เห็นน้าๆแต่ละคนเอาสถิติการปั่นของปีนี้มาโชว์กันแล้ว ผมก็เลยไปเปิดดูสถิติของตัวเองบ้าง ปีนี้ยังไม่ถึงหกพันโลเลย น่าจะจัดอยู่ในกลุ่มขาอ่อน(ซ้อม)นะเนี่ย ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาไม่ได้ออกปั่นเก็บสถิติเลยเพราะเจ็บเข่าเลยหยุดพักเผื่อจะดีขึ้น
สองปีที่แล้วเริ่มปั่นจักรยานปีแรก ถือเป็นปีแห่งขาอ่อนอย่างแท้จริง เพราะออกทริป 100 โลเกือบทุกเดือนแต่ไม่เคยจบเลย ขึ้นรถเซอร์วิสตลอด แต่ไม่อยากยอมแพ้เพราะคนอื่นที่เริ่มต้นพร้อมๆกันเขาผ่านได้หมด เริ่มต้นปีนี้ที่ผ่านมาเลยตั้งใจว่าจะพยายามปั่นให้จบทริป 100 โลทุกทริปให้ได้เพราะเบื่อขึ้นรถเซอร์วิสแล้ว พยายามหาวิธีมาลองใช้ทุกอย่าง ก็ประสบความสำเร็จด้วยดี ปีนี้ทุกทริป 100 โลที่ไปร่วมปั่นก็ผ่านได้หมด (ทริป 100 โลอันไหนที่ดูแล้วโหดมากๆก็ไม่ไปเสียเลย 555) แต่ทริปส่วนใหญ่ก็เป็นการปั่นแบบพัก 3 ช่วง พอไปเจอทริปที่ัพักน้อยหรือแข่งไม่พักเลยก็เกือบไม่รอดเหมือนกัน ขณะคนอื่นส่วนใหญ่ก็ผ่านได้สบายๆได้หมด แสดงว่าผมยังอยู่ในขั้นขาอ่อนแอกว่าคนอื่นอยู่เหมือนเดิม แต่ก็เลื่อนเลเวลมาอยู่ประมาณกลุ่มกลางๆแล้ว
เทคนิคสำคัญส่วนตัวที่พบว่าทำให้ปั่นทางไกลๆได้สำเร็จมี 2 อย่างครับ คือ 1. พลังงาน หมายถึงอาหารที่กินเตรียมเข้าไปใช้ก่อนการปั่นและเติมกลับเข้าไประหว่างการปั่น ซึ่งสำคัญมากถ้าไม่อยากจะเจอกับอาการหมดแรงกลางทาง และ 2. การฝึกซ้อม คือการเตรียมพร้อมความแข็งแรงอดทนของกล้ามเนื้อในการออกกำลังหนักๆนานๆ เพื่อไม่ให้เกิดอาการปวดเมื่อยล้าหรือตะคริวระหว่างปั่น ก็เลยต้องซ้อมเยอะๆ ซึ่งตรงนี้แหละเป็นปัญหาสำหรับผมในปีนี้เมื่อซ้อมยังไม่ถูกต้อง,อุปกรณ์ยังไม่สมบูรณ์ เลยเกิดปัญหาอาการบาดเจ็บขึ้นมา
แรกๆตอนหาวิธีซ้อมฝึกซ้อมใหม่ๆ ชอบเอาข้อมูลการออกกำลังกายที่เป็นกราฟมาวิเคราะห์ดู ก็เลยเป็นที่มาของการแสวงหาอุปกรณ์ต่างๆมาใช้เพื่อวัดเก็บข้อมูล ทั้งวัดความเร็ว วัดหัวใจ วัดรอบขา วัดการออกแรง
แล้วต่อมาดูแค่กราฟไม่สะใจ งอกบานออกไปเป็นกล้องวิดิโอ เอามาถ่ายคลิปรวมข้อมูลนดูเพื่อวิเคราะห์เหตุการณ์ย้อนหลัง พอทำออกมาเยอะๆก็เลยอยากมาโพสต์แบ่งให้คนอื่นดูบ้าง ก็มีคนชอบดูบ้างไม่ชอบดูบ้าง แต่ก็ยังจะทำต่อไปเพราะความสนุกส่วนตัว เพราะเวลาคนอื่นออกปั่นจักรยานส่วนใหญ่ก็มีภาพในทริปไว้ดูกันครั้งสองครั้ง แต่ผมพบว่าการถ่ายคลิปวิดิโอเก็บไว้ ผมสามารถเอามานั่งดูย้อนหลังได้เป็นสิบๆครั้งในแต่ละคลิปและก็ยังได้รับอารมณ์ความสนุกของการปั่นแต่ละครั้งนั้นๆอยู่ เวลาปั่นเทรนเนอร์ที่ว่าน่าเบื่อผมยังชอบเอาคลิปที่ถ่ายไว้ยาวเป็นสองสามชั่วโมงนั่งดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาระหว่างทริปได้อีก ยิ่งที่เคยเอากล้องติดไว้ด้านหลังถ่ายยิ่งได้เห็นเหตุการณ์ที่เราไม่เห็นหรือนึกไม่ถึงได้อีก การออกทริปปั่นครั้งนึง ผมมีคลิปวิดิโอยาวๆมานั่งดูได้อีกหลายวัน ก็เลยชอบที่จะทำต่อไป
มาปีนี้ไม่รู้จะตั้งเป้าหมายอะไรดี จะเอาระยะทางสะสมเพิ่มขึ้นทั้งปีเป็นสัก 10,000 กม.ก็กลัวเข่าจะพังเสียก่อน หรือจะตั้งเป้าหมายปั่น 50 โลไม่พักเลย หรือ 100 โลไม่พักเลย หรือปั่นให้ได้ระยะทางเกิน 100 โลไปเป็น 150 หรือ 200 โล ก็ยังไม่ค่อยมั่นใจสภาพร่างกาย เลยว่าจะตั้งเป้าหมายแค่ให้มีโอกาสออกกำลังกายให้สุขภาพแข็งแรงตลอดปีก็น่าจะพอแล้วครับ ตอนหลีงๆนี้เริ่มอยากกลับไปปั่นเสือภูเขาบ้างแล้วเพราะเคยอ่านมาว่าต้องให้พยายามออกกำลังกายที่มีการกระทบกระแทกของข้อต่อบ้างเืพื่อให้ร่างกายสร้างเซลกระดูกข้อต่อให้แข็งแรงมากขึ้น(หรือเปล่า) ปีหน้าว่าจะพยายามทดลองดูว่าจะดีขึ้นหรือจะเจ็บอีกเหมือนเดิม
สุดท้ายนี้ในโอกาสสิ้นปีเก่าขึ้นปีใหม่ ขออวยพรน้ำๆห้องจักรยานทั้งหลายให้มีสุขภาพแข็งแรงดีได้ปั่นจักรยานสนุกสมใจ อยากงอกรถใหม่หรืออยากได้อุปกรณ์ใหม่อะไร ขอให้สมหวังดังใจทุกประการครับ สาธุ
มาดูสถิติการปั่นปีนี้ของผมกันบ้างครับ เหตุเกิดเพราะขาอ่อน(ซ้อม)
สองปีที่แล้วเริ่มปั่นจักรยานปีแรก ถือเป็นปีแห่งขาอ่อนอย่างแท้จริง เพราะออกทริป 100 โลเกือบทุกเดือนแต่ไม่เคยจบเลย ขึ้นรถเซอร์วิสตลอด แต่ไม่อยากยอมแพ้เพราะคนอื่นที่เริ่มต้นพร้อมๆกันเขาผ่านได้หมด เริ่มต้นปีนี้ที่ผ่านมาเลยตั้งใจว่าจะพยายามปั่นให้จบทริป 100 โลทุกทริปให้ได้เพราะเบื่อขึ้นรถเซอร์วิสแล้ว พยายามหาวิธีมาลองใช้ทุกอย่าง ก็ประสบความสำเร็จด้วยดี ปีนี้ทุกทริป 100 โลที่ไปร่วมปั่นก็ผ่านได้หมด (ทริป 100 โลอันไหนที่ดูแล้วโหดมากๆก็ไม่ไปเสียเลย 555) แต่ทริปส่วนใหญ่ก็เป็นการปั่นแบบพัก 3 ช่วง พอไปเจอทริปที่ัพักน้อยหรือแข่งไม่พักเลยก็เกือบไม่รอดเหมือนกัน ขณะคนอื่นส่วนใหญ่ก็ผ่านได้สบายๆได้หมด แสดงว่าผมยังอยู่ในขั้นขาอ่อนแอกว่าคนอื่นอยู่เหมือนเดิม แต่ก็เลื่อนเลเวลมาอยู่ประมาณกลุ่มกลางๆแล้ว
เทคนิคสำคัญส่วนตัวที่พบว่าทำให้ปั่นทางไกลๆได้สำเร็จมี 2 อย่างครับ คือ 1. พลังงาน หมายถึงอาหารที่กินเตรียมเข้าไปใช้ก่อนการปั่นและเติมกลับเข้าไประหว่างการปั่น ซึ่งสำคัญมากถ้าไม่อยากจะเจอกับอาการหมดแรงกลางทาง และ 2. การฝึกซ้อม คือการเตรียมพร้อมความแข็งแรงอดทนของกล้ามเนื้อในการออกกำลังหนักๆนานๆ เพื่อไม่ให้เกิดอาการปวดเมื่อยล้าหรือตะคริวระหว่างปั่น ก็เลยต้องซ้อมเยอะๆ ซึ่งตรงนี้แหละเป็นปัญหาสำหรับผมในปีนี้เมื่อซ้อมยังไม่ถูกต้อง,อุปกรณ์ยังไม่สมบูรณ์ เลยเกิดปัญหาอาการบาดเจ็บขึ้นมา
แรกๆตอนหาวิธีซ้อมฝึกซ้อมใหม่ๆ ชอบเอาข้อมูลการออกกำลังกายที่เป็นกราฟมาวิเคราะห์ดู ก็เลยเป็นที่มาของการแสวงหาอุปกรณ์ต่างๆมาใช้เพื่อวัดเก็บข้อมูล ทั้งวัดความเร็ว วัดหัวใจ วัดรอบขา วัดการออกแรง
แล้วต่อมาดูแค่กราฟไม่สะใจ งอกบานออกไปเป็นกล้องวิดิโอ เอามาถ่ายคลิปรวมข้อมูลนดูเพื่อวิเคราะห์เหตุการณ์ย้อนหลัง พอทำออกมาเยอะๆก็เลยอยากมาโพสต์แบ่งให้คนอื่นดูบ้าง ก็มีคนชอบดูบ้างไม่ชอบดูบ้าง แต่ก็ยังจะทำต่อไปเพราะความสนุกส่วนตัว เพราะเวลาคนอื่นออกปั่นจักรยานส่วนใหญ่ก็มีภาพในทริปไว้ดูกันครั้งสองครั้ง แต่ผมพบว่าการถ่ายคลิปวิดิโอเก็บไว้ ผมสามารถเอามานั่งดูย้อนหลังได้เป็นสิบๆครั้งในแต่ละคลิปและก็ยังได้รับอารมณ์ความสนุกของการปั่นแต่ละครั้งนั้นๆอยู่ เวลาปั่นเทรนเนอร์ที่ว่าน่าเบื่อผมยังชอบเอาคลิปที่ถ่ายไว้ยาวเป็นสองสามชั่วโมงนั่งดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาระหว่างทริปได้อีก ยิ่งที่เคยเอากล้องติดไว้ด้านหลังถ่ายยิ่งได้เห็นเหตุการณ์ที่เราไม่เห็นหรือนึกไม่ถึงได้อีก การออกทริปปั่นครั้งนึง ผมมีคลิปวิดิโอยาวๆมานั่งดูได้อีกหลายวัน ก็เลยชอบที่จะทำต่อไป
มาปีนี้ไม่รู้จะตั้งเป้าหมายอะไรดี จะเอาระยะทางสะสมเพิ่มขึ้นทั้งปีเป็นสัก 10,000 กม.ก็กลัวเข่าจะพังเสียก่อน หรือจะตั้งเป้าหมายปั่น 50 โลไม่พักเลย หรือ 100 โลไม่พักเลย หรือปั่นให้ได้ระยะทางเกิน 100 โลไปเป็น 150 หรือ 200 โล ก็ยังไม่ค่อยมั่นใจสภาพร่างกาย เลยว่าจะตั้งเป้าหมายแค่ให้มีโอกาสออกกำลังกายให้สุขภาพแข็งแรงตลอดปีก็น่าจะพอแล้วครับ ตอนหลีงๆนี้เริ่มอยากกลับไปปั่นเสือภูเขาบ้างแล้วเพราะเคยอ่านมาว่าต้องให้พยายามออกกำลังกายที่มีการกระทบกระแทกของข้อต่อบ้างเืพื่อให้ร่างกายสร้างเซลกระดูกข้อต่อให้แข็งแรงมากขึ้น(หรือเปล่า) ปีหน้าว่าจะพยายามทดลองดูว่าจะดีขึ้นหรือจะเจ็บอีกเหมือนเดิม
สุดท้ายนี้ในโอกาสสิ้นปีเก่าขึ้นปีใหม่ ขออวยพรน้ำๆห้องจักรยานทั้งหลายให้มีสุขภาพแข็งแรงดีได้ปั่นจักรยานสนุกสมใจ อยากงอกรถใหม่หรืออยากได้อุปกรณ์ใหม่อะไร ขอให้สมหวังดังใจทุกประการครับ สาธุ