สวัสดีครับทุกท่าน ผมขอตั้งสักกระทู้นะครับ
อยากให้กระทู้นี้พักรบพักใจ อย่าใส่ร้ายป้ายสี อย่าด่ากัน
แต่ อยากให้ยกระดับความคิด เริ่มที่ตัวเรา และ กระจาย ออกไปสู่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ และคนรอบตัวเรา
ผมขอให้เราไม่ว่าฝ่ายไหนกลับมามองกันใหม่ว่าจุดประสงค์ของผู้ร่วมชุมนุมทางการเมืองไม่ว่าจะเสื้อสีอะไร หรือฝ่ายไหน"ส่วนใหญ่" มีพื้นฐานคือ "คนดี"
ไม่ว่าฝ่ายไหน ต่างก็ฟัง-รับข้อมูลมาจากแกนนำ ว่าสิ่งที่ทำ คือสิ่งที่ถูกและดี
และความเป็นคนดีในตัวผู้ฟังก็ต้องการที่จะทำดี ทำสิ่งที่ถูกที่ควรเพื่อบ้านเมือง ไม่ยอมให้แก่ฝ่ายที่ผิดหรือฝ่ายที่ไม่ถูกต้อง...
เมื่อเราคิดแบบนี้แล้วจะเห็นว่าผู้ชุมนุม ไม่ว่าฝ่ายไหนก็หวังดีต้องการทำดีทั้งนั้น
เพราะรับข้อมูลจากแกนนำมาว่า "คุณถูกต้อง" คุณได้ทำสิ่งที่ดีสิ่งที่ยิ่งใหญ่เพื่อชาติบ้านเมือง
กระทู้นี้ผมจะไม่พูดถึงว่าข้อมูลฝ่ายไหนถูกผิด หรือจริงไม่จริงอย่างไร
เพราะคนที่ปักใจเชื่อไปแล้วจะไม่สามารถเปิดรับข้อมูลจากอีกฝั่งได้ง่ายๆ
เพราะมองว่าอีกฝ่ายเป็นคนไม่ดีหรือคนเลวไปหมดแล้ว
ผมขอโลกสวยครับและคิดว่าจะช่วยยกระดับจิตใจ ลดความเกลียดลงได้จริงๆ เบื้องต้น ลดความเกลียดระดับแรก
แค่คุณคิดว่า คนที่ไม่ดีจริงๆนั้นน่าจะเป็นแกนนำหรือผู้นำ ของฝ่ายตรงข้ามจะดีกว่า
อย่าไปโกรธ อย่าไปเกลียด ผู้ชุมนุม หรือผู้คิดต่างฝ่ายตรงข้ามที่รับข้อมูลมาคนละแบบกับคุณ อย่าไปคิดว่าผู้รับสารคือคนเลวและจงเกลียดจงชัง ฝ่ายตรงข้ามแบบไม่ลืมหูลืมตา
เพียงเรา ลดความเกลียดฝ่ายตรงข้ามลง เราก็จะฟังได้มากขึ้น เราจะพูดคุยกันได้มากขึ้น และมีเหตุผลมีข้อมูลมาแลกเปลี่ยนกันมากขึ้น และถูกชังจูงได้น้อยลง เพราะเราจะมีเหตุผลและรับฟังมากขึ้น
ผมยอมรับว่าผมเลือกฝ่ายเลือกข้าง และเคยมีอารมณ์โกรธเกลียดไม่ชอบหน้าผู้ที่คิดต่าง แต่ก็ไม่ถึงกับเกลียดโกรธไม่ลืมหูลืมตา
แต่มีอยู่วันนึง แฟนผม(อยู่ฝ่ายเดียวกัน)ได้พูดขึ้นมาว่า
"คนที่ไปชุมนุมจริงๆส่วนใหญ่เค้าก็เป็นคนดีนะ แค่ได้ข้อมูลที่ไม่เหมือนเราและเชื่อไม่เหมือนเรา หรือเค้าอาจจะไม่ได้หาข้อมูลหรือข้อเท็จจริงในบางเรื่อง แต่ส่วนใหญ่มีพื้นฐานเป็นคนดีทั้งนั้น ไม่ชอบความไม่ถูกต้องเลยออกไปชุมนุม"
ครั้งแรกที่ผมฟัง ผมก็คิดว่า ใช่หรอ...?
แต่พอใช้เวลาคิดสักครู่ก็ต้องยอมรับว่ามันคือเรื่องจริง คนส่วนใหญ่ถึงจะไม่ใช่ทั้งหมด อาจจะมีพวกเสียผลประโยชน์ผู้ได้รับผลประโยชน์และอื่นๆแฝงชุมนุมด้วย แต่ต้องยอมรับว่าผู้ที่ไปชุมนุมไม่ว่าครั้งไหนๆหรือฝ่ายไหนๆ ส่วนใหญ่เป็นคนที่คิดดีอยากทำดี ทำเพื่อความถูกต้องทั้งนั้น จึงยอมไหลไปตามกระแสของแกนนำ เพราะคิดว่าสิ่งที่ฟังมาเป็นสิ่งที่ถูกและดีเสมอ
อยากให้ทุกท่านหยุดพักความเกลียดสัก 5 นาทีแล้วลองคิดดูนะครับ ว่าส่วนใหญ่ไม่ว่าฝ่ายไหนก็เป็นคนดีที่อยากทำดีทั้งนั้น แล้วคุณจะลดความเกลียดฝั่งตรงข้ามไปได้มาก และเมื่อความเกลียดลดลง การเปิดใจพูดคุยกันก็จะเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายขึ้นครับ
ณ.ตอนนี้ผมไม่เกลียดไม่โกรธฝ่ายตรงข้ามแล้วครับ แค่การยกระดับความคิดง่ายๆ มองฝ่ายตรงข้ามให้เป็นคนดีที่เข้าใจผิดไปจากเรา คิดและเข้าใจไม่เหมือนเราแค่นั้นก็พอ
ขอให้แค่มองว่าเค้าคือคนดีจริงๆ ไม่ใช่ ประชดหรือเหน็บแนมกัน
ผมว่าคนเราจะสามารถเปิดใจรับฟังและพูดคุยกันได้แน่นอนครับ
ถ้าลดความเกลียดลดอคติลง และมองเค้าว่าเป็นคนดี
ขอบคุณครับ
ช่วยกันยกระดับความคิด มองฝ่ายตรงข้ามเป็น"คน" และ มองให้ลึกว่าเค้าคือ"คนดี" อยากให้ทุกฝ่ายเข้ามาอ่าน
อยากให้กระทู้นี้พักรบพักใจ อย่าใส่ร้ายป้ายสี อย่าด่ากัน
แต่ อยากให้ยกระดับความคิด เริ่มที่ตัวเรา และ กระจาย ออกไปสู่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ และคนรอบตัวเรา
ผมขอให้เราไม่ว่าฝ่ายไหนกลับมามองกันใหม่ว่าจุดประสงค์ของผู้ร่วมชุมนุมทางการเมืองไม่ว่าจะเสื้อสีอะไร หรือฝ่ายไหน"ส่วนใหญ่" มีพื้นฐานคือ "คนดี"
ไม่ว่าฝ่ายไหน ต่างก็ฟัง-รับข้อมูลมาจากแกนนำ ว่าสิ่งที่ทำ คือสิ่งที่ถูกและดี
และความเป็นคนดีในตัวผู้ฟังก็ต้องการที่จะทำดี ทำสิ่งที่ถูกที่ควรเพื่อบ้านเมือง ไม่ยอมให้แก่ฝ่ายที่ผิดหรือฝ่ายที่ไม่ถูกต้อง...
เมื่อเราคิดแบบนี้แล้วจะเห็นว่าผู้ชุมนุม ไม่ว่าฝ่ายไหนก็หวังดีต้องการทำดีทั้งนั้น
เพราะรับข้อมูลจากแกนนำมาว่า "คุณถูกต้อง" คุณได้ทำสิ่งที่ดีสิ่งที่ยิ่งใหญ่เพื่อชาติบ้านเมือง
กระทู้นี้ผมจะไม่พูดถึงว่าข้อมูลฝ่ายไหนถูกผิด หรือจริงไม่จริงอย่างไร
เพราะคนที่ปักใจเชื่อไปแล้วจะไม่สามารถเปิดรับข้อมูลจากอีกฝั่งได้ง่ายๆ
เพราะมองว่าอีกฝ่ายเป็นคนไม่ดีหรือคนเลวไปหมดแล้ว
ผมขอโลกสวยครับและคิดว่าจะช่วยยกระดับจิตใจ ลดความเกลียดลงได้จริงๆ เบื้องต้น ลดความเกลียดระดับแรก
แค่คุณคิดว่า คนที่ไม่ดีจริงๆนั้นน่าจะเป็นแกนนำหรือผู้นำ ของฝ่ายตรงข้ามจะดีกว่า
อย่าไปโกรธ อย่าไปเกลียด ผู้ชุมนุม หรือผู้คิดต่างฝ่ายตรงข้ามที่รับข้อมูลมาคนละแบบกับคุณ อย่าไปคิดว่าผู้รับสารคือคนเลวและจงเกลียดจงชัง ฝ่ายตรงข้ามแบบไม่ลืมหูลืมตา
เพียงเรา ลดความเกลียดฝ่ายตรงข้ามลง เราก็จะฟังได้มากขึ้น เราจะพูดคุยกันได้มากขึ้น และมีเหตุผลมีข้อมูลมาแลกเปลี่ยนกันมากขึ้น และถูกชังจูงได้น้อยลง เพราะเราจะมีเหตุผลและรับฟังมากขึ้น
ผมยอมรับว่าผมเลือกฝ่ายเลือกข้าง และเคยมีอารมณ์โกรธเกลียดไม่ชอบหน้าผู้ที่คิดต่าง แต่ก็ไม่ถึงกับเกลียดโกรธไม่ลืมหูลืมตา
แต่มีอยู่วันนึง แฟนผม(อยู่ฝ่ายเดียวกัน)ได้พูดขึ้นมาว่า
"คนที่ไปชุมนุมจริงๆส่วนใหญ่เค้าก็เป็นคนดีนะ แค่ได้ข้อมูลที่ไม่เหมือนเราและเชื่อไม่เหมือนเรา หรือเค้าอาจจะไม่ได้หาข้อมูลหรือข้อเท็จจริงในบางเรื่อง แต่ส่วนใหญ่มีพื้นฐานเป็นคนดีทั้งนั้น ไม่ชอบความไม่ถูกต้องเลยออกไปชุมนุม"
ครั้งแรกที่ผมฟัง ผมก็คิดว่า ใช่หรอ...?
แต่พอใช้เวลาคิดสักครู่ก็ต้องยอมรับว่ามันคือเรื่องจริง คนส่วนใหญ่ถึงจะไม่ใช่ทั้งหมด อาจจะมีพวกเสียผลประโยชน์ผู้ได้รับผลประโยชน์และอื่นๆแฝงชุมนุมด้วย แต่ต้องยอมรับว่าผู้ที่ไปชุมนุมไม่ว่าครั้งไหนๆหรือฝ่ายไหนๆ ส่วนใหญ่เป็นคนที่คิดดีอยากทำดี ทำเพื่อความถูกต้องทั้งนั้น จึงยอมไหลไปตามกระแสของแกนนำ เพราะคิดว่าสิ่งที่ฟังมาเป็นสิ่งที่ถูกและดีเสมอ
อยากให้ทุกท่านหยุดพักความเกลียดสัก 5 นาทีแล้วลองคิดดูนะครับ ว่าส่วนใหญ่ไม่ว่าฝ่ายไหนก็เป็นคนดีที่อยากทำดีทั้งนั้น แล้วคุณจะลดความเกลียดฝั่งตรงข้ามไปได้มาก และเมื่อความเกลียดลดลง การเปิดใจพูดคุยกันก็จะเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายขึ้นครับ
ณ.ตอนนี้ผมไม่เกลียดไม่โกรธฝ่ายตรงข้ามแล้วครับ แค่การยกระดับความคิดง่ายๆ มองฝ่ายตรงข้ามให้เป็นคนดีที่เข้าใจผิดไปจากเรา คิดและเข้าใจไม่เหมือนเราแค่นั้นก็พอ
ขอให้แค่มองว่าเค้าคือคนดีจริงๆ ไม่ใช่ ประชดหรือเหน็บแนมกัน
ผมว่าคนเราจะสามารถเปิดใจรับฟังและพูดคุยกันได้แน่นอนครับ
ถ้าลดความเกลียดลดอคติลง และมองเค้าว่าเป็นคนดี
ขอบคุณครับ