การจราจรในกรุงเทพมหานครนั้น ดูแลโดยสามหน่วยงานหลักครับ
คมนาคม ดูแลถนนสายหลัก เช่น วิภาวดี แจ้งวัฒนะ งามวงศ์วาน ทางด่วน รถเมล์ รถใต้ดิน เรือ และท่าอากาศยาน
กทม. ดูแลถนนส่วนใหญ่ ตรอก ซอกซอย ทางเท้า รถไฟฟ้า BTS
ตำรวจจราจร ดูแลการจัดและควบคุมจราจร สัญญานไฟ
ปัจจุบัน กทม. มีประชากรประมาณ 7 ล้านคน รวมปริมณฑลเป็น 13 ล้านคน มีการจ้างงาน ประมาณ 3.5 ล้านตำแหน่ง มีนักเรียน นักศึกษาทั้งหมด ประมาณ 1.8 ล้านคน
คนเหล่านี้ คือคนที่ต้องเดินทางใน กทม. ในแต่ละวัน เพื่ิอไปทำงาน ทำธุระ เรียนหนังสิอ รวมทั้งหมดประมาณวันละ 17 ล้านเที่ยว
การที่ กปปส. ประกาศจะปิดกรุงเทพหลังปีใหม่ เป็นเวลา 10-20 วันนั้น อาจไม่มีผลกระทบมากนักกับคนที่ไม่ต้องทำงาน ผู้บริหารระดับสูง เจ้าของกิจการที่ไม่เคยต้องตอกบัตรเข้างาน คนที่มีคอนโดในเมือง ตามแนวรถไฟฟ้าที่ใช้รถไฟฟ้าไปทำงานได้
แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ ประชาชนทั่วไป พนักงาน ลูกจ้าง คนขับแท็กซี่ สามล้อ นักเรียน นักศึกษา ที่ต้องตื่นแต่เช้า ฝ่ารถติดเข้าเมืองไปทำงาน เย็นต้องรีบกลับบ้าน ทำกับข้าวให้ลูก ทำการบ้าน มีเวลาอยู่กับครอบครัวบ้าง แล้วก็ต้องรีบนอน เพื่อมาลุยต่อในวันรุ่งขึ้น คงจะได้รับความเดือดร้อน จากการปิดกรุงเทพมากทีเดียว และคนส่วนใหญ่นี้ก็คงไม่สามารถจะหนีความวุ่นวายนี้ไปอยู่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศชั่วคราวตามคำแนะนำของ กปปส. ได้
รัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 34 ระบุชัดเจนว่า บุคคลมีเสรีภาพในการเดินทาง การจำกัดเสรีภาพนี้จะกระทำมิได้ยกเว้นอาศัยอำนาจตามกฎหมายเท่านั้น
ผมในฐานะผู้รับผิดชอบด้านการคมนาคม ไม่เห็นด้วยกับการเอาความเดือดร้อนในการเดินทางของประชาชนมาเป็นตัวประกัน หรือชนวน ที่จะทำให้เกิดความวุ่นวาย ครับ การปฏิรูปประเทศนั้น ถ้าเริ่มด้วยการละเมิดสิทธิ์ของคนอื่น ก็คงไปต่อยากครับ
สุดท้ายคงฝากเรียนถามท่าน ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่าจุดยืนของท่านในฐานะพ่อเมืองกับเรื่องที่จะมีการปิด กทม. นี้คืออะไร เพราะผมกับท่าน และ ตำรวจจราจร มีหน้าที่ที่ต้องทำงานร่วมกัน ในการดูแลความสะดวก ปลอดภัยในการเดินทาง ของพี่น้องประชาชนชาว กทม.ครับ
https://www.facebook.com/chadchartofficial
ชัชชาติ เรื่องการปิดจราจร
คมนาคม ดูแลถนนสายหลัก เช่น วิภาวดี แจ้งวัฒนะ งามวงศ์วาน ทางด่วน รถเมล์ รถใต้ดิน เรือ และท่าอากาศยาน
กทม. ดูแลถนนส่วนใหญ่ ตรอก ซอกซอย ทางเท้า รถไฟฟ้า BTS
ตำรวจจราจร ดูแลการจัดและควบคุมจราจร สัญญานไฟ
ปัจจุบัน กทม. มีประชากรประมาณ 7 ล้านคน รวมปริมณฑลเป็น 13 ล้านคน มีการจ้างงาน ประมาณ 3.5 ล้านตำแหน่ง มีนักเรียน นักศึกษาทั้งหมด ประมาณ 1.8 ล้านคน
คนเหล่านี้ คือคนที่ต้องเดินทางใน กทม. ในแต่ละวัน เพื่ิอไปทำงาน ทำธุระ เรียนหนังสิอ รวมทั้งหมดประมาณวันละ 17 ล้านเที่ยว
การที่ กปปส. ประกาศจะปิดกรุงเทพหลังปีใหม่ เป็นเวลา 10-20 วันนั้น อาจไม่มีผลกระทบมากนักกับคนที่ไม่ต้องทำงาน ผู้บริหารระดับสูง เจ้าของกิจการที่ไม่เคยต้องตอกบัตรเข้างาน คนที่มีคอนโดในเมือง ตามแนวรถไฟฟ้าที่ใช้รถไฟฟ้าไปทำงานได้
แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ ประชาชนทั่วไป พนักงาน ลูกจ้าง คนขับแท็กซี่ สามล้อ นักเรียน นักศึกษา ที่ต้องตื่นแต่เช้า ฝ่ารถติดเข้าเมืองไปทำงาน เย็นต้องรีบกลับบ้าน ทำกับข้าวให้ลูก ทำการบ้าน มีเวลาอยู่กับครอบครัวบ้าง แล้วก็ต้องรีบนอน เพื่อมาลุยต่อในวันรุ่งขึ้น คงจะได้รับความเดือดร้อน จากการปิดกรุงเทพมากทีเดียว และคนส่วนใหญ่นี้ก็คงไม่สามารถจะหนีความวุ่นวายนี้ไปอยู่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศชั่วคราวตามคำแนะนำของ กปปส. ได้
รัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 34 ระบุชัดเจนว่า บุคคลมีเสรีภาพในการเดินทาง การจำกัดเสรีภาพนี้จะกระทำมิได้ยกเว้นอาศัยอำนาจตามกฎหมายเท่านั้น
ผมในฐานะผู้รับผิดชอบด้านการคมนาคม ไม่เห็นด้วยกับการเอาความเดือดร้อนในการเดินทางของประชาชนมาเป็นตัวประกัน หรือชนวน ที่จะทำให้เกิดความวุ่นวาย ครับ การปฏิรูปประเทศนั้น ถ้าเริ่มด้วยการละเมิดสิทธิ์ของคนอื่น ก็คงไปต่อยากครับ
สุดท้ายคงฝากเรียนถามท่าน ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่าจุดยืนของท่านในฐานะพ่อเมืองกับเรื่องที่จะมีการปิด กทม. นี้คืออะไร เพราะผมกับท่าน และ ตำรวจจราจร มีหน้าที่ที่ต้องทำงานร่วมกัน ในการดูแลความสะดวก ปลอดภัยในการเดินทาง ของพี่น้องประชาชนชาว กทม.ครับ
https://www.facebook.com/chadchartofficial