เชื่อว่าหลายคนอ่านหัวบทความรีวิวแล้วต้องอยากลุกไปอาบน้ำแน่นอน 555 เพื่อให้เห็นภาพและเข้ากับบริบทของอัลบั้มงานเพลงศิลปินดูโอ้คนทำเพลงที่พวกเรารับรู้กันในฐานะศิลปินอินดี้ แต่งานเพลงของพวกเขาก้าวล้ำเข้าสู่หัวใจของคนฟังทุกกลุ่มไม่ใช่แค่กลุ่มคนฟังอินดี้แต่อย่างใด เพราะเพลงมันดีจริงๆมันจึงทำงานด้วยกลไกของตัวมันเอง แม้จะไม่ได้มีเนื้อหากะขายแบบฮาร์ดเซลล์ ฉันรักเธอ เธอรักฉันฉันอกหักแต่อย่างใด ก็ทำให้คนฟังเพลงชอบได้ในระดังวงกว้าง พวกเขาทั้งสองคน Scrubb ประกอบด้วย บอล ต่อพงศ์ จันทบุปผา พี่แว่นกีต้าร์อบอุ่นของคนฟัง ในฐานะส่วนของคนทำดนตรี กีต้าร์เมนของสครับ และเป็นผู้ช่วยvocalไปในตัวรวมถึงร้องเองบางเพลง และ คุณเมื่อย ธวัชพนธ์ วงศ์บุญศิริ นักร้องนำและคนเขียนโครงเพลงหลักของ Scrubb เสียงของScrubb ก็คือเสียงเฮียเมื่อยนี่แหละ และที่ขาดไม่ได้ก็คงต้องพูดถึงโปรดิวเซอร์คู่บุญของ Scrubb นั่นก็คือพี่ฟั่นด้วยอีกคนนั่นเอง

พูดถึงสครับแล้ว ในความรู้สึกของผม ไม่เคยเปลี่ยนแปลงว่า วงนี้ยังได้รับฉายา “วงประจำมหาลัย” ของผมอยู่ดี ในฐาะเด็กศิลปากรที่ สมัยที่ Scrubb เพิ่งออกชุดแรกๆ ก็มาขึ้นเวทีของศิลปากรทุกงาน ทุกรอบ มาบ่อยจึงได้อัพเกรดให้เป็นวงประจำมอไปเลย ทับแก้วกี่งานพวกเฮียแกไม่เคยพลาด และแน่นอนว่าอย่างที่ทราบกัน Scrubbก็มีจุดกำเนิดมาจากศิลปากรอยู่แล้ว วงนี้สำหรับพวกเราแล้วก็เหมือนพี่เหมือนน้องที่ ไม่ว่างานจะออกมาที่ไหนเมื่อไหร่ เราก็จะสนใจและสนับสนุนเสมอๆ ไม่ใช่ว่าเพราะเป็นพี่น้อง แต่เป็นเพราะคุณภาพของงานเพลงมากกว่า
สิ่งที่ Scrubb มีชัดเจนและแน่วแน่ คือเอกลักษณ์ของงานเพลง หรือลายเซ็นนั่นเอง ซึ่งไอ้ตรงนี้ผมว่ามันเกี่ยวกับทีมเวิร์คของวง ซึ่งผมชื่นชมมาก บอลเมื่อยฟั่น สามคนนี้มีทีมเวิร์คที่ดี ผมได้ข้อมูลจากรีวิวต่างๆ อ่านขั้นตอนการทำงานในอัลบั้มนี้ในแต่ละเพลงแล้วก็พบว่า เป็นทีมเวิร์คที่ดีมากจริงๆ ทุกส่วนสอดประสานและขานรับกันอย่างลงตัว ในฐานะที่เป็นคนทำเพลงเหมือนกัน พอจะรู้ขั้นตอนการทำงานเบื้องหลังอยู่บ้าง และก็พบว่า วิธีที่พวกเขาใช้นั้น เป็นวิธีธรรมดาที่เรียบง่าย แต่มีประสิทธิภาพ เคารพหน้าที่ในส่วนของตัวเองกันได้อย่างดี แบ่งงานกันลงตัว จนในที่สุด งานของScrubbมันจึงลงตัว พอดิบพอดีอย่างที่เราๆท่านๆได้ฟัง อันนี้น่าสนใจมากๆจริงๆ และด้วยตัวตนที่ทำเพลงกันเองชัดเจน เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ จึงทำให้ลายเซ็นของ Scrubb ไม่เคยเปลี่ยนเลย

พูดถึงอัลบั้มใหม่ที่มีชื่อว่า Clean ผมเชื่อว่านิยามคอนเซปต์ของอัลบั้มน่าจะ Clear ว่า Clean คืออะไร แน่นอนว่าภาพรวมของอัลบั้มชุดนี้ เพลงคงให้ฟีลลิ่งแบบ สะอาดๆ โปร่งๆโล่งๆ ง่ายๆ แต่ถ้าพิจารณาลงดูลึกๆแล้ว ผมพบว่า มีส่วนที่ Clean สามารถแบ่งออกได้สองส่วนใหญ่ๆเท่าที่ได้ฟัง ก็คือ 1. ภาคดนตรี ดนตรีในอัลบั้ม Clean นี้ หลังจากที่ได้ฟังครบทั้งอัลบั้มแล้ว จุดเด่นของมันอยู่ที่ไลน์ดนตรีที่เลือกใช้เสียงเครื่องดนตรีแบบที่ฟังง่ายๆ ชัดๆ โปร่งๆ ไล่ตั้งแต่สแนร์ยันเสียงสังเคราะห์ที่มาช่วยจากsynth เลย ทุกส่วนเลือกใช้อุปกรณ์ที่สร้างเสียงได้คลีน ชัดเจน และโปร่งดี นอกจากเสียงที่เลือกใช้แล้ว ในเรื่องของการเรียบเรียง หรือการเอาไลน์ต่างๆมารวมกันจนเป็นบทเพลงนั้น ผมสังเกตว่า มันจะมีspaceที่ว่าง ที่เว้นไว้ให้คนฟังได้หยุดในห้วงของตัวเอง ให้บรรยากาศมันทำงานด้วยตัวของมัน ส่งให้คนฟัง การเว้นไม่ให้ไลน์ต่างๆมันเยอะ และอัดแน่นจนเกินไป เป็นการทำให้หูของคนฟังสบายๆไม่ต้องไปโฟกัสกับเสียงดนตรีที่ยุ่บยั่บมากมาย เกิดห้วงอารมณ์ในขณะฟังเพลงได้ มากกว่าที่จะมานั่งดูรายละเอียดดนตรีที่รก แต่ในเวลาเดียวกัน ไอ้ไลน์ที่ไม่รกนี่แหละ แต่ในแต่ละส่วน มันมีกิมมิคมีdetailsเล็กๆซ่อนอยู่ในเพลง ทุกเพลงทุกห้อง การเคาะจังหวะกลอง การเล่นกีต้าร์ริธึ่มแต่ละดอก ล้วนแต่มีรายละเอียดที่นักดนตรีและคนทำเพลงค่อยๆใส่มา อย่างมีความหมาย มีวิธีในทุกๆจุด เป็นประเภทless is more ก็ว่าได้ คือ เล่นน้อย แต่ได้เยอะ นั่นแหละ คือภาคดนตรีของอัลบั้มนี้ ไลน์น้อย เล่นน้อยๆ แต่ได้รับฟีลลิ่งเพลงแบบเต็มๆ

ส่วนที่2 ที่มันclean นอกจากดนตรีที่เห็นได้ชัด นั่นก็คือเรื่องของ คอนเซปต์เพลงและเนื้อหา ทั้งในส่วนของแง่คิดหลักของเพลง และตัวเนื้อร้อง เนื้อร้องหลายๆเพลงมีคนมาช่วยแต่งด้วย ทั้งคุณเมื่อยเอง คุณกอล์ฟ superbaker เป็นต้น หลังจากดูแนวคิดของอัลบั้มนี้แล้ว มันเป็นแนวคิดที่ล้วนแต่เป็นด้านบวกที่สะอาดๆ และเป็นแนวคิดธรรมชาติเข้าใจโลกแบบที่ ชัดเจน และ ง่าย ที่จะทำความเข้าใจ อย่างเช่นเรื่องการปล่อยวาง ความเข้าใจเรื่องสัจธรรมของสิ่งที่ตั้งอยู่และดับไป ผ่านมาผ่านไปเหมือนลม เป็นต้น เป็นแนวคิดสะอาดๆด้านสว่าง เข้าใจง่าย และชัดเจนไม่ต้องซับซ้อน ในส่วนของเนื้อเพลง ก็ใช้คำธรรมดานะ ไม่ได้ใช้คำพิลึกพิลั่นแต่อย่างใด แต่มันทำให้เพลงเพราะ และมีความคิดที่เกาะโครงเพลงไปจนจบ นี่คืออีกอย่างที่Clean ไม่แพ้กับภาคดนตรีเลย
ซึ่งถามว่า ตัวผู้เขียนชอบไหม ถ้าให้คะแนนให้เท่าไหร่ เอาแบบไม่อวย ผมก็ให้คะแนนเต็ม10 ด้วยข้อหาที่ว่า “ก็ตูไม่รู้จะเอาจุดบกพร่องตรงไหนมาสับเลยนี่หว่า” ตามนั้นจริงๆครับ อย่างที่บอก คือด้วยองค์ประกอบง่ายๆคือ เพลงมันเพราะ แค่นั้นเอง และเพราะทั้งอัลบั้ม นี่คือเรื่องจริง ไม่ว่าจะส่องไปที่เพลงไหน คุณก็จะเจอเพลงดีๆ สไตล์Scrubbหมดทุกเพลง ยืนยันได้ถ้าไม่เพราะมาถีบหน้าผมเลย(!?) หลายคนอาจจะรู้สึกว่ามันเนือย หรือมันนิ่งๆ เอื่อยๆน่าเบื่อไป ก็ไม่ว่ากันเป็นความชอบของบุคคล แต่ตัวผมซึ่งไม่ค่อยชอบแนวน่าเบื่ออินดี้จ๋าๆพวกนั้นอยู่แล้ว เท่าที่ฟังClean มันก็เป็นงานชิลเอาท์ที่ฟังได้เรื่อยๆ สบายๆผ่อนคลาย ไม่น่าเบื่อเลยเพราะก็ยังมีพื้นฐานของป็อปครอบอยู่ เพลงสนุกๆก็มี เพลงช้าก็เพราะไม่ได้เนือยแต่อย่างใด ดังนั้นก็ไม่ต้องกลัวว่ามันจะเป็นแบบนั้น งานชุดCleanก็เป็นเพลงธรรมดาๆนี่แหละ ฟังได้เพราะๆ

มาว่ากันถึงเพลงในอัลบั้มกันบ้าง อย่างที่บอกมันเพราะทุกเพลง ดังนั้น ไม่เขียนถึงทั้งสิบเพลงของอัลบั้มชุดที่7 ของพวกเขานี้แบบคร่าวๆคงจะไม่ได้ เริ่มแรกที่interludeที่ชื่อว่า Good Morning ฟังแล้วสดชื่นให้อารมณ์ว่า เออ กูต้องลุกไปแปรงฟัน พร้อมเจอวันใหม่ดีๆ มีนกร้องจิ๊บๆอยู่ตรงหน้าต่าง ตะวันโผล่หน้าออกมาสวัสดี ประมาณนั้น โคตรจะฟีลกู้ด ที่สำคัญ นั่งฟังsessionของกีต้าร์เพราะๆ ก็มีความสุขแล้ว เพลงเต็มเพลงแรกคือเพลง เข้าใจ feat. สิงโต นำโชค เพลงนี้เป็นเพลงที่สบายมากๆต่อเนื่องมาเลย ดนตรีน่ารักๆ ง่ายๆ ในแบบของScrubbเลย ฟังแล้วนึกถึงเพลง โรงเรียน(โรงเลียน)เลย และการได้สิงโตมาช่วยfeat.มันก็เพิ่มจุดน่าสนใจของเพลงได้อีกนิด ทำให้เพลงมีจุดน่าสนใจ ด้วยเอาเซิร์ฟมิวสิคสไตล์สิงโตที่สบายๆ มาเจอกับความสบายๆแบบScrubb เพลงนี้จึงเป็นเพลงเปิดหัวสนุกๆสบายๆ ให้รับรู้ได้ว่า นี่แหละ งานชุดclean / ถัดมา เพลง ลาลา เพลงที่ออก ฟังก์ หน่อย จังหวะเร้าใจ จี๊ดๆมาตั้งแต่อินโทรเลย แกนหลักของเพลงพูดถึงเรื่องความแตกต่างของคนเรา แต่ก็ต้องหาจุดร่วมกันตรงกลางในที่สุด เป็นเรื่องราวหลักของเพลง แต่จุดที่เด่นจริงๆก็คือดนตรีฟังก์ที่ใส่มานี่แหละ ชอบมากๆ

รอยยิ้ม .. เพลงนี้ ผมขอมอบถ้วยรางวัลชนะเลิศให้เพลงนี้เลย เป็นไฮไลต์ของอัลบั้ม เอาไปเลยร้อยล้านดาว ผมชอบเพลงนี้มากที่สุดในอัลบั้ม ด้วยบรรยากาศของเพลงในสไตล์Scrubbที่คุ้นเคย กับคำพูดง่ายๆไม่ต้องหวานหยดมาก แต่มันโรแมนติค ฟังแล้วถ้าเป็นผู้หญิงนี่ มีหน้าแดงได้ง่ายๆ เพราะมันหล่อมากจริงๆเพลงนี้ กับด้วยอารมณ์ที่อยากเก็บรอยยิ้มของใครสักคนไว้ในใจตลอดไป สุดยอดมาก ชุดเมโลดี้สอดรับกับเนื้อเพลงดี ไม่ต้องฉูดฉาดมาก แต่ได้อารมณ์กับlyricsดี ดนตรีโล่งๆสบายๆ ในแบบของScrubb สืบทราบมาว่ามีความพยายามจะทำให้เพลงนี้มีกลิ่นอายในแบบของSoulอยู่ แต่ถ้าเป็นSoulแท้ มันจะย้วยกว่านี้หน่อย แต่เท่าที่ฟังนี่น่าจะเป็นลูกผสมของSoulกับ ความเป็นScrubbแบบแข็งๆ อย่างละครึ่งๆ จะกำหนดgenreเรียกว่า Soulcrubbก็ได้เพลงนี้ (!?) แต่มันจะเป็นอะไรก็ช่างเถอะ รู้แต่ว่า นี่คือสุดยอดเพลงของงานชุดนี้ในใจผมเลย ยังไม่ต้องพูดเลยไปถึงMVที่โคตรรรรรรรรรรรน่ารัก ดูแล้วยุคมอปลายของหลายๆคนน่าจะกลับมา.. สุดยอดมาก เอาไปเลยยยสิบกะโหลก!!!
ลึกลึก เพลงนี้เป็นซิงเกิลดังที่ได้มีปล่อยออกมาให้เราได้ฟังกันบ้างแล้ว ตกค้างมาจากอัลบั้มKidและได้มาทำต่อในชุดนี้ เพลงนี้ฟังแล้วก็ฟีลกู้ด ให้ความรู้สึกของความรักที่”อยู่ด้วยกัน” อบอุ่นตามสไตล์Scrubb เพลงนี้เมโลดี้สดใส ฟังแล้วอารมณ์ดีมากๆ ตัวMVก็น่ารัก ได้เบบี้มายด์กับแอนโพลิติกมาเล่นMVฮาๆน่ารักๆด้วย ชอบมาก
ฟ้าครึ้มครึ้ม เพลงนี้เป็นเพลงที่ผมกดวนไปวนมาเพื่อฟัง เพื่อหาข้อเขียนมาเขียนลงบทความมากที่สุด ดนตรีเพราะตั้งแต่อินโทร (ข้อสังเกตของชุดCleanนี้อีกอย่างคือ อินโทรเพราะมากทุกเพลง) ได้ยินเสียงพี่บอลมาเป็นคนร้องบ้าง มันได้อารมณ์ที่แตกต่างออกไปอีกอย่างของScrubb เสียงตาบอลมีความหม่นมากกว่าคุณเมื่อย แต่ในขณะเดียวกันก็มีความจริงใจอยู่ด้วย เพลงนี้เพราะมาก ให้อารมณ์ภาพเพลงตามชื่อเพลงอย่างแท้จริง รวมถึงห้วงอารมณ์ที่ติดอยู่ในช่วงเวลานั้นด้วย ปล ชอบเสียงน้องเพลง ต้องตา แห่ง Plastic Plasticที่มาเป็นไลน์คอรัสคลอในเพลง ปลื้ม ฟินมาก ดนตรีเพลงนี้ก็สุดยอดด้วย
สุดสัปดาห์ เพลงที่salarymanทั้งหลาย ต้องฟัง ปล่อยใจไปค้นหาเสียงดนตรีที่ลอยตามลมมา ปล่อยความเครียดจากจันทร์ถึงศุกร์ให้กองไว้ตรงนั้น แล้วมีความสุขกับเพลงสนุกๆในวีคเอนด์ดีกว่า
เพลง ลม เพลงนี้เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของชุด เพราะมันเพราะมากๆ และถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกเข้ากับแง่คิดของชีวิต ผูกกับคำว่าลมได้ดีและเห็นภาพ แม้ว่าจะมีเพลงมากมายที่เขียนเรื่องลมนี้ไปเยอะแล้ว แต่นี่เป็นอีกเพลงที่สุดยอดมากในฐานะการถ่ายทอด”หน้าตา”ของลมว่า มันเป็นยังไง ให้เห็นภาพและรับรู้ความรู้สึกที่ ลมมันจะหาเอาเรื่องราวต่างๆ ผ่านมา แล้วก็ผ่านไปนั่นเอง ให้อารมณ์ล่องลอยได้ตั้งแต่ทำนอง เนื้อหา และดนตรีเลย สุดยอดมาก
เช้า เป็นเพลงสดใสอีกเพลงที่ เอาไปไว้หัวอัลบั้มก็ได้ไม่แปลกอะไร ได้อารมณ์ที่ ทุกอย่างมันกำลังจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง หลังจากหลับใหลมา4-6ชั่วโมง เต็มที่ แล้วก็ตื่นมาในเช้าที่ เวลาก็ผ่านมาเหมือนทุกๆครั้ง พร้อมด้วยเสียงนกร้องจิ๊บๆ(มันมาอีกแล้ว) และกาแฟที่วางไว้ริมหน้าต่าง ส่งกลิ่นหอมกรุ่นดังสาวแรกรุ่นทอดสะพานให้(หืมม์?) บรรยากาศเพลงกึ่งๆไดอารี่ชีวิตคนธรรมดาคนนึง ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไร สุดท้ายก็วนมาเจอเช้าวันใหม่ที่สดใสอยู่ดี เป็นเช้าที่อบอุ่นซะด้วย! เพลงนี้มีปู๋25hrsมาช่วยเขียนเนื้อเพลงให้ และที่ได้ฟังนี่ก็น่าจะเป็น Clean Editedจริงๆตามที่เขาบอก เพราะมันคลีนมาก
มีต่อด้านล่างที่ คห.1 จ้ายังไม่จบ มันรองรับตัวอักษรเกินหมื่นตัวไม่ได้ ฮ่าาา


หลายคนอาจจะงง ให้คะแนนเต็มสิบ แต่ทำไมดาวในกระทู้ให้ 4.5 10คะแนนนี่เป็นส่วนตัวผมคนเดียวฮะ
แต่ถ้าเป็นคนทั่วๆไป โดยเฉพาะในพันทิป ผมให้ 4.5 เผื่อมีจุดที่เพื่อนๆที่อ่าน รู้สึกไม่ชอบบางจุดของอัลบั้มครับ
[CR] รีวิว Scrubb อัลบั้ม Clean : งานเพลงสะอาดหู ฟังแล้วอิ่มเอมเหมือนได้อาบน้ำอุ่นผสมน้ำเย็นสบายๆ
พูดถึงสครับแล้ว ในความรู้สึกของผม ไม่เคยเปลี่ยนแปลงว่า วงนี้ยังได้รับฉายา “วงประจำมหาลัย” ของผมอยู่ดี ในฐาะเด็กศิลปากรที่ สมัยที่ Scrubb เพิ่งออกชุดแรกๆ ก็มาขึ้นเวทีของศิลปากรทุกงาน ทุกรอบ มาบ่อยจึงได้อัพเกรดให้เป็นวงประจำมอไปเลย ทับแก้วกี่งานพวกเฮียแกไม่เคยพลาด และแน่นอนว่าอย่างที่ทราบกัน Scrubbก็มีจุดกำเนิดมาจากศิลปากรอยู่แล้ว วงนี้สำหรับพวกเราแล้วก็เหมือนพี่เหมือนน้องที่ ไม่ว่างานจะออกมาที่ไหนเมื่อไหร่ เราก็จะสนใจและสนับสนุนเสมอๆ ไม่ใช่ว่าเพราะเป็นพี่น้อง แต่เป็นเพราะคุณภาพของงานเพลงมากกว่า
สิ่งที่ Scrubb มีชัดเจนและแน่วแน่ คือเอกลักษณ์ของงานเพลง หรือลายเซ็นนั่นเอง ซึ่งไอ้ตรงนี้ผมว่ามันเกี่ยวกับทีมเวิร์คของวง ซึ่งผมชื่นชมมาก บอลเมื่อยฟั่น สามคนนี้มีทีมเวิร์คที่ดี ผมได้ข้อมูลจากรีวิวต่างๆ อ่านขั้นตอนการทำงานในอัลบั้มนี้ในแต่ละเพลงแล้วก็พบว่า เป็นทีมเวิร์คที่ดีมากจริงๆ ทุกส่วนสอดประสานและขานรับกันอย่างลงตัว ในฐานะที่เป็นคนทำเพลงเหมือนกัน พอจะรู้ขั้นตอนการทำงานเบื้องหลังอยู่บ้าง และก็พบว่า วิธีที่พวกเขาใช้นั้น เป็นวิธีธรรมดาที่เรียบง่าย แต่มีประสิทธิภาพ เคารพหน้าที่ในส่วนของตัวเองกันได้อย่างดี แบ่งงานกันลงตัว จนในที่สุด งานของScrubbมันจึงลงตัว พอดิบพอดีอย่างที่เราๆท่านๆได้ฟัง อันนี้น่าสนใจมากๆจริงๆ และด้วยตัวตนที่ทำเพลงกันเองชัดเจน เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ จึงทำให้ลายเซ็นของ Scrubb ไม่เคยเปลี่ยนเลย
พูดถึงอัลบั้มใหม่ที่มีชื่อว่า Clean ผมเชื่อว่านิยามคอนเซปต์ของอัลบั้มน่าจะ Clear ว่า Clean คืออะไร แน่นอนว่าภาพรวมของอัลบั้มชุดนี้ เพลงคงให้ฟีลลิ่งแบบ สะอาดๆ โปร่งๆโล่งๆ ง่ายๆ แต่ถ้าพิจารณาลงดูลึกๆแล้ว ผมพบว่า มีส่วนที่ Clean สามารถแบ่งออกได้สองส่วนใหญ่ๆเท่าที่ได้ฟัง ก็คือ 1. ภาคดนตรี ดนตรีในอัลบั้ม Clean นี้ หลังจากที่ได้ฟังครบทั้งอัลบั้มแล้ว จุดเด่นของมันอยู่ที่ไลน์ดนตรีที่เลือกใช้เสียงเครื่องดนตรีแบบที่ฟังง่ายๆ ชัดๆ โปร่งๆ ไล่ตั้งแต่สแนร์ยันเสียงสังเคราะห์ที่มาช่วยจากsynth เลย ทุกส่วนเลือกใช้อุปกรณ์ที่สร้างเสียงได้คลีน ชัดเจน และโปร่งดี นอกจากเสียงที่เลือกใช้แล้ว ในเรื่องของการเรียบเรียง หรือการเอาไลน์ต่างๆมารวมกันจนเป็นบทเพลงนั้น ผมสังเกตว่า มันจะมีspaceที่ว่าง ที่เว้นไว้ให้คนฟังได้หยุดในห้วงของตัวเอง ให้บรรยากาศมันทำงานด้วยตัวของมัน ส่งให้คนฟัง การเว้นไม่ให้ไลน์ต่างๆมันเยอะ และอัดแน่นจนเกินไป เป็นการทำให้หูของคนฟังสบายๆไม่ต้องไปโฟกัสกับเสียงดนตรีที่ยุ่บยั่บมากมาย เกิดห้วงอารมณ์ในขณะฟังเพลงได้ มากกว่าที่จะมานั่งดูรายละเอียดดนตรีที่รก แต่ในเวลาเดียวกัน ไอ้ไลน์ที่ไม่รกนี่แหละ แต่ในแต่ละส่วน มันมีกิมมิคมีdetailsเล็กๆซ่อนอยู่ในเพลง ทุกเพลงทุกห้อง การเคาะจังหวะกลอง การเล่นกีต้าร์ริธึ่มแต่ละดอก ล้วนแต่มีรายละเอียดที่นักดนตรีและคนทำเพลงค่อยๆใส่มา อย่างมีความหมาย มีวิธีในทุกๆจุด เป็นประเภทless is more ก็ว่าได้ คือ เล่นน้อย แต่ได้เยอะ นั่นแหละ คือภาคดนตรีของอัลบั้มนี้ ไลน์น้อย เล่นน้อยๆ แต่ได้รับฟีลลิ่งเพลงแบบเต็มๆ
ส่วนที่2 ที่มันclean นอกจากดนตรีที่เห็นได้ชัด นั่นก็คือเรื่องของ คอนเซปต์เพลงและเนื้อหา ทั้งในส่วนของแง่คิดหลักของเพลง และตัวเนื้อร้อง เนื้อร้องหลายๆเพลงมีคนมาช่วยแต่งด้วย ทั้งคุณเมื่อยเอง คุณกอล์ฟ superbaker เป็นต้น หลังจากดูแนวคิดของอัลบั้มนี้แล้ว มันเป็นแนวคิดที่ล้วนแต่เป็นด้านบวกที่สะอาดๆ และเป็นแนวคิดธรรมชาติเข้าใจโลกแบบที่ ชัดเจน และ ง่าย ที่จะทำความเข้าใจ อย่างเช่นเรื่องการปล่อยวาง ความเข้าใจเรื่องสัจธรรมของสิ่งที่ตั้งอยู่และดับไป ผ่านมาผ่านไปเหมือนลม เป็นต้น เป็นแนวคิดสะอาดๆด้านสว่าง เข้าใจง่าย และชัดเจนไม่ต้องซับซ้อน ในส่วนของเนื้อเพลง ก็ใช้คำธรรมดานะ ไม่ได้ใช้คำพิลึกพิลั่นแต่อย่างใด แต่มันทำให้เพลงเพราะ และมีความคิดที่เกาะโครงเพลงไปจนจบ นี่คืออีกอย่างที่Clean ไม่แพ้กับภาคดนตรีเลย
ซึ่งถามว่า ตัวผู้เขียนชอบไหม ถ้าให้คะแนนให้เท่าไหร่ เอาแบบไม่อวย ผมก็ให้คะแนนเต็ม10 ด้วยข้อหาที่ว่า “ก็ตูไม่รู้จะเอาจุดบกพร่องตรงไหนมาสับเลยนี่หว่า” ตามนั้นจริงๆครับ อย่างที่บอก คือด้วยองค์ประกอบง่ายๆคือ เพลงมันเพราะ แค่นั้นเอง และเพราะทั้งอัลบั้ม นี่คือเรื่องจริง ไม่ว่าจะส่องไปที่เพลงไหน คุณก็จะเจอเพลงดีๆ สไตล์Scrubbหมดทุกเพลง ยืนยันได้ถ้าไม่เพราะมาถีบหน้าผมเลย(!?) หลายคนอาจจะรู้สึกว่ามันเนือย หรือมันนิ่งๆ เอื่อยๆน่าเบื่อไป ก็ไม่ว่ากันเป็นความชอบของบุคคล แต่ตัวผมซึ่งไม่ค่อยชอบแนวน่าเบื่ออินดี้จ๋าๆพวกนั้นอยู่แล้ว เท่าที่ฟังClean มันก็เป็นงานชิลเอาท์ที่ฟังได้เรื่อยๆ สบายๆผ่อนคลาย ไม่น่าเบื่อเลยเพราะก็ยังมีพื้นฐานของป็อปครอบอยู่ เพลงสนุกๆก็มี เพลงช้าก็เพราะไม่ได้เนือยแต่อย่างใด ดังนั้นก็ไม่ต้องกลัวว่ามันจะเป็นแบบนั้น งานชุดCleanก็เป็นเพลงธรรมดาๆนี่แหละ ฟังได้เพราะๆ
มาว่ากันถึงเพลงในอัลบั้มกันบ้าง อย่างที่บอกมันเพราะทุกเพลง ดังนั้น ไม่เขียนถึงทั้งสิบเพลงของอัลบั้มชุดที่7 ของพวกเขานี้แบบคร่าวๆคงจะไม่ได้ เริ่มแรกที่interludeที่ชื่อว่า Good Morning ฟังแล้วสดชื่นให้อารมณ์ว่า เออ กูต้องลุกไปแปรงฟัน พร้อมเจอวันใหม่ดีๆ มีนกร้องจิ๊บๆอยู่ตรงหน้าต่าง ตะวันโผล่หน้าออกมาสวัสดี ประมาณนั้น โคตรจะฟีลกู้ด ที่สำคัญ นั่งฟังsessionของกีต้าร์เพราะๆ ก็มีความสุขแล้ว เพลงเต็มเพลงแรกคือเพลง เข้าใจ feat. สิงโต นำโชค เพลงนี้เป็นเพลงที่สบายมากๆต่อเนื่องมาเลย ดนตรีน่ารักๆ ง่ายๆ ในแบบของScrubbเลย ฟังแล้วนึกถึงเพลง โรงเรียน(โรงเลียน)เลย และการได้สิงโตมาช่วยfeat.มันก็เพิ่มจุดน่าสนใจของเพลงได้อีกนิด ทำให้เพลงมีจุดน่าสนใจ ด้วยเอาเซิร์ฟมิวสิคสไตล์สิงโตที่สบายๆ มาเจอกับความสบายๆแบบScrubb เพลงนี้จึงเป็นเพลงเปิดหัวสนุกๆสบายๆ ให้รับรู้ได้ว่า นี่แหละ งานชุดclean / ถัดมา เพลง ลาลา เพลงที่ออก ฟังก์ หน่อย จังหวะเร้าใจ จี๊ดๆมาตั้งแต่อินโทรเลย แกนหลักของเพลงพูดถึงเรื่องความแตกต่างของคนเรา แต่ก็ต้องหาจุดร่วมกันตรงกลางในที่สุด เป็นเรื่องราวหลักของเพลง แต่จุดที่เด่นจริงๆก็คือดนตรีฟังก์ที่ใส่มานี่แหละ ชอบมากๆ
รอยยิ้ม .. เพลงนี้ ผมขอมอบถ้วยรางวัลชนะเลิศให้เพลงนี้เลย เป็นไฮไลต์ของอัลบั้ม เอาไปเลยร้อยล้านดาว ผมชอบเพลงนี้มากที่สุดในอัลบั้ม ด้วยบรรยากาศของเพลงในสไตล์Scrubbที่คุ้นเคย กับคำพูดง่ายๆไม่ต้องหวานหยดมาก แต่มันโรแมนติค ฟังแล้วถ้าเป็นผู้หญิงนี่ มีหน้าแดงได้ง่ายๆ เพราะมันหล่อมากจริงๆเพลงนี้ กับด้วยอารมณ์ที่อยากเก็บรอยยิ้มของใครสักคนไว้ในใจตลอดไป สุดยอดมาก ชุดเมโลดี้สอดรับกับเนื้อเพลงดี ไม่ต้องฉูดฉาดมาก แต่ได้อารมณ์กับlyricsดี ดนตรีโล่งๆสบายๆ ในแบบของScrubb สืบทราบมาว่ามีความพยายามจะทำให้เพลงนี้มีกลิ่นอายในแบบของSoulอยู่ แต่ถ้าเป็นSoulแท้ มันจะย้วยกว่านี้หน่อย แต่เท่าที่ฟังนี่น่าจะเป็นลูกผสมของSoulกับ ความเป็นScrubbแบบแข็งๆ อย่างละครึ่งๆ จะกำหนดgenreเรียกว่า Soulcrubbก็ได้เพลงนี้ (!?) แต่มันจะเป็นอะไรก็ช่างเถอะ รู้แต่ว่า นี่คือสุดยอดเพลงของงานชุดนี้ในใจผมเลย ยังไม่ต้องพูดเลยไปถึงMVที่โคตรรรรรรรรรรรน่ารัก ดูแล้วยุคมอปลายของหลายๆคนน่าจะกลับมา.. สุดยอดมาก เอาไปเลยยยสิบกะโหลก!!!
ลึกลึก เพลงนี้เป็นซิงเกิลดังที่ได้มีปล่อยออกมาให้เราได้ฟังกันบ้างแล้ว ตกค้างมาจากอัลบั้มKidและได้มาทำต่อในชุดนี้ เพลงนี้ฟังแล้วก็ฟีลกู้ด ให้ความรู้สึกของความรักที่”อยู่ด้วยกัน” อบอุ่นตามสไตล์Scrubb เพลงนี้เมโลดี้สดใส ฟังแล้วอารมณ์ดีมากๆ ตัวMVก็น่ารัก ได้เบบี้มายด์กับแอนโพลิติกมาเล่นMVฮาๆน่ารักๆด้วย ชอบมาก
ฟ้าครึ้มครึ้ม เพลงนี้เป็นเพลงที่ผมกดวนไปวนมาเพื่อฟัง เพื่อหาข้อเขียนมาเขียนลงบทความมากที่สุด ดนตรีเพราะตั้งแต่อินโทร (ข้อสังเกตของชุดCleanนี้อีกอย่างคือ อินโทรเพราะมากทุกเพลง) ได้ยินเสียงพี่บอลมาเป็นคนร้องบ้าง มันได้อารมณ์ที่แตกต่างออกไปอีกอย่างของScrubb เสียงตาบอลมีความหม่นมากกว่าคุณเมื่อย แต่ในขณะเดียวกันก็มีความจริงใจอยู่ด้วย เพลงนี้เพราะมาก ให้อารมณ์ภาพเพลงตามชื่อเพลงอย่างแท้จริง รวมถึงห้วงอารมณ์ที่ติดอยู่ในช่วงเวลานั้นด้วย ปล ชอบเสียงน้องเพลง ต้องตา แห่ง Plastic Plasticที่มาเป็นไลน์คอรัสคลอในเพลง ปลื้ม ฟินมาก ดนตรีเพลงนี้ก็สุดยอดด้วย
สุดสัปดาห์ เพลงที่salarymanทั้งหลาย ต้องฟัง ปล่อยใจไปค้นหาเสียงดนตรีที่ลอยตามลมมา ปล่อยความเครียดจากจันทร์ถึงศุกร์ให้กองไว้ตรงนั้น แล้วมีความสุขกับเพลงสนุกๆในวีคเอนด์ดีกว่า
เพลง ลม เพลงนี้เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของชุด เพราะมันเพราะมากๆ และถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกเข้ากับแง่คิดของชีวิต ผูกกับคำว่าลมได้ดีและเห็นภาพ แม้ว่าจะมีเพลงมากมายที่เขียนเรื่องลมนี้ไปเยอะแล้ว แต่นี่เป็นอีกเพลงที่สุดยอดมากในฐานะการถ่ายทอด”หน้าตา”ของลมว่า มันเป็นยังไง ให้เห็นภาพและรับรู้ความรู้สึกที่ ลมมันจะหาเอาเรื่องราวต่างๆ ผ่านมา แล้วก็ผ่านไปนั่นเอง ให้อารมณ์ล่องลอยได้ตั้งแต่ทำนอง เนื้อหา และดนตรีเลย สุดยอดมาก
เช้า เป็นเพลงสดใสอีกเพลงที่ เอาไปไว้หัวอัลบั้มก็ได้ไม่แปลกอะไร ได้อารมณ์ที่ ทุกอย่างมันกำลังจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง หลังจากหลับใหลมา4-6ชั่วโมง เต็มที่ แล้วก็ตื่นมาในเช้าที่ เวลาก็ผ่านมาเหมือนทุกๆครั้ง พร้อมด้วยเสียงนกร้องจิ๊บๆ(มันมาอีกแล้ว) และกาแฟที่วางไว้ริมหน้าต่าง ส่งกลิ่นหอมกรุ่นดังสาวแรกรุ่นทอดสะพานให้(หืมม์?) บรรยากาศเพลงกึ่งๆไดอารี่ชีวิตคนธรรมดาคนนึง ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไร สุดท้ายก็วนมาเจอเช้าวันใหม่ที่สดใสอยู่ดี เป็นเช้าที่อบอุ่นซะด้วย! เพลงนี้มีปู๋25hrsมาช่วยเขียนเนื้อเพลงให้ และที่ได้ฟังนี่ก็น่าจะเป็น Clean Editedจริงๆตามที่เขาบอก เพราะมันคลีนมาก
มีต่อด้านล่างที่ คห.1 จ้ายังไม่จบ มันรองรับตัวอักษรเกินหมื่นตัวไม่ได้ ฮ่าาา
หลายคนอาจจะงง ให้คะแนนเต็มสิบ แต่ทำไมดาวในกระทู้ให้ 4.5 10คะแนนนี่เป็นส่วนตัวผมคนเดียวฮะ
แต่ถ้าเป็นคนทั่วๆไป โดยเฉพาะในพันทิป ผมให้ 4.5 เผื่อมีจุดที่เพื่อนๆที่อ่าน รู้สึกไม่ชอบบางจุดของอัลบั้มครับ