วันที่ 19 พฤษภาคม 2556 แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กำหนดดีเดย์
จัดงานรำลึก 3 ปี 19 พฤษภาคม
รำลึกเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2553 มีคนตาย 91 ราย บาดเจ็บนับร้อย
และหลังจากนั้นคนที่เจ็บก็เสียชีวิตลงอีก รวมเป็นร้อยคน
ผลจากเหตุการณ์ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมสลายตัว แต่ขณะเดียวกันห้างสรรพสินค้าในย่านราชประสงค์ก็ถูกเผา
เกิดการฆาตกรรม 6 ศพ
ที่วัดปทุมวนารามฯ
หลายพื้นที่แม้แลดูสงบ แต่ความจริงแล้วคือการนั่งทับไฟเอาไว้ใต้ก้น
แม้รัฐบาลนายอภิทธิ์จะอยู่ได้ต่อไปอีก แต่เมื่อครบวาระก็ต้องส่งอำนาจคืนประชาชน แล้วในที่สุดผล
การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ก็ให้บทเรียนแก่ฝ่ายการเมือง
พรรคเพื่อไทยได้รับการเลือกตั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้รับแรงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี
และหลังจากเกิดเปลี่ยนแปลงอำนาจทางการเมือง การขุดค้นหาความจริงในเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2553
ก็ค่อยๆ เป็นไปตาม
พยานหลักฐาน และคำตัดสินของศาลยุติธรรม
น่าสังเกตว่า เหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองครั้งนี้
แตกต่างจากเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองครั้งก่อนๆ
ตรงที่ ครั้งนี้ไม่มีการนิรโทษกรรม ทุกอย่างจึงต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์
ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา มีผลรอการชันสูตรกว่า 30 คดี ในจำนวนนี้
ศาลได้พิจารณาสำนวนหลักฐานการเสียชีวิตไปแล้ว 8 คดี
ล่าสุดคือการชี้เหตุการตายของ พลทหารณรงค์ฤทธิ์ สาละ ที่เสียชีวิตขณะซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เพื่อนทหาร
ปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนตรงบริเวณถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออก ตรงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ
ผลของคดี ศาลเชื่อว่า น่าจะเสียชีวิตจากกระสุนฝั่งเจ้าหน้าที่
ขณะที่คดีก่อนหน้านี้ มีทั้งเหตุที่เชื่อว่ากระสุนมาจากฝั่ง
เจ้าหน้าที่ และเหตุที่ยังชี้ไม่ได้ว่ากระสุนมาจากฝ่ายใด
สำหรับคดีที่ศาลชี้เหตุการเสียชีวิตว่าน่าจะมาจากฝ่ายเจ้าหน้าที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษจะทำสำนวนสั่งฟ้อง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรีขณะนั้น และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงขณะนั้น ในข้อหา
ก่อให้เกิดการฆ่า
และยังมีคดี ก่อให้เกิด การพยายามฆ่าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการในชั้นพนักงานสอบสวนอีก
นอกจากนี้ ผลการตัดสินคดีการเผาห้างสรรพสินค้า ศาลได้พิจารณาตามพยานหลักฐานและวินิจฉัยว่า
เหตุเผาห้างมิใช่การก่อการร้าย หากเกิดจากเหตุจลาจล
ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม สั่งฟ้อง และต้องขังอยู่ในเรือนจำนั้น ศาลพิจารณายกฟ้อง
ยังมีผู้ต้องขังในคดีผิดพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินอีกหลายคนที่ยังถูกขัง
และมีคดีความในเขตภูมิภาคอีกมากที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2553
น่าเสียดายที่การคลี่คลายความจริงในเหตุการณ์ดังกล่าว
ด้วยการสืบสวนสอบสวนทางหลักวิชา เพื่อนำเอาพยานหลักฐานมาพิเคราะห์หาความจริงอย่างเป็นระบบ
ได้ขาดช่วงไประยะหนึ่ง
ในตอนแรก จึงทำให้การพิสูจน์ความจริงหยุดชะงักไปพักหนึ่ง
แต่หากปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมทำงานไปตามพยาน
หลักฐาน ปริศนาหลายอย่างคงถูกไขออกมาให้ทราบความจริง
ความจริงที่รอการยืนยันว่า ประเทศไทยมีประชาธิปไตยสมความ
ตั้งใจเดิมหรือไม่
คำถามที่พาดพิงไปถึงฝ่ายการเมือง และฝ่ายราชการประจำว่า การตัดสินใจสลายการชุมนุม
และมีคนบาดเจ็บ-เสียชีวิตกลางเมืองจำนวนมากเช่นนี้ ยังเป็นวิธีคิดและวิธีทำที่ควรกระทำหรือไม่
คำถามที่ซอกแซกเพื่อหาคำตอบว่า ทำเช่นไรจึงไม่เปิดให้สังคมไทยต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนั้นอีก
และหากเกิดสถานการณ์เช่นนั้นอีก ควรเปิดการเจรจา เพื่อหาวิธียุติโดยสันติเช่นไร ถึงเวลาหลีกเลี่ยง
การใช้กำลังเพื่อสลายการชุมนุม ซึ่งมีแต่เสียกับเสียกันแล้วหรือยัง
การรำลึกเหตุการณ์วันที่ 19 พฤษภาคม 2553 จึงน่าจะกระตุ้นความทรงจำอันปวดร้าวที่เกิดขึ้นในประเทศออกมา
เพื่อเป็นบทเรียน
เป็นบทเรียนให้รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ใช้อำนาจสุดโต่ง เป็นบทเรียนการปฏิเสธทางแก้ไขปัญหา
โดยระบอบประชาธิปไตยด้วยการประกาศบอยคอตไม่ลงเลือกตั้ง บีบบังคับให้ประเทศเดินเข้าสู่ทางตัน
เกิดการปฏิวัติรัฐประหารปี 2549
ผลจากการปฏิวัติทำให้ประชาชนไม่ยอมรับรัฐบาลทหาร มีการออกมาชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2552
และการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553
ผลจากเหตุการณ์ปฏิวัติ และเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2553 ทำให้พรรคประชาธิปัตย์
เป็นพรรคประชาธิปัตย์ในปัจจุบัน
เป็นพรรคประชาธิปัตย์ที่ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค กำลังผลักดันให้เกิดการปฏิรูป
เหตุจากการปฏิวัติ และการเสียชีวิตของเหยื่อความรุนแรงในการชุมนุมทางการเมือง เป็นบทเรียน
สำหรับทุกฝ่ายที่น่าจะได้คำตอบ
3 ปีที่ผ่านมา ทุกฝ่ายคงเห็นแล้วว่า การตัดสินใจใช้กำลังสลายการชุมนุม
จนมีคนตายมากมายขนาดนี้...ผิด หรือ ถูก
ฝ่ายที่สนับสนุนการปฏิวัติ ได้เป็นฮีโร่หรือไม่
ฝ่ายที่สั่งสลายการชุมนุม เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ได้เป็นฮีโร่ จริงหรือ?
3 ปีที่ปรากฏน่าจะทำให้ทุกคนตอบคำถามบทเรียนที่ผ่านมาร่วมกันได้ว่า อะไรคือถูก อะไรคือผิด
และอะไรคือสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น เพื่อก้าวเดินไปในทิศทางข้างหน้าต่อไป
หน้า 3
http://www.matichon.co.th/daily/view_news.php?newsid=01col01190556§ionid=0116&selday=2013-05-19
วิเคราะห์ แบบมืออาชีพ ให้คิดทั้ง 2 ด้าน ไม่ตัดสิน เก็บเอาไปคิดต่อเองค่ะ
ไปเทียบกับ "โสภณ" จาก "ผู้จัดการ" บทความ แบบ กระดาษเปื้อนน้ำหมึก
เพื่อจะบอกว่า ทำไม ชอบ "มติชน" เพราะไม่ใช่แค่ สื่อสีแดง แต่ให้ข้อคิดด้วย
รำลึก3ปี พฤษภา53 บทเรียนสลายม็อบ กับ...คำถาม"ถูก-ผิด" ...... วิเคราะห์ .... มติชนออนไลน์
จัดงานรำลึก 3 ปี 19 พฤษภาคม
รำลึกเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2553 มีคนตาย 91 ราย บาดเจ็บนับร้อย
และหลังจากนั้นคนที่เจ็บก็เสียชีวิตลงอีก รวมเป็นร้อยคน
ผลจากเหตุการณ์ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมสลายตัว แต่ขณะเดียวกันห้างสรรพสินค้าในย่านราชประสงค์ก็ถูกเผา
เกิดการฆาตกรรม 6 ศพ
ที่วัดปทุมวนารามฯ
หลายพื้นที่แม้แลดูสงบ แต่ความจริงแล้วคือการนั่งทับไฟเอาไว้ใต้ก้น
แม้รัฐบาลนายอภิทธิ์จะอยู่ได้ต่อไปอีก แต่เมื่อครบวาระก็ต้องส่งอำนาจคืนประชาชน แล้วในที่สุดผล
การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ก็ให้บทเรียนแก่ฝ่ายการเมือง
พรรคเพื่อไทยได้รับการเลือกตั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้รับแรงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี
และหลังจากเกิดเปลี่ยนแปลงอำนาจทางการเมือง การขุดค้นหาความจริงในเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2553
ก็ค่อยๆ เป็นไปตาม
พยานหลักฐาน และคำตัดสินของศาลยุติธรรม
น่าสังเกตว่า เหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองครั้งนี้
แตกต่างจากเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองครั้งก่อนๆ
ตรงที่ ครั้งนี้ไม่มีการนิรโทษกรรม ทุกอย่างจึงต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์
ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา มีผลรอการชันสูตรกว่า 30 คดี ในจำนวนนี้
ศาลได้พิจารณาสำนวนหลักฐานการเสียชีวิตไปแล้ว 8 คดี
ล่าสุดคือการชี้เหตุการตายของ พลทหารณรงค์ฤทธิ์ สาละ ที่เสียชีวิตขณะซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เพื่อนทหาร
ปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนตรงบริเวณถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออก ตรงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ
ผลของคดี ศาลเชื่อว่า น่าจะเสียชีวิตจากกระสุนฝั่งเจ้าหน้าที่
ขณะที่คดีก่อนหน้านี้ มีทั้งเหตุที่เชื่อว่ากระสุนมาจากฝั่ง
เจ้าหน้าที่ และเหตุที่ยังชี้ไม่ได้ว่ากระสุนมาจากฝ่ายใด
สำหรับคดีที่ศาลชี้เหตุการเสียชีวิตว่าน่าจะมาจากฝ่ายเจ้าหน้าที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษจะทำสำนวนสั่งฟ้อง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรีขณะนั้น และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงขณะนั้น ในข้อหา
ก่อให้เกิดการฆ่า
และยังมีคดี ก่อให้เกิด การพยายามฆ่าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการในชั้นพนักงานสอบสวนอีก
นอกจากนี้ ผลการตัดสินคดีการเผาห้างสรรพสินค้า ศาลได้พิจารณาตามพยานหลักฐานและวินิจฉัยว่า
เหตุเผาห้างมิใช่การก่อการร้าย หากเกิดจากเหตุจลาจล
ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม สั่งฟ้อง และต้องขังอยู่ในเรือนจำนั้น ศาลพิจารณายกฟ้อง
ยังมีผู้ต้องขังในคดีผิดพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินอีกหลายคนที่ยังถูกขัง
และมีคดีความในเขตภูมิภาคอีกมากที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2553
น่าเสียดายที่การคลี่คลายความจริงในเหตุการณ์ดังกล่าว
ด้วยการสืบสวนสอบสวนทางหลักวิชา เพื่อนำเอาพยานหลักฐานมาพิเคราะห์หาความจริงอย่างเป็นระบบ
ได้ขาดช่วงไประยะหนึ่ง
ในตอนแรก จึงทำให้การพิสูจน์ความจริงหยุดชะงักไปพักหนึ่ง
แต่หากปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมทำงานไปตามพยาน
หลักฐาน ปริศนาหลายอย่างคงถูกไขออกมาให้ทราบความจริง
ความจริงที่รอการยืนยันว่า ประเทศไทยมีประชาธิปไตยสมความ
ตั้งใจเดิมหรือไม่
คำถามที่พาดพิงไปถึงฝ่ายการเมือง และฝ่ายราชการประจำว่า การตัดสินใจสลายการชุมนุม
และมีคนบาดเจ็บ-เสียชีวิตกลางเมืองจำนวนมากเช่นนี้ ยังเป็นวิธีคิดและวิธีทำที่ควรกระทำหรือไม่
คำถามที่ซอกแซกเพื่อหาคำตอบว่า ทำเช่นไรจึงไม่เปิดให้สังคมไทยต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนั้นอีก
และหากเกิดสถานการณ์เช่นนั้นอีก ควรเปิดการเจรจา เพื่อหาวิธียุติโดยสันติเช่นไร ถึงเวลาหลีกเลี่ยง
การใช้กำลังเพื่อสลายการชุมนุม ซึ่งมีแต่เสียกับเสียกันแล้วหรือยัง
การรำลึกเหตุการณ์วันที่ 19 พฤษภาคม 2553 จึงน่าจะกระตุ้นความทรงจำอันปวดร้าวที่เกิดขึ้นในประเทศออกมา
เพื่อเป็นบทเรียน
เป็นบทเรียนให้รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ใช้อำนาจสุดโต่ง เป็นบทเรียนการปฏิเสธทางแก้ไขปัญหา
โดยระบอบประชาธิปไตยด้วยการประกาศบอยคอตไม่ลงเลือกตั้ง บีบบังคับให้ประเทศเดินเข้าสู่ทางตัน
เกิดการปฏิวัติรัฐประหารปี 2549
ผลจากการปฏิวัติทำให้ประชาชนไม่ยอมรับรัฐบาลทหาร มีการออกมาชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2552
และการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553
ผลจากเหตุการณ์ปฏิวัติ และเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2553 ทำให้พรรคประชาธิปัตย์
เป็นพรรคประชาธิปัตย์ในปัจจุบัน
เป็นพรรคประชาธิปัตย์ที่ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค กำลังผลักดันให้เกิดการปฏิรูป
เหตุจากการปฏิวัติ และการเสียชีวิตของเหยื่อความรุนแรงในการชุมนุมทางการเมือง เป็นบทเรียน
สำหรับทุกฝ่ายที่น่าจะได้คำตอบ
3 ปีที่ผ่านมา ทุกฝ่ายคงเห็นแล้วว่า การตัดสินใจใช้กำลังสลายการชุมนุม
จนมีคนตายมากมายขนาดนี้...ผิด หรือ ถูก
ฝ่ายที่สนับสนุนการปฏิวัติ ได้เป็นฮีโร่หรือไม่
ฝ่ายที่สั่งสลายการชุมนุม เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ได้เป็นฮีโร่ จริงหรือ?
3 ปีที่ปรากฏน่าจะทำให้ทุกคนตอบคำถามบทเรียนที่ผ่านมาร่วมกันได้ว่า อะไรคือถูก อะไรคือผิด
และอะไรคือสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น เพื่อก้าวเดินไปในทิศทางข้างหน้าต่อไป
หน้า 3
http://www.matichon.co.th/daily/view_news.php?newsid=01col01190556§ionid=0116&selday=2013-05-19
วิเคราะห์ แบบมืออาชีพ ให้คิดทั้ง 2 ด้าน ไม่ตัดสิน เก็บเอาไปคิดต่อเองค่ะ
ไปเทียบกับ "โสภณ" จาก "ผู้จัดการ" บทความ แบบ กระดาษเปื้อนน้ำหมึก
เพื่อจะบอกว่า ทำไม ชอบ "มติชน" เพราะไม่ใช่แค่ สื่อสีแดง แต่ให้ข้อคิดด้วย