จขกท.ไปเรียนตปท.ได้เกือบ 6 เดือนแล้วค่ะ ตอนก่อนไปก็คิดว่าพอเอาตัวรอดได้ระดับนึง (IELTS 6.5 writing 6)
แต่พอมาเรียน จนถึงตอนนี้เวลาผ่านไป ไม่ได้รู้สึกว่าเรารู้ศัพท์มากขึ้นหรือเขียนงานเก่งขึ้นเลยค่ะ มานั่งคิดๆแล้วเครียดจัง
เพราะเคยเห็นคนที่จบจากต่างประเทศหลายๆคน บางคนเรียนแค่ 1-2 ปีแต่รูปประโยคหรือคำศัพท์ที่ใช้ในการเขียนขั้นสูงมากเลย
มีอ.ท่านนึงตรวจงานให้จขกท. ท่านไม่ได้เรียนด้านภาษาโดยตรงค่ะ แต่แก้งานได้เป๊ะมาก บอกว่าตรงนี้ประโยคฟุ่มเฟือย ตรงนี้ใช้คำไม่เหมาะ
ส่วนจขกท.แค่อ่านให้เข้าใจกับศัพท์ยากๆแบบนั้นยังใช้เวลานานเลยค่ะ
ก่อนไปเคยคิดว่าถ้าเราเรียนแล้วเราคงเก่งแบบนั้นบ้าง แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่เป็นอย่างงั้นเลยค่ะ
รูปประโยคที่ใช้ยังง่อยๆเหมือนเดิม It is, There is, There are มากกว่านั้นต้องเปิดหนังสือคนอื่นแล้วดัดแปลงเอาแล้ว ไปไม่เป็นค่ะ
อยากถามคนที่ทำงานด้านภาษาหรือคนที่ writing เก่งๆว่าฝึกยังไงหรือคะถึงจะเขียนได้เป็นวิชาการ
ปล. จขกท.รู้ศัพท์น้อยมากค่ะ ถ้าเทียบกับคนอื่นๆที่ได้ IELTS ระดับเดียวกัน
การที่เราท่องศัพท์หรือพยายามใช้งานศัพท์ใหม่ๆเยอะๆจะช่วยให้เราเขียนเก่งขึ้นบ้างไหมคะ
ทำยังไงถึงจะพัฒนาการเขียนภาษาอังกฤษให้เป็นวิชาการมากขึ้นคะ
แต่พอมาเรียน จนถึงตอนนี้เวลาผ่านไป ไม่ได้รู้สึกว่าเรารู้ศัพท์มากขึ้นหรือเขียนงานเก่งขึ้นเลยค่ะ มานั่งคิดๆแล้วเครียดจัง
เพราะเคยเห็นคนที่จบจากต่างประเทศหลายๆคน บางคนเรียนแค่ 1-2 ปีแต่รูปประโยคหรือคำศัพท์ที่ใช้ในการเขียนขั้นสูงมากเลย
มีอ.ท่านนึงตรวจงานให้จขกท. ท่านไม่ได้เรียนด้านภาษาโดยตรงค่ะ แต่แก้งานได้เป๊ะมาก บอกว่าตรงนี้ประโยคฟุ่มเฟือย ตรงนี้ใช้คำไม่เหมาะ
ส่วนจขกท.แค่อ่านให้เข้าใจกับศัพท์ยากๆแบบนั้นยังใช้เวลานานเลยค่ะ
ก่อนไปเคยคิดว่าถ้าเราเรียนแล้วเราคงเก่งแบบนั้นบ้าง แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่เป็นอย่างงั้นเลยค่ะ
รูปประโยคที่ใช้ยังง่อยๆเหมือนเดิม It is, There is, There are มากกว่านั้นต้องเปิดหนังสือคนอื่นแล้วดัดแปลงเอาแล้ว ไปไม่เป็นค่ะ
อยากถามคนที่ทำงานด้านภาษาหรือคนที่ writing เก่งๆว่าฝึกยังไงหรือคะถึงจะเขียนได้เป็นวิชาการ
ปล. จขกท.รู้ศัพท์น้อยมากค่ะ ถ้าเทียบกับคนอื่นๆที่ได้ IELTS ระดับเดียวกัน
การที่เราท่องศัพท์หรือพยายามใช้งานศัพท์ใหม่ๆเยอะๆจะช่วยให้เราเขียนเก่งขึ้นบ้างไหมคะ