สรุปแล้ว กรมการกงสุล ได้เข้าทำงานที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะแล้วหรือยังครับ

กระทู้คำถาม
อ่านข่าวนี้แล้ว ยังงงอยู่ครับว่าสามารถเข้าไปทำงานได้แล้วหรือยัง
ถ้าสามารถเข้าไปทำงานได้ เรื่องการทำ passport ก็จะสามารถทำได้เหมือนเิดิมใช่หรือเปล่าครับ

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU1UTTVOVEkxTlE9PQ==&subcatid=

‘พุทธอิสระ’ปักหลักแจ้งวัฒนะต่อ-ยอมเปิดศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ยกเว้นดีเอสไอ-สํานักงานรัฐมนตรีฯ

วันที่ 3 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้า พุทธอิสระ หรือนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ แกนนำเวทีกปปส.แจ้งวัฒนะ เดินตรวจดูแลความเรียบร้อย แม้ว่านายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ จะเข้าขอคืนพื้นที่ศูนย์ราชการภายในวันนี้ โดยพุทธะอิสระ ยืนยันจะปักหลักต่อสู้ร่วมกับมวลชนหากมีการสลายการชุมนุมหรือบุกเข้าจับกุม ได้เตรียมมาตรการรองรับไว้หมดแล้ว รวมทั้งหากมีการออกหมายจับในข้อหาขัดขวางการเลือกตั้งก็ไม่รู้สึกกังวล และยืนยันจะไม่ยุบเวทีไปรวมกับเวทีอื่น เพราะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ บอกแล้วว่าให้อิสระในการตัดสินใจ หากสามารถดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมได้ แม้ว่าเวที 5 แยกลาดพร้าวจะยุบรวมไปอยู่ที่เวทีสวนลุมพินีแล้วก็ตาม

และเวลา 08.30 น. วันนี้ จะนำมวลชนไปแสดงพลังและขอบคุณกลุ่มผู้ชุมนุมที่เวทีลาดพร้าว ที่เดินทางมาช่วยเหลือจนเกิดการปะทะกันที่แยกหลักสี่เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา จากนั้นจะเคลื่อนมวลชนไปแสดงพลังที่กระทรวงพลังงาน

นอกจากนี้ในช่วงบ่าย พุทธะอิสระจะหารือกับรองปลัดกระทรวงยุติธรรม เรื่องให้ข้าราชการกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการทำคดี กลับมาทำงานได้ตามปกติว่า หากสามารถทำตามเงื่อนไขที่มวลชนกปปส.ตกลงไว้ คือให้ทหารเข้ามาตั้งด่านสกัดร่วมเพื่อดูแลความปลอดภัยให้ผู้ชุมนุมได้ ก็จะยอมให้ข้าราชการเข้ามาทำงานได้ภายในวันที่ 4 ก.พ.

ล่าสุดพุทธะอิสระ พร้อม กปปส.และมวลชน เคลื่อนขบวนจากเวทีแจ้งวัฒนะไปให้กำลังใจพี่น้องเวทีห้าแยกลาดพร้าว และจะร่วมขบวนไปส่งยังอนุสาวรีย์ชัยฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พุทธะอิสระกล่าวถึงกรณีการยุบเวที กปปส. 2 เวที คือ ห้าแยกลาดพร้าวและอนุเสาวรีย์ชัยฯ ไปรวมที่สวนลุมพินีเพื่อความปลอดภัย ว่า นายสุเทพ ไม่ได้รวมถึงเวทีศูนย์ราชการ และให้ตนตัดสินใจเอง ซึ่งขอยืนยันว่าเวทีศูนย์ราชการจะยังชุมนุมที่เดิมต่อไป และจะปรับพื้นที่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความเรียบร้อยมากขึ้น โดยจะขยับพื้นที่ชุมนุมบริเวณด้านหน้าบริษัททีโอที จำกัด(มหาชน) และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เข้ามาเพื่อให้การจัดการพื้นที่ชุมนุมแคบลง ทำให้จำนวนการ์ดรักษาความปลอดภัยดูแลพื้นที่ได้มากขึ้น รองรับกับการที่จะเปิดพื้นที่ให้หลายหน่วยงานเข้ามาทำงานด้วย

โดยในเวลา 15.00 น. ได้นัดหารือกับ นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมเพื่อหาข้อยุติในการเปิดพื้นที่ศูนย์ราชการให้ข้าราชการกระทรวงยุติธรรมเข้ามาทำงานซึ่งจะทำให้การตรวจสอบติดต่อราชการต้องเข้มงวดมากขึ้น โดยบ่ายนี้หากการเจรจาได้ข้อยุติตรงกันทั้งสองฝ่าย เกี่ยวกับการจัดกำลังทหารเข้ามาช่วยตรวจสอบบุคคลเข้า-ออกตนก็จะเปิดทางให้ข้าราชการเข้ามาทำงานได้ในวันที่4 ก.พ.

พุทธอิสระ กล่าวต่อว่า นอกจากหน่วยงานกระทรวงยุติธรรมแล้ว หากหน่วยงานอื่นที่ตั้งอยู่ในศูนย์ราชการ อาคาร บี ต้องการเปิดให้บริการประชาชน ก็ให้ติดต่อเจรจากับตน หากปฏิบัติตามเงื่อนไขได้ก็พร้อมเปิดให้หน่วยงานนั้นๆ ทำงานได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ จะขอเปิดหน่วยงานราชการเฉพาะที่ต้องทำงานช่วยเหลือประชาชนเท่านั้น ส่วนดีเอสไอหากมาประสานขอเปิดก็คงต้องใช้วิธีเจรจาอีกแบบหนึ่ง แต่เบื้องต้นยังไม่ได้รับการประสานขอเปิดสถานที่อย่างไรก็ตาม หากจัดระเบียบพื้นที่ชุมนุมและระบบรักษาความปลอดภัยใหม่แล้ว อาจพิจารณาเพิ่มจุดชุมนุมใหม่ เช่น สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม ที่รักษาการนายกฯ ใช้เป็นพื้นที่ทำงานด้วย

เมื่อเวลา 15.00 น. นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยพ.ท.กฤตวิทย์ วิยาภรณ์ ผบ.ปตอ.พัน 5 เดินทางมาพบกับพุทธะอิสระ เพื่อหาข้อยุติการเปิดพื้นที่ศูนย์ราชการ อาคาร เอ ให้ข้าราชการบางส่วนเข้ามาปฏิบัติงาน โดยผลการหารือประมาณ 20 นาที ได้ข้อสรุปว่า จะเปิดให้ข้าราชการเข้ามาทำงานได้บางส่วน เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. แต่มีเงื่อนไขให้ข้าราชการและผู้มาติดต่อให้ใช้ประตูเข้า-ออกเพียงประตูเดียว ซึ่งเป็นประตูส่งของ และอนุญาตให้ใช้เส้นทางเข้า-ออกเฉพาะด้านข้างอาคารเพียงเส้นทางเดียวในการเดินทางเข้ามา

ทั้งนี้ ในส่วนเงื่อนไขการรักษาความปลอดภัย พ.ท.กฤตวิทย์ กล่าวว่า จะวางกำลังทหารเพื่อรักษาความปลอดภัยพื้นที่ร่วมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอาคาร จำนวน 1 กองร้อย 150 นาย โดยจะกระจายกำลังประจำ 3 จุดหลัก คือประตูเข้า-ออก ลานจอดรถ และตั้งจุดสังเกตการณ์บริเวณดาดฟ้าอาคาร เพื่อป้องกันไม่ให้มีบุคคลไม่หวังดีแฝงตัวขึ้นไปก่อเหตุร้าย โดยในพื้นที่อาคารแต่ละหน่วยงานปิดล็อกไม่ให้ใช้เส้นทางเชื่อมต่อกัน      

ด้านนายธวัชชชัย กล่าวว่า หน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรมที่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ มี 5 หน่วยงาน จำนวน 1,539 คน ส่วนผู้มาติดต่อคาดว่าจะมีวันละไม่เกิน 200 คน โดยแต่ละคนที่เข้ามาปฏิบัติงาน ต้องแสดงบัตรข้าราชการ ส่วนผู้มาติดต่อต้องระบุหน่วยงานที่ต้องการเข้าพบให้ชัด พร้อมแลกบัตรผู้มาติดต่อ และต้องมีลายเซ็นต์ที่เจ้าหน้าที่ที่เข้าพบใรับรองมาด้วย โดยข้าราชการที่เข้ามาทำงานจะประกาศกำหนดเวลาออกงานไม่เกิน 18.00 น. เพื่อสะดวกในการรักษาความปลอดภัย ทั้งนี้ ประตูที่ใช้เข้า-ออกจะมีกล้องวงจรปิดของอาคารบันทึกภาพตอลด 24 ชั่วโมง จึงขอให้การรับรองความปลอดภัยอย่างเต็มที่

พุทธอิสระ กล่าวว่า เมื่อได้รับการรับรองเงื่อนไขในการเข้ามารักษาความปลอดภัยจากทหาร ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่เปิดพื้นที่ให้ข้าราชการเข้ามาทำงาน โดยที่อนุญาตให้เข้ามาทำงาน จะมีเฉพาะส่วนงานที่ต้องบริการช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นก็มีข้อตกลงชัดเจนว่า ตนจะขอให้ปิดศูนย์ราชการอีกครั้งทันที   ทั้งนี้ คาดว่าหากเปิดพื้นที่ศูนย์ราชการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ก็จะพิจารณาขยายพื้นที่การจราจรเพิ่มเติมเพื่อลดปัญหารถติดให้มากขึ้นด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังได้ข้อยุติแผนเปิดพื้นที่ศูนย์ราชการ อาคารเอ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และผบ.ปตอ.พัน 5 ได้นำพุทธอิสระ เดินสำรวจพื้นที่เพื่อให้เกิดความมั่นใจ สำหรับหน่วยงานที่จะเปิดให้บริการประชาชน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการประชาชน คือ สำนักปลัดกระทรวงยุติธรรม กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ การคุมประพฤติ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กรมบังคับคดี สำหนับในส่วนของสำนักงานรัฐมนตรี และกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) จะยังไม่เปิดให้บริการ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่