2 ช่องทางการขายอีบุ๊คในไทย

อินเตอร์เน็ตเปิดให้คนผลิตงานเขียนของตัวเองได้ง่ายขึ้น คุณามารถผลิตหนังสือของตัวเองขายได้และการขายอีบุ๊คผ่านอินเตอร์เน็ตสะดวกมากเพราะคุณไม่ต้องตระเวนหาสำนักพิมพ์ ไม่ต้องรอคำตอบ ไม่ต้องผ่านกระบวนการอะไรให้มากมายอีกต่อ คุณเขียนหนังสือลงใน Microsoft Words แล้วคอนเวิร์ท (Convert) เป็น PDF จากนั้นอีบุ๊คของคุณก็พร้อมขาย โดยในปี 2013 ที่ผ่านมา ผมมีรายได้ Passive income จากการเขียนอีบุ๊คขายถึง 6 หลักซึ่งก่อนที่ผมจะเขียนอีบุ๊คผมก็ไม่คาดคิดว่าจะสามารถสร้างรายได้ถึงจุดนี้ ช่องทางในการขายอีบุ๊คที่ผมจะมาเล่าให้ฟังในกระทู้นี้ ได้แก่ 1) ขายผ่านเว็บไซต์ของคุณเอง และ 2) ขายผ่านเว็บไซต์กลาง


Credit image: WallPapersWide.com


1). ขายผ่านเว็บไซต์ของคุณเอง

ข้อดีของการขายอีบุ๊คผ่านเว็บไซต์ของคุณเองคือคุณจะได้กำไรเกือบ 100% เต็ม คุณจะมีค่าใช้จ่ายเบื้องต้นคือค่าทำเว็บไซต์อันประกอบไปด้วย ค่า Hosting, ค่าจด Domain name, ค่า Website theme รวมเป็นเงินประมาณ 4,000-5,000 บาท การทำเว็บไซต์ในปัจจุบันเป็นเรื่องง่ายและใช้เวลาเพียง 30 นาทีคุณก็สามารถมีเว็บไซต์ของตัวเองได้แล้วโดยผมได้เขียนคู่มือ Step by Step วิธีสร้างเว็บไซต์ด้วยตัวเองภายใน 30 นาที ที่นี่ http://www.epicwriterr.com/build-a-wordpress-blog/

ช่องทางการชำระเงินสำหรับการขายอีบุ๊คผ่านเว็บไซต์ตัวเอง

ช่องทางชำระเงินเรียกว่า Payment gateway มีมากมายหลายวิธีและผมขอแสดงเฉพาะ 3 วิธีหลักที่ผมใช้

1) Gumroad.com: คุณนำอีบุ๊คอัพโหลดเข้าบัญชี Gumroad และนำ Payment Link ไปวางไว้ในเว็บไซต์ ลูกค้าคลิ๊ก Buy Now ก็จะสามารถจ่ายผ่านบัตรเครดิตได้และ อีบุ๊ค จะถูกดาวน์โหลดลงในคอมพิวเตอร์ของผู้ซื้อทันที ยอดเงินจะถูกนำไปสะสมไว้ที่บัญชี Gumroad ของคุณและทาง Gumroad จะโอนเงินเข้าบัญชี Paypal ของคุณทุกวันศุกร์เว้นศุกร์ ยกตัวอย่าง…

a) ยอดขายถึงวันศุกร์ที่ 6 ธ.ค. 2013 Gumroad จะโอนให้คุณในวันศุกร์ที่ 20 ธ.ค. 2013
b) ยอดขายระหว่าง เสาร์ที่ 7 ธ.ค. – ศุกร์ที่ 13 ธ.ค. Gumroad จะโอนให้คุณในวันศุกร์ที่ 27 ธ.ค. 2013 เป็นต้น
c) Payment threshold ของ Gumroad คือ $10 นั่นหมายความว่าคุณต้องมียอดขายสะสมไม่น้อยกว่า $10 เงินจึงจะถูกโอนไปให้คุณได้ Gumroad จะเก็บค่านายหน้า 5% + $0.25 ต่อหนึ่งยอดขาย และคุณจะต้องมีบัญชี Paypal ในการรับเงิน

2) E-Junkie.com: คุณนำอีบุ๊คอัพโหลดเข้า E-Junkie และรับ Payment Link ไปวางไว้ในเว็บไซต์หลักการเดียวกับ Gumroad แต่ครั้งนี้ฝ่ายผู้ซื้อจะต้องมีบัญชี Paypal ด้วย เมื่อผู้ซื้อกดปุ่ม Buy Now ก็จะเป็นการทำรายการผ่าน Paypal และดาวน์โหลดลิงค์จะถูกจัดส่งให้ผู้ซื้อทันที ส่วนเงินจะถูกโอนเข้าบัญชี Paypal ของคุณ E-Junkie มีค่าบริการเดือนละ $5 ในขณะที่ Paypal จะเก็บค่านายหน้าประมาณ 8% ต่อหนึ่งยอดขาย

3) ATM Transfer: วิธีสุดคลาสสิค จ่ายผ่านตู้ ATM โดยให้ลูกค้าโอนเงินเข้ามายังบัญชีของคุณ กรณีนี้คุณได้รับเงินเต็มจำนวนแต่ก็จะมีขึ้นตอนที่เป็น Manual มากขึ้น เช่น ลูกค้าต้องส่ง Slip มายืนยันหลังชำระเงินและคุณต้องเป็นผู้ดำเนินการจัดส่งอีบุ๊คไปหาลูกค้าด้วยตัวเองทุกครั้ง ซึ่งลูกค้าจะไม่ได้รับอีบุ๊คทันทีที่ชำระเงิน เรื่องนี้คุณจำเป็นต้องแจ้งข้อมูลให้รอบคอบไว้ในหน้า Sales page ว่าถ้าจ่ายด้วย ATM จะไม่ได้รับอีบุ๊คในทันที เพราะบางคนอาจไม่รู้และไม่เข้าใจว่าทำไมถึงยังไม่ได้รับอีบุ๊ค โดยมากผมให้เวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมงหลังแจ้งชำระเงิน แต่โดยเฉลี่ยแล้วผมจะสามารถส่งอีบุ๊คให้ผู้ซื้อได้ภายใน 1-6 ชั่วโมงเนื่องจากผมจะเช็คอีเมล์เป็นระยะๆ

ข้อเสียของการขายผ่านเว็บไซต์ของตัวเอง

การขายผ่านเว็บไซต์ของตัวเองต้องพัฒนาระบบต่างๆขึ้นมาด้วยตัวเองทั้งหมด มีการลงทุนทางเวลาและเงินที่สูงกว่า ตั้งแต่การสร้างเว็บไซต์, Payment gateway, และ การตลาด อีกประการคือการป้องกันการก็อปปี้ (DRM-Digital Right Management) เป็นไปได้ยาก อีบุ๊คมีโอกาสที่จะถูกก็อปปี้ไปแจกจ่ายหรือแชร์หรือแบ่งกันอ่านต่อๆกันไป

2) ขายผ่านเว็บกลาง

เว็บกลางเป็นเว็บไซต์ที่เปิดขึ้นมาเป็น Marketplace หรือตลาดกลางในการจัดจำหน่ายอีบุ๊ค ข้อดีของเว็บกลางเหล่านี้คือจะมีระบบสนับสนุนตั้งแต่ระบบ Payment gateway, Electronic delivery, Reading application และ Digital right management ป้องกันการก็อปปี้ที่แข็งแกร่งกว่า แต่ละรายจะมีระบบการตัดยอดโอนเงินแตกต่างกันไปเล็กน้อย หลักๆคุณควรต้องมีบัญชี Paysbuy.com เอาไว้เพราะบางรายจะให้ใช้ Payment gateway ผูกเข้ากับระบบ Paysbuy

เว็บกลางที่ให้บริการซื้อขายในประเทศไทยมีหลายเว็บโดยคุณสามารถศึกษารายชื่อผู้ให้บริการฯ ได้เว็บ ThaiEbook.info ซึ่งได้ลิสต์ไว้อย่างละเอียด -- ส่วน 4 เว็บหลักที่เป็นที่ผู้ใช้งานอย่างแพร่หลายได้แก่ OokBee.com, Se-Ed.com, Ebooks.in.th, และ MebMarket.com

การจะนำผลงานไปลงยังเว็บกลางเหล่านั้นคุณต้องสมัครเป็นนักเขียนโดยจะมีการทำสัญญากัน ขั้นตอนนี้จะใช้เวลารวมๆประมาณ 2-4 สัปดาห์แล้วแต่จังหวะ จากนั้นเมื่อคุณได้เข้าเป็นนักเขียนของแต่ละค่ายแล้วการนำหนังสือไปลงขายจะต้องรอการตรวจพิจารณาอีก 2-4 สัปดาห์ขึ้นอยู่กับปริมาณหนังสือที่ทางค่ายต้องเข้าคิวรอตรวจสอบ เมื่อผ่านแล้วก็ต้องรออีก 2-4 สัปดาห์ในการแปลไฟล์ให้เข้ากับระบบปฏิบัติการของทางค่าย

คุณจะเห็นว่ากระบวนการโดยรวมมันกินเวลามาก อย่างน้อยๆก็ไม่ต่ำกว่า 1 เดือนสำหรับขั้นตอนทั้งหมดและมีโอกาสยืดยาวไปแตะที่ 2-3 เดือนหากวงการหนังสืออีบุ๊คคึกคักมากๆ ก็เป็นได้ ฉะนั้นอย่ารอให้สมัครผ่านแล้วค่อยเขียนแต่ให้เขียนไปสมัครไปเลย พอผ่านแล้วก็จะได้ส่งหนังสือไปขอ Approve

ข้อเสียของการขายอีบุ๊คผ่านเว็บกลาง

เว็บกลางมีการเก็บค่านายหน้า, และอีกอันคือค่าระบบปฏิบัติการในกรณีที่อีบุ๊คมีการซื้อผ่านระบบปฏิบัติการอย่าง Apple และ Android แต่ละค่ายมีอัตราการเรียกเก็บที่ไม่เท่ากันแต่โดยรวมแล้วคุณมีโอกาสถูกเก็บค่านายหน้าและค่าระบบจากยอดขายรามๆ 30-40% ซึ่งก็ถือเป็นตัวเลขที่สูงหากคุณจะต้องขายอีบุ๊คราคาเล่มละร้อยต้นๆ

ผมเข้าใจว่าค่าใช้จ่ายเหล่านี้ก็เปรียบเสมือนค่าเช่าระบบที่ทางเจ้าของ Platform เขาสร้างขึ้นมาอำนวยความสะดวกแก่นักเขียน เปิดโอกาสให้นักเขียนโฟกัสที่การผลิตเนื้อหา ส่วนระบบและการตลาดนั้นทางเจ้าของค่ายเป็นผู้ดูแล แต่ในภาคปฏิบัติจริง เว็บกลางเป็นศูนย์รวมหนังสือที่มีทั้งหนังสือ ฟรี หนังสือถูก และ หนังสือแพง วางคู่กัน ก่อให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรงโดยที่คุณไม่มีโอกาสที่จะทำความเข้าใจกับผู้ซื้อว่าของคุณแตกต่างอย่างไร ตรงนี้จึงเป็นข้อเสียหากเทียบกับการขายผ่านเว็บไซต์ของตัวเอง

สรุป

2 ช่องทางการขายอีบุ๊คในไทยที่ผมกล่าวไปไม่มีใครดีกว่าใครแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ต่างช่องทางต่างมีข้อดีข้อเสียของแต่ละฝั่ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณเขียนหนังสือแบบใดและคุณถนัดแนวไหน ผมคิดว่าการขายผ่านเว็บกลางอาจเหมาะกับอีบุ๊คเกือบทุกชนิดโดยเฉพาะนิยาย แต่การขายผ่านเว็บไซต์ของตัวเองอาจเหมาะกับ Non-fiction ที่ Niche มากๆ และเหมาะกับคนที่ต้องการสร้าง Brand ของตัวเอง ส่วนตัวผมใช้วิธีขายผ่านเว็บไซต์ตัวเองและประสบผลเป็นอย่างดี

Source: http://www.epicwriterr.com/2-ways-to-sell-ebook-in-thailand/

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่