เว็บไซต์สำนักข่าว CNN ตีพิมพ์บทความล่าสุด ที่มีชื่อว่า Prognosis for divided Thailand bleak, but why? หรือคำทำนายสำหรับความแตกแยกอันสิ้นหวังของประเทศไทย แต่ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ? ซึ่งเป็นบทความที่เขียนขึ้นโดย Andrew MacGregor Marshall ผู้สื่อข่าวอิสระ ที่มีข่าวเชี่ยวชาญเรื่องการเมืองไทย

บทความดังกล่าวเป็นการวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ทางการเมืองล่าสุด ที่เกิดการประท้วงต่อต้านรัฐบาลและการประกาศปิดกรุงเทพของกลุ่ม กปปส. เมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งยังคงยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน โดยมาร์แชลระบุว่า การประท้วงครั้งนี้เป็นเพียงแค่อีกบทหนึ่งของความแตกแยกของสังคมไทย นับตั้งแต่ก่อนรัฐประหาร ซึ่งจากตอนนั้นจนถึงตอนนี้ ก็ยังมองไม่เห็นทางออก

และเพื่อป้องกันความสับสน ของการติดตามข่าวการประท้วงในประเทศไทย มาร์แชลได้เขียนบทความในลักษณะ Q&A หรือแบบถาม-ตอบ โดยตั้งคำถามแรกว่า ผู้ประท้วงเป็นใคร และพวกเขาต้องการอะไร? พร้อมกับตอบว่า ผู้ประท้วงคือกลุ่มต่อต้านรัฐบาลที่ยืนยันมาโดยตลอดว่า พวกเขาไม่ได้คัดค้านหลักการประชาธิปไตย แต่แค่ต้องการให้มีการปฏิรูปก่อนหน้าการเลือกตั้ง ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมการประท้วงส่วนใหญ่ เป็นชนชั้นนำในสังคมไทย กลุ่มนิยมเจ้า และพวกชาตินิยม ซึ่งเป็นชนชั้นกลางถึงชนชั้นสูงของประเทศ

พวกเขาเรียกร้องให้มีการรัฐประหาร เพียงเพื่อกำจัดให้รัฐบาลรักษาการณ์ของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งผู้บริหารประเทศในตอนนี้ และยังดูถูกคนต่างจังหวัดว่าถูกซื้อเสียงโดยกลุ่มนักการเมืองซึ่งเป็นเครือข่ายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือว่าเป็นการประท้วงที่ค่อนข้างแปลกประหลาดกว่าการประท้วงที่เกิดขึ้นอยู่ทั่วโลกในตอนนี้

คำถามที่สองก็คือ กลุ่มผู้ประท้วงได้รับการสนับสนุนมากเท่าใด ? คำตอบก็คือ ผู้ประท้วงอ้างว่าพวกเขาคือตัวแทนของมวลมหาประชาชน ซึ่งตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา มีคนมาร่วมเดินขบวนประท้วงต่อต้านรัฐบาลหลายล้านคน เพื่อเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่ในความจริงแล้ว พวกเขาเป็นเพียงชนกลุ่มน้อยของประเทศเท่านั้น และนี่คือปัญหาสำคัญของกลุ่มผู้ประท้วง เพราะการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี 2544 พรรคการเมืองของพ.ต.ท.ทักษิณ ชนะการเลือกตั้งมาโดยตลอด และยังได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากชาวต่างจังหวัด แม้ว่าจะถูกโค่นล้มอำนาจไปนานแค่ไหนแล้วก็ตาม

และล่าสุด ประชาชนหลายกลุ่มก็ยังออกมาเคลื่อนไหว โดยแสดงสัญลักษณ์อย่างการจุดเทียน พร้อมกับมีการเผยแพร่สโลแกนอย่าง "Respect My Vote." อย่างกว้างขวาง เพื่อแสดงจุดยืนว่า พวกเขาต้องการการเลือกตั้ง และจะทำให้เกิดการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ให้ได้

คำถามที่สาม ใครคือผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านี้ ? คำตอบก็คือ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ชนชั้นสูงของประเทศ ที่หวาดกลัวการก้าวขึ้นมามีอำนาจทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนอาจจะทำให้การครอบครองอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองของระบอบอำมาตย์ต้องถึงกาลอวสาน คือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลในครั้งนี้

และคำถามสุดท้าย จะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นหรือไม่? มาร์แชลตอบว่า มีความเป็นไปได้ เพราะหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดความรุนแรงจนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และทุกครั้งที่เกิดความขัดแย้งตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผู้ประท้วงทั้งสองฝ่าย ต่างก็พยายามก่อเหตุเพื่อให้ผู้ที่กุมอำนาจรัฐ ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ผู้ปกครองก็จะหมดความชอบธรรมโดยทันที และครั้งนี้ก็เช่นกัน กลุ่มกปปส.พยายามใช้แทคติคเดิม ในการเดินเกมให้รัฐบาลใช้ความรุนแรง ซึ่งอาจจะเป็นการเปิดทางให้ทหารออกมาก่อการรัฐประหาร เพราะพวกเขารู้อยู่แล้วว่า หากเกิดการเลือกตั้งขึ้น พวกเขาจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้

ซึ่งหากว่าการเดินเกมของกลุ่ม กปปส.ประสบความสำเร็จ แน่นอนว่า ประชาชนจำนวนมากจะไม่พอใจ และความแตกแยกก็จะฝังรากลึกไปอีกนาน โดยในตอนท้าย มาร์แชลได้สรุปคำทำนายของเขาที่มีต่อประเทศไทยเอาไว้ว่า เป็นสิ่งที่ "สิ้นหวังอย่างน่าสลดใจ"


ที่มา : http://shows.voicetv.co.th/voice-news/94053.html
          14 มกราคม 2557