หยิบจับหนังสือนิยายเล่มนี้ มาอ่านกี่ครั้ง ก็ไม่เบื่อ เหมือนได้ย้อนอดีต ไปเดินอยู่กรุงศรีอยธุยา ในคราที่ใกล้ล่มสลาย
ได้เห็นถึงสภาวะทางจิตใจของประชาชนหลายชนชั้น ตั้งแต่ชนชั่นกษัตริย์ ขุนนาง ทหารในยุคนั้น ความรักชาติ และความปั่นป่วนวุ่นวายก่อนเสียเมือง
คำพูดติดปาก ในนิยายที่จำได้คือ "แต่เมื่อครั้งกรุงเก่า" เพราะนางเอก แม่นกยูง มักจะชอบพูดประโยคนี้เสมอ เนื่องจากเธอเกิดในยุคที่คาบเกี่ยวในการเสียกรุงครั้งที่ - ครั้งที่ 2 ซึ่งน่าจะเป็นยุคนี้ พ่อของนางเอกมียศเป็นถึงพระยา เป็นทหารเอกของขุนหลวงหาวัด ซึ่งในนิยายที่บรรยาย จะสนุกมากกว่า เหมือนเราได้สัมผัสเข้าไปถึงยุคของพระเจ้าอุทุมพรจริงๆ
ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใน นิยายเรื่อง เรือนมยุรา น่าจะอยู่ประมาณนี้ ช่วงปลายๆ เสียกรุงครั้งที่ 2
ถ้าใครจะเอานิยายหรือละครเรื่องนี้มารีเมค เรียกว่าทุกอย่าง "มีเสน่ห์หมด สำหรับความเป็นไทย" สามารถเพิ่มเติมสีสันจากเดิมได้เลย เช่น เนรมิตรฉากพระราชวังกรุงศรีอยธุยาในยุคพระเจ้าอุทุมพร ที่มี พระที่นั่งสุริยาศน์อัมรินทร์ ก็มีคนอยากเห็นหลายคน เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของชนชั้นเจ้าพระยา การปกครอง ดวงเมือง ลางร้าย ชะตาเมือง ความเชื่อของคนโบราณก่อนเสียกรุง ความเชื่อเรื่องการใช้มนต์วิเศษ วิชาอาคมของทหารไทยต่อสู่กับศัตรู พรางเรือนเพื่อไม่ให้ศัตรู มิติโลกที่ 3 เวลาของนางเอกกับภพปัจจุบัน ถ้าเอามาทำอีก ก็อยากให้เพิ่มสีสันเข้าไปครับ ให้ดูไม่น่าเบื่อ ที่เน้นแต่ความรักของพระเอก-นางเอก อย่างเดียวครับ อยากให้มันดูขลังหน่อย แต่อ่านนิยายทีไร รู้สึกมันสนุกกว่าละครจริงๆ นะครับ มันซาบซึ้ง ดื่มด่ำ เหมือนเราไปเดินอยู่ในอดีตเลยครับ แต่เวลาทำเป็นหนัง+ละคร อารมณ์จึงเข้าไม่ถึง ก็ไม่รู้แฮะ
ความน่าสนใจของละึคร เรือนมยุรา ไม่ได้อยู่ที่นางเอกสวย แต่อยู่ที่การเสียกรุง
ได้เห็นถึงสภาวะทางจิตใจของประชาชนหลายชนชั้น ตั้งแต่ชนชั่นกษัตริย์ ขุนนาง ทหารในยุคนั้น ความรักชาติ และความปั่นป่วนวุ่นวายก่อนเสียเมือง
คำพูดติดปาก ในนิยายที่จำได้คือ "แต่เมื่อครั้งกรุงเก่า" เพราะนางเอก แม่นกยูง มักจะชอบพูดประโยคนี้เสมอ เนื่องจากเธอเกิดในยุคที่คาบเกี่ยวในการเสียกรุงครั้งที่ - ครั้งที่ 2 ซึ่งน่าจะเป็นยุคนี้ พ่อของนางเอกมียศเป็นถึงพระยา เป็นทหารเอกของขุนหลวงหาวัด ซึ่งในนิยายที่บรรยาย จะสนุกมากกว่า เหมือนเราได้สัมผัสเข้าไปถึงยุคของพระเจ้าอุทุมพรจริงๆ
ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใน นิยายเรื่อง เรือนมยุรา น่าจะอยู่ประมาณนี้ ช่วงปลายๆ เสียกรุงครั้งที่ 2
ถ้าใครจะเอานิยายหรือละครเรื่องนี้มารีเมค เรียกว่าทุกอย่าง "มีเสน่ห์หมด สำหรับความเป็นไทย" สามารถเพิ่มเติมสีสันจากเดิมได้เลย เช่น เนรมิตรฉากพระราชวังกรุงศรีอยธุยาในยุคพระเจ้าอุทุมพร ที่มี พระที่นั่งสุริยาศน์อัมรินทร์ ก็มีคนอยากเห็นหลายคน เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของชนชั้นเจ้าพระยา การปกครอง ดวงเมือง ลางร้าย ชะตาเมือง ความเชื่อของคนโบราณก่อนเสียกรุง ความเชื่อเรื่องการใช้มนต์วิเศษ วิชาอาคมของทหารไทยต่อสู่กับศัตรู พรางเรือนเพื่อไม่ให้ศัตรู มิติโลกที่ 3 เวลาของนางเอกกับภพปัจจุบัน ถ้าเอามาทำอีก ก็อยากให้เพิ่มสีสันเข้าไปครับ ให้ดูไม่น่าเบื่อ ที่เน้นแต่ความรักของพระเอก-นางเอก อย่างเดียวครับ อยากให้มันดูขลังหน่อย แต่อ่านนิยายทีไร รู้สึกมันสนุกกว่าละครจริงๆ นะครับ มันซาบซึ้ง ดื่มด่ำ เหมือนเราไปเดินอยู่ในอดีตเลยครับ แต่เวลาทำเป็นหนัง+ละคร อารมณ์จึงเข้าไม่ถึง ก็ไม่รู้แฮะ