คราวนี้เจ้าเพื่อนก็มาเยือนอีกแบบนึงอีกแระ ซึ่งถ้าใครอ่านมาตั้งแต่ตอนแรก จะเห็นว่าเจ้าเพื่อนคนนี้มาไม่เคยซ้ำกันเลยนะเนี่ย กลัวเราจะเบื่อเหรอจ๊ะ แหม....แต่ที่แน่ๆ ไม่ต้องกลัวเราจะลืมเธอก็ได้นะ เราจำเธอได้ดี ไม่ต้องมาหาเราบ่อยแบบนี้ก็ได้ อิอิ
คราวนี้ก็โดน attack ที่ตาอีกแระ แต่อาการไม่เหมือนครั้งก่อนนะจ๊ะ คราวนี้มาคนละแบบและคนละข้างกับครั้งแรก ครั้งนี้เป็นที่ตาซ้าย อาการก็ต่างกัน (เอ....ว่าแต่ครั้งนี้ก็ attack เป็นครั้งที่ 4 แล้วสินะ)
คราวนี้รู้สึกตาเบลอๆ เหมือนคนสายตาสั้น ก็เลยไปวัดสายตา ผลออกมาคือ สั้นกับเอียง แต่สั้นแค่ประมาณ 100 ซึ่งปกติก็ไม่น่าจะมีผลเยอะ ไม่ต้องใส่แว่นก็ได้ แต่นี่รู้สึกมองแล้วเบลอๆ อ่านหนังสือตัวเล็กๆไม่ออก ซึ่งปกติก่อนหน้านี้ไม่เป็น ตัวเล็กๆก็อ่านได้ ก็เลยสรุปว่าลองตัดแว่นดูละกัน ก็รอแว่นประมาณ 2 วัน พอได้แว่นก็คิดว่าน่าจะดีขึ้น เพราะคิดว่าคงจะเป็นเพราะสายตาสั้น (จริงๆแล้วมองโลกในแง่ดีเกินไปมั๊ยเนี่ย บวกกับความไม่รู้ว่าจะมาเยือนกันแบบนี้น่ะ.....แหะแหะ) ปรากฏว่าใส่แว่นก็ดีขึ้นแค่นิดหน่อย ก็รอดูอีกประมาณ 2 วัน ปรากฏว่ามันเริ่มเบลอมากขึ้น ก็เลยคิดว่าอาการ attack คงจะมาเยือนกันอีกแระ สรุปคือครั้งนี้เนี่ย ตั้งแต่มีอาการก็ปาเข้าไปเกือบอาทิตย์ กว่าจะไปหาหมอ
ก็เริ่มจากการไปหาหมอที่คามิลเลียนก่อนเหมือนเดิม กว่าจะไปหาหมอ คราวนี้เริ่มอ่านหนังสือได้ลำบากขึ้น ตาเริ่มมองเห็นน้อยลงเรื่อยๆ (เหมือนมืดมากขึ้น หมอเลยจับ admit เลย หมอก็ว่าว่าทำไมพึ่งมา ทีนี้หมอก็จับวัดสายตา ตรวจตา ปรากฏว่าการมองเห็นลดลง คราวนี้เลย admit ที่คามิลเลี่ยนเลย (หมอทาง Neuro เป็นคนสั่ง)
ครั้งนี้ให้ยา ถ้าจำไม่ผิด น่าจะ 5 วัน หมอก็มาตรวจทุกวัน และหมอก็บอกว่าตัวโรค NMO เนี่ยจะโจมตีที่ตา และกระดูกสันหลังเป็นหลัก หมอบอกของคุณเนี่ย มาครบเลยนะ (เอ่อ....จะดีใจดีมั๊ยเนี่ย) ครั้งที่แล้วก็กระดูกสันหลัง ครั้งนี้ก็ตา แต่ตาครั้งนี้เนี่ย ที่มีอาการมองเห็นลดลงแบบนี้ หลังจากให้ยาสเตียรอยด์แล้ว โอกาสกลับมามองเห็น 100% เหมือนเดิมเนี่ยยาก ส่วนมากถ้าโชคดีก็จะกลับมาประมาณ 80% นะ (ขอบอกว่าหมอท่านนี้เป็นคนที่พูดตรงๆ อธิบายรายละเอียดได้ดี เข้าใจง่าย ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่คุณหมอเฉพาะทางทางโรคนี้ก็ตาม แต่ท่านรู้เรื่องเกี่ยวกับตัวโรคค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว) อย่างครั้งนี้ขอบอกว่าคุณหมอบอกไว้ว่าจะเป็นอย่างนี้ๆๆ นะ ก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
ครั้งนี้ก็ให้ยาตั้งแต่วันแรกเลย หม่าม๊าก็มาเฝ้า เช้าเค้าก็กลับบ้าน เย็นก็กลับมานอนด้วย ครั้งนี้อยู่โรงพยาบาล 6 วัน กลางวันก็คุยกับคุณพยาบาล เพราะจะเข้ามาวัดไข้ วัดความดันทุก 4 ชม. 555 คราวนี้พยาบาลถามว่า เป็นอะไร มีอาการยังไง ด้วยความที่บางคนก็ไม่รู้จักโรคนี้ ก็เลยคุยกันจนรู้จักกับคุณพยาบาลหมดทุกคนแระ ^^
ตอนที่เริ่มให้ยา ตอนนั้นตาข้างซ้ายดับไปแล้ว หลังจากให้ยาครบ 5 วันก็ดีขึ้นมานิดหน่อย คือเริ่มมองเห็นลางๆ หมอก็บอกว่า น่าจะได้เท่านี้แหละ เพราะให้ยาช้าด้วย ซึ่งจริงๆ ควรจะรีบมาตั้งแต่แรก อาจจะกลับมาดีกว่านี้
เฮ่อ....เอาเถอะ เราก็คิดว่า ทำอะไรไม่ได้แล้วนี่นา หมอบอกว่าอาจจะดีขึ้นกว่านี้อีกนิดหน่อย แต่ไม่มากนะ ไอ้เราก็ทำใจยอมรับไป อย่างน้อยอีกข้างนีงก็ยังเห็นเต็มร้อยนี่นา คราวนี้ก็ต้องคอยสังเกตอาการตัวเองมากขึ้นกันล่ะนะ ถ้ามีอะไรผิดปกติเมื่อไหร่ ก็หาหมออย่างเดียว จะใช่ attack หรือไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร หาหมอไว้ก่อนดีกว่า
เพื่อนๆพี่ๆอย่าลืมนะคะ ถ้ามีอาการอะไรผิดปกติไปจากเดิมเมื่อไหร่ ไม่ต้องสนใจว่าจะใช่ attack หรือเปล่า รีบไปกาหมอเลยค่ะ ใช่ก็จะได้ให้ยาทันที โอกาสกลับมาเหมือนเดิมหรือมากที่สุดก็มากหน่อย (แต่โดยธรรมชาติของ NMO อาการที่เป็นก็จะกลับมาประมาณ 80% อยู่แล้วค่ะ)
ฉะนั้นเมื่อเป็นโรคนี้แล้ว ก็ยอมรับมันไป เพราะยังไงก็ต้องอยู่เป็นเพื่อนกันต่อไป จนตายกันไปข้างนึงอยู่แระ ก็อยู่กันแบบสงบๆนะจ๊ะ อย่าคิดถึงกันบ่อยน๊าาาาา ^^
ตอน 7 : เจ้า NMO คราวนี้ดูเหมือนจะไม่หนักมากเท่าไหร่ (เอ....ใช่หรือเปล่าน๊าาาา)
คราวนี้ก็โดน attack ที่ตาอีกแระ แต่อาการไม่เหมือนครั้งก่อนนะจ๊ะ คราวนี้มาคนละแบบและคนละข้างกับครั้งแรก ครั้งนี้เป็นที่ตาซ้าย อาการก็ต่างกัน (เอ....ว่าแต่ครั้งนี้ก็ attack เป็นครั้งที่ 4 แล้วสินะ)
คราวนี้รู้สึกตาเบลอๆ เหมือนคนสายตาสั้น ก็เลยไปวัดสายตา ผลออกมาคือ สั้นกับเอียง แต่สั้นแค่ประมาณ 100 ซึ่งปกติก็ไม่น่าจะมีผลเยอะ ไม่ต้องใส่แว่นก็ได้ แต่นี่รู้สึกมองแล้วเบลอๆ อ่านหนังสือตัวเล็กๆไม่ออก ซึ่งปกติก่อนหน้านี้ไม่เป็น ตัวเล็กๆก็อ่านได้ ก็เลยสรุปว่าลองตัดแว่นดูละกัน ก็รอแว่นประมาณ 2 วัน พอได้แว่นก็คิดว่าน่าจะดีขึ้น เพราะคิดว่าคงจะเป็นเพราะสายตาสั้น (จริงๆแล้วมองโลกในแง่ดีเกินไปมั๊ยเนี่ย บวกกับความไม่รู้ว่าจะมาเยือนกันแบบนี้น่ะ.....แหะแหะ) ปรากฏว่าใส่แว่นก็ดีขึ้นแค่นิดหน่อย ก็รอดูอีกประมาณ 2 วัน ปรากฏว่ามันเริ่มเบลอมากขึ้น ก็เลยคิดว่าอาการ attack คงจะมาเยือนกันอีกแระ สรุปคือครั้งนี้เนี่ย ตั้งแต่มีอาการก็ปาเข้าไปเกือบอาทิตย์ กว่าจะไปหาหมอ
ก็เริ่มจากการไปหาหมอที่คามิลเลียนก่อนเหมือนเดิม กว่าจะไปหาหมอ คราวนี้เริ่มอ่านหนังสือได้ลำบากขึ้น ตาเริ่มมองเห็นน้อยลงเรื่อยๆ (เหมือนมืดมากขึ้น หมอเลยจับ admit เลย หมอก็ว่าว่าทำไมพึ่งมา ทีนี้หมอก็จับวัดสายตา ตรวจตา ปรากฏว่าการมองเห็นลดลง คราวนี้เลย admit ที่คามิลเลี่ยนเลย (หมอทาง Neuro เป็นคนสั่ง)
ครั้งนี้ให้ยา ถ้าจำไม่ผิด น่าจะ 5 วัน หมอก็มาตรวจทุกวัน และหมอก็บอกว่าตัวโรค NMO เนี่ยจะโจมตีที่ตา และกระดูกสันหลังเป็นหลัก หมอบอกของคุณเนี่ย มาครบเลยนะ (เอ่อ....จะดีใจดีมั๊ยเนี่ย) ครั้งที่แล้วก็กระดูกสันหลัง ครั้งนี้ก็ตา แต่ตาครั้งนี้เนี่ย ที่มีอาการมองเห็นลดลงแบบนี้ หลังจากให้ยาสเตียรอยด์แล้ว โอกาสกลับมามองเห็น 100% เหมือนเดิมเนี่ยยาก ส่วนมากถ้าโชคดีก็จะกลับมาประมาณ 80% นะ (ขอบอกว่าหมอท่านนี้เป็นคนที่พูดตรงๆ อธิบายรายละเอียดได้ดี เข้าใจง่าย ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่คุณหมอเฉพาะทางทางโรคนี้ก็ตาม แต่ท่านรู้เรื่องเกี่ยวกับตัวโรคค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว) อย่างครั้งนี้ขอบอกว่าคุณหมอบอกไว้ว่าจะเป็นอย่างนี้ๆๆ นะ ก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
ครั้งนี้ก็ให้ยาตั้งแต่วันแรกเลย หม่าม๊าก็มาเฝ้า เช้าเค้าก็กลับบ้าน เย็นก็กลับมานอนด้วย ครั้งนี้อยู่โรงพยาบาล 6 วัน กลางวันก็คุยกับคุณพยาบาล เพราะจะเข้ามาวัดไข้ วัดความดันทุก 4 ชม. 555 คราวนี้พยาบาลถามว่า เป็นอะไร มีอาการยังไง ด้วยความที่บางคนก็ไม่รู้จักโรคนี้ ก็เลยคุยกันจนรู้จักกับคุณพยาบาลหมดทุกคนแระ ^^
ตอนที่เริ่มให้ยา ตอนนั้นตาข้างซ้ายดับไปแล้ว หลังจากให้ยาครบ 5 วันก็ดีขึ้นมานิดหน่อย คือเริ่มมองเห็นลางๆ หมอก็บอกว่า น่าจะได้เท่านี้แหละ เพราะให้ยาช้าด้วย ซึ่งจริงๆ ควรจะรีบมาตั้งแต่แรก อาจจะกลับมาดีกว่านี้
เฮ่อ....เอาเถอะ เราก็คิดว่า ทำอะไรไม่ได้แล้วนี่นา หมอบอกว่าอาจจะดีขึ้นกว่านี้อีกนิดหน่อย แต่ไม่มากนะ ไอ้เราก็ทำใจยอมรับไป อย่างน้อยอีกข้างนีงก็ยังเห็นเต็มร้อยนี่นา คราวนี้ก็ต้องคอยสังเกตอาการตัวเองมากขึ้นกันล่ะนะ ถ้ามีอะไรผิดปกติเมื่อไหร่ ก็หาหมออย่างเดียว จะใช่ attack หรือไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร หาหมอไว้ก่อนดีกว่า
เพื่อนๆพี่ๆอย่าลืมนะคะ ถ้ามีอาการอะไรผิดปกติไปจากเดิมเมื่อไหร่ ไม่ต้องสนใจว่าจะใช่ attack หรือเปล่า รีบไปกาหมอเลยค่ะ ใช่ก็จะได้ให้ยาทันที โอกาสกลับมาเหมือนเดิมหรือมากที่สุดก็มากหน่อย (แต่โดยธรรมชาติของ NMO อาการที่เป็นก็จะกลับมาประมาณ 80% อยู่แล้วค่ะ)
ฉะนั้นเมื่อเป็นโรคนี้แล้ว ก็ยอมรับมันไป เพราะยังไงก็ต้องอยู่เป็นเพื่อนกันต่อไป จนตายกันไปข้างนึงอยู่แระ ก็อยู่กันแบบสงบๆนะจ๊ะ อย่าคิดถึงกันบ่อยน๊าาาาา ^^