เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมคงไม่มีโอกาสรู้เทพเจ้าแห่งเมืองตรังที่เคยยึดมั่นในระบบรัฐสภา พร้อมจะทิ้งสภา มายึดระบบอันธพาลข้างถนน เมื่อไม่สามารถชนะคู่แข่งทางการเมืองจากการเลือกตั้งได้
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมคงไม่มีทางรู้ พรรคของคุณสุเทพ ไม่ใช่แค่แสดงความถ่อยเถื่อนในรัฐสภาได้เท่านั้น บนเวทีข้างถนนกลับทั้งถ่อยทั้งเถื่อนหยาบคายเสียยิ่งกว่า แบบเลวได้โล่เลยนะครับ
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมยังหลงเข้าใจว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันที่ยึดหลักมติของพรรคเป็นหลัก แต่ความจริงแล้วทั้งพรรคยึดมติคุณสุเทพเป็นหลักต่างหากเล่า
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมคงไม่มีทางแยกออกระหว่าง “มวลมหาประชาชน”ของคุณสุเทพกับ “มวลอภิมหาประชาชน”นั้นมันแตกต่างกันอย่างไร เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ไม่กล้าส่งคนลงเลือกตั้ง
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมจะไม่มีวันรู้ มวลมหาประชาชนของคุณสุเทพ จะกลายเป็นพวกเดียวในโลกที่เรียกร้องให้มีการลิดรอนสิทธิของตัวเองด้วยการไม่ยอมให้มีการเลือกตั้ง
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมคงจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ยังมีคนไทยอีกมากมายดูถูกศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ดูแคลนความเป็นคนไม่เท่ากันในสังคมไทย จนเห็นด้วยกับความต้องการให้คนไทยทุกๆคน ไม่ควรมีสิทธิเท่ากัน
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมจะรับรู้ได้อย่างไรว่า คนกรุงเทพนั้น ยอมให้คนใต้อย่างคุณสุเทพนำคนใต้ด้วยกันมาปิดกรุงเทพ เพื่อทุบหม้อข้าวของคนกรุงเทพด้วยความซาบซึ่งยินดี
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมจะไม่มีวันเชื่ออย่างเด็ดขาดว่าคนมีคุณภาพของประเทศนี้ ต้องการประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบภายใต้กติกาที่คุณสุเทพเป็นคนร่าง
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมจะไม่มีทางรู้เลยว่ากองทัพจะยืนเคียงประชาชนฝ่ายหนึ่ง และพร้อมจะอยู่คนละข้างกับประชาชนอีกฝ่ายหนึ่ง
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมจะไม่มีทางรู้เลยว่าการปิดราชประสงค์ สามารถใช้ พรก.ฉุกเฉินได้ แต่ถ้าปิดทั้งกรุงเทพ จะใช้ได้ก็แค่ พรบ.ความมั่นคงเท่านั้น
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่า การล้มล้างรัฐบาลด้วยการยึดสถานที่ราชการต่างๆ การปิดถนนในหลายๆจุด แม้จะกระทบสิทธิของคนอื่นอย่างกว้างขวาง แต่ก็เป็นการชุมนุมสงบสันติตามสิทธิในรัฐธรรมนูญตามที่ศาลรัฐธรรมนูญกรุณาวินิจฉัยไว้ เว้นแต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญในรัฐสภา จึงจะเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมคงไม่มีทางรู้อีก กสม.นั้นมันมีหน้าที่รักษาสิทธิการถูกละเมิดของพวกเดียวกัน ส่วนคนละพวกจะถูกละเมิดแม้ชีวิต ก็เป็นความชอบธรรมที่รัฐบาลพึงทำได้
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมคงไม่มีทางรู้ได้เลยว่า “มวลมหาประชาชน”ของคุณสุเทพสามารถใช้ความรุนแรงอย่างไรก็ได้ แต่เจ้าหน้าที่ห้ามใช้ความรุนแรงอย่างเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะเข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชน
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมคงไม่มีทางจะรู้ว่า กกต.ชุดเดิมมีไว้ช่วยเหลือพรรคๆหนึ่ง และคอยจับผิดอีกพรรคหนึ่ง ส่วน กกต.ชุดใหม่ก็มีหน้าที่ปฏิบัติตามแนวทางของ กปปส. เพื่อให้การเลือกตั้งถูกเลื่อนไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนกติกาโดยคุณสุเทพสำเร็จ
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมคงไม่มีทางรู้ได้เลยว่า อธิการบดีของหลายมหาวิทยาลัย ยังไม่เข้าใจความหมายของประชาธิปไตยได้ดีไปกว่าคนรากหญ้าที่ตัวเองประณาม
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมคงไม่มีทางรู้ได้ เรื่องฐานันดร 4 ของสื่อฯมีไว้เพื่อให้มีสิทธิพิเศษเหนือคนอื่น ส่วนเรื่องจรรยาบรรณไม่ต้อง ข้อมูลจะจริงหรือเท็จเลยไม่สน ขอให้เป็นไปตามเป้าหมายก็พอ
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมคงไม่มีโอกาสสัมผัสถึงเหล่านักวิชาการทาสเผด็จการทั้งหลาย ที่พร้อมจะยอมละทิ้งความถูกต้อง ใช้หลักวิชาในการแถ พยายามเปลี่ยนถูกให้เป็นผิด และเปลี่ยนดำให้เป็นขาว
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมคงจะไม่มีทางเชื่อเลยว่า “มวลมหาประชาชน”ของคุณสุเทพ จะไม่สนใจความเสียหายของประเทศ ไม่ว่าเศรษฐกิจ สังคม หรือแม้กระทั่งความเสียหายของประเทศ โดยยอมรับให้กองทัพทำรัฐประหาร เป้าหมายแค่ต้องการล้มระบอบทักษิณที่ไม่มีอยู่จริง
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมคงได้แต่สงสัยประเทศไทยมีมือที่มองไม่เห็นจริงหรือไม่ แต่เพราะมีคุณสุเทพช่วยตอกย้ำเรื่องที่ผมพยายามไม่ยอมรับ จนต้องตาสว่างแล้วก็ยอมรับโดยดุษฎี
และเหนือสิ่งอื่นใด เพราะมีคุณสุเทพ ผมจึงได้รู้เลยว่า ที่ผมเลือกข้างมาตลอด 7 ปีกว่านั้น เป็นการเลือกข้างที่ถูกต้องมาตลอดโดยไม่ต้องเคลือบแคลงสงสัยอีกต่อไป ดังนั้นจึงอยากบอกคุณสุเทพว่า “ขอบคุณครับ”
คุณสุเทพครับ ผมขอแสดงความขอบคุณครับ
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมคงไม่มีทางรู้ พรรคของคุณสุเทพ ไม่ใช่แค่แสดงความถ่อยเถื่อนในรัฐสภาได้เท่านั้น บนเวทีข้างถนนกลับทั้งถ่อยทั้งเถื่อนหยาบคายเสียยิ่งกว่า แบบเลวได้โล่เลยนะครับ
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมยังหลงเข้าใจว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันที่ยึดหลักมติของพรรคเป็นหลัก แต่ความจริงแล้วทั้งพรรคยึดมติคุณสุเทพเป็นหลักต่างหากเล่า
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมคงไม่มีทางแยกออกระหว่าง “มวลมหาประชาชน”ของคุณสุเทพกับ “มวลอภิมหาประชาชน”นั้นมันแตกต่างกันอย่างไร เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ไม่กล้าส่งคนลงเลือกตั้ง
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมจะไม่มีวันรู้ มวลมหาประชาชนของคุณสุเทพ จะกลายเป็นพวกเดียวในโลกที่เรียกร้องให้มีการลิดรอนสิทธิของตัวเองด้วยการไม่ยอมให้มีการเลือกตั้ง
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมคงจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ยังมีคนไทยอีกมากมายดูถูกศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ดูแคลนความเป็นคนไม่เท่ากันในสังคมไทย จนเห็นด้วยกับความต้องการให้คนไทยทุกๆคน ไม่ควรมีสิทธิเท่ากัน
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมจะรับรู้ได้อย่างไรว่า คนกรุงเทพนั้น ยอมให้คนใต้อย่างคุณสุเทพนำคนใต้ด้วยกันมาปิดกรุงเทพ เพื่อทุบหม้อข้าวของคนกรุงเทพด้วยความซาบซึ่งยินดี
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมจะไม่มีวันเชื่ออย่างเด็ดขาดว่าคนมีคุณภาพของประเทศนี้ ต้องการประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบภายใต้กติกาที่คุณสุเทพเป็นคนร่าง
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมจะไม่มีทางรู้เลยว่ากองทัพจะยืนเคียงประชาชนฝ่ายหนึ่ง และพร้อมจะอยู่คนละข้างกับประชาชนอีกฝ่ายหนึ่ง
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมจะไม่มีทางรู้เลยว่าการปิดราชประสงค์ สามารถใช้ พรก.ฉุกเฉินได้ แต่ถ้าปิดทั้งกรุงเทพ จะใช้ได้ก็แค่ พรบ.ความมั่นคงเท่านั้น
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่า การล้มล้างรัฐบาลด้วยการยึดสถานที่ราชการต่างๆ การปิดถนนในหลายๆจุด แม้จะกระทบสิทธิของคนอื่นอย่างกว้างขวาง แต่ก็เป็นการชุมนุมสงบสันติตามสิทธิในรัฐธรรมนูญตามที่ศาลรัฐธรรมนูญกรุณาวินิจฉัยไว้ เว้นแต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญในรัฐสภา จึงจะเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมคงไม่มีทางรู้อีก กสม.นั้นมันมีหน้าที่รักษาสิทธิการถูกละเมิดของพวกเดียวกัน ส่วนคนละพวกจะถูกละเมิดแม้ชีวิต ก็เป็นความชอบธรรมที่รัฐบาลพึงทำได้
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมคงไม่มีทางรู้ได้เลยว่า “มวลมหาประชาชน”ของคุณสุเทพสามารถใช้ความรุนแรงอย่างไรก็ได้ แต่เจ้าหน้าที่ห้ามใช้ความรุนแรงอย่างเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะเข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชน
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมคงไม่มีทางจะรู้ว่า กกต.ชุดเดิมมีไว้ช่วยเหลือพรรคๆหนึ่ง และคอยจับผิดอีกพรรคหนึ่ง ส่วน กกต.ชุดใหม่ก็มีหน้าที่ปฏิบัติตามแนวทางของ กปปส. เพื่อให้การเลือกตั้งถูกเลื่อนไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนกติกาโดยคุณสุเทพสำเร็จ
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมคงไม่มีทางรู้ได้เลยว่า อธิการบดีของหลายมหาวิทยาลัย ยังไม่เข้าใจความหมายของประชาธิปไตยได้ดีไปกว่าคนรากหญ้าที่ตัวเองประณาม
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมคงไม่มีทางรู้ได้ เรื่องฐานันดร 4 ของสื่อฯมีไว้เพื่อให้มีสิทธิพิเศษเหนือคนอื่น ส่วนเรื่องจรรยาบรรณไม่ต้อง ข้อมูลจะจริงหรือเท็จเลยไม่สน ขอให้เป็นไปตามเป้าหมายก็พอ
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมคงไม่มีโอกาสสัมผัสถึงเหล่านักวิชาการทาสเผด็จการทั้งหลาย ที่พร้อมจะยอมละทิ้งความถูกต้อง ใช้หลักวิชาในการแถ พยายามเปลี่ยนถูกให้เป็นผิด และเปลี่ยนดำให้เป็นขาว
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมคงจะไม่มีทางเชื่อเลยว่า “มวลมหาประชาชน”ของคุณสุเทพ จะไม่สนใจความเสียหายของประเทศ ไม่ว่าเศรษฐกิจ สังคม หรือแม้กระทั่งความเสียหายของประเทศ โดยยอมรับให้กองทัพทำรัฐประหาร เป้าหมายแค่ต้องการล้มระบอบทักษิณที่ไม่มีอยู่จริง
เพราะถ้าไม่มีคุณสุเทพ ผมคงได้แต่สงสัยประเทศไทยมีมือที่มองไม่เห็นจริงหรือไม่ แต่เพราะมีคุณสุเทพช่วยตอกย้ำเรื่องที่ผมพยายามไม่ยอมรับ จนต้องตาสว่างแล้วก็ยอมรับโดยดุษฎี
และเหนือสิ่งอื่นใด เพราะมีคุณสุเทพ ผมจึงได้รู้เลยว่า ที่ผมเลือกข้างมาตลอด 7 ปีกว่านั้น เป็นการเลือกข้างที่ถูกต้องมาตลอดโดยไม่ต้องเคลือบแคลงสงสัยอีกต่อไป ดังนั้นจึงอยากบอกคุณสุเทพว่า “ขอบคุณครับ”