ถ้าเป้าหมายเราใหญ่ อุปสรรคอะไรมันก็เล็ก

เมื่อวานมีโอกาสให้สัมภาษณ์กับ free magazine ที่มี target group เป็นคน Gen Y ทำให้เราได้มีโอกาสได้รีวิวชีวิตตัวเองยกใหญ่

ทำไมถึงเลือกเรียนคณะเภสัชฯ...ตอนนั้นที่บ้านให้อิสระในการเลือกคณะเต็มที่ เราก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ที่เลือกเพราะคะแนนถึง ตอนนั้นเลือกเพราะรู้สึกว่ามันเป็นวิชาชีพที่สามารถช่วยคนอื่นได้โดยที่ยังพอมีเวลาเป็นของตัวเอง แต่พอเข้ามาแล้วรู้สึกว่ามันไม่ชอบ รู้สึกทำไมต้องจำอะไรเยอะแยะขนาดนี้ ความตั้งใจเรียนมันเลยลดลงๆ เกรดก็เน่าขึ้นๆทุกเทอม เลยเริ่มพยายามค้นหาอย่างอื่นที่ตัวเองทำแล้วสบายใจ เริ่มค้นหาตัวเองด้วยการอ่านหนังสือนอกเวลาพวกพัฒนาตัวเอง, การลงทุน ฯ

เป้าหมายชีวิตอีก 5 ปีข้างหน้าคืออะไร...มีอิสรภาพทางการเงิน มีเวลาและสามารถดูแลพ่อแม่และคนในครอบครัวได้แบบ unlimit แบบที่ท่านดูแลเรามา นี่ก็เป็นอีกเหตุผลนึงในการตัดสินใจออกจากงานเพราะรู้สึกว่ามันไม่ตอบโจทย์ชีวิต เหมือนเรากำลังยืนใน comfort zone ที่เรารู้สึกสบายจนชิน การย่ำอยู่กับที่ก็ไม่ต่างอะไรกับการก้าวถอยหลังเพราะคนอื่นเค้าแซงหน้าเราไปแล้ว รู้ตัวอีกทีอาจจะแก่แล้ว..แล้วมันก็จะมีข้ออ้างอื่นๆตามมาอีก

ปัญหาหรืออุปสรรคที่พบเจอในช่วงเวลาที่ทำงาน...ปัญหาหลักที่พบน่าจะเป็นเรื่องการทำงานกับคน เพราะงานที่ทำจะต้องติดต่อกับหน่วยงาน คนหลายวัย หลายรูปแบบซึ่งค่อนข้างท้าทายพอสมควรโดยเฉพาะเวลาติดต่อกับหน่วยงานราชการ..

มองปัญหาหรืออุปสรรคที่พบเจอยังไง...จริงๆแล้ว ไม่มีงานอะไรที่เรทำแล้วไม่ได้อะไร ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบ มันก็เป็นเหตุที่ทำให้เรามีทุกวันนี้ขึ้นอยู่ที่ว่าเราจะมองมันยังไง ทุกปัญหาหรืออุปสรรคที่ผ่านเข้ามาในชีวิตมันทำให้เราแกร่งขึ้น เก่งขึ้น ถ้าเรามีเป้าหมายใหญ่ อุปสรรคอะไรมันก็จะดูเล็ก

ถ้าเรามีเวลาเหลือบนโลกนี้อีก 6 เดือนแล้วให้ขอพรได้ 3 ประการ โดยต้องเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ได้จริง จะขออะไร
๑. อยากสร้างระบบอะไรสักอย่างที่ทำให้คนในครอบครัวที่อยู่ข้างหลังเรายังมีเงินใช้
๒. อยากให้ประเทศไทยไม่มีขอทาน
๓. อยากให้ระบบการศึกษาไทยได้รับพัฒนามากกว่านี้
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่