′สุเทพ′ ซักซ้อมแนวร่วม หากถูกใช้กำลังเข้าสลาย ให้นั่งลงแล้วสวดมนต์ สั่งยึดกระทรวงแต่ไม่ค้างคืน ข่าวมติชนออนไลน์
เมื่อเวลา 19.40 น. วันที่ 8 มกราคม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ปราศรัยว่า เมื่อถูกปิดบัญชี
ก็ทำให้พี่น้องโอนเงินมาช่วยเหลือเราไม่ได้ จำเป็นต้องลำบากมามอบให้เราด้วยตัวเอง วันนี้มาขึ้นเร็วหน่อย
เพราะพรุ่งนี้จะเดินไกล โดยจะออกจากราชดำเนิน 9.00 น. เดินไปตามถ.ดินสอ ตรงไปเรื่องข้ามสะพานพุทธ
ไปสี่แยกบ้านแขก เลี้ยวซ้ายไปจนถึงสามแยกลาดหญ้า เลี้ยวขวาเดินไปวงเวียนใหญ่ ไหว้สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ
และพระเจ้าตาก จากวงเวียนใหญ่ก็มาที่สี่แยกบ้านแขก แล้วเราจะไปสี่แยกพรานนกผ่าน รพ.ศิริราช ข้ามสะพาน
ปิ่นเกล้าฯ กลับมาที่ราชดำเนิน ใช้เวลามาก แต่เป็นการเดินขบวนนัดสำคัญเชิญให้ประชาชนมาร่วมกับเรา ขับไล่
ระบอบทักษิณ ในวันที่ 13 มกราคม
ในส่วนที่จะเปิดถนนเลยมี 7 แห่ง เริ่มจาก ถ.แจ้งวัฒนะ มีมวลชน กปปส.นนทบุรี ราชบุรี นครปฐม มี กปปส.นนทบุรี
เป็นผู้ประสานงาน ปิดถนนแจ้งวัฒนะไม่ให้ศูนย์ราชการทำงานได้ มีนายราเชนท์ กรรมการ กปปส.และหลวงพ่อ
พุทธอิสระอยู่ที่นั่นด้วย มาที่ห้าแยกลาดพร้าว จุดที่สอง มีพี่น้องจากจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสาน มาสมทบ มีนายอิสสระ
สมชัย อยู่ที่นั่น ถัดมาเป็นอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ คาดว่าจะมีคนไปรวมตัวมากที่นี่ มีนายถาวร เสนเนียม รับผิดชอบ
บริหารจัดการเวทีตรงนั้น ถัดมาเป็นที่สี่แยกปทุมวัน กำลังหลักที่นี่คือพี่น้องชาวจุฬาฯ และมีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย
ร่วมกันดูแล โดยใช้เวทีสี่แยกปทุมวันเป็นจุดถ่ายทอดสดทางบลูสกาย ซึ่งจะดำเนินรายการสด 24 ชั่วโมง ถัดไปมีเวที
ที่ลุมพินีตัดกับถนนสีลมมีนายวิทยา แก้วภราดัย ดูแล ส่วนสี่แยกราชประสงค์ มีนายชุมพล จุลใส ร่วมกับ ดร.เสรี
วงษ์มณฑา ซึ่งคึกครื้นที่สุด ต่อไปคือเวทีที่อโศก โดยมีพี่น้องจากชลบุรี มีนายสกลธี ภัททิยกุล รับผิดชอบอยู่ ส่วนตน
และกรรมการ กปปส.จะตระเวณหมุนเวียนไปทุกเวที
โดยทุกเวทีก็จะจัดเหมือนกันทุกวันคือไปยึดตามกระทรวงต่างๆ
ไปแต่เช้ามืดและกลับค่ำ เพราะไม่ต้องการไปนอนที่กระทรวงต่างๆ ป้องกันไม่ให้คนร้ายมาทำอันตราย โดยจะใช้วิธี
เช้าไปเย็นกลับ และไม่มีการไปนอนเฝ้ากระทรวงต่างๆ เหมือนเช่นที่กระทรวงการคลัง
สำหรับตนนั้นจะชวนพี่น้องเดินร่วมกันปิดกรุงเทพฯ ในทุกๆ สาย ฉะนั้นปฏิบัติการยึดกรุงเทพฯครั้งนี้คึกคักแน่นอน
ฝ่ายรัฐบาลพอรู้ข่าวก็คิดที่จะขัดขวางพวกเรา คิดที่จะสลายพวกเราด้วยวิธีการต่างๆ นานา
รายงานข่าวแจ้งว่าฝ่าย
รัฐบาลต้องเดินเกมรุกมากกว่าเดิมให้พวกเราทำงานไม่สำเร็จ และยังนัดหมายกันว่า 10 ม.ค.นี้ ให้ตำรวจและ
ประชาชนออกมาร่วมกันจุดเทียนต่อต้านพวกเรา แล้วมาบอกว่าจะเกิดเหตุรุนแรง ตนบอกเลยว่าถ้าตำรวจไม่ทำไม่เกิด
เหตุรุนแรงแน่ แล้วมีการสุมหัวกันเอาตำรวจปลอมมาก่อเหตุการณ์ร้ายป้ายสีใส่พวกเรา หวังจะเผาศูนย์การค้าใกล้
เวทีชุมนุม ตอนนี้เรารู้แผนการแล้ว ขอให้พี่น้องช่วยกันสังเกตพฤติกรรมคนที่มาชุมนุมให้ดี และยืนยันว่าเราไม่มีการ
คบคิดกันเผาบ้านเผาเมือง เผาอะไรทั้งสิ้น ใครจะอ้างพวกเราไปเผาอะไร ยืนยันว่าไม่ใช่พลเมืองดีของเรา
เราซักซ้อมกันก่อนทุกเวที เมื่อไหร่ยกกำลังมาให้นั่งให้หมดแล้วสวดมนต์พร้อมกัน แล้วก็ถ่ายรูปเป็นหลักฐาน
ยกกำลังมากี่หมื่นเราก็นั่งสวดมนต์แผ่ส่วนกุศลให้มันไป เราจะสู้แบบนี้ สันติ สงบ อหิงสา เราอยู่กันให้แน่นทุกเวที
อยู่เสมอ พอจะประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ถูกกองทัพปฏิเสธทั้งสามเหล่าทัพ ไม่มีใครเอาเลย
อยากจะเรียนว่า เมื่อปี 2552 ที่ตนเคยเป็นรองนายกฯนั้น ที่จำเป็นต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะบริวาณทักษิณ
ที่ลุกมาก่อการร้ายไม่ได้ชุมนุมโดยสงบกันอย่างนี้ แต่ทำกันแบบคนร้ายจึงต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นเครื่องมือ ซึ่ง
มะรืนนี้ตนจะนำวิดีโอมาฉายให้ดู แต่ยืนยันว่าในวันที่ 13 ม.ค. เราไม่มีพังร้านเผาห้าง พร้อมกับติดต่อกับห้างร้าน
เรียบร้อย พวกเราคนชุมนุมมีเงินซื้อ มาชุมนุมแล้วยังไปซื้อของด้วย
วันที่ 13 ธันวาคมเป็นต้นไป ที่พวกเราจะหลอมหัวใจเป็นหนึ่งเดียว เอาพวกคนชั่วออกจากประเทศไทยให้ได้
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1389189801&grpid=00&catid=&subcatid=
ผ่าทางตันวิกฤติการเมือง หมัดเหล็ก ไทยรัฐออนไลน์
กองพิสูจน์หลักฐาน ได้ทำการตรวจสอบวิถีกระสุนระหว่างเกิดเหตุความรุนแรง บริเวณสนามกีฬาไทย–ญี่ปุ่น
ดินแดง เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2556 ที่ผ่านมา โดยระบุว่าแนวกระสุนทั้งหมด มีการยิงจากถนนมิตรไมตรี เข้ามา
ภายในสนามกีฬาฯ จากทั้งบริเวณประตู 1 ที่วิถีกระสุนมีลักษณะเฉียงลง ถูกเจ้าหน้าที่บริเวณต้นแขนขวา เป็น
มุมกดลงมาประมาณ 80 องศา ขณะทำหน้าที่สกัดม็อบที่จะบุกเข้ามาในหอพักศูนย์เยาวชน ซึ่งเป็นอาคาร 5 ชั้น
และพบว่ามีกลุ่มคนร้ายขึ้นไปบนอาคารเพื่อปาก้อนหินใส่ตำรวจ จากนั้นกลุ่มคนดังกล่าว ได้หลบขึ้นไปบนกอง
อำนวยการ กองช่างกล กทม.และยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ พบรอยกระสุนในบริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เป็นวิถี
บริเวณประตู 3 ที่มีเจ้าหน้าที่ถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งเป็นผลมาจากถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด.32 วิถีกระสุนมาจากด้าน
รั้วประตู 3 ด้วยมุมกดลงมาประมาณ 15 องศา บริเวณอาคารกีฬาเวสน์ 2 พบรอยกระสุนเป็นจำนวนมากเช่นกัน
ขณะเดียวกัน บริเวณอาคารสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน จุดที่ผู้ชุมนุมเสียชีวิต แนวกระสุนมาจาก
ประตู 6 ด้านกระทรวงแรงงาน หรือจากแฟลตด้านหลังถนนมิตรไมตรี
สรุปแล้ว ในที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนปืน 31 หัว ปลอกกระสุนปืน 6 ปลอก โดยยิงมาจากอาวุธปืน 16 กระบอก ซึ่ง
เป็นการยืนยันในเบื้องต้นได้ว่า มีการยิงอาวุธปืนมาจากบริเวณที่มีผู้ชุมนุมและ สถานการณ์ไม่ใช่การชุมนุมโดยสันติวิธี
สงบและปราศจากอาวุธแต่เป็นการชุมนุมที่มีความรุนแรงเกิดขึ้น ไม่ว่าจะมาจากฝ่ายใดก็ตาม
นี่คือสัญญาณว่า หากมีการชุมนุมประท้วง ต่อไป โดยเฉพาะการปิด กทม.ในวันที่ 13 ม.ค.ไป 7 วัน 7 คืน ไม่มี
ใครรับประกันได้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นอีก จะเสียเลือดเสียเนื้ออีกเท่าไหร่
ประเด็นวิกฤติประเทศเฉพาะหน้าไม่ใช่อยู่ที่จะมีการเลือกตั้งหรือไม่ หรือไม่ใช่จะปฏิรูปประเทศไทย กันอย่างไร แต่
จะรักษาเลือดเนื้อและชีวิตของประชาชน เอาไว้อย่างไรมากกว่า
การชุมนุมทางการเมือง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในประเทศไหน มีเหตุการณ์ความรุนแรงและนองเลือดทุกประเทศ ขึ้นอยู่ว่า
จะมากจะน้อยเท่านั้น เพราะ การไม่ยอมรับฟังความเห็นของอีกฝ่าย มุ่งหน้าจะเอาชนะกันด้วยกำลัง ไม่ใช้การเจรจา
หาทางออกร่วมกัน
เมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้น มีทางออกอยู่แค่ 2 วิธีเท่านั้น คือเจรจาหาทางพบกันครึ่งทาง ยอมเคารพความเห็นของคู่
กรณี และแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี หรือ ใช้กำลังเข้ายึดอำนาจอีกฝ่ายหนึ่ง โค่นล้มฝ่ายตรงกันข้าม
ความแตกต่างของทั้ง 2 วิธีดังกล่าวอยู่ที่ผลลัพธ์การเจรจาด้วยสันติวิธีจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ของส่วนรวมและการ
อยู่ร่วมกันต่อไปโดยปราศจากข้อขัดแย้ง แต่ถ้าเลือกการใช้กำลังก็จะเกิดความรุนแรงหาความสงบไม่ได้
เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามกลางเมือง.
หมัดเหล็ก
http://www.thairath.co.th/column/pol/kaablook/394524
แล้วเหตุเกิดที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น นี่เรียกว่า สันติ อหิงสา ไหม .... น่าเสียดาย ไม่มีสื่อกล้าถาม ?
ทำไมปชช.ที่ไม่เห็นด้วย ต้องเป็นฝ่ายรัฐบาล ปชช.คิดไม่เป็น ต้องให้รัฐบาลจัดการนัดแนะด้วยหรือ ?
ใครที่สนับสนุน กปปส. ก็ต้องรับรู้บ้างว่า นานาชาติ เขามองม็อบกปปส.แบบไหน หากประสนชัยชนะ
ยึดบ้านเมืองได้ มันก็คือ "ปฏิวัติ" ที่ไม่มี ประเทศไหน เขารับรองค่ะ ....
ถามรัฐบาล ปิดกระทรวง ตัดน้ำ ตัดไฟ อีกแล้ว มีมาตรการอะไร รองรับบ้าง
ไม่คิดจะมอบหมาย ให้ทหารมาทำหน้าที่ ปกปักรักษา ที่ทำการรัฐบาลบ้างหรือ
สันติ สงบ ปราศจากอาวุธ จริงหรือ ???? แล้วเหตุการณ์ที่ผ่านมา บอกอะไร เราบ้าง !!!!!!!
เมื่อเวลา 19.40 น. วันที่ 8 มกราคม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ปราศรัยว่า เมื่อถูกปิดบัญชี
ก็ทำให้พี่น้องโอนเงินมาช่วยเหลือเราไม่ได้ จำเป็นต้องลำบากมามอบให้เราด้วยตัวเอง วันนี้มาขึ้นเร็วหน่อย
เพราะพรุ่งนี้จะเดินไกล โดยจะออกจากราชดำเนิน 9.00 น. เดินไปตามถ.ดินสอ ตรงไปเรื่องข้ามสะพานพุทธ
ไปสี่แยกบ้านแขก เลี้ยวซ้ายไปจนถึงสามแยกลาดหญ้า เลี้ยวขวาเดินไปวงเวียนใหญ่ ไหว้สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ
และพระเจ้าตาก จากวงเวียนใหญ่ก็มาที่สี่แยกบ้านแขก แล้วเราจะไปสี่แยกพรานนกผ่าน รพ.ศิริราช ข้ามสะพาน
ปิ่นเกล้าฯ กลับมาที่ราชดำเนิน ใช้เวลามาก แต่เป็นการเดินขบวนนัดสำคัญเชิญให้ประชาชนมาร่วมกับเรา ขับไล่
ระบอบทักษิณ ในวันที่ 13 มกราคม
ในส่วนที่จะเปิดถนนเลยมี 7 แห่ง เริ่มจาก ถ.แจ้งวัฒนะ มีมวลชน กปปส.นนทบุรี ราชบุรี นครปฐม มี กปปส.นนทบุรี
เป็นผู้ประสานงาน ปิดถนนแจ้งวัฒนะไม่ให้ศูนย์ราชการทำงานได้ มีนายราเชนท์ กรรมการ กปปส.และหลวงพ่อ
พุทธอิสระอยู่ที่นั่นด้วย มาที่ห้าแยกลาดพร้าว จุดที่สอง มีพี่น้องจากจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสาน มาสมทบ มีนายอิสสระ
สมชัย อยู่ที่นั่น ถัดมาเป็นอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ คาดว่าจะมีคนไปรวมตัวมากที่นี่ มีนายถาวร เสนเนียม รับผิดชอบ
บริหารจัดการเวทีตรงนั้น ถัดมาเป็นที่สี่แยกปทุมวัน กำลังหลักที่นี่คือพี่น้องชาวจุฬาฯ และมีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย
ร่วมกันดูแล โดยใช้เวทีสี่แยกปทุมวันเป็นจุดถ่ายทอดสดทางบลูสกาย ซึ่งจะดำเนินรายการสด 24 ชั่วโมง ถัดไปมีเวที
ที่ลุมพินีตัดกับถนนสีลมมีนายวิทยา แก้วภราดัย ดูแล ส่วนสี่แยกราชประสงค์ มีนายชุมพล จุลใส ร่วมกับ ดร.เสรี
วงษ์มณฑา ซึ่งคึกครื้นที่สุด ต่อไปคือเวทีที่อโศก โดยมีพี่น้องจากชลบุรี มีนายสกลธี ภัททิยกุล รับผิดชอบอยู่ ส่วนตน
และกรรมการ กปปส.จะตระเวณหมุนเวียนไปทุกเวที โดยทุกเวทีก็จะจัดเหมือนกันทุกวันคือไปยึดตามกระทรวงต่างๆ
ไปแต่เช้ามืดและกลับค่ำ เพราะไม่ต้องการไปนอนที่กระทรวงต่างๆ ป้องกันไม่ให้คนร้ายมาทำอันตราย โดยจะใช้วิธี
เช้าไปเย็นกลับ และไม่มีการไปนอนเฝ้ากระทรวงต่างๆ เหมือนเช่นที่กระทรวงการคลัง
สำหรับตนนั้นจะชวนพี่น้องเดินร่วมกันปิดกรุงเทพฯ ในทุกๆ สาย ฉะนั้นปฏิบัติการยึดกรุงเทพฯครั้งนี้คึกคักแน่นอน
ฝ่ายรัฐบาลพอรู้ข่าวก็คิดที่จะขัดขวางพวกเรา คิดที่จะสลายพวกเราด้วยวิธีการต่างๆ นานา รายงานข่าวแจ้งว่าฝ่าย
รัฐบาลต้องเดินเกมรุกมากกว่าเดิมให้พวกเราทำงานไม่สำเร็จ และยังนัดหมายกันว่า 10 ม.ค.นี้ ให้ตำรวจและ
ประชาชนออกมาร่วมกันจุดเทียนต่อต้านพวกเรา แล้วมาบอกว่าจะเกิดเหตุรุนแรง ตนบอกเลยว่าถ้าตำรวจไม่ทำไม่เกิด
เหตุรุนแรงแน่ แล้วมีการสุมหัวกันเอาตำรวจปลอมมาก่อเหตุการณ์ร้ายป้ายสีใส่พวกเรา หวังจะเผาศูนย์การค้าใกล้
เวทีชุมนุม ตอนนี้เรารู้แผนการแล้ว ขอให้พี่น้องช่วยกันสังเกตพฤติกรรมคนที่มาชุมนุมให้ดี และยืนยันว่าเราไม่มีการ
คบคิดกันเผาบ้านเผาเมือง เผาอะไรทั้งสิ้น ใครจะอ้างพวกเราไปเผาอะไร ยืนยันว่าไม่ใช่พลเมืองดีของเรา
เราซักซ้อมกันก่อนทุกเวที เมื่อไหร่ยกกำลังมาให้นั่งให้หมดแล้วสวดมนต์พร้อมกัน แล้วก็ถ่ายรูปเป็นหลักฐาน
ยกกำลังมากี่หมื่นเราก็นั่งสวดมนต์แผ่ส่วนกุศลให้มันไป เราจะสู้แบบนี้ สันติ สงบ อหิงสา เราอยู่กันให้แน่นทุกเวที
อยู่เสมอ พอจะประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ถูกกองทัพปฏิเสธทั้งสามเหล่าทัพ ไม่มีใครเอาเลย
อยากจะเรียนว่า เมื่อปี 2552 ที่ตนเคยเป็นรองนายกฯนั้น ที่จำเป็นต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะบริวาณทักษิณ
ที่ลุกมาก่อการร้ายไม่ได้ชุมนุมโดยสงบกันอย่างนี้ แต่ทำกันแบบคนร้ายจึงต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นเครื่องมือ ซึ่ง
มะรืนนี้ตนจะนำวิดีโอมาฉายให้ดู แต่ยืนยันว่าในวันที่ 13 ม.ค. เราไม่มีพังร้านเผาห้าง พร้อมกับติดต่อกับห้างร้าน
เรียบร้อย พวกเราคนชุมนุมมีเงินซื้อ มาชุมนุมแล้วยังไปซื้อของด้วย
วันที่ 13 ธันวาคมเป็นต้นไป ที่พวกเราจะหลอมหัวใจเป็นหนึ่งเดียว เอาพวกคนชั่วออกจากประเทศไทยให้ได้
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1389189801&grpid=00&catid=&subcatid=
ผ่าทางตันวิกฤติการเมือง หมัดเหล็ก ไทยรัฐออนไลน์
กองพิสูจน์หลักฐาน ได้ทำการตรวจสอบวิถีกระสุนระหว่างเกิดเหตุความรุนแรง บริเวณสนามกีฬาไทย–ญี่ปุ่น
ดินแดง เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2556 ที่ผ่านมา โดยระบุว่าแนวกระสุนทั้งหมด มีการยิงจากถนนมิตรไมตรี เข้ามา
ภายในสนามกีฬาฯ จากทั้งบริเวณประตู 1 ที่วิถีกระสุนมีลักษณะเฉียงลง ถูกเจ้าหน้าที่บริเวณต้นแขนขวา เป็น
มุมกดลงมาประมาณ 80 องศา ขณะทำหน้าที่สกัดม็อบที่จะบุกเข้ามาในหอพักศูนย์เยาวชน ซึ่งเป็นอาคาร 5 ชั้น
และพบว่ามีกลุ่มคนร้ายขึ้นไปบนอาคารเพื่อปาก้อนหินใส่ตำรวจ จากนั้นกลุ่มคนดังกล่าว ได้หลบขึ้นไปบนกอง
อำนวยการ กองช่างกล กทม.และยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ พบรอยกระสุนในบริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เป็นวิถี
บริเวณประตู 3 ที่มีเจ้าหน้าที่ถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งเป็นผลมาจากถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด.32 วิถีกระสุนมาจากด้าน
รั้วประตู 3 ด้วยมุมกดลงมาประมาณ 15 องศา บริเวณอาคารกีฬาเวสน์ 2 พบรอยกระสุนเป็นจำนวนมากเช่นกัน
ขณะเดียวกัน บริเวณอาคารสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน จุดที่ผู้ชุมนุมเสียชีวิต แนวกระสุนมาจาก
ประตู 6 ด้านกระทรวงแรงงาน หรือจากแฟลตด้านหลังถนนมิตรไมตรี
สรุปแล้ว ในที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนปืน 31 หัว ปลอกกระสุนปืน 6 ปลอก โดยยิงมาจากอาวุธปืน 16 กระบอก ซึ่ง
เป็นการยืนยันในเบื้องต้นได้ว่า มีการยิงอาวุธปืนมาจากบริเวณที่มีผู้ชุมนุมและ สถานการณ์ไม่ใช่การชุมนุมโดยสันติวิธี
สงบและปราศจากอาวุธแต่เป็นการชุมนุมที่มีความรุนแรงเกิดขึ้น ไม่ว่าจะมาจากฝ่ายใดก็ตาม
นี่คือสัญญาณว่า หากมีการชุมนุมประท้วง ต่อไป โดยเฉพาะการปิด กทม.ในวันที่ 13 ม.ค.ไป 7 วัน 7 คืน ไม่มี
ใครรับประกันได้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นอีก จะเสียเลือดเสียเนื้ออีกเท่าไหร่
ประเด็นวิกฤติประเทศเฉพาะหน้าไม่ใช่อยู่ที่จะมีการเลือกตั้งหรือไม่ หรือไม่ใช่จะปฏิรูปประเทศไทย กันอย่างไร แต่
จะรักษาเลือดเนื้อและชีวิตของประชาชน เอาไว้อย่างไรมากกว่า
การชุมนุมทางการเมือง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในประเทศไหน มีเหตุการณ์ความรุนแรงและนองเลือดทุกประเทศ ขึ้นอยู่ว่า
จะมากจะน้อยเท่านั้น เพราะ การไม่ยอมรับฟังความเห็นของอีกฝ่าย มุ่งหน้าจะเอาชนะกันด้วยกำลัง ไม่ใช้การเจรจา
หาทางออกร่วมกัน
เมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้น มีทางออกอยู่แค่ 2 วิธีเท่านั้น คือเจรจาหาทางพบกันครึ่งทาง ยอมเคารพความเห็นของคู่
กรณี และแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี หรือ ใช้กำลังเข้ายึดอำนาจอีกฝ่ายหนึ่ง โค่นล้มฝ่ายตรงกันข้าม
ความแตกต่างของทั้ง 2 วิธีดังกล่าวอยู่ที่ผลลัพธ์การเจรจาด้วยสันติวิธีจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ของส่วนรวมและการ
อยู่ร่วมกันต่อไปโดยปราศจากข้อขัดแย้ง แต่ถ้าเลือกการใช้กำลังก็จะเกิดความรุนแรงหาความสงบไม่ได้
เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามกลางเมือง.
หมัดเหล็ก
http://www.thairath.co.th/column/pol/kaablook/394524
แล้วเหตุเกิดที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น นี่เรียกว่า สันติ อหิงสา ไหม .... น่าเสียดาย ไม่มีสื่อกล้าถาม ?
ทำไมปชช.ที่ไม่เห็นด้วย ต้องเป็นฝ่ายรัฐบาล ปชช.คิดไม่เป็น ต้องให้รัฐบาลจัดการนัดแนะด้วยหรือ ?
ใครที่สนับสนุน กปปส. ก็ต้องรับรู้บ้างว่า นานาชาติ เขามองม็อบกปปส.แบบไหน หากประสนชัยชนะ
ยึดบ้านเมืองได้ มันก็คือ "ปฏิวัติ" ที่ไม่มี ประเทศไหน เขารับรองค่ะ ....
ถามรัฐบาล ปิดกระทรวง ตัดน้ำ ตัดไฟ อีกแล้ว มีมาตรการอะไร รองรับบ้าง
ไม่คิดจะมอบหมาย ให้ทหารมาทำหน้าที่ ปกปักรักษา ที่ทำการรัฐบาลบ้างหรือ