มีสมองเรียนจบหมอ แต่จิตใจเป็นแค่หมา

อาชีพที่ประชาชนทุกคนเคารพนับถือมากที่สุดคือ หมอ   ที่ร่ำเรียนวิชาแพทย์เพื่อรักษาคนไข้  ซึ่งทุกมหาวิทยาลัยแพทย์ทุกแห่งอบรมสั่งสอนให้แพทย์ทุกคนมีจรรยายรรณในวิชาชีพที่ต้องมีคุณธรรมต่อคนไข้ มีเมตตากรุณาต่อทุกคน รักษาคนไข้โดยถ้วนหน้าไม่เลือกที่รักมักที่ชัง
แต่หมอคนหนึ่งชื่อก็ประเสริฐดี แต่ไม่ได้เลิศเลอตามสมญานาม   อายุก็สูงวัยขนาดเป็นปู่ย่าตายายได้แล้ว  เบิกเงินงบประมาณร.พ. ซึ่งมาจากภาษีปชช.  เบิกเงินอ้างว่ามาตั้งหน่วยแพทย์อาสานอกสนามที่กรุงเทพฯ. (ดอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย) และหมอคนนี้ก็ขึ้นเวที่ม๊อบสุเทพ  ด่านายกยิ่งลักษณ์ในลักษณะหยาบคายใต้สะดือทั้งนั้น.  คนที่ได้รับฟังคำพูดแบบนี้ ไม่มีใครนึกว่าคนที่มีอาชีพหมอจะหยาบคายยิ้มได้ขนาดนี้  แม้แต่คนที่ไปร่วมม๊อบ บางคนยังตำหนิว่าด่าผู้หญิงแบบนี้ก็รับไม่ได้  เสียศรัทธาแล้ว.   แสดงว่าหมอคนนี้มีการศึกษาสูงก็จริง แค่จิตใจต่ำมาก ต่ำกว่าตาตุ่มเสียอีก.
  การจะไม่เห็นด้วยกับใครก็ด่าว่าเขาในเรื่องการงานนั้นๆ  ไม่ใช่ด่าว่าเรื่องใต้สะดือหยาบโลนหยาบคาย ดึงเรื่องใต้สะดือมาด่าเพื่อให้คนฟังปรบมือชอบใจเท่านั้น  โดยไม่ได้คำนึงถึงว่าเป็นการประจานตัวหมอเองนั่นแหละ   ว่าตนเองเป็นบุคคลของสังคมที่มีคนเคารพนับถือได้รับรางวัลมากมาย  แต่ผู้ที่ให้รางวัลก็คิดไม่ถึงว่าลักษณะนิสัยสันดานที่แท้จริงของหมอเป็นบุคคลก้าวร้าวหยาบคายยิ้มมาก จิตใจคิดแต่เรื่องหยาบโลน
หรือภายในจิตใจอาจจะเป็นโรคจิตร้าวลึก เหมือนสามัญสำนึกที่เห็นมารดาของตนหรือลูกสาวเป็นแบบนั้น  จึงเอาปมด้อยของตนเองออกมาพูดด่าว่าหญิงอื่นๆ.   คนไข้ทุกคนโปรดระวังหมอประเภทนี้ด้วย.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่