มือใหม่ ถ่ายงาน สอบถาม แนวคิดของช่างภาพถ่ายงานครับ

สวัสดีครับ

วันนี้ ผมมีข้อสงสัยของช่างภาพมืออาชีพ ที่รับถ่ายงานทั่วไป งานแต่ง งานบวช รับปริญญา

ข้อถามเป็นข้อ ๆ น่ะครับ

1. ท่านเริ่มต้นงานอย่างไรก่อนจะมารรับงานอาชีพ ( เพื่อนชวน ตามเค้าไปถ่าย ถ่ายฟรี)
2. การเตรียมตัว และอุปกรณ์ที่ใช้ ระดับไหน fullframe,semipro,entry ชุดไฟ อื่น ๆ
3. การฝึกฝน และ การเรียนรู้ ท่านหาจากที่ไหน เวบ หรือ หนังสือ อะไรบ้าง
4. เคยผิดพลาดขนาดลูกค้าจะเอาเรื่องมั้ย แล้ว มีลูกค้าไม่พอใจผลงานบ้างหรือไม่

พอดี เคยมีรุ่นพี่คนนึง ให้ผมไปถ่ายภาพให้ในงานแต่ง ประมาณ 10 ปีมาแล้ว ตอนนั้นพึ่งหัดถ่ายภาพไม่นาน และยังเป็นกล้องฟิล์ม
พอถ่ายออกมา โดนต่อว่าพอสมควร ว่า ไม่สวยบ้าง องค์ประกอบไม่ดีบ้าง หลังจากนั้น ผมก็ไม่รับถ่ายงานให้ใครอีกเลย อิอิ

แต่ตอนนี้ อยากหาอาชีพเสริมยามว่าง อาจจะรับงานแถวบ้าน แต่ไม่เคยถ่ายงานให้ใครมานานมากแล้ว เลยรบกวน แชร์ ปสก
จากมือ อาชีพหน่อยครับ เพราะการถ่ายงาน ผมถือว่า เป็นเด็กเริ่มหัดเดินก็ว่าได้

ขอบคุณครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ผมอารมณ์ศิลปิน เลิกรับงานไปนาน เนื่องจากติดงานประจำ แต่พอไกด์ให้ได้
1. เข้าใจวิถีชีวิต ขนบ ธรรมเนียม พิธีการต่างๆ
อย่างแต่งงาน ต้องดูว่าประเพณีเขามีพิธีการอย่างไรบ้าง คริสต์ พุทธ อิสลาม
พิธีไหน เริ่มเมื่อไร ตรงไหน มีใครสำคัญ

2. วางแผนว่าจะถ่ายช็อตไหนบ้าง
การถ่ายพวกงานพิธี มีช็อตบังคับว่าต้องถ่ายตอนนี้ เช่น ช่วงรดน้ำบ่าวสาว
ช่วงสวมแหวน ฯลฯ แล้วต้องหูตาไว ดูช่วง moment สำคัญ เรียกว่าเป็นช็อต
แคนดิต เก็บบรรยากาศแขกเหรื่อ เก็บทีเผลอบ่าวสาว เก็บจังหวะแม่ลูกกอดกัน
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเหนือความคาดหมายได้ตลอดเวลา

3. ดูสถานที่ล่วงหน้า
ถ้าเป็นไปได้ก็ไปดูสถานที่ มีมุมตรงไหนสวย มีแสงพอไหม พื้นที่กว้างหรือแคบ
ถึงเวลาวันงานจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินหา

4. อุปกรณ์
กล้อง เลนส์ เมโมรี แฟลข แบตเตอรี่ เมมโมรีเลือกยี่ห้อดีที่สุด ความจุจัดเต็ม 32 กิ๊ก
หรือ 64 ได้เลย ไม่ต้องกลัว หลายคนกลัวเมมเสียเลยซื้อความจุน้อยหลายแผ่น
แต่ก็พลาดทำเมมหล่นหาย ไม่รู้อะไรเสียหายกว่ากัน แบตเตอรี่มีสำรองให้พร้อม
และต้องมั่นใจว่าชาร์ตเต็ม ส่วนกล้องตัวคูณ ฟูลเฟรม ไม่ใช่สาระสำคัญ
ความสำคัญอยู่ที่ถ่ายรูปได้ มีรูปส่งงาน เจ้าของงานแฮปปี้ เจ้าของงานไม่มานั่งเพ่ง
รูปนี้น้อยซ์บาน รูปนี้หลังละลายสวยเนาะ รูปนี้แสงริมไลท์อย่างเมพพพพ
แต่ก็ไม่ใช่ว่าสักแต่ถ่ายๆ ไปนะ อันนี้โดนด่าได้ จะกล้องอะไรก็โดนด่าได้

5. การฝึกฝน
ผมแนะนำหนังสือต่างประเทศ เห็นมีหลายเล่มแปลเป็นไทย ลองหาๆ ดู
ถ้าอ่านภาษาอังกฤษได้ก็จัดเลยอย่ารีรอ อ่านแล้วลองดูว่าเรื่องไหน
ที่เรานำมาใช้ได้ ลองฝึกทำตามคำแนะนำในหนังสือ และทำให้พัฒนา
ฝีมือได้เร็วกว่า
พยายามหาสถานที่ที่มีความแตกต่าง เช่น ล็อบบี้โรงแรง ห้องอาหาร
บ้านไม้ สถานที่กลางแจ้งทั้งกลางวัน ช่วงเย็น ช่วงเช้า สถานที่ที่คนน้อย
คนมาก แล้วลองดูว่าถ้าจะถ่ายรูปในสถานที่และเวลาต่างกัน เราเจอปัญหา
อะไรบ้าง ถ่ายๆ อยู่โดนใครตะโกนด่าไหม ถ่ายไปโฟกัสได้ไหม

6. ลดความผิดพลาดได้โดย
การฝึกฝน การเตรียมตัวดี การวางแผนงานดี เช็คอุปกรณ์ให้พร้อมใช้งานเสมอ
และถ้าเป็นไปได้ควรมีอุปกรณ์สำรอง เช่น เมมควรมีสำรอง แฟลชควรเลือกยี่ห้อ
ที่ดี ไม่จำเป็นต้องตัวท็อป ขาตั้งกล้อง กระเป๋า ฯลฯ อุปกรณ์ที่ดีทำให้เราไม่ต้อง
กังวล เฮ้ย มันจะเสียกลางงานไหมว๊าาา
สิ่งเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงได้มาก

7. ผลงาน
ผลงานต้องมีโชว์ก่อนละ ไม่ใช่มาบอกผมว่า พี่ผมมีกล้องฟูลเฟรมเลนส์เอฟกว้าง
รูรับแสงเท่าฝาหม้อ ต้องมีผลงานหรือ portfolio โชว์ ถ้ายังไม่มีก็ทำซะ จะหาเพื่อน
ญาติ หรือลงทุนจ้างใครมาเป็นแบบก็ว่าไป ประเภทไปแคปเขามานี่อย่าได้ริทำ
โลกออนไลน์ทุกวันนี้ยิ่งกว่ากล้อง CCTV
มีผลงานแล้วจะโชว์ทางไหน เฟสบุ๊ค กูเกิ้ลพลัส อินสตาแกรม หรือลงทุนทำเว็บ
เป็นเรื่องเป็นราว ด้วยเงินลงทุนไม่กี่พันต่อปี ถ้าทำแล้วคนรู้จักคนเห็นผลงานก็ทำเลย
อย่าลังเล มีโฆษณาออนไลน์ก็ทำไปอย่ารอช้า

8. ภาพลักษณ์
จะเป็นช่างภาพก็ต้องสร้างภาพให้ตัวเองนิดนึง ไม่ใช่ขาสั้น เสื้อยืด รองเท้าแตะกันทุกงาน
หล่อให้เข้ากับสถานที่นิดนึง คงไม่ต้องบอกนะว่าต้องแต่งตัวแบบไหน ต้องมีบุคลิคยังไง

9. ราคา
คำนวณเอาเอง ว่าค่าแรงเท่าไร ค่าเสียเวลาเดินทาง อาหารการกิน ค่าเสื่อมราคา
ค่าไฟ ต้องใช้เวลาทำรูปกี่วัน ไม่ใช่ รับถ่ายงานวันละ 3000 ถ่ายเสร็จมาแต่งรูปอีก 10 วัน
ต้องประเมินว่าต้นทุนเท่าไร แล้วจะคิดกำไรสักกี่เปอร์เซ็นต์

10. ยังมีอีกเยอะ
รอท่านอื่นมาช่วยตอบ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่