คุณประยุทธ์ จันทร์โอชา โปรดทราบ ทหารเป็นกลางได้แค่ไหน ???

คุณประยุทธ์ให้สัมภาษณ์  จากไทยรัฐ   http://www.thairath.co.th/content/pol/392359   ขอสรุปบางประเด็น

1รู้สึกอึดอัดถูกบีบให้เลือกข้าง ฯลฯ ทหารไปซ้ายไปขวาไม่ได้     ...............ผมพูดอะไรไม่ได้มาก..........

2.....เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจมีอารมณ์บางคนทนไม่ไหว.....เลยมีภาพความรุนแรงขึ้น  ทางทหารเราเรียนรู้เรื่องความอดทน  ยอมแม้กระทั่งเราโดนก้อนหินขว้างใส่......

3กรณีมีคลิปทหารไปเก็บอาวุธจากรถตำรวจ  ทหารเพียงเข้าไปกั้นประชาชนไม่ให้ขึ้นไปบนรถตำรวจเท่านั้น.....  ...  แต่ถึงอย่างไรตำรวจก็ไปทุบรถของประชาชนไม่ได้เพราะเป็นเจ้าหน้าที่

4เมื่อถูกถามเรื่องปฏิวัติ  คำตอบคือ   ไม่มีปิด ไม่มีเปิด  สถานการณ์ทุกสถานการณ์เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น  สถานการณ์เป็นตัวกำหนด  วันนี้ต้องให้กำลังใจกองทัพ

5 ตนได้พูดคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กกปส. และ รัฐบาล  โดยรัฐบาลยืนยันด้วยกติกา  ส่วน กกปส. ยืนยันเรื่องอำนาจของประชาชน   ถ้ายืนยันแบบนี้ก็ต้องเดินไปกันแบบนี้  ส่วนปัญหาจะยุติอย่างไรต้องถามคนไทยทุกคน

เริ่มจาก
1  ทหารไม่สามารถเลือกข้างได้  ต้องเป็นกลาง  เห็นด้วยครับกับเรื่องต้องเป็นกลางของทหาร  แต่ต้องเป็นกลางในระหว่างองค์กรการเมืองคือฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล  แต่ถ้า  เป็นเรื่องของการผิดกฎหมาย  กระทำการสร้างความเสียหายให้บ้านเมือง  ปิดล้อมรัฐบาล  กระทั่งขัดขวางกระบวนการเลือกตั้งที่ถือเป็นหัวใจของการปกครองระบอบประชาธิปไตยแล้ว  นั่นถือว่าเลยเถิด  เหิมเกริมจนกลายเป็น  กบฏ ไปแล้ว  เช่นนี้  ทหารย่อมต้องไม่สามารเป็นกลางเพิกเฉย  ถือเป็นหน้าที่เพราะ เป็นคำปฏิญาณของทหาร  ที่จะรักษาไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตย  และต้องปราบกบฏ

2  และ  3  คุณว่าอารมณ์ของตำรวจอดทนต่ำ  เรื่องเช่นนี้ถ้าได้เกิดกับใคร  ผมไม่เชื่อว่าใครจะอดทนได้มากไปกว่านี้  ถูกเขากระทำย่ำยีฝ่ายเดียวโดยไม่สามารถตอบโต้ได้  สำหรับภาพความรุนแรงการโห่ไล่  40 สว. นั้น ไม่อาจถือว่ารุนแรง  ส่วนกรณีการทุบรถนั่น  ถ้าก่อนให้ข่าวคุณประยุทธ์  น่าจะให้ทีมงาน ก๊อปข่าว –  คลิป  ที่มีในไซเบอร์แล้วรายงานก่อน  จะได้รู้ว่ามีการทุบรถตำรวจเอาเครื่องแบบชุดทำงานตำรวจไปใช้ในกรณีต่าง ๆ มากมาย  คงไม่ต้องบอกนะครับว่า  รอให้พิสูจน์ก่อนดีไหม  และอีกอย่างตำรวจเขามี "ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ"   หน่วยงานที่มีศักดิ์ศรีเท่าเทียม  ผู้บัญชาการทหารบก  เขาคงเตือนคนของเขาเองได้ถ้าคนของเขาทำไม่เหมาะสม

อยากถามอีกข้อ  กรณี ปี 53   นั่นคือความอดทนของทหารแล้วใช่หรือไม่

4 การปฏิวัติ (น่าจะเรียกรัฐประหาร coup d'etat) ไม่รับปากว่ามีอีกหรือไม่  ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์  แบบนี้จริงแล้วคือ   มี   เพราะการขึ้นอยู่กับสถานการณ์   คือถ้าเข้าเงื่อนไข กระทำแน่นอน   ไม่ต้องยอกย้อนคำพูดครับ  บอกไปเลยว่า  มีโอกาสทำแน่ถ้าเห็นว่าสมควร

5 การพูดคุยทั้ง กกปส. และรัฐบาล  ต้องบอกว่า  ทหารในฐานะหน่วยงานหนึ่งในกำกับของรัฐบาล  ไม่มีอำนาจ  หรือมีความสมควรที่จะไปคุยกับ กกปส. ซึ่งได้กลายเป็น  กบฏ  ไปแล้ว  จากเดิมที่แค่ออกมาเรียกร้องตามรัฐธรรมนูญ  
โดยเฉพาะคำพูด  รัฐบาลยืนยันกติกา  กกปส.ยืนยันเรื่องอำนาจประชาชน

คุณประยุทธ์เข้าใจ  กติกา  และ   อำนาจประชาชนแค่ไหน  กติกา คือกฎหมายไงครับ  แบบที่คุณประยุทธ์และลูกน้องสามารถถืออาวุธได้ก็เพราะกติกานั่นแหละ   ส่วน  อำนาจประชาชนนั่นก็อีกประเด็น  อำนาจประชาชนคือ  อำนาจที่ประชาชนทั้งประเทศ  (ยืนยันทั้งประเทศ)  ไม่ใช่เพียงส่วนหนึ่งที่อ้างว่าหนึ่งล้าน (ความจริงหลักแสนในวันและเวลาหนึ่งเท่านั้น)  อันไหนยิ่งใหญ่กว่ากัน  อันไหนถูกต้องกฎหมาย  ถูกทำนองคลองธรรมกว่ากัน  ทั้งหมดนี้สอดคล้องกันครับ  กติกาและอำนาจประชาชน  ถ้าคิดว่าอำนาจประชาชนเพียงแสน  หรือล้าน  สามารถล้มกติกาได้  ก็หมายถึง  คนถืออาวุธเพียง 1000 หรือ 10000 คนก็ล้มกติกาได้เช่นกันใช่ไหม  

ถ้าแต่แรกเริ่ม ก่อเกิด กกปส.  ทหารโดยเฉพาะ ผบ.ทบ. ออกมาปราม  ไม่รอจังหวะสถานการณ์  กกปส.อาจไม่เหิมเกริมจนเลยเถิดขนาดนี้  เพราะเขาเชื่อว่ามีคนถืออาวุธสนับสนุนเขา   เหตุการณ์คงสงบไปนานแล้ว  ไม่มีการตาย  คุณประยุทธ์ก็ไม่ต้องอึดอัดแบบนี้  สำหรับองค์กรกลางอื่น ๆ  ไม่มีใครให้คุณค่าอีกต่อไปแล้ว  แต่เรายังหวังคุณประยุทธ์  ว่ามีคุณค่าสำหรับประเทศและให้คนรุ่นหลังได้เอ่ยอ้างอย่างนับถือเคารพ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่