนเพลินๆ อารมณ์ดี จู่ๆก็คิดถึงคำว่า "รัฐประหารโดยศาล" ซะงั้น เอ่อ...ออกตัวก่อนว่าไม่ได้หมายถึงศาลไหนนะครัส ศาลใดไม่อยากรับคำนี้ไปไว้เป็นเกียรติประวัติก็อย่างทำตัวเป็นผู้ “ฉีกกฎหมาย”
ไอ้คำว่า "รัฐประหารโดยศาล" ได้ยินครั้งแรกก็จากปาก อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล ในฐานะที่แกเคยผ่านการศึกษามาจากแดนน้ำหอม ประเทศฝรั่งเศส
(ตรงนี้ไม่ทราบว่า อ.สมบัติ ธำรงค์ฯ อ.เสรี วงษ์ฯ หรือ "น้องตั๊น" แห่ง กปปส.ให้ค่ากี่แต้มกับการลงคะแนนเลือกตั้ง ถ้าทั้ง 3 ท่านยังคงยืนยันในหลักการ "คนไม่เท่ากัน" อยู่จนกระทั่งตอนนี้)
อ.หนุ่มหล่อ มาดเกาหลีแบบซุปเปอร์สตาร์ "ซับ เจือ จาง" (ฮา) เคยบอกไว้ว่า ไอ้วิธีการยึดอำนาจแบบนี้ สื่อมวลชนในฝรั่งเศสเขาตั้งชื่อให้เสร็จสรรพ เป็นศัพท์แสงเท่ไม่หยอกว่า "Coup d′Etat 2.0"
เข้าใจว่า เปรียบเทียบเอากับเทคโนโลยีการสื่อสารที่ก้าวล้ำมาอีกขั้นหนึ่ง "Coup d′Etat 1.0" ที่ดำเนินการโดยทหาร แบบเดิมนั้นตกยุค มุกแป้กไปแล้ว นานาอารยะประเทศเค้าไม่ยอมรับ เผลอๆอาจโดนบอยคอต โดนทอดทิ้งให้อ้างว้างเอกา หาหอย หาปลา อาศัยอยู่ในถ้ำดังเดิม เครื่องมือที่จะใช้ "ยึดอำนาจรัฐ" แบบใหม่จึงถูกพัฒนา เพื่อให้นานาอารยะประเทศเข้ามา "จุ้นจ้าน" ได้ยาก
อย่างที่ อ.มาดเกาหลี "ซับ เจือ จาง" บอกว่า นานาอารยประเทศจะไม่เข้ามาแทรกแซง กดดัน วิพากษ์วิจารณ์ เพราะเป็นเรื่องระบบรัฐธรรมนูญภายในของแต่ละประเทศ และไม่ได้ใช้กำลังทางกายภาพที่แสดงออกอย่างประจักษ์ชัดถึงความรุนแรง และอย่างน้อยที่สุด ดีๆชั่วๆ มันก็มาในนาม "กฎหมาย"
เข้าทางอย่างที่ท่านกำนันสุเทือก เอ้ย สุเทพ พูดบ่อยๆ แลบลิ้นแผล็บแล้วว่า "ต่างชาติไม่เข้าใจการปกครองของไทย...ไม่เข้าใจประชาธิปไตยของเรา" ส่วนประชาชนซึ่งเข้าใจดี ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ศาล วิจารณ์คำวินิจฉัย คุณก็จะโดนโยนประโยคสำเร็จรูปให้ทันทีว่า "ต้องเคารพคำตัดสินของศาล"
ดูอย่างที่ผ่านมาสิ พรรค ปชป.และ กปปปส. เองก็ประสานเสียงคีย์เดียวกันอยู่บ่อยๆ การที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยออกมาไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว. โดยบอกว่า พวกนี้เป็นพวกไม่ยอมรับคำตัดสิน ไม่ยอมรับกฎหมาย
และก็ได้ผลดีชะงักใช่มั้ยล่ะครัส ในการใช้ล้มรัฐบาลที่อ้างว่า "หมดความชอบธรรม" เหตุดังนี้แล....ประชาชน "ชนชั้นกลางในประเทศทวยแลนด์" ก็เออออ ห่อหมกไก่ บ้างห่อหมกปลา เห็นดีเห็นงามตามไป โดยไม่เคยศึกษาถึงรากของปัญหา เปิดตำรา ดูหลักการเลยว่า "ศาลรัฐธรรมนูญ" มีอำนาจที่จะรับพิจารณาเรื่องหรือไม่
ปล่อยให้ "ตาสี" แห่งบ้านหนองหมาว้อ กับ "ยายสา" แห่งบ้านเนินอีด่วย พลิกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมือเป็นระวิง ก่อนจะพบว่า ไม่มีบทบัญญัติไหนเลยที่จะให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญรับพิจารณาเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะมันเป็นหน้าที่ของ "ฝ่ายนิติบัญญัติ" โดยตรงอย่าง ส.ส. และ ส.ว. นะครัสสส
เรื่องพิจารณาเลื่อน-ไม่เลื่อนการเลือกตั้งนี้ก็เช่นกัน ดังนั้น เมื่อศาลรัฐธรรมนูญ เป็นฝ่ายละเมิดรัฐธรรมนูญเองตั้งแต่แรก แล้วอย่างนี้ผลการวินิจฉัยที่ออกมา จะให้ยอมรับกันอย่างนั้นเหรอ
จึงไอ้ที่เรียกว่า คำวินิจฉัยมีผล "ผูกพัน" กับองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ มันก็เลยไม่ผูกพัน เพราะเรานั้นหมดรักกันแล้ว เอ้ยไม่ใช่! เพราะคำวินิจฉัยนั้น "ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ"
แต่ฝ่าย "ตาสี" "ยายสา" จะรับเงินทักษิณขนคนมาประท้วงก็คงยาก เพราะจะโดนโยนประโยคสำเร็จรูปให้ทันทีว่า "คุกคามศาล" เฮ้อ...! อ่านถึงจุดนี้แล้วรู้หรือยังครัส "อำนาจอธิปไตย" ใครใหญ่ครอบจักรวาล?
ทุกปัญหาย่อมมีทางออก...หาทางออกไปเจอก็ให้ไปออกที่ทางเข้า นี่ไงครัส คำคมของพวก “โลกสวย” ช่วยชี้ทางล่ะ ทางเข้าคืออะไร เฮ้ย! เหลือบไปดูก็เห็นมวลมหาประชาชนเค้าล็อก ล่ามโซ่ไว้หมด แล้วจะออกอย่างไร ให้ปีนกำแพงอย่างนั้นเหรอ
ทางที่ดีที่สุด ประชาชน อย่างเราๆ ต้องแสดงเจตจำนงค์กระตุ้น หรือเป็นพลังให้กับ องค์กรในรัฐธรรมนูญได้ออกมายืนยันในอำนาจที่ตนมี เมื่อคำวินิจฉัยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญเสียแล้ว จะให้ทำตาม ยอม ยอม ยอม อย่างนั้นคงไม่ได้
เมื่อกฎหมายบัญญัติมาให้ทุกองค์กรอยู่ในระนาบเดียวกัน มีอำนาจสมดุล คานกัน แต่จู่ๆ เกิดมีบางองค์กรที่พยายามเล่นนอกกติกา ขยายอำนาจตัวเองอยู่ตลอดเวลา อย่างไม่มีที่สิ้นสุด รุกล้ำ เกินเส้น เบียดองค์กรอื่นๆจนตกขอบ อย่างนี้แล้ว "Coup d′Etat 2.0" คงได้เจอ "ประชาชน 3.0" (คำของ บก.ลายจุด)
"ดิจิตอล ดิจิตอล....เดี๋ยวรู้เลย (พูดจบขยับแว่นและสะบัดผมทีหนึ่ง)"
"ขอขอบคุณเนื้อหาจาก ซีรี่ส์ขำอำข่าว, นายขำ ตำข่าว และข่าวสดออนไลน์ด้วยครับ"
[แก้ง่วง] ซีรี่ส์ขำอำข่าว7 :"ทฤษฏีกำเนิดจักรวาล"กับ"ศาลรธน."และ ดิจิตอล..ดิจิตอล..by ข่าวสด ออนไลน์
ข่าวสด ออนไลน์, ซีรี่ส์ขำอำข่าว, โดยนายขำ ตำข่าว
เรื่อง: "ทฤษฏีกำเนิดจักรวาล" กับ "ศาลรัฐธรรมนูญ" และ "Coup d′Etat 2.0" ดิจิตอล...ดิจิตอล...
เอาแล้ว...เอาแล้ว...ผิดก็แต่ "ซื้อหวย" เท่านั้นแหละ. และแล้วเวลาที่ "มวลมหาประชาชนนกหวีด" กับ "มวลมหาประชาชนคนรอเลือกตั้ง" รอคอยก็มาถึงเมื่อ ตลก.ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติรับคำร้องของ กกต. ตามรัฐธรรมนูญ ม.214 ไว้พิจารณา ลงล็อกที่ อ.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ กับ อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล ได้ "ดักคอ" ไว้เป๊ะ!!!
นายขำเองก็ได้นำมา "อำ" ทีเล่นทีจริงเมื่อ "ซีรีส์ 6" แต่ไร้ผล โอ้ย! อะไรจะเส้นลึกขนาดนั้น เพราะนอกจากคณะตลก.จะไม่ตลกด้วยแล้ว ยังเดินหน้ารับพิจารณา เตรียมชี้อำนาจให้คนโน้น คนนี้ ในฐานะที่คิดว่าตนเองมีอำนาจใหญ่ที่สุด
อย่างนี้ไม่เรียก "รัฐตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ" แล้วจะให้เรียกเป็นจังได๋ได้เล่า พ่อแม่พี่น้องเอ้ย คำว่า "รัฐตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ" ไม่ใช่อันตัวนายขำนี่หรอกครัสที่เป็นคนเรียก หากความจำไม่สั้นและรักฉันไม่ยาวจนเกินไปนัก
คงเคยได้ยินเมื่อครั้งที่ "คณะนิติราษฎร์" ออกแถลงการณ์เรื่อง เรื่อง "คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญกรณีรัฐสภาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา" ซึ่ง อ.วรเจตน์ เป็นผู้เอ่ยคำนี้ออกมา เพราะเริ่มรู้สึกว่า "อำนาจ" ของคณะตลก.ชักเยอะล่ะ
ขอบเขตอำนาจขององค์กรได้ขยายไปได้เรื่อย ตลอดเวลา ไม่ต่างอะไรกับทฤษฎีกำเนิดจักรวาลที่เรียกว่า "บิ๊กแบงก์" หรือ "การระเบิดครั้งใหญ่" เป็นการระเบิดที่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเคลื่อนทีหนีออกจากกันส่งผลให้จักรวาลขยายใหญ่ไปเรื่อยๆ
เอ่อ...ไม่รู้ว่า “ขอบเขตอำนาจ” ของศาลรัฐธรรมนูญของไทยจะ “ครอบจักรวาล” ด้วยมั้ย เพราะเมื่อเหลือบมองดูนานาอารยประเทศแล้ว พบว่าที่ไหนเขาไม่ทำกัน แต่ "พี่ไทย" เราไม่เหมือนชาติใดในโลกพรายกระซิบที่ข้างกกหูให้รู้สึกคันหู "เราเป็น ′หลุมดำ′ " (ฮา)
อย่างนั้นแล้วจะมาเรียกว่า "การปกครองในระบอบบประชาธิปไตย" (บ้างเพิ่มว่า "แบบไทยๆ") อยู่ไยเล่าเพื่อนเอ๋ย ยืดอก ภูมิใจ และเดินหน้าอย่างสง่าผ่าเผย ประกาศให้ดังก้องฟ้า เอาให้ถึงหูเทวดา ถึงหูมนุษย์ต่างดาวชาวไซย่า ชาวนาแม็กเลยสิครัสว่า บ้านเราเป็น "รัฐตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ"
วันหน้าวันหลังหาก "ซุนโกคู" หรือ "พิโคโร่" อยากมาเที่ยวมาเยือน "สไมล์แลนด์" แห่งนี้อาจต้องคิดหนัก หรือคงเลิกอยากได้พรจาก "ดราก้อนบอล" แต่หันไปพึ่ง คณะตลก. แทน ซึ่งน่าจะเป็นจริง สมหวัง ดั่งประสงค์ได้มากกว่า หึ ๆ ไม่ต้องเก็บสะสมลูกบอลให้ครบ 7 ลูกด้วย
ดูตัวอย่าง "พี่มาก" เอ้ย! "พี่มาร์ค" สิครัส!!! พึ่งแต่คณะตลก.เหล่านี้จนเสียนิสัย นับนิ้วไล่ดูสิ ตั้งแต่กรณียุบพรรคไทยรักไทย ยุบพรรคพลังประชาชน จนมาถึงวันนี้ กลายเป็นพรรคไทยรักไทย ก็คงจ้องหาทางยื่นเรื่องให้ยุบอยู่นั่นแหละ แต่ดูแล้วยังไม่มีเรื่อง ก็เลยเมียงมองหาช่องอื่น
ถึงตอนนี้ เขียนเพลินๆ อารมณ์ดี จู่ๆก็คิดถึงคำว่า "รัฐประหารโดยศาล" ซะงั้น เอ่อ...ออกตัวก่อนว่าไม่ได้หมายถึงศาลไหนนะครัส ศาลใดไม่อยากรับคำนี้ไปไว้เป็นเกียรติประวัติก็อย่างทำตัวเป็นผู้ “ฉีกกฎหมาย”
ไอ้คำว่า "รัฐประหารโดยศาล" ได้ยินครั้งแรกก็จากปาก อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล ในฐานะที่แกเคยผ่านการศึกษามาจากแดนน้ำหอม ประเทศฝรั่งเศส
(ตรงนี้ไม่ทราบว่า อ.สมบัติ ธำรงค์ฯ อ.เสรี วงษ์ฯ หรือ "น้องตั๊น" แห่ง กปปส.ให้ค่ากี่แต้มกับการลงคะแนนเลือกตั้ง ถ้าทั้ง 3 ท่านยังคงยืนยันในหลักการ "คนไม่เท่ากัน" อยู่จนกระทั่งตอนนี้)
อ.หนุ่มหล่อ มาดเกาหลีแบบซุปเปอร์สตาร์ "ซับ เจือ จาง" (ฮา) เคยบอกไว้ว่า ไอ้วิธีการยึดอำนาจแบบนี้ สื่อมวลชนในฝรั่งเศสเขาตั้งชื่อให้เสร็จสรรพ เป็นศัพท์แสงเท่ไม่หยอกว่า "Coup d′Etat 2.0"
เข้าใจว่า เปรียบเทียบเอากับเทคโนโลยีการสื่อสารที่ก้าวล้ำมาอีกขั้นหนึ่ง "Coup d′Etat 1.0" ที่ดำเนินการโดยทหาร แบบเดิมนั้นตกยุค มุกแป้กไปแล้ว นานาอารยะประเทศเค้าไม่ยอมรับ เผลอๆอาจโดนบอยคอต โดนทอดทิ้งให้อ้างว้างเอกา หาหอย หาปลา อาศัยอยู่ในถ้ำดังเดิม เครื่องมือที่จะใช้ "ยึดอำนาจรัฐ" แบบใหม่จึงถูกพัฒนา เพื่อให้นานาอารยะประเทศเข้ามา "จุ้นจ้าน" ได้ยาก
อย่างที่ อ.มาดเกาหลี "ซับ เจือ จาง" บอกว่า นานาอารยประเทศจะไม่เข้ามาแทรกแซง กดดัน วิพากษ์วิจารณ์ เพราะเป็นเรื่องระบบรัฐธรรมนูญภายในของแต่ละประเทศ และไม่ได้ใช้กำลังทางกายภาพที่แสดงออกอย่างประจักษ์ชัดถึงความรุนแรง และอย่างน้อยที่สุด ดีๆชั่วๆ มันก็มาในนาม "กฎหมาย"
เข้าทางอย่างที่ท่านกำนันสุเทือก เอ้ย สุเทพ พูดบ่อยๆ แลบลิ้นแผล็บแล้วว่า "ต่างชาติไม่เข้าใจการปกครองของไทย...ไม่เข้าใจประชาธิปไตยของเรา" ส่วนประชาชนซึ่งเข้าใจดี ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ศาล วิจารณ์คำวินิจฉัย คุณก็จะโดนโยนประโยคสำเร็จรูปให้ทันทีว่า "ต้องเคารพคำตัดสินของศาล"
ดูอย่างที่ผ่านมาสิ พรรค ปชป.และ กปปปส. เองก็ประสานเสียงคีย์เดียวกันอยู่บ่อยๆ การที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยออกมาไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว. โดยบอกว่า พวกนี้เป็นพวกไม่ยอมรับคำตัดสิน ไม่ยอมรับกฎหมาย
และก็ได้ผลดีชะงักใช่มั้ยล่ะครัส ในการใช้ล้มรัฐบาลที่อ้างว่า "หมดความชอบธรรม" เหตุดังนี้แล....ประชาชน "ชนชั้นกลางในประเทศทวยแลนด์" ก็เออออ ห่อหมกไก่ บ้างห่อหมกปลา เห็นดีเห็นงามตามไป โดยไม่เคยศึกษาถึงรากของปัญหา เปิดตำรา ดูหลักการเลยว่า "ศาลรัฐธรรมนูญ" มีอำนาจที่จะรับพิจารณาเรื่องหรือไม่
ปล่อยให้ "ตาสี" แห่งบ้านหนองหมาว้อ กับ "ยายสา" แห่งบ้านเนินอีด่วย พลิกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมือเป็นระวิง ก่อนจะพบว่า ไม่มีบทบัญญัติไหนเลยที่จะให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญรับพิจารณาเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะมันเป็นหน้าที่ของ "ฝ่ายนิติบัญญัติ" โดยตรงอย่าง ส.ส. และ ส.ว. นะครัสสส
เรื่องพิจารณาเลื่อน-ไม่เลื่อนการเลือกตั้งนี้ก็เช่นกัน ดังนั้น เมื่อศาลรัฐธรรมนูญ เป็นฝ่ายละเมิดรัฐธรรมนูญเองตั้งแต่แรก แล้วอย่างนี้ผลการวินิจฉัยที่ออกมา จะให้ยอมรับกันอย่างนั้นเหรอ
จึงไอ้ที่เรียกว่า คำวินิจฉัยมีผล "ผูกพัน" กับองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ มันก็เลยไม่ผูกพัน เพราะเรานั้นหมดรักกันแล้ว เอ้ยไม่ใช่! เพราะคำวินิจฉัยนั้น "ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ"
แต่ฝ่าย "ตาสี" "ยายสา" จะรับเงินทักษิณขนคนมาประท้วงก็คงยาก เพราะจะโดนโยนประโยคสำเร็จรูปให้ทันทีว่า "คุกคามศาล" เฮ้อ...! อ่านถึงจุดนี้แล้วรู้หรือยังครัส "อำนาจอธิปไตย" ใครใหญ่ครอบจักรวาล?
ทุกปัญหาย่อมมีทางออก...หาทางออกไปเจอก็ให้ไปออกที่ทางเข้า นี่ไงครัส คำคมของพวก “โลกสวย” ช่วยชี้ทางล่ะ ทางเข้าคืออะไร เฮ้ย! เหลือบไปดูก็เห็นมวลมหาประชาชนเค้าล็อก ล่ามโซ่ไว้หมด แล้วจะออกอย่างไร ให้ปีนกำแพงอย่างนั้นเหรอ
ทางที่ดีที่สุด ประชาชน อย่างเราๆ ต้องแสดงเจตจำนงค์กระตุ้น หรือเป็นพลังให้กับ องค์กรในรัฐธรรมนูญได้ออกมายืนยันในอำนาจที่ตนมี เมื่อคำวินิจฉัยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญเสียแล้ว จะให้ทำตาม ยอม ยอม ยอม อย่างนั้นคงไม่ได้
เมื่อกฎหมายบัญญัติมาให้ทุกองค์กรอยู่ในระนาบเดียวกัน มีอำนาจสมดุล คานกัน แต่จู่ๆ เกิดมีบางองค์กรที่พยายามเล่นนอกกติกา ขยายอำนาจตัวเองอยู่ตลอดเวลา อย่างไม่มีที่สิ้นสุด รุกล้ำ เกินเส้น เบียดองค์กรอื่นๆจนตกขอบ อย่างนี้แล้ว "Coup d′Etat 2.0" คงได้เจอ "ประชาชน 3.0" (คำของ บก.ลายจุด)
"ดิจิตอล ดิจิตอล....เดี๋ยวรู้เลย (พูดจบขยับแว่นและสะบัดผมทีหนึ่ง)"
"ขอขอบคุณเนื้อหาจาก ซีรี่ส์ขำอำข่าว, นายขำ ตำข่าว และข่าวสดออนไลน์ด้วยครับ"