JJNY : 5in1 เปิดใบประวัติ ส.ว.│ส.ส.ปชน.เรียกร้องเดินหน้าอุโมงค์│เพจดังเฉลยแล้ว!│สื่อฯ กัมพูชาร้องไทย│จับตา MU Cambodia

ไอลอว์ เปิดใบประวัติ ส.ว.คู่กรณีนันทนา พบกรอกอาชีพตัวเองขายหมู ข้องใจสมัครผิดกลุ่ม
https://www.matichon.co.th/politics/news_5437129
.
.
ไอลอว์ เปิดใบประวัติ ส.ว.คู่กรณีนันทนา พบกรอกอาชีพตัวเองขายหมู ข้องใจสมัครผิดกลุ่ม
.
กรณีสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 130 เสียง ลงมติให้การกล่าวถ้อยคำว่า “คนขายหมู” ของ สว.นันทนา นันทวโรภาส เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง เพราะเป็นการด้อยค่า สว.ท่านหนึ่งซึ่งมีอาชีพขายหมู จึงมีมติให้ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ไต่สวนเพื่อดำเนินคดีกับ สว.นันทนาต่อไป ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 234 (1) ประกอบมาตรา 235 (1) นั้น
.
ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ iLaw (ไอลอว์) ได้เปิดเอกสารใบสมัครของ นางแดง กองมา สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กลุ่มที่ 10 จากจังหวัดอำนาจเจริญ ระบุว่า
.
“สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่ถูกเรียกว่า “คนขายหมู” นั้นชื่อแดง กองมา กลุ่มที่ 10 จากจังหวัดอำนาจเจริญ อาชีพขายหมูไม่ได้มีปัญหา เพราะระบบของสว. ชุดนี้คัดเลือกคนจากการแบ่ง “กลุ่มอาชีพ” จึงควรต้องมีคนทุกอาชีพได้มาเป็นสว. แต่ปัญหาคือ มีการตรวจสอบคุณสมบัติหรือไม่ เพราะอาจสมัครผิดกลุ่มอาชีพ
อ่านเต็มๆได้ทาง https://www.ilaw.or.th/articles/40267
.
นันทนา นันทวโรภาส สว. อีกคนหนึ่งกำลังถูกสอบสวนเรื่อง “มาตรฐานจริยธรรม” จากการเรียกสว. อีกคนหนึ่งว่า “คนขายหมู” ตามอาชีพที่เธอกรอกในเอกสารสมัครเข้าเป็นสว. เพื่อแนะนำตัวให้คนอื่นรู้จักและลงคะแนนให้ ซึ่งแดง ได้ 28 คะแนนในรอบ “เลือกกันเอง” ในกลุ่ม 10 และได้สูงถึง 63 คะแนนในรอบเลือกไขว้ นับเป็นอีกคนที่ได้คะแนนมากแบบ “ล้นกระดาน” จนกระดานที่เตรียมไว้นับคะแนนไม่เพียงพอ
.
ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว. แบ่งกลุ่มไว้ดังนี้ กลุ่มที่ 9 คือ กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อมตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น และกลุ่มที่ 10 คือ กลุ่มผู้ประกอบกิจการอื่นนอกจากกิจการตาม 9
.
ในกลุ่มที่ 9 เรียกกันสั้นๆว่า กลุ่ม SMEs เป็นกิจการค้าขายหรือให้บริการขนาดเล็กและกลาง ตามกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ.2562 นิยามว่า วิสาหกิจขนาดย่อม ได้แก่ กิจการผลิตสินค้าที่มีจำนวนการจ้างงานไม่เกิน 50 คน หรือมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 100 ล้านบาท กิจการให้บริการ ค้าส่ง ค้าปลีก ที่มีจำนวนการจ้างงานไม่เกิน 30 คน หรือมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 50 ล้านบาท วิสาหกิจขนาดกลาง ได้แก่ กิจการผลิตสินค้าที่มีจำนวนการจ้างงาน 50-200 คน หรือมีรายได้ต่อปี 100-500 ล้านบาท กิจการให้บริการ ค้าส่ง ค้าปลีก ที่มีจำนวนการจ้างงาน 30-100 คน หรือมีรายได้ต่อปี 50-300 ล้านบาท
.
ดังนั้น ผู้ที่สมัครในกลุ่มที่ 10 จึงต้องเป็นผู้ประกอบกิจการที่ “ใหญ่” กว่า SMEs อันได้แก่ กิจการผลิตสินค้าที่มีจำนวนการจ้างงานเกิน 200 คน หรือมีรายได้ต่อปีเกิน 500 ล้านบาท กิจการให้บริการ ค้าส่ง ค้าปลีก ที่มีจำนวนการจ้างงานเกิน 100 คน หรือมีรายได้ต่อปีเกิน 300 ล้านบาท
.
การขายหมูหน้าเขียงในตลาด โดยปกติแล้วไม่ได้มีการจ้างงานมากขนาดเกิน 200 คน และตามที่แดง กองมา เขียนไว้ในใบสมัครว่าขายหมูกำไรกิโลกรัมละ 10 บาท ก็ไม่น่าจะมีรายได้ต่อปีเกิน 300 ล้านบาท แต่ตามระบบสว. ที่เป็นอยู่นี้ตอนสมัคร กกต. ไม่ได้ตรวจสอบคุณสมบัติและหลักฐานการทำงานว่า ใครสามารถสมัครในกลุ่มนั้นๆ ได้จริงหรือไม่ ต้องการเพียงผู้รับรองหนึ่งก็รับสมัครในกลุ่มต่างๆ ได้เลย แต่หลังจากมีเรื่องร้องเรียนกกต. ก็ไม่เคยให้คำชี้แจงที่ชัดเจนถึงเกณฑ์คุณสมบัติที่จะสมัครในกลุ่มต่างๆ
.
ในการเลือกสว. ชุดนี้ ในกลุ่ม 10 ซึ่งเป็นกลุ่มที่นิยามคุณสมบัติได้ไม่ชัดเจน มีผู้สมัครสองคนที่สมัครในอำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ คือ แดง กองมา และสมพาน พละศักดิ์ ซึ่งเขียนในใบสมัครว่า ขายก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ ทั้งสองคนจับมือมีสิทธิลงคะแนนให้กันเองทุกระดับของการเลือก และกอดคอผ่านเข้ารอบมาด้วยกัน โดยสุดท้ายได้รับเลือกเป็นสว. ด้วยคะแนนแบบ “ล้นกระดาน” ทั้งสองคน ในรอบสุดท้ายแดง ได้อันดับที่สี่ 63 คะแนน สมพานได้อันดับที่ห้า 61 คะแนน ซึ่งจังหวัดอำนาจเจริญนั้นมีผู้สมัครที่เข้ารอบสุดท้ายได้ถึง 36 จาก 40 คน (แทบยกจังหวัด) ได้รับเลือกเป็นสว. 5 คน ได้คะแนนแบบ “ล้นกระดาน” ทุกคน และจังหวัดนี้ในภาพใหญ่มีสส. ทั้งสองคนจากพรรคภูมิใจไทย

ประเด็นการกล่าวถึง “คนขายหมู” จึงอาจไม่ใช่ปัญหาว่า เป็นการดูถูกอาชีพใด เพราะทุกอาชีพควรจะมีพื้นที่สมัครมาเป็นสว. ได้ตามระบบนี้ แต่ปัญหาคือ การทำกิจการขนาดเล็กต้องสมัครในกลุ่ม 9 ไม่ใช่กลุ่ม 10 และระบบปัจจุบันกกต. ไม่ได้ตรวจสอบ
.
หากมีผู้ใดสมัครผิดกลุ่ม ก็ยังไปลงคะแนนได้ อาจได้รับเลือก และอาจได้เป็นสว. เข้ามานั่งเป็นกมธ.และลงมติเรื่องต่างๆ โดยไม่ถูกต้องตามกติกา หากระบบยังเป็นเช่นนี้อยู่ และยังต้องมีเลือกสว. ครั้งต่อไป กลุ่มอาชีพต่างๆ ก็จะไม่มีความหมายเพราะทุกคนจะลงสมัครกันทุกกลุ่มโดยไม่มีใครตรวจสอบ และการให้พื้นที่กับอาชีพต่างๆ จะไม่มีทางเป็นจริงอีกต่อไป ระบบการเลือกสว. จะเป็นเพียงระบบที่ใครมีพวกมากก็ลงสมัครและเลือกกันเองให้มากๆ ก็จะได้เป็นสว. โดยไม่ต้องสนใจคุณสมบัติและการประกอบอาชีพกันจริงๆ”
.
วันเดียวกันนี้ สว.นันทนา ยังได้แชร์โคว้ทคำพูดของตัวเองซึ่งระบุว่า
.
เรื่องมาตรฐานจริยธรรมที่ใส่ไว้ในรัฐธรรมนูญ 60 และคุยโม้ว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง แท้จริงแล้วมันเป็นเครื่องมือในการทำลายฝ่ายตรงข้าม ไม่ได้มีเพื่อตรวจสอบหรือปราบโกงใดๆ นี่คือเหตุผลที่ต้องรณรงค์ ว่า รัฐธรรมนูญมีปัญหาแบบนี้จึงต้องแก้
.
พร้อมโพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก ประกอบว่า “นี่คือความบิดเบี้ยวของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มีเพียงผู้ได้ประโยชน์กลุ่มเล็กๆเท่านั้น ที่พยายามพิทักษ์รักษารัฐธรรมนูญนี้ไว้ เพื่อให้พวกพ้องของตนได้เปรียบเหนือคู่ต่อสู้ทางการเมือง ประชาชน ไม่ได้ประโยชน์แต่อย่างใด”
.
https://www.facebook.com/iLawClub/posts/pfbid0pW3en24LQBorC68LVRnuNTCrixuZngdmJuj9nJnEhhxLaizwoHb1pM9VbxbPLh7Tl
.
https://www.facebook.com/dr.nantana/posts/pfbid034HgWCjKzVLr2vtVzebdio8n9p77MioYRuYYJhVcRdjj8awxogwj3qJHCNPjQUG9pl
.

.
ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาชน 3 เขต เรียกร้องเดินหน้าโครงการอุโมงค์จากกระทู้ไปป่าตอง
https://www.matichon.co.th/region/news_5437217
.
ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาชน 3 เขต เรียกร้องเดินหน้าโครงการอุโมงค์จากกระทู้ไปป่าตอง

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต เขต 3 พรรคประชาชนและโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ราษฎรซึ่งได้รับความเสียหาย หรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐด้านที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ พ.ศ….โพสต์ข้อความผ่านบัญชี Facebook ส่วนตัว ชื่อ ฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล Thitikan Thitipruethikul โดยระบุว่า
.
อุบัติเหตุ และการจราจรติดขัด บริเวณเขาป่าตอง เป็นมาอย่างยาวนาน จนมีคนริเริ่มคิดโครงการสร้างอุโมงค์จากกะทู้ไปป่าตอง เพื่อเพิ่มความสะดวกและลดอุบัติเหตุให้กับพี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยว ชาวภูเก็ต เรียกร้องผลักดันมา 30 กว่าปี ผ่านการถกเถียง มานับครั้งไม่ถ้วน พอมีข่าวว่าทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะทบทวน และอาจจะเลื่อนกระบวนการ การก่อสร้างออกไปอีกนั้น จึงเป็นสิ่งที่น่ากังวล และมีข้อสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น มีเรื่องผลประโยชน์ ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับผู้รับเหมาออกแบบโครงการหรือไม่ ?
.
หากจะอ้างว่าไม่อยากเก็บค่าผ่านทางนั้น ในอดีต ตนก็เป็นส่วนหนึ่ง ในการสะท้อนข้อเรียกร้องจากพี่น้องประชาชน ให้เร่งสร้างถนนเพิ่ม เพื่อลดการจราจรติดขัด และลดอุบัติเหตุโดยไม่ต้องมีการเก็บค่าผ่านทาง โครงการ เมืองใหม่-กะทู้ ที่เดิมเป็นของทางหลวง แต่ก็โดนโยกไป เป็นของ การทางพิเศษ โดยมุบมิบเปลี่ยนแบบ โดยไม่ได้รับฟังความคิดเห็น ให้ครบถ้วน รอบด้าน ก็สมัยที่ พรรคภูมิใจไทย เป็นรัฐมนตรีคมนาคม ไม่ใช่เหรอครับ ที่จะกระทบต่อมูลค่าที่ดินที่จะสร้างถนน ความรวดเร็วในการก่อสร้าง ปัญหาการจราจรติดขัด บริเวณด่าน หากมีการเก็บค่าผ่านทาง ซึ่งสุดท้ายอาจจะไม่ได้แก้ปัญหาการจราจรติดขัดได้จริง และที่สำคัญที่สุดถนนหลักที่จะมาระบายการจราจร คนภูเก็ตควรมีสิทธิใช้ฟรี แต่หากจะสร้างถนนยกระดับเพื่อเพิ่มความสะดวก แล้วจะคิดเงินก็คงไม่มีใครติดขัดอะไร ไม่ควรมาหาผลประโยชน์กับความจำเป็นจริงๆ
.
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต เขต 3 พรรคประชาชนยังกล่าวด้วยว่า ในช่วง ที่ผ่านมา ทาง กทพ. ก็ดื้อรั้นจะเก็บค่าผ่านทางกับชาวภูเก็ตให้ได้ อ้างเหตุผลสารพัด ทั้งๆ ที่ ไม่เกิดประโยชน์กับใครเลย ทั้งพี่น้องประชาชนในพื้นที่และการทางพิเศษเองก็ตาม และทางหลวงเองก็พร้อมที่จะดำเนินการก่อสร้าง พวกเราประชาชนชาวภูเก็ต ขอให้มีการเร่งรัดโครงการดังกล่าว ให้ดำเนินการต่ออย่างเร็วที่สุด เพราะคนภูเก็ตรอไม่ได้ ส่วนระบบคิดเงินค่าผ่านทาง สามารถดำเนินการจัดการให้เป็นการแก้ไขระหว่างการดำเนินงานได้ นี่ครับและอย่าเอาความเดือดร้อน ของพี่น้องชาวภูเก็ต ไปเป็นตัวประกัน ในการต่อรองเลยครับ พร้อมกันนี้ยังยืนยันว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสามคนในจังหวัดภูเก็ตพร้อมที่จะเรียกร้องและผลักดันให้โครงข่ายคมนาคมพิเศษ หรืออุโมงค์ป่าตองให้มีผลสำเร็จโดยเร็วอย่างแท้จริงต่อไป
.
https://www.facebook.com/thitikanofficial/posts/pfbid02Um5yz2WywfjtzDy1RQHAJtrqS2aF6upavwh9FoAuc1a8ythHqLR13cxYQ7NA9gscl
.

.
เพจดังเฉลยแล้ว! ‘ฮิเด็น อารูโตะ’ บริจาคเงิน 50 ล้านเยน ‘กัน จอมพลัง’ ไม่เป็นความจริง
https://www.dailynews.co.th/news/5260362/
.
แทบงง! เพจดังเฉลยแล้ว! "ฮิเด็น อารูโตะ" บริจาคเงิน 50 ล้านเยน "กัน จอมพลัง" ไม่เป็นความจริง
.
เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แฟนเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง “Drama-addict” ได้ออกมาโพสต์เตือนภัย หลังพบว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพ “ฮิเด็น อารูโตะ” บริจาคเงิน 50 ล้านเยน ให้ “กัน จอมพลัง” งานนี้ทำให้ชาวเน็ตต่างแชร์ข่าวปลอมกันจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวพบว่าไม่เป็นความจริง
.
โดยเพจ Drama-addict ระบุข้อความว่า
.
คนแชร์กันไปสองพันแล้ว Google เช็กข่าวกันหน่อยก็ดีนะพ่อคุณ Hiden aruto มันมีตัวตนจริงที่ไหน พระเอกคาร์เมนไรเดอร์ซีโร่วันต่างหาก
.
อย่างไรก็ตาม ในภาพที่เผยแพร่ข่าวปลอมนั้น ระบุข้อความอีกว่า
.
ฮิเดน อารูโตะ CEO ของ บริษัท Ai ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ได้บริจาคเงิน 50 ล้านเยน ให้กับ คุณกันจอมพลัง และยกย่องคุณกัน ว่าเป็นฮีโร่แห่งเอเชีย พร้อมบริจาคเครื่องมือ Ai ใหม่ล่าสุดในการช่วยทหารไทยปราบเขมร เรารักคนไทยไทย คนไทยดีที่ควรยกย่อง กันจอมพลัง
.
ขอบคุณข้อมูล : Drama-addict
.
https://www.facebook.com/DramaAdd/posts/pfbid02cWGVTbk2Kp19UTgBAMBdmgVrwAF9G5yeFnkS9powj4TkC41PeFwdHCkh4zxSrVcAl

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่