มีโอกาสไป George Town เมืองหลวงของปีนังเป็นครั้งแรก ได้รับประสบการณ์เกินความคาดหมาย ด้วยเป็นเมืองที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก.. สิ่งปลูกสร้างสวยงาม รุ่มรวยด้วยวัฒนธรรม ผู้คนเป็นมิตร และใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้เฒ่าผู้แก่.. ภายใต้ความโดดเด่นของวัฒนธรรมนั้น ดูเหมือนว่าความงดงามทางธรรมชาติจะไม่อาจเปรียบได้กับภูเก็ตบ้านเรา และที่สำคัญภูเก็ตมีสีสันยามราตรีที่คึกคักกว่าปีนังอย่างไม่อาจเปรียบกันได้... ซึ่งไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจกันแน่

เที่ยวมาเลย์ต้องนั่งสามล้อ.. พอไปถามราคาเค้าเอาตั้ง 10 ริงกิต.. บอกว่าไปแค่เนี้ยนะ.. ลุงแกค้อนแล้วบอกเดินไปเองเถอะ ตัวใหญ่... อ้าว เลือกดั้วะ...

ดูหน้าตาลุงคนขับดิ ถ้าเป็นผมแกจะทำหน้าไงเนี่ย

หอนาฬิกา แลนด์มาร์คสำคัญของปีนัง

แกงกะหรี่หัวปลา.. อาหารพื้นเมืองขึ้นชื่อของเค้า ไม่ได้ชิมหรอกครับ ขอแม่ค้าเค้าถ่าย เพิ่งขึ้นจากเตาเลย เห็นฟองอากาศปุดๆนั่น ร้อนนะครับไม่ใช่บูด

เสียเงิน 10 ริงกิต เพื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์ (จริงๆแล้วหลบร้อน ขออาศัยเดินห้องแอร์เย็นๆหน่อย) แน่นอน.. สิ่งที่ได้รับนั้นเกินค่าของเงินมากมาย ไปเที่ยวที่ไหนจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องแวะชมพิพิธภัณฑ์ ไม่อย่างนั้นเข้าไม่ถึงรากของชนชาตินั้น

มุมที่จัดแสดงถึงการค้าการขายของปีนังในสมัยก่อน มีการโอนเงิน แลกเปลี่ยนเงินตรา มีธนาคาร การค้าการขายเจริญรุ่งเรืองมาก สมัยก่อนลูกท่านหลานเธอในเมืองไทยก็นิยมส่งลูกมาเรียนที่นี่แหละ

แวะไหว้พระเสียหน่อย ถือเป็นการเคารพสถานที่

เฉิง ฟัท เจี๋ย... คฤหาสน์ของตะกูลคหบดีในสมัยโบราณ ปัจจุบันเปิดให้เข้าชมเป็นรอบ มีไกด์นำ ภายในกั้นบางส่วนเป็นโรงแรมด้วย

ราวกับนั่งอยู่ในห้วงเวลาของอดีต

กระเบื้องของเก่าสวยงามนักหนา

รถที่จอดก็เป็นของเค้า สังเกตที่ประตู.. นี่ถ้ารถสีแดงล่ะ แหร่มเร้ย

เมืองนี้เต็มไปด้วยพรอบถ่ายรูปเยอะมาก เป็นความคิดสร้างสรรค์ที่นำมาช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวได้อย่างมีพลังจริงๆ

ที่นี่ ถนนแคมเบล เพราะฉะนั้น Lebuh น่าจะแปลว่าถนน ท่านใดทราบก็ขอความกรุณาให้ความรู้ด้วยนะครับ

เดินผ่านร้านรถเข็นขายหมี่ฮกเกี้ยน ท่าทางน่าอร่อย ขอถ่ายรูปอาเฮียก็ใจดี จัดที่จัดทางให้ถ่าย ไม่ได้แวะอุดหนุนเค้าหรอก.. แต่ก็ประทับใจกับอัธยาศัยไมตรีที่มีต่อนักท่องเที่ยวซำเหมา

เมืองนี้เป็นสวรรค์ของคนชอบถ่ายรูปจริงๆ

จักรยานเป็นของจริง.. เด็กเป็นภาพวาด จากผนังตึกโทรมๆกลายเป็นมีคุณค่าขึ้นมาทันใด.. ช่างเป็นไอเดียสร้างสรรค์ที่น่ายกย่องมาก

มัสยิดใหญ่ประจำเมือง ตั้งอยู่ใจกลาง Core Zone ใกล้กับวัดจีนและ Little India

สี่แยกจ้ะ ไปทางขวาก็จะเป็นวัดเจ้าแม่กวนอิม แต่อยู่ในย่าน Little India...เพราะฉะนั้น.. แขกเพียบ

ที่นี่โปรโมท Street Food เป็นเรื่องเป็นราว มีแผนที่แผ่นพับแจกเป็นลายแทงให้ไปเสาะหารับประทาน เมืองไทยที่ได้รับยกย่องเป็นเมืองแห่ง Street Food เอาอย่างเค้ามั่งดีมั้ยครับ

บูติคโฮเต็ลเยอะมาก แต่ละแห่งตบแต่งโดยอาศัยจุดแข็งรากเหง้าทางวัฒนธรรมที่สืบสานกันมา

สถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของปีนัง กระทัดรัด เรียบง่าย แต่ดูดี.. ในโบสถ์กำลังทำพิธีเลยไม่ได้เข้าไป

เจ้านี่มากับแก๊งค์เด็กมาฝึกถ่ายรูป ผมกำลังเล็งอยู่มานั่งบังเฉยเลย ก็ดีอาศัยเป็นฉากหน้าซะเลย อีกสักพักมีกลุ่มชราภาพจากสิงคโปร์ถือกล้องใหญ่ราคาแพงมาแชะๆๆๆๆๆ แล้วก็ขึ้นรถตู้จากไป.. คนสิงคโปร์มาเที่ยวปีนังกันเยอะมาก

ปีนังเต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ของเอกชน.. ขอบคุณที่อนุรักษ์สิ่งเหล่านี้ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชม
ความเป็นอยู่ของคหบดีในสมัยนั้นช่างอลังการจริงๆ... ก็ อีกแหละ ขึ้นชื่อว่าเศรษฐี ยุคไหนสมัยไหนก็อลังการทั้งนั้นแหละ... ที่นี่เค้ามีห้องเก็บสมุนไพรไว้ทำยารักษาโรคของเค้าเองเลยนะ

ไม้แกะสลักบนผนังตู้ใบหนึ่ง ถ่ายเจาะมาให้ชม

บ้านตระกูลคู เป็นสถานที่ที่ถือว่าเป็น Must See ของ George Town ภายในแกะสลักหินได้วิจิตรอลังการงานสร้างมาก เห็นแล้วนึกถึงวัดเล่งเน่ยยี่ 2 ที่บางบัวทอง เสียแต่ว่าของเค้าเล็กแต่รายละเอียดสุดยอด ของเรานั้นได้ใหญ่

ใต้หลังคา เป็นงานไม้แกะสลักที่ทรงคุณค่าเช่นกัน

ถ่ายจากโปสเตอร์ที่ปิดไว้ในห้องนิทรรศการ

เห็นหลังคาที่ประดับประดาด้วยกระเบื้องแล้วนึกถึงวัดโพธิ์

อันเนี้ยเค้าบอกว่าทำไมถึงเรียกถนนนี้ว่าแคนอนสตรีท.. บ้านเราน่าทำมั่งนะ เก๋ดี ของดีๆเลียนแบบคงไม่เสียฟอร์มหรอก

มุมนี้น่าไปถ่ายรูปฉลองครบรอบแต่งงานมาก.. แบบว่าขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปพร้อมกันเลย เจ้าเบนซ์สีเขียวนี่น่าจะเป็นพรอบเพราะใน postcard ก็มี

This is the place where the famous designer Jimmy Choo started his apprenticeship.... ใครไม่รู้จัก Jimmy Choo บ้างครับ น่าภูมิใจนะ อย่างน้อยแกก็ออกแบบรองเท้าให้คนดังๆของโลกต้องมาใส่รองเท้าของแก

บ้านนี้เมืองนี้สีสันสดใสดีจุงเบย มีโอกาสแวะมาเที่ยวนะครับ แต่จะให้ดีเช็คอุณหภูมิซะหน่อยเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
ลากันไปด้วยภาพนี้ ขอบคุณที่แวะมาชมนะครับ
[CR] เที่ยวไปกับนายอั๋น Vol.3 George Town, Penang
เที่ยวมาเลย์ต้องนั่งสามล้อ.. พอไปถามราคาเค้าเอาตั้ง 10 ริงกิต.. บอกว่าไปแค่เนี้ยนะ.. ลุงแกค้อนแล้วบอกเดินไปเองเถอะ ตัวใหญ่... อ้าว เลือกดั้วะ...
ดูหน้าตาลุงคนขับดิ ถ้าเป็นผมแกจะทำหน้าไงเนี่ย
หอนาฬิกา แลนด์มาร์คสำคัญของปีนัง
แกงกะหรี่หัวปลา.. อาหารพื้นเมืองขึ้นชื่อของเค้า ไม่ได้ชิมหรอกครับ ขอแม่ค้าเค้าถ่าย เพิ่งขึ้นจากเตาเลย เห็นฟองอากาศปุดๆนั่น ร้อนนะครับไม่ใช่บูด
เสียเงิน 10 ริงกิต เพื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์ (จริงๆแล้วหลบร้อน ขออาศัยเดินห้องแอร์เย็นๆหน่อย) แน่นอน.. สิ่งที่ได้รับนั้นเกินค่าของเงินมากมาย ไปเที่ยวที่ไหนจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องแวะชมพิพิธภัณฑ์ ไม่อย่างนั้นเข้าไม่ถึงรากของชนชาตินั้น
มุมที่จัดแสดงถึงการค้าการขายของปีนังในสมัยก่อน มีการโอนเงิน แลกเปลี่ยนเงินตรา มีธนาคาร การค้าการขายเจริญรุ่งเรืองมาก สมัยก่อนลูกท่านหลานเธอในเมืองไทยก็นิยมส่งลูกมาเรียนที่นี่แหละ
แวะไหว้พระเสียหน่อย ถือเป็นการเคารพสถานที่
เฉิง ฟัท เจี๋ย... คฤหาสน์ของตะกูลคหบดีในสมัยโบราณ ปัจจุบันเปิดให้เข้าชมเป็นรอบ มีไกด์นำ ภายในกั้นบางส่วนเป็นโรงแรมด้วย
ราวกับนั่งอยู่ในห้วงเวลาของอดีต
กระเบื้องของเก่าสวยงามนักหนา
รถที่จอดก็เป็นของเค้า สังเกตที่ประตู.. นี่ถ้ารถสีแดงล่ะ แหร่มเร้ย
เมืองนี้เต็มไปด้วยพรอบถ่ายรูปเยอะมาก เป็นความคิดสร้างสรรค์ที่นำมาช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวได้อย่างมีพลังจริงๆ
ที่นี่ ถนนแคมเบล เพราะฉะนั้น Lebuh น่าจะแปลว่าถนน ท่านใดทราบก็ขอความกรุณาให้ความรู้ด้วยนะครับ
เดินผ่านร้านรถเข็นขายหมี่ฮกเกี้ยน ท่าทางน่าอร่อย ขอถ่ายรูปอาเฮียก็ใจดี จัดที่จัดทางให้ถ่าย ไม่ได้แวะอุดหนุนเค้าหรอก.. แต่ก็ประทับใจกับอัธยาศัยไมตรีที่มีต่อนักท่องเที่ยวซำเหมา
เมืองนี้เป็นสวรรค์ของคนชอบถ่ายรูปจริงๆ
จักรยานเป็นของจริง.. เด็กเป็นภาพวาด จากผนังตึกโทรมๆกลายเป็นมีคุณค่าขึ้นมาทันใด.. ช่างเป็นไอเดียสร้างสรรค์ที่น่ายกย่องมาก
มัสยิดใหญ่ประจำเมือง ตั้งอยู่ใจกลาง Core Zone ใกล้กับวัดจีนและ Little India
สี่แยกจ้ะ ไปทางขวาก็จะเป็นวัดเจ้าแม่กวนอิม แต่อยู่ในย่าน Little India...เพราะฉะนั้น.. แขกเพียบ
ที่นี่โปรโมท Street Food เป็นเรื่องเป็นราว มีแผนที่แผ่นพับแจกเป็นลายแทงให้ไปเสาะหารับประทาน เมืองไทยที่ได้รับยกย่องเป็นเมืองแห่ง Street Food เอาอย่างเค้ามั่งดีมั้ยครับ
บูติคโฮเต็ลเยอะมาก แต่ละแห่งตบแต่งโดยอาศัยจุดแข็งรากเหง้าทางวัฒนธรรมที่สืบสานกันมา
สถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของปีนัง กระทัดรัด เรียบง่าย แต่ดูดี.. ในโบสถ์กำลังทำพิธีเลยไม่ได้เข้าไป
เจ้านี่มากับแก๊งค์เด็กมาฝึกถ่ายรูป ผมกำลังเล็งอยู่มานั่งบังเฉยเลย ก็ดีอาศัยเป็นฉากหน้าซะเลย อีกสักพักมีกลุ่มชราภาพจากสิงคโปร์ถือกล้องใหญ่ราคาแพงมาแชะๆๆๆๆๆ แล้วก็ขึ้นรถตู้จากไป.. คนสิงคโปร์มาเที่ยวปีนังกันเยอะมาก
ปีนังเต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ของเอกชน.. ขอบคุณที่อนุรักษ์สิ่งเหล่านี้ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชม
ความเป็นอยู่ของคหบดีในสมัยนั้นช่างอลังการจริงๆ... ก็ อีกแหละ ขึ้นชื่อว่าเศรษฐี ยุคไหนสมัยไหนก็อลังการทั้งนั้นแหละ... ที่นี่เค้ามีห้องเก็บสมุนไพรไว้ทำยารักษาโรคของเค้าเองเลยนะ
ไม้แกะสลักบนผนังตู้ใบหนึ่ง ถ่ายเจาะมาให้ชม
บ้านตระกูลคู เป็นสถานที่ที่ถือว่าเป็น Must See ของ George Town ภายในแกะสลักหินได้วิจิตรอลังการงานสร้างมาก เห็นแล้วนึกถึงวัดเล่งเน่ยยี่ 2 ที่บางบัวทอง เสียแต่ว่าของเค้าเล็กแต่รายละเอียดสุดยอด ของเรานั้นได้ใหญ่
ใต้หลังคา เป็นงานไม้แกะสลักที่ทรงคุณค่าเช่นกัน
ถ่ายจากโปสเตอร์ที่ปิดไว้ในห้องนิทรรศการ
เห็นหลังคาที่ประดับประดาด้วยกระเบื้องแล้วนึกถึงวัดโพธิ์
อันเนี้ยเค้าบอกว่าทำไมถึงเรียกถนนนี้ว่าแคนอนสตรีท.. บ้านเราน่าทำมั่งนะ เก๋ดี ของดีๆเลียนแบบคงไม่เสียฟอร์มหรอก
มุมนี้น่าไปถ่ายรูปฉลองครบรอบแต่งงานมาก.. แบบว่าขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปพร้อมกันเลย เจ้าเบนซ์สีเขียวนี่น่าจะเป็นพรอบเพราะใน postcard ก็มี
This is the place where the famous designer Jimmy Choo started his apprenticeship.... ใครไม่รู้จัก Jimmy Choo บ้างครับ น่าภูมิใจนะ อย่างน้อยแกก็ออกแบบรองเท้าให้คนดังๆของโลกต้องมาใส่รองเท้าของแก
บ้านนี้เมืองนี้สีสันสดใสดีจุงเบย มีโอกาสแวะมาเที่ยวนะครับ แต่จะให้ดีเช็คอุณหภูมิซะหน่อยเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
ลากันไปด้วยภาพนี้ ขอบคุณที่แวะมาชมนะครับ