คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 38
เราเข้าใจว่า จนท.ทุจริตโดยการแอบนำโฉนดไปสวมรอยกู้นอกระบบ ปลอมหลักฐานเป็นชื่อแม่เจ้าของกระทู้
ซึ่งส่วนมาก นอกระบบมักทำแบบนี้ค่ะ ยึดโฉนดตัวจริงไว้ ถ้าไม่จ่ายก็จะบีบให้โอนที่ดินให้ แม่สามีเราโดนมาแล้วค่ะ
มันอาจผิดในระบบตามกฎหมาย แต่ในทางปฏิบัติ ลูกหนี้มักไม่มีใครหัวหมออ้างกฎหมาย เพราะนอกระบบโหดจริงอะไรจริง
เดาว่าธนาคาร ธ หวังว่าคงจบลงด้วยดี จนท.ที่เกี่ยวข้องคงตกงานแน่ๆ
ซึ่งส่วนมาก นอกระบบมักทำแบบนี้ค่ะ ยึดโฉนดตัวจริงไว้ ถ้าไม่จ่ายก็จะบีบให้โอนที่ดินให้ แม่สามีเราโดนมาแล้วค่ะ
มันอาจผิดในระบบตามกฎหมาย แต่ในทางปฏิบัติ ลูกหนี้มักไม่มีใครหัวหมออ้างกฎหมาย เพราะนอกระบบโหดจริงอะไรจริง
เดาว่าธนาคาร ธ หวังว่าคงจบลงด้วยดี จนท.ที่เกี่ยวข้องคงตกงานแน่ๆ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 56
มาอัพเดทความคืบหน้าค่ะ (13-1-2557) 
ก่อนอื่นก็ขอขอบคุณ พี่ๆ น้องๆ ใน pantip ด้วยนะคะ ที่ช่วยกันดันกระทู้ ให้กำลังใจ เอาใจช่วยและให้ความสนใจในเคสของคุณแม่ค่ะ
เรื่องราวมันซับซ้อนซ่อนเงื่อนหลายทางค่ะ เอาจากข้อมูลที่รับฟังมาจากคุณแม่อย่างเดียวก่อนแล้วกันนะคะ (รายละเอียดของข้อมูลอาจไม่ถูกต้อง 100 เปอร์เซ็น เพราะไม่ได้อยู่ร่วมในเหตุการณ์ คือคุณแม่อยู่ต่างจังหวัด จขกท. อยู่ กทม. ค่ะ ฟังมาเล่าอย่างเดียวค่ะ )
ประเด็นการทำผิดกฎหมายอาญาของแม่
- คุณแม่มีความผิดในฐานการแจ้งความเท็จเรื่องโฉนดหาย เพื่อขอออกใบแทน (โฉนดฉบับจริงของแม่เอาไปเป็นเอกสารค้ำประกันกับธนาคารไว้ แม่บอกว่าแนบกับแบบขอกู้เงิน แต่ไม่ได้สลักหลังโฉนดเพื่อจำนอง อันนี้แม่พลาดเอง!! เพราะไว้วางใจ และไม่ค่อยรู้หนังสือ ถือใจซื่อว่าเอาเงินเขามาก็ต้องมีหลักประกันให้เขา มีสมาชิกหลายคนที่แนบเป็นหลักฐานแบบเดียวกันกับแม่) แต่ในเมื่อมันหายไปจากระบบการจัดเก็บเอกสารของธนาคารเอง จนท. (ฝ่ายสินเชื่อ ดูความเกี่ยวข้อง ดูที่กระทู้) เป็นคนบอกว่าให้ไปแจ้งหาย และขอออกใบแทน อันนี้แอบเซ็งเล็กน้อย @!$%#%^&@ ก็อย่างว่าตัวกฎหมายมันกำหนดไว้ยังงี้นี่นา (สภาพโฉนดจริงอย่างที่เขียนในกระทู้ว่าสภาพยังกะทิชชู่เปื่อย แม่บอกว่า "หมุ่นปานขี้เป็ด")
อ่ะ!!ต่อค่ะ หลังจากที่ครั้งก่อนได้บอกว่า สำนักงานใหญ่ธนาคารฯ ในจังหวัดได้ทราบเรื่องแล้ว วันนี้แม่ได้ไปให้ปากคำเพิ่มเติม เลยมีข้อมูลเพิ่มตามนี้ค่ะ
(1) ลำดับตัวละครที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในเหตุการณ์
(1.1) คุณแม่ จขกท.
(1.2) เจ้าของเงินกู้พร้อมทนาย
(1.2) จพง. ตำรวจ โรงพัก A (ท้องที่เดียวกับที่แม่)
(1.3) จพง. ตำรวจ โรงพัก B (ท้องที่เดียวกับที่ธนาคารตั้งอยู่)
(1.4) จนท. สำนักงานธนาคารฯ จังหวัด พร้อมทนายของธนาคาร
(1.5) ผู้นำโฉนดแม่ไปกู้เงินนอกระบบ (ขอเรียกว่า แก๊งค์ยักยอกต้มตุ๋น เพราะมีหลายคน)


(2) เรื่องเล่าเพิ่มเติมส่วนของ จนท. ธนาคาร (อยู่ในแก๊งค์ยักยอกต้มตุ๋น)
สมาชิกของแก๊งยักยอกต้มตุ๋น: คือ จนท. ธนาคาร ดำรงหน้าที่ในการดูแลระบบจัดเก็บเอกสาร (โฉนด) เป็นผู้หญิง (
ขอแทนตัวว่า เจ๊สาว) มีความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยากัน กับ ระดับหัวหน้าหน่วยงานภายในของธนาคารสาขาดังกล่าว (
ขอแทนตัวว่า เฮียหนุ่ม) ไม่แน่ใจตำแหน่ง (และไม่รู้ว่า เฮียหนุ่มแกมีส่วนรู้เห็นกับภรรเมียแกหรือเปล่าเน๊อะ!!!) ทั้ง 2 ได้ย้ายไปทำงานสาขาอื่นแล้ว นานแค่ไหนไม่ทราบ และเดาว่าคงไม่ได้ทำแบบนี้ที่สาขานี้ที่เดียวแน่ๆ ค่ะ









** อ้อ!! ที่มาของการหลอกลวง เอาโฉนดออกจากธนาคารและไปกู้เงินนอกระบบได้ ก็เพราะว่า ไปหลอกเจ้าของเงินกู้ว่า คุณแม่ จขกท. ป่วยเป็นมะเร็ง การการเริ่มหนักแล้ว ++ มาดำเนินการเองไม่ได้ นัดกันหลายรอบก็ไม่เจอกัน ห่ะเอ๊ย....แม่ตรูยังสบายดีว้อย ไม่ต้องมาแช่ง แข็งแรงดี แย่หน่อยตรงอายุเริ่มเยอะ และไม่ค่อยอยากมีเรื่องกับใครเท่านั้นแหละ****

ทุกคนก็เริ่มงง เอ๊ะ!! ตกลง เรื่องมันเป็นไงกันแน่ สรุปได้ว่าตามนี้นะคะ
"แม่เล่าว่ายัยเจ๊สาว จนท.ของธนาคาร ซึ่งเป็นคนดูแลเรื่องเอกสาร ได้แอบเอาโฉนดของแม่ (วงเล็บค่าาาาา ฉบับจริง) ไปให้บรรดาสมาชิกแก๊งค์ยักยอกต้มตุ๋น (คงเป็นเครือญาติกันแหละค่ะ) ตระเวนไปกู้เงินกับแหล่งปล่อยเงินกู้ต่าง ๆ ออกมา (เดาว่าคงมีการเอาโฉนดของแม่ไปขอกู้หลายที่แล้วมั้ง คิดตามจากสภาพของโฉนดตามที่แม่เล่า) และไม่ไปใช้หนี้ที่กู้ออกมา ซึ่งมันจะส่งผลกระทบกับเจ้าของโฉนดที่แท้จริงโดยตรงแน่ๆ หากเจ้าของเงินเค้าไม่มาติดตาม ทวงถามจนกระทั่งเรื่องมันเกิดอย่างที่เป็น หึหึ!! ก็ไม่รู้จากเกิดไรขึ้นกับที่ดินอันน้อยนิดของเกษตรกรตาดำๆ จนๆ คนนึง" และมีนัดขึ้นศาลกันในวันที่ 24 ม.ค. 57 ค่ะ
จริงๆ เรื่องที่แม่เล่ามันก็แค่สั้นๆ แต่ จขกท. เขียนวนไปวนมา อธิบายให้ซะงงหมดเลย
// ขอบคุณทุกๆ ท่านจริงๆ ค่ะ ที่พยายามเอาใจช่วย เรื่องนี้ จขกท. จะมาอัพเดทข้อมูลเรื่อยๆ ว่าเรื่องทั้งหมดจะจบลงอย่างไร ใครจะเป็นคนผิด เจ้าของโฉนดจะได้รับการเยียวยาอย่างไร เจ้าของเงินกู้จะได้เงินคืนหรือไม่ แก๊งค์ยักยอกตุ้มตุ๋น จะมีใครรับโทษประการใดบ้าง เดาว่าอีกนานค่ะกว่าจะจบ เพราะคุณแม่ทราบเรื่องตั้งแต่ เม.ย. ปี 56 และพยายามดำเนินการติดตามเรื่องเรื่อยมาจนได้ใบแทนโฉนด แต่เรื่องหลังจากนี้สิคะ (การกู้เงินคงเกิดก่อนหน้านั้นนานโข ไม่งั้นเจ้าหนี้คงไม่ติดตามทวงถาม) // ขอให้เรื่องราวร้ายๆ รีบๆผ่านไป และจบในเร็ววันนี้ค่ะ



ก่อนอื่นก็ขอขอบคุณ พี่ๆ น้องๆ ใน pantip ด้วยนะคะ ที่ช่วยกันดันกระทู้ ให้กำลังใจ เอาใจช่วยและให้ความสนใจในเคสของคุณแม่ค่ะ
เรื่องราวมันซับซ้อนซ่อนเงื่อนหลายทางค่ะ เอาจากข้อมูลที่รับฟังมาจากคุณแม่อย่างเดียวก่อนแล้วกันนะคะ (รายละเอียดของข้อมูลอาจไม่ถูกต้อง 100 เปอร์เซ็น เพราะไม่ได้อยู่ร่วมในเหตุการณ์ คือคุณแม่อยู่ต่างจังหวัด จขกท. อยู่ กทม. ค่ะ ฟังมาเล่าอย่างเดียวค่ะ )
ประเด็นการทำผิดกฎหมายอาญาของแม่

อ่ะ!!ต่อค่ะ หลังจากที่ครั้งก่อนได้บอกว่า สำนักงานใหญ่ธนาคารฯ ในจังหวัดได้ทราบเรื่องแล้ว วันนี้แม่ได้ไปให้ปากคำเพิ่มเติม เลยมีข้อมูลเพิ่มตามนี้ค่ะ
(1) ลำดับตัวละครที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในเหตุการณ์
(1.1) คุณแม่ จขกท.
(1.2) เจ้าของเงินกู้พร้อมทนาย
(1.2) จพง. ตำรวจ โรงพัก A (ท้องที่เดียวกับที่แม่)
(1.3) จพง. ตำรวจ โรงพัก B (ท้องที่เดียวกับที่ธนาคารตั้งอยู่)
(1.4) จนท. สำนักงานธนาคารฯ จังหวัด พร้อมทนายของธนาคาร
(1.5) ผู้นำโฉนดแม่ไปกู้เงินนอกระบบ (ขอเรียกว่า แก๊งค์ยักยอกต้มตุ๋น เพราะมีหลายคน)


(2) เรื่องเล่าเพิ่มเติมส่วนของ จนท. ธนาคาร (อยู่ในแก๊งค์ยักยอกต้มตุ๋น)
สมาชิกของแก๊งยักยอกต้มตุ๋น: คือ จนท. ธนาคาร ดำรงหน้าที่ในการดูแลระบบจัดเก็บเอกสาร (โฉนด) เป็นผู้หญิง (











** อ้อ!! ที่มาของการหลอกลวง เอาโฉนดออกจากธนาคารและไปกู้เงินนอกระบบได้ ก็เพราะว่า ไปหลอกเจ้าของเงินกู้ว่า คุณแม่ จขกท. ป่วยเป็นมะเร็ง การการเริ่มหนักแล้ว ++ มาดำเนินการเองไม่ได้ นัดกันหลายรอบก็ไม่เจอกัน ห่ะเอ๊ย....แม่ตรูยังสบายดีว้อย ไม่ต้องมาแช่ง แข็งแรงดี แย่หน่อยตรงอายุเริ่มเยอะ และไม่ค่อยอยากมีเรื่องกับใครเท่านั้นแหละ****


"แม่เล่าว่ายัยเจ๊สาว จนท.ของธนาคาร ซึ่งเป็นคนดูแลเรื่องเอกสาร ได้แอบเอาโฉนดของแม่ (วงเล็บค่าาาาา ฉบับจริง) ไปให้บรรดาสมาชิกแก๊งค์ยักยอกต้มตุ๋น (คงเป็นเครือญาติกันแหละค่ะ) ตระเวนไปกู้เงินกับแหล่งปล่อยเงินกู้ต่าง ๆ ออกมา (เดาว่าคงมีการเอาโฉนดของแม่ไปขอกู้หลายที่แล้วมั้ง คิดตามจากสภาพของโฉนดตามที่แม่เล่า) และไม่ไปใช้หนี้ที่กู้ออกมา ซึ่งมันจะส่งผลกระทบกับเจ้าของโฉนดที่แท้จริงโดยตรงแน่ๆ หากเจ้าของเงินเค้าไม่มาติดตาม ทวงถามจนกระทั่งเรื่องมันเกิดอย่างที่เป็น หึหึ!! ก็ไม่รู้จากเกิดไรขึ้นกับที่ดินอันน้อยนิดของเกษตรกรตาดำๆ จนๆ คนนึง" และมีนัดขึ้นศาลกันในวันที่ 24 ม.ค. 57 ค่ะ
จริงๆ เรื่องที่แม่เล่ามันก็แค่สั้นๆ แต่ จขกท. เขียนวนไปวนมา อธิบายให้ซะงงหมดเลย
// ขอบคุณทุกๆ ท่านจริงๆ ค่ะ ที่พยายามเอาใจช่วย เรื่องนี้ จขกท. จะมาอัพเดทข้อมูลเรื่อยๆ ว่าเรื่องทั้งหมดจะจบลงอย่างไร ใครจะเป็นคนผิด เจ้าของโฉนดจะได้รับการเยียวยาอย่างไร เจ้าของเงินกู้จะได้เงินคืนหรือไม่ แก๊งค์ยักยอกตุ้มตุ๋น จะมีใครรับโทษประการใดบ้าง เดาว่าอีกนานค่ะกว่าจะจบ เพราะคุณแม่ทราบเรื่องตั้งแต่ เม.ย. ปี 56 และพยายามดำเนินการติดตามเรื่องเรื่อยมาจนได้ใบแทนโฉนด แต่เรื่องหลังจากนี้สิคะ (การกู้เงินคงเกิดก่อนหน้านั้นนานโข ไม่งั้นเจ้าหนี้คงไม่ติดตามทวงถาม) // ขอให้เรื่องราวร้ายๆ รีบๆผ่านไป และจบในเร็ววันนี้ค่ะ


แสดงความคิดเห็น
จนท. ธนาคารมีสิทธินำโฉนดลูกค้าออกมาหมุนเงินด้วยหรือ!!!!!
(1) ครั้งที่ 1 หาไม่เจอ ให้มาติดต่อใหม่
(2) ครั้งที่ 2 ยังหาไม่เจอ (แม่ได้ช่วยตรวจสอบในแฟ้มเอกสารหลักฐาน ก็หาไม่เจอ กลับบ้านมือเปล่าอีกครั้ง)
(3) ครั้งที่ 3 จนท. ยังแจ้งว่าหาไม่พบ ครั้งนี้ขอพบ ผจก. สาขา จนท.แจ้งว่าไม่ให้พบ พร้อมกับบอกให้มาหาโฉนดที่บ้านใหม่หรือทบทวนว่าได้มีการนำไปจำนองที่อื่นหรือเปล่า (ห๊ะ!! คิดได้ไง ถ้าไม่เอาไปค้ำประกันไว้ที่ธนาคารแล้วจะได้เงินออกมาเร้อ แถมหนี้ก็ยังใช้ไม่หมดเค้าจะยอมให้เอาเอกสารออกมาได้หรอคะ เป็นงง!! ) ทั้งนี้ จนท. เค้าก็แนะนำให้ไปแจ้งความ และติดต่อที่ดินจังหวัดเพื่อขอออกใบแทน (มีเจ้าหน้าที่ประมาณ 3 คนที่มาคุยด้วย ไม่รู้ตำแหน่งไหนบ้างในฝ่ายสินเชื่อแหละค่ะ)
(4) ครั้งที่ 4 ไปติดต่อที่ดินจังหวัดเพื่อขอคัดสำเนาโฉนด และมาติดต่อธนาคารอีกครั้ง (จนท. แจ้งว่าเสียค่าดำเนินการเท่าไหร่ รบกวนมาแจ้งด้วยจะช่วยออกค่าใช้จ่าย) เรื่องราวผ่านมาหลายเดือน แม่ไปขอออกใบแทนและได้รับเรียบร้อยแล้ว นึกว่าเรื่องจะจบ จนกระทั่ง!!!!!
วันนี้ แม่โทรมาบอก จขกท. ว่า เจ้าของเงินกู้แจ้งแม่ว่าจับคนที่นำเอกสารและหลักฐานไปกู้เงินได้แล้ว ต้องการให้แม่ไปให้ปากคำ พร้อมทั้งเซ็นเอกสารให้ ตร. ดูว่าลายเซ็นต์เหมือนกันหรือไม่ (สรุปโดนคัดลายเซ็นต์ไปตรวจสอบจำนวน 100 ตัวอย่างเพื่อเปรียบเทียบ) แต่.... แต่.... แต่.... มีเอกสารคือโฉนดที่ดิน ที่เป็นโฉนดฉบับจริงเป็นฉบับเดียวกันกับที่แม่ได้นำเข้าประกันหลักทรัพย์กับธนาคารดังกล่าวไว้ (แม่บอกว่าสภาพโฉนดเละ ยังกะกระดาษทิชชู่ เปื่อยยุ่ย ดำปี๋ คาดเดาว่ามันคงผ่านมาหลายมือแระ ทั้งที่ตอนนำเข้าเป็นหลักประกันนั้น เป็นโฉนดฉบับใหม่กิ๊ก)
คำถามที่ชวนสงสัยข้องใจ คือ จนท. ในธนาคารเพื่อคนจนแห่งนั้น ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นด้วยสิ ไม่งั้นโฉนดมันจะออกมาจากธนาคารได้อย่างไร
แง...แง...ใครจะเป็นคนรับผิดชอบให้เนี่ย ความผิดของธนาคารหล่ะอยู่ตรงไหน จนท. ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะร่วมรับผิดชอบยังงัย มีญาติๆ ที่เป็นตาสีตาสาที่ความรู้น้อยและยังชำระหนี้ไม่หมด และไม่เคยเข้าไปขอตรวจสอบเอกสารเหล่านี้ ว่ามันยังคงอยู่ในธนาคารหรือไม่ (ไว้ใจธนาคารว่าจะรักษาทรัพย์เราไว้อย่างดี แต่ระยะเวลาของการจัดเก็บเอกสารก็ประมาณ 10 กว่าปีเห็นจะได้ จนท.คนที่ทำเรื่องดังกล่าวก็คงคิดว่า)
// จขกท. ขอแก้ไขข้อความเพื่อเรียบเรียงใหม่ให้อ่านเข้าใจง่ายขึ้นนะคะ //
-- เท่าที่คุยกับแม่ ทราบว่าในจังหวัดมีปัญหาลักษณะคล้ายๆ กันเท่าที่ทราบ 4 ราย แม่เป็นรายที่ 4 แล้วค่ะ ก็คาดเดาไม่ได้ว่ามีที่อื่นอีกหรือเปล่าที่โดนเหมือนกัน เพราะเคสของแม่ เป็นคนละสาขากับทั้ง 3 ราย --
--- เดาว่าเจ้าของเงินกู้คงโดนไปหลายล้านอยู่มั้งคะ ---