การลดน้ำหนัก vs การลงทุนหุ้นแนว VI

คุณเคยลดน้ำหนักบ้างไหมครับ บางคนสามารถลดได้เดือนเดียว 4-5 โล บางคนลดให้ตายก็ไม่ลง หรือ ลงแต่ก็กลับมาอ้วนเหมือนเดิม ทำไมเป็นแบบนั้น เมื่อลองมาดูพฤติกรรมของคนที่สามารถลดน้ำหนักได้ และไม่กลับไปอ้วนเหมือนอย่างเดิม กับคนที่ลดน้ำหนักไม่ได้จะพบว่า คนที่ลดน้ำหนักได้สามารถปฏิบัติตามแผนที่ตัวเองว่าไว้ได้อย่างเคร่งครัด เช่น เขามีแผนการที่จะ งดอาหารมื้อเย็น กินแต่มื้อเช้าและมื้อกลางวัน เพิ่มผักและผลไม้ให้มากขี้นในแต่ละมื้อ ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง และเค้าเองก็สามารถปฏิบัติได้ตามแผนที่ทำเอาไว้ ทำให้เขาสามารถ ลดน้ำหนักลงได้  สำหรับคนที่ลดไม่ได้ เมื่อลองไปถามดูไม่ใช่ว่าเค้าไม่รู้สูตร หรือ วิธีการลดน้ำหนัก แต่สิ่งที่เค้าทำไม่ได้คือ ความสม่ำเสมอ หรือ ทำไม่ได้ตามแผนที่ตัวเองวางเอาไว้นั้นเอง บางคนที่เจอบ่อยๆ เขามักจะพูดว่า “ฉันจะกินบุฟเฟ่มื้อสุดท้ายละ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่”  “ขออีกสักมื้อหละน่า” หรือ ผลัดวันประกันพรุ่งเรื่องออกกำลังกาย “วันนี้เหนื่อยหละ ไว้พรุ่งนี้ค่อยไปออกกำลังกายแล้วกัน”  “วันนี้ง่วงจังขอนอนต่ออีกหน่อย”  ต่างๆ นานาๆ หาสาเหตุที่จะเลื่อนไปเรื่อยๆ

                จะเห็นว่าคนส่วนใหญ่รู้ว่าวิธีลดน้ำหนักนั้นทำอย่างไรบ้าง หรือ ถ้าไม่รู้ก็เปิดอินเตอร์เน็ต พิมพ์คำว่า “วิธีลดน้ำหนัก” ลงไป คุณก็จะเรียนรู้ หรือ หาได้ว่ามีวิธี  มีสูตรไหนที่น่าจะได้ผลและเคยมีคนทำสำเร็จมาแล้วบ้าง ผมลองมองย้อนกลับมาถึงการลงทุนหุ้นในแนวทางที่เรียกว่า Value Investor หลายคนอ่านหนังสือมามากมาย รู้ทฤษฏี แนวทางว่าการเป็น Value Investor ที่ดีนั้นต้องทำอย่างไร หรือ เรียนรู้จากประสบการณ์ผู้ประสบความสำเร็จหลายๆ ท่านในตลาดหุ้นไทย ก็มีถ่ายทอดให้ได้รับรู้รับฟังกัน ผ่านงานสัมมนา รายการทีวี หรือแม้แต่ Youtube แต่ก็น่าแปลกใจที่หลายคนที่บอกว่าตัวเองลงทุนในแนวนี้ ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ หากตัดปัจจัยเรื่องการเลือกหุ้น ออกไป ซึ่งคล้ายๆกับ การเลือกสูตร วิธีในการลดความอ้วน ผมว่ามันมีปัจจัยที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก กับ การลงทุนหุ้นแนว VI ที่คล้ายๆ กันคือ



           ปัจจัยแรกที่ผมนึกออก นั้นคือ “วินัย”  ไม่ใช่วินัย ไกรบุตร ในภาพนะครับ ^^! แต่มันคือ วินัยในการปฏิบัติตามแผนที่เราได้วางเอาไว้อย่างเคร่งครัด ต้องขอย้ำว่าอย่างเคร่งครัดฟุดๆ โดยไม่สะทกสะท้านต่อสิ่งเย้ายวนรอบข้าง เช่น เมื่อเราลงทุนในหุ้นพื้นฐาน ที่มีกิจการเติบโตดี ต่อเนื่อง และซื้อมาได้ในราคาที่เหมาะสม แต่เอ๊ะทำไมราคาหุ้นไม่วิ่งอย่างที่เราคาดหวัง ทั้งๆ ที่กิจการก็ยังเติบโตดี ผลประกอบการออกมาโตปีละ 10-15% มาเรื่อยๆ แต่เพื่อนเราที่เล่นหุ้นตัวเล็ก หรือ หุ้นที่มีพลังบางอย่างสิงสถิตย์ เขาทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ หลายครั้ง จากข่าววงใน หรือ จากมาเก็ตติ้งที่คอยเชียร์ให้ซื้อหุ้น  จนเราเริ่มอิจฉาตาร้อน เพื่อนบอกว่า เฮ้ย!!! ต้องเล่นอย่างนี้สิรวยเร็ว ได้ทีนึง 100% หรือ 200% ไปเสียเวลาถือหุ้นนานทำไมเสียโอกาสรวยหมด เราตัดสินใจที่จะไปลองเล่นตามเพื่อนแนะนำ โดยขายหุ้นที่เรามั่นใจในพื้นฐาน ไปเล่นหุ้นเล็กตามเพื่อนบ้าง นี่อาจจะเป็นตัวอย่างหนึ่ง ที่ทำให้หลุดออกจากแผนที่วางไว้  ในการลงทุนเราจะเจอเหตุการณ์อย่างนี้บ่อยครั้ง อารมณ์ที่ร่วมไปกับตลาด ความกลัว และความโลภ อาจจะทำให้เราหลุดเป้าหมายหรือผิดวินัยไป คล้ายๆ กับการลดน้ำหนัก ที่หากเราไม่รักษาวินัย ในการควบคุมอาหาร และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  เผลอใจไปทุกครั้งๆ เมื่อเจอโปรโมชั่นบุฟเฟ่ลด 50% จนทำให้เราหลุดออกนอกเส้นทางบ่อยครั้ง ก็จะทำให้เราไม่สามารถลดน้ำหนักอย่างที่เราตั้งใจได้



         ปัจจัยที่สอง นั่นคือ เรื่อง “ความอดทน อดกลั้น” จริงๆ ปัจจัยนี้มันควบคู่กันกับวินัย การที่เราจะทำได้ตามแผน หรืออยู่ในวินัยนั้น ต้องอาศัยความ อดทน อดกลั้น อย่างสูงมาก ต่อมารผจญ หรือ สิ่งเย้ายวนรอบข้าง แต่ก็มีหลายๆ วิธีที่สามารถช่วยเลี่ยงได้ ตัวอย่างเช่น ในการลงทุนหากเราดูหน้าจอ หรือ ดูราคาหุ้นบ่อยครั้งๆ สามารถทำให้เราเขว่ไปตามอารมณ์ตลาด  การลดการซื้อๆ ขายๆ บ่อยครั้ง ก็สามารถช่วยให้เราลดความผิดพลาดในการตลาดสินใจที่ผิดได้  ยิ่งเราซื้อๆ ขายๆ บ่อยโอกาสผิดพลาดยิ่งเกิดมากขี้นเท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับการลดความอ้วน คือ เมื่อเราเดินผ่านร้านไก่ทอด นึกในใจ “บร๊ะเจ้า มันชั่งหอมหวนชวนกินเหลือเกิน หนังมันดูกร๊อบกรอบ" ผมแนะนำว่าอย่างไปมองมันครับ ให้ก้มหน้าก้มตาเดินผ่านไป ถ้ากลั้นหายใจด้วยสักสามวินาทียิ่งดี หากเราผ่านมันไปได้ช่วงเวลาหนึ่ง เราจะชินและรู้สึก เฉยๆ หรือไม่อยากกินไปเอง



                ปัจจัยที่สาม นั่นคือ เรื่อง “เวลา” แน่นอนที่สุดไม่ว่าการลดน้ำหนัก หรือ การลงทุนหุ้นแนว VI ต้องใช้เวลา แม้ว่าอัตราส่วนของเวลาของทั้งสองอย่างอาจจะเทียบกันไม่ได้ แต่ทั้งสองเรื่องมันสะท้อนให้เห็นว่ามันต้องอาศัยเวลาแบบค่อยเป็นค่อยไป  ไม่ได้หักโหม รีบร้อน ตัวอย่าง การลดน้ำหนักของหนุ่มน้อยที่ดังในอินเตอร์เน็ต (ลดน้ำหนักแล้วหน้าตาหล่อโดนใจสาวๆ) ลดน้ำหนักจาก 140 ก.ก. ใช้เวลา 8 เดือน ลดน้ำหนักเหลือเพียง 66 ก.ก. โดยการควบคุมอาหาร และเล่นกีฬา ว่ายน้ำ ตีเทนนิส ควบคู่กันไป โดยใช้เวลาอย่างค่อยเป็นค่อยไป เปรียบกับการลงทุนหุ้นแนว VI ต้องใช้เวลา  หากเราดูข้อมูลย้อนหลังหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ หลายๆ ตัว หากถือยาวเกิน 10 ปี แบบไม่ขายเลยจะได้ผลตอบแทนที่สูงมากๆ เรียกได้ว่าเป็นสิบเท่าก็ว่าได้

                ผมว่าสามข้อนี้สำคัญมากๆ แทบไม่แพ้กับการเลือกหุ้นสักหนึ่งตัว หรือ วิธีการลดน้ำหนักเลย ขอให้ผู้ที่กำลังลงทุน หรือ ลดน้ำหนัก ตั้งใจและวางแผนให้ดีครับ และอย่าลืม 3 ข้อนี้ที่ผมเล่าให้ฟังด้วยหละ สู้โว้ย!!!




ติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ http://www.visniper.com