สวัสดีค่ะ พี่ๆ เพื่อนๆ
วันนี้มีเรื่องสั้นสุดท้ายของปีมาฝากพร้อมเพลงอีกแล้วค่ะ
เผลอแป๊บเดียวผ่านไปอีกหนึ่งปีแล้ว
ขอสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าค่ะ
ขอให้ทุกท่านมีความสุข คิดหวังสิ่งใดให้สมปรารถนา
ตลอดปี ตลอดไปนะคะ
อ่านตอนแรกได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้ค่ะ
ไดอารี่รัก..ฉบับ '. . เ พื่ อ น เ ก่ า . .'
http://pantip.com/topic/31085922
..เรื่องราวความรู้สึกที่สะท้อนผ่านตัวหนังสือ..
ไดอารี่เก่า.. ฉบับ '. . เ พื่ อ น รั ก . .'
. . . 15 ตุลาคม 2007. . .
‘...ถ่ายทำสารคดีอยู่ที่ฝาง...สบายดี’
โปสการ์ดฉบับแรกที่ผมเขียนถึง..เธอ..ข้อความสั้นมาก ผมเป็นคนเขียนอะไรแบบนี้ไม่เก่ง อยากเขียนถึงเธอให้มากกว่านี้..แต่ผม..ทำไม่ได้ ตลอดเวลาที่ผมจากมา ผมรู้แล้วว่า ความคิดถึงมันกำลังทำให้ผมบ้า..
..อยากจะบอกเธอว่าผม..
. . เ ห ง า . .
..แต่ผมก็เลือกที่จะจดบันทึกไว้ในไดอารี่ส่วนตัว ไม่ได้เขียนบอกเธอไป..
. . .15 ตุลาคม 2008. . .
‘แต่งงานแล้ว...เป็นเขยลิ้นจี่...อยู่ที่ฝางเหมือนเดิม’
ผมอ่านข้อความซ้ำแล้วซ้ำเล่า คิดหนักว่าควรส่งข้อความนี้ไปให้เธอดีหรือไม่ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจหย่อนมันลงในตู้ไปรษณีย์ หนึ่งปีผ่านไปมีอะไรเกิดขึ้นมากมาย ใครบางคนผ่านเข้ามาในชีวิตและผมก็ยึดคนคนนั้นเอาไว้..ผู้หญิงที่มีดวงตาเหมือนกันกับ..เธอ
..อยากบอกเธอเหลือเกินว่าผม..
. . ข อ โ ท ษ .
.
..แต่ผมก็เลือกที่จะจดบันทึกไว้ในไดอารี่ส่วนตัว ไม่ได้เขียนคำนั้นบอกเธอไป..
. . .15 ตุลาคม 2009. . .
‘ภรรยาฉันกำลังป่วย...มารักษาที่สวนดอกอยู่...สบายดีนะ’
ผมไม่รู้ว่าควรจะบอกเธอดีหรือไม่ เรื่องภรรยาของผม..ไม่อยากให้เธอเป็นห่วง แต่วันนี้คือวันที่ 15 เป็นวันที่ผมสัญญากับตัวเองไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น..ผมจะคิดถึงเธอ ผมหาซื้อโปสการ์ดอย่างง่ายเท่าที่พอจะหาได้ไม่ไกลจากโรงพยาบาลนัก คงเป็นความบังเอิญที่ภาพนั้น..เศร้าเหลือใจ
..อยากจะบอกเธอจากใจว่าผม..
. . คิ ด ถึ ง . .
..แต่ผมก็เลือกที่จะจดบันทึกไว้ในไดอารี่ส่วนตัว ไม่ได้บอกคำนี้กับเธอไป..
. . .15 ตุลาคม 2010. . .
‘เธอจากไปแล้วไม่กี่วันก่อน..ฉันอาจจะกลับบ้าน..คิดถึงเธอนะ’
ภรรยาของผมจากไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ..ผมอยากย้อนเวลากลับไปหา..เธอคนนั้น..สามปีผ่านไปแล้ว..เธออาจจะมีใคร ผมได้แต่ปลอบใจตัวเองและรับรู้ความเป็นไปของเธอผ่านคำบอกเล่าของใครต่อใครที่ไม่ใช่..เธอ..บางทีเธออาจจะลืมผมแล้ว..หัวใจของเธออาจจะไม่มีผมอีกแล้ว ผมอยากถามเธอตรงๆ แต่ผมก็ไม่ได้ทำ..
..อยากจะบอกเธอเหลือเกินว่าผม..
. . ท ร ม า น . .
..แต่ผมก็เลือกที่จะจดบันทึกไว้ในไดอารี่ส่วนตัว..ไม่กล้าถามเธอไป..
. . .15 ตุลาคม 2011. . .
‘ตอนนี้อยู่เชียงใหม่..เปิดแกลลอรี่เล็กๆ..มาเที่ยวสิ’
ความหวังของผม..ถูกส่งผ่านไปกับโปสการ์ดใบเล็กที่ผมทำด้วยมือตัวเองเพื่อเธอเป็นครั้งแรก หวังว่าเธอจะได้มาเห็นความฝันของผมด้วยตาตัวเอง..ผมอาจจะหวังมากเกินไป..เธอไม่มา ไม่มีแม้แต่คำตอบรับหรือปฏิเสธ เธอเงียบหายไปราวกับสายลม..บางทีผมอาจจะไม่มีความหมายกับเธออีกต่อไป..
..อยากจะบอกเธอเหลือเกินว่าผม..
. . ผิ ด ห วั ง . .
..แต่ผมก็เลือกที่จะจดบันทึกไว้ในไดอารี่ส่วนตัว..ไม่ได้บอกกับเธอไป..
. .15 ต.ค. 2012. . .
‘แต่งครั้งที่สอง..กับสาวเชียงใหม่ หน้าตาคล้ายเธอเลย เอาไว้ปีหน้า..จะพามาหา’
ผมพบใครบางคนที่หน้าตาคล้ายเธออีกแล้ว..หญิงสาวบอบบางที่แสนเศร้าสร้อย เธอเป็นลูกค้าที่แกลลอรี่ เราคุยกันถูกคอ..เธอเหมือนกับตัวแทนคนไกล..ถึงตอนนี้ผมรู้แล้วว่าฤทธิ์ของความเหงาโหดร้ายขนาดไหน..และเป็นอีกครั้งที่ผมแพ้ให้กับความอ่อนแอของตัวเองและรับเธอคนนั้นเข้ามาในชีวิตแทนที่ใครบางคน..อีกครั้ง
..อยากจะบอกเธอเหลือเกินว่าผม..
. . เ สี ย ใ จ . .
..แต่ผมก็เลือกที่จะจดบันทึกไว้ในไดอารี่ส่วนตัว..ไม่อาจบอกเธอไป..
. . .5 กันยายน 2013. . .
‘จะมาหาวันที่ 15..จะพาภรรยามาให้รู้จัก..อยากเจอมาก..รอด้วยนะ’
มันคงเป็นกรรมของผม..ภรรยาของผมป่วยหนักต้องเข้ารับการรักษาตัวที่กรุงเทพ ผมอยากจะเห็นหน้าเธอ..คนที่เคยเป็นกำลังใจให้ผมแม้ยามสุข..ทุกข์..ผมต้องการกำลังใจ เธอคงจะรับฟังผมเหมือนเคย..เหมือนเมื่อก่อนที่เราคบกัน..ผมได้แต่หวังว่าเธอจะยังคง..เหมือนเดิม..
..อยากจะบอกเธอเหลือเกินว่าผม..
. . ดี ใ จ . .
..แต่ผมเลือกที่จะจดบันทึกไว้ในไดอารี่ส่วนตัว..รอเวลาที่จะได้ไปพบเธอ..
. . .30 กันยายน 2013. . .
. . . ลาก่อน. . .
ภรรยาของผมจากไปแล้ว..เช่นเดียวกับเธอคนนั้นที่จากผมไปเช่นกัน เธอทั้งสองคนจากไปพร้อมกับนำพาความหวังในชีวิตของผมให้หายไปด้วย..ผมทำอะไรไม่ได้อีก นอกจากรับฟังเรื่องราวชีวิตใหม่ของเธอผ่านใครบางคนที่เป็นเพื่อนสนิทของเรา..
ความรู้สึกของผม..ส่งมาถึงเธอช้าไป หรือบางทีมันอาจจะไม่เคยถึงเธอ บางครั้งความ อ้างว้าง โดดเดี่ยว ทำให้ความเหงาเข้าเกาะกินหัวใจ..ผมรู้ตัวว่าอ่อนไหว..โลเล ไม่มั่นคง ผมเหงา..และอยากมีใครเข้ามาเติมเต็มชีวิตบิดเบี้ยว..ถ้าเพียงแต่ผมจะกล้าบอกเธอ..เธอคงไม่จากผมไป..กับใครคนอื่น..
นาทีนี้สิ่งเดียวที่ผมจะทำให้เธอได้คือคำอวยพรสั้นๆ คำนี้..
. . ข อ ใ ห้ เ ธ อ . . โ ช ค ดี . .
..15 ตุลาคม 2013..
ท้องฟ้าเชียงใหม่ยามพลบค่ำ ยังคงสว่างไสวประดับประดาไปด้วยแสงไฟสีนวลตาตลอดแนวถนนเส้นตัดจากถนนคูเมืองฝั่งประตูช้างเผือกไปยังคูเมืองฝั่งประตูเชียงใหม่ แกลลอรีขนาดเล็กสองชั้นครึ่งลักษณะครึ่งปูนครึ่งไม้ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามถนนไม่ไกลจากวัดคู่บ้านคู่เมืองมากนัก สิ่งที่เรียกความสนใจให้ผู้คนหันมามองยังแกลลอรีแห่งนี้ไม่ใช่เพราะภาพวิวทิวทัศน์ทางภาคเหนือที่สวยงามตั้งโชว์เด่นหลายต่อหลายภาพ หากแต่เป็นภาพวาดของใครสักคนที่อยู่บนฝาฝนังขนาดใหญ่ ภาพที่สวยงามราวกับภาพฝันซึ่งบ่งบอกถึงฝีมือและความประณีตพิถีพิถันของผู้วาดได้เป็นอย่างดี
ผมเฝ้ามองภาพวาดขนาดใหญ่ใส่กรอบทองลวดลายสวยงามภาพนั้นถูกลำเลียงนำขึ้นรถส่งพัสดุไปจนลับสายตา อีกไม่กี่ชั่วโมงนับจากนี้..ภาพนั้นจะเป็นของขวัญวันสำคัญจากผมซึ่งกำลังจะถูกส่งต่อถึงมือใครบางคน..คนที่ผม..ไม่อาจลืม..
..นาทีนี้ผมคิดว่า..ผม..กำลังมีความสุข..
..ผมสุขที่ได้เห็นเธอ..มีความสุข..
ปัจจุบัน
..เธอของผม..คือทันตแพทย์หญิง
ผู้อุทิศตนให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดปัตตานี
และสมรสแล้วกับศาตราจารย์นายแพทย์สาขาเดียวกัน
ซึ่งประจำอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดนราธิวาส
ความรักก็เหมือนกับการรอแท็กซี่
เวลาที่คอยหรือมองหามันก็ไม่มาซักที
ไม่ใช่ว่าเพราะไม่มี แต่เป็นเพราะไม่มีรถว่าง
ได้แต่ปล่อยให้คนที่รออยู่ร้อนใจ
ทั้งที่รอมาตั้งนานแต่ก็ไม่มีว่างซักคัน
ในเมื่อไม่มา...ก็คือไม่มา
ตอนที่ถอดใจจะคิดเดินกลับ...
จู่ๆ...ก็มีรถว่างหลายคันมาจอดอยู่ตรงหน้า
เป็น 'คุณ' จะทำเช่นไร...
คำคมจาก..Love Revolution..พลิกล็อค..ลิขิตรัก
ไดอารี่เก่า.. ฉบับ '. . เ พื่ อ น รั ก . .'
วันนี้มีเรื่องสั้นสุดท้ายของปีมาฝากพร้อมเพลงอีกแล้วค่ะ
เผลอแป๊บเดียวผ่านไปอีกหนึ่งปีแล้ว
ขอสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าค่ะ
ขอให้ทุกท่านมีความสุข คิดหวังสิ่งใดให้สมปรารถนา
ตลอดปี ตลอดไปนะคะ
อ่านตอนแรกได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้ค่ะ
ไดอารี่รัก..ฉบับ '. . เ พื่ อ น เ ก่ า . .'
http://pantip.com/topic/31085922
โปสการ์ดฉบับแรกที่ผมเขียนถึง..เธอ..ข้อความสั้นมาก ผมเป็นคนเขียนอะไรแบบนี้ไม่เก่ง อยากเขียนถึงเธอให้มากกว่านี้..แต่ผม..ทำไม่ได้ ตลอดเวลาที่ผมจากมา ผมรู้แล้วว่า ความคิดถึงมันกำลังทำให้ผมบ้า..
ผมอ่านข้อความซ้ำแล้วซ้ำเล่า คิดหนักว่าควรส่งข้อความนี้ไปให้เธอดีหรือไม่ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจหย่อนมันลงในตู้ไปรษณีย์ หนึ่งปีผ่านไปมีอะไรเกิดขึ้นมากมาย ใครบางคนผ่านเข้ามาในชีวิตและผมก็ยึดคนคนนั้นเอาไว้..ผู้หญิงที่มีดวงตาเหมือนกันกับ..เธอ
ผมไม่รู้ว่าควรจะบอกเธอดีหรือไม่ เรื่องภรรยาของผม..ไม่อยากให้เธอเป็นห่วง แต่วันนี้คือวันที่ 15 เป็นวันที่ผมสัญญากับตัวเองไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น..ผมจะคิดถึงเธอ ผมหาซื้อโปสการ์ดอย่างง่ายเท่าที่พอจะหาได้ไม่ไกลจากโรงพยาบาลนัก คงเป็นความบังเอิญที่ภาพนั้น..เศร้าเหลือใจ
ภรรยาของผมจากไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ..ผมอยากย้อนเวลากลับไปหา..เธอคนนั้น..สามปีผ่านไปแล้ว..เธออาจจะมีใคร ผมได้แต่ปลอบใจตัวเองและรับรู้ความเป็นไปของเธอผ่านคำบอกเล่าของใครต่อใครที่ไม่ใช่..เธอ..บางทีเธออาจจะลืมผมแล้ว..หัวใจของเธออาจจะไม่มีผมอีกแล้ว ผมอยากถามเธอตรงๆ แต่ผมก็ไม่ได้ทำ..
ความหวังของผม..ถูกส่งผ่านไปกับโปสการ์ดใบเล็กที่ผมทำด้วยมือตัวเองเพื่อเธอเป็นครั้งแรก หวังว่าเธอจะได้มาเห็นความฝันของผมด้วยตาตัวเอง..ผมอาจจะหวังมากเกินไป..เธอไม่มา ไม่มีแม้แต่คำตอบรับหรือปฏิเสธ เธอเงียบหายไปราวกับสายลม..บางทีผมอาจจะไม่มีความหมายกับเธออีกต่อไป..
ผมพบใครบางคนที่หน้าตาคล้ายเธออีกแล้ว..หญิงสาวบอบบางที่แสนเศร้าสร้อย เธอเป็นลูกค้าที่แกลลอรี่ เราคุยกันถูกคอ..เธอเหมือนกับตัวแทนคนไกล..ถึงตอนนี้ผมรู้แล้วว่าฤทธิ์ของความเหงาโหดร้ายขนาดไหน..และเป็นอีกครั้งที่ผมแพ้ให้กับความอ่อนแอของตัวเองและรับเธอคนนั้นเข้ามาในชีวิตแทนที่ใครบางคน..อีกครั้ง
มันคงเป็นกรรมของผม..ภรรยาของผมป่วยหนักต้องเข้ารับการรักษาตัวที่กรุงเทพ ผมอยากจะเห็นหน้าเธอ..คนที่เคยเป็นกำลังใจให้ผมแม้ยามสุข..ทุกข์..ผมต้องการกำลังใจ เธอคงจะรับฟังผมเหมือนเคย..เหมือนเมื่อก่อนที่เราคบกัน..ผมได้แต่หวังว่าเธอจะยังคง..เหมือนเดิม..
ภรรยาของผมจากไปแล้ว..เช่นเดียวกับเธอคนนั้นที่จากผมไปเช่นกัน เธอทั้งสองคนจากไปพร้อมกับนำพาความหวังในชีวิตของผมให้หายไปด้วย..ผมทำอะไรไม่ได้อีก นอกจากรับฟังเรื่องราวชีวิตใหม่ของเธอผ่านใครบางคนที่เป็นเพื่อนสนิทของเรา..
ความรู้สึกของผม..ส่งมาถึงเธอช้าไป หรือบางทีมันอาจจะไม่เคยถึงเธอ บางครั้งความ อ้างว้าง โดดเดี่ยว ทำให้ความเหงาเข้าเกาะกินหัวใจ..ผมรู้ตัวว่าอ่อนไหว..โลเล ไม่มั่นคง ผมเหงา..และอยากมีใครเข้ามาเติมเต็มชีวิตบิดเบี้ยว..ถ้าเพียงแต่ผมจะกล้าบอกเธอ..เธอคงไม่จากผมไป..กับใครคนอื่น..
ท้องฟ้าเชียงใหม่ยามพลบค่ำ ยังคงสว่างไสวประดับประดาไปด้วยแสงไฟสีนวลตาตลอดแนวถนนเส้นตัดจากถนนคูเมืองฝั่งประตูช้างเผือกไปยังคูเมืองฝั่งประตูเชียงใหม่ แกลลอรีขนาดเล็กสองชั้นครึ่งลักษณะครึ่งปูนครึ่งไม้ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามถนนไม่ไกลจากวัดคู่บ้านคู่เมืองมากนัก สิ่งที่เรียกความสนใจให้ผู้คนหันมามองยังแกลลอรีแห่งนี้ไม่ใช่เพราะภาพวิวทิวทัศน์ทางภาคเหนือที่สวยงามตั้งโชว์เด่นหลายต่อหลายภาพ หากแต่เป็นภาพวาดของใครสักคนที่อยู่บนฝาฝนังขนาดใหญ่ ภาพที่สวยงามราวกับภาพฝันซึ่งบ่งบอกถึงฝีมือและความประณีตพิถีพิถันของผู้วาดได้เป็นอย่างดี
ผมเฝ้ามองภาพวาดขนาดใหญ่ใส่กรอบทองลวดลายสวยงามภาพนั้นถูกลำเลียงนำขึ้นรถส่งพัสดุไปจนลับสายตา อีกไม่กี่ชั่วโมงนับจากนี้..ภาพนั้นจะเป็นของขวัญวันสำคัญจากผมซึ่งกำลังจะถูกส่งต่อถึงมือใครบางคน..คนที่ผม..ไม่อาจลืม..
เวลาที่คอยหรือมองหามันก็ไม่มาซักที
ไม่ใช่ว่าเพราะไม่มี แต่เป็นเพราะไม่มีรถว่าง
ได้แต่ปล่อยให้คนที่รออยู่ร้อนใจ
ทั้งที่รอมาตั้งนานแต่ก็ไม่มีว่างซักคัน
ในเมื่อไม่มา...ก็คือไม่มา
ตอนที่ถอดใจจะคิดเดินกลับ...
จู่ๆ...ก็มีรถว่างหลายคันมาจอดอยู่ตรงหน้า
เป็น 'คุณ' จะทำเช่นไร...