[CR] เมือง"คาน" มาแล้วจะรัก "เลย"

ปีใหม่ที่ผ่านมาผมก็ได้เดินทางไปเที่ยวเมืองคาน อยากจะมาเปิดเส้นทางใหม่สำหรับคนที่จะวางแผนไปเที่ยว "มือใหม่หัดถ่ายนะครับ มีแค่เลนธรรมดากับกล้องกากๆ 1ตัว"  ผิดประการใดขออภัยด้วยครับ (ยาวมากขอบอกเกิน 8 บรรทัดแน่นอน)

มาเริ่มกันเลยผมก็เดินทางออกจาก กทม เนื่องจากหารถไปไม่ได้เขาบอกเต็มหมด = = ตอนแรกก็เงิบแต่พี่ บขสใจดีมีรถเสริมจึงได้รอบ 20.20น
ผมก็ออกมารอรถตั้งแต่ตอนประมาณ ทุ่มครึ่งได้คนก็เยอะเอาการเลยละ

กว่าจะได้ออกปาเข้าไปตอน 23.00 กว่า เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุรถมาไม่ทันเขาจึงสับรถไปรถมา เงิบแปบ T T



พอออกเดินทางก็มาแวะสถานที่ต่างๆพักบ้างป้ายบขสรับส่งคนบ้าง  

ถึงที่หมายแล้วผมลืมไปว่าผมไม่ได้จองที่พักไว้ล่วงหน้า และคิดไว้แล้วว่าต้องเต็มแน่นอนเลยเอาเต้นท์มาด้วยและก็โทรจองที่กลางเต้นท์เอาไว้ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะมีให้หรือป่าวเพราะว่าเขาไม่ได้บอกว่าให้โอนเงินไปล่วงหน้า รู้สึกหวั่นๆ ถึงตอน 9โมงเช้าปุ๊บก็เดินผ่านตลาดเข้าไปเรื่อยๆ


แล้วก็เจอแล้วที่นอนของผมมมม
ค่าที่พักก็100ต่อคน*เอาเต้นมาเอง ถ้าไม่มีก็คนละ150 ค่าเช่าผ้าห่มหมอนต่างๆ รวมประมาณ 300บาท นอนได้วันต่อไปไม่เสียค่าเช่าพวกหมอนกับผ้าห่ม บอกเลยว่าที่นี่เป็นมิตรมาก บริการโคตรที่จะดีไปไหนก็ทักถ่ายเจอหน้าก็ทักทาย แถมจักรยาน ฟรีอีกตั้งหาก


ไปเที่ยวกันดีกว่า ตอนกลางวันเมืองคานก็ไม่มีอะไรมากส่วนใหญ่ร้านจะเปิดกันตอนกลางคืนเป็นถนนคนเดินปกติคนไม่เยอะติดริมโขง บรรยากาศสบายๆ อุณภูมิช่วงนั้นอยู่ประมาณ 23-26 องศา




ริมโขงหมอกยังไม่จางเลย 10 โมงแล้วนะเนี้ย


คนไม่เยอะเท่าไหร่ เดินสบาย ชิวๆเลยจะบอกให้



เดินรอบๆทั่วละเช่ารถไปเที่ยวแก้งคุดคู้กันดีกว่า เขาบอกว่ามันไม่ไกล



ก็เห็นเขาสวย ยืมมาเป็นนางแบบแปบ อิอิ


ต่อที่วัดพระพุทธบาตรภูควายเงิน



มีกระต่ายด้วย



พอตกมืดปั๊บคนก็เริ่มเยอะ ร้านก็เปิดเยอะแสงสีก็สวย ไอ้เราก็ไปลองกินของแปลกๆดูมั้ง
ที่กางเต้นท์นอน

หร่อย

ได้ละเอามือจับนมอุ่นๆ สักแก้วคลายความหนาว อิอิ


โก้ยัดไส้ รอต่อแถวตกครึง ช.ม. ไม่ไปไหน จะกินให้ได้ยังไงก็จะรอ จะยืมรอแม่มอยู่ตรงนั้น




พี่2คนนี้เขาตั้งตะโกนขายเบียลาวอยู่ ไอ้เราก็ไม่เคยลอง สัก 2 ขวด ไม่แพง 70 บาท ขาวกับดำ




ฅ.คนคึกคัก


หิวหาร้านนั้งลองดีกว่า   พอดีเมนูส่วนใหญ่ที่ขายกันตามตลาดก็เป็นพวกทั่วไป ก็ต้องลองของแปลกๆซะหน่อย
ร้านนี้แหละ

ไอ้นี่มันเรียกว่าอะไรไม่รู้จำไม่ได้

ข้าวเปียกเส้น ก็เหมือนกับก๋วยจั๊บญวนเลยแหละ

ไข่กระทะ

โรงหนังเก่า



ของฝากๆ

บอกเลยว่าเล่นเพราะมาก มีฝรั่งแจมด้วยละ (ไม่รู้ว่าเขารู้จักกันป่าวแต่เห็นฝรั่งด้วยกันยืมรออยู่)







ตอนเช้าไปทะเลหมอกภูทอก






กลับมานอนสักแปบก็ไปหาร้านกาแฟนั้งเพื่อรอ เค้าท์ดาว
ร้านนี่ต้องมา


จำไม่ได้เรียกว่าหยั้ง

ไปหาร้านกาแฟกัน บรรยากาศริมโขง เพื่อเดินทางไปหาร้านกาแฟ




หลังร้าน

ไปไหนดี

ก็แถไปจนได้รูปนี้มา อิอิ

ก็ยังแถไปนั้น ไปหาร้านกาแฟกัน
ร้านนี้แหละ


ต้องบิดนิดๆ อย่าให้ใครเดินผ่าน = =

กลางคืนแล้ว




ตกเย็นหาอะไรกินกัน เราชอบรอ จะกินให้ได้จะเต็มทั้งปีให้รู้ไป ร้านนี้แหละ


เจอ ไก่ทอดน้ำปลา ต้มยำปลาคัง ปลาเนื้ออ่อน3รส เบีย 2ขวด 700++ เงิบแปบ


อิ่มเดินเที่ยวต่อ





แล้วก็ Happy New Year. นะครับ
บอกเลย ดนตรีสด คนนี้ยกนิ้วให้ เล่นแนว blues แนว country แบบว่า กินเบียเพลินดูไปโอ้คนเดียวเกือบลังเข้าไปแล้ว

เสียดายเมมเต็มซะก่อนหาเมมไม่เจอด้วยอีกอันไม่รู้ไปไหน


แล้วก็เมาเข้าไปนอน สบายยย ตื่นเช้ามา
ตื่นเช้ามาก็กิน

โกยัดไส้อีก1ดอก

ไปหาของกินกัน

อันนี้เรียกว่าจุ่มนั่วมีประวัติความเป็นมานะ ลูกสาวสวยมากบอกเลย 555+



หาที่นั้งเพื่อรอกลับบ้านเดินวนอยุ่ 4 5 รอบเจอร้านนี้แหละ




ตกเย็นก็ ส้มตำจ้าา เจริญละกินก่อนขึ้นรถ ฮ่าๆๆๆๆๆ






และกลับบ้าน บอกเลยว่าเมืองนี้เจอแต่คนยิ้มให้ไม่เครียดไม่รู้จักกันเดินทักกันง่ายๆถามเป็นอยู่สุขทุกข์ ที่กางเต้นบริการดีทุกอย่างใส่ใจประทับใจมาก แต่แนะนำ การเดินทางถ้าจะไม่เที่ยวเมืองนี้ให้เบื่อต้องมาตั้งแต่เช้าของวัน เดินทางเที่ยวให้ทั่ว กลางคืนเดินถนนคนเดิน และตื่นมาเที่ยวทะเลหมอกภูทอก และก็ไปหนองคายหรือไปภูเรือ ภูกระดึงต่อจะดีมาก